collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: คัมภีร์กรรม ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า : คำนำ  (อ่าน 144255 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                    คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  อวดอำนาจข่มขู่

อธิบาย  :  พอใจอวดอำนาจเพื่อข่มขู่ผู้อื่น บัณฑิตเป็นคนซื่อตรง มีระเบียบเคร่งครัดตน และกับผู้อื่นจะผ่อนปรนนุ่มนวลน่าใกล้ชิด คนอื่นก็จำนับถือยำเกรงรักใคร่และชื่นชม หากใครก็ตามพอขยับตัวก็อวดอำนาจข่มขู่ผู้อื่น ถึงแม้จะสามารถทำให้คนกลัวถูกทำร้ายจึงยอมอ่อนให้ แต่ใจและปากนั้นไม่ยอมอ่อนให้ทั้งไม่สำนึกคุณด้วย คนที่ชอบอวดอำนาจข่มเหงคนอย่างนี้ มันจะอยู่ในใจคนได้อย่างไร ?. 

คติ  :  โคว่ไหลกง ในสมัยซ่งกล่าวว่า  "ขุนนางกระทำคต ยามหมดอำนาจก็เสียใจ ร่ำรวยไม่ประหยัดใช้ ยามจนแล้วก็เสียใจ ฝีมือไม่เรียนตั้งแต่เด็ก ยามเวลาผ่านไปแล้วก็เสียใจ เวลาเห็นไม่เรียน ยามจะใช้ก็เสียใจ  ตอนเมาอาละวาด ยามสร่างก็เสียใจ  ตอนสบายไม่พักผ่อน ยามป่วยก็เสียใจ"  คำพูดแบบนี้เป็นเรื่องที่สามารถลดความเสียใจได้ดี พวกเราควรจำจำไว้ในใจ และตักเตือนตนเองบ่อย ๆ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                  คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :   ทำเขาอัปยศเพื่อชนะ

อธิบาย   :  ทำเขาให้อัปยศอดสูเพื่อชัยชนะ การใช้เหตุผลทำให้เขายอมรับ บางครั้งก็เกรงว่าเหตุผลนี้จะไปกระตุ้นให้ใจเขาอยากเอาชนะ ตลอดจนเหตุผล
ที่ใช้ ก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกันจนยอมรับไม่ได้ ยิ่งเป็นเหตุผลของตนเองแล้วก็ยังไม่เพียงพอ จึงไปใช้ความรุนแรงด่าทอหรือทุบตีทำให้เขาได้รับความอัปยศเพียงเพื่อเอาชนะหรือ ?  หลูจื่อจิ้นพูดว่า  "ใจที่อับอายมีอยู่ในแต่ละคน  ใครบ้างจะยินยอมรับความอัปยศจากผู้อื่นเล่า ?  ให้บังเอิญมีคนใช้ความอัปยศทำกับผู้อื่น  เพียงเพื่อให้ตนได้ชัยชนะแล้วควรรู้ว่าธรรมแห่งฟ้าตอบแทนได้ดี การทำอัปยศคนอื่นถึงที่สุดแล้วกลายเป็นอัปยศตนเองนะ !"

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                   คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  ทำลายไร่นาเขา

อธิบาย  :  การทำลายพืชผลการเกษตรของผู้อื่น  ที่เกษตรกรอาศัยผลิตผลดำรงชีพ ชาวนาไถหว่านในฤดูร้อนเพื่อหวังเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง เขาทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยาก ยิ่งสำหรับชาวนาที่ต้องอาศัยผลิตผลเลี้ยงชีพอย่างเดียว เราจะไปทำลายเขาโดยการกั้นน้ำไม่ให้เข้านาเขา ให้ต้นกล้าต้องแห้งตาย หรือไม่ก็พังทำนบให้น้ำท่วมต้นข้าว หรือปล่อยวัวควายเข้าไปเหยียบย่ำกินต้นข้าวเขา ทำให้เขาเก็บเกี่ยวได้ไม่พอเพียง ชาวนาเหน็ดเหนื่อยแล้วยังไม่ได้เก็บเกี่ยว คนทำได้แบบนี้นับว่าโหดร้ายมาก อีกทั้งเจ้าหน้าที่ชลประทานที่ไม่เห็นความสำคัญของการเกษตรว่าระยะไหนเวลาใด เกษตรกรต้องการน้ำ แล้วก็จะกระทบกระเทือนถึงการเก็บเกี่ยว อย่างนี้ก็ถือเป็นการทำลายไร่นาเขาด้วย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                     คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  ทำลายการแต่งงานเขา

อธิบาย  :  ทำลายการแต่งงานทำให้เขาไม่ได้แต่งงานกัน เมื่อมีความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา  จึงจะมีความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก เพราะฉะนั้น การแต่งงานจึงเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต  การทำลายการแต่งงานมีหลายวิธีซึ่งก็มีการวางแผนการณ์ได้ร้อยแปด เช่นการทำลายก่อนแต่งงาน ขณะแต่งงานและหลังแต่งงาน ตั้งแต่ไม่มีเรื่องราวสร้างเรื่องขึ้น เป็นต้น  หารู้ไม่ว่าการแต่งงานเป็นเรื่องของฟ้ากำหนด คนจะไปทำลายเขาได้อย่างไร ? การแต่งงานที่ถูกทำลายไปแล้ว ที่สุดการแต่งงานนี้จึงมิใช่การแต่งงาน !  อย่างไรก็ตามการแต่งงานจะแยกหรืออยู่ด้วยกันเป็นเรื่องของฟ้ากำหนด หากคนตั้งใจไปทำลายการแต่งงานของผู้อื่น บาปกรรมอันนี้เหมือนบาปกรรมฆ่าคน  ผู้ทำชั่วทำไมจึงต้องทำลายมโนธรรมของตนเองเล่า !  อันที่จริงสามีภรรยาปรองดองกัน อาจเป็นเพราะผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง เห็นเขยเป็นคนจนต้อยต่ำจึงเกิดแตกต่าง หรือพ่อแม่สามีเห็นลูกสะใภ้ยากจนจึงฟังคำยุแหย่นี้ก็คือโจรฆ่าญาติ เมื่อเทียบกับการใช้อาวุธฆ่าคนยังน่ากลัวกว่าอีก จึงควรเป็นข้อห้าม การติเตียนความยากจนแยกทาง โดยใช้อิทธิพลไปฉุดเอา เหล่านี้คือการทำลายหลักธรรมฟ้าทั้งสิ้นหรือ
การใช้กฏหมายอำนาจตำแหน่งราชการไปข่มเหงบังคับให้เขาแยกทาง ก็เป็นการสูญบุญกุศลอย่างมหาศาล อาจต้องได้รับโทษจากฟ้า อันที่จริงควรใช้ตำแหน่งข้าราชการชักจูงตักเตือนห้ามปรามจึงจะถูกต้อง

คติ  :  ซือหม่าอุน สมัยซ่ง เขียนคำสอนครอบครัวไว้ว่า  "เมื่อจะหมั้นหมายก็ควรสืบสวนคุณสมบัติทั้งสองฝ่ายและประเพณีให้ดีก่อน ทุกอย่างต้องถามให้รู้ชัด อย่าเพียงพอใจความร่ำรวยของฝ่ายตรงข้าม ถ้าหากเขยมีศักยภาพ แม้ตอนนี้จะยังจนอยู่ จะรู้ได้อย่างไรว่าวันข้างหน้าจะไม่ร่ำรวย ?.  ถ้าหากเขยไม่รักดี แม้ตอนนี้จะร่ำรวยจะรู้ได้อย่างไรว่าวันข้างหน้าจะไม่ยากจน ยิ่งผู้หญิงมีความสำคัญต่อครอบครัว ต่อความเจริญหรือเสื่อมอย่างยิ่ง ถ้าหากเห็นแก่ความรวยของฝ่ายเธอแล้วเลือกมาเป็นภรรยา แล้วเธอยังติดความรวยของพ่อแม่มาดูถูกสามี ไม่เคารพพ่อแม่สามีกลายเป็นนิสัยหยิ่งทะนง บ้านก็จะไม่มีความสงบสุข ถึงแม้จะอาศัยฝ่ายหญิงร่ำรวยหรือได้ตำแหน่งข้าราชการ เลื่อนตำแหน่ง ฝ่ายชายก็มีอุดมการณ์จึงไม่รู้สึกละอายบ้างหรือ ! 

        ชาวโลกที่ชอบคลุมถุงชนหมั้นหมายไว้ตั้งแต่เด็ก พอภายหลังเติบโตแล้ว เป็นคนไม่รักดีก็พึ่งพาไม่ได้ หรือเจ็บป่วย หรือยากจน  หรือโยกย้ายไปต่างถิ่น และไม่รักษาสัญญา ละเมิดการแต่งงาน  ดังนั้น  จึงเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นเป็นต้น แบบนี้มีมากให้เห็น ทำไมไม่รอให้พวกเขาเติบโตกันก่อน จึงค่อยหมั้นหมาย ต่อไปก็ให้ติดต่อคบหากัน ฝ่ายชายอาจส่งของขวัญมาบ้านฝ่ายหญิง เพื่อแสดงหใายของแต่งงาน ดูกันไปมาหลายเดือนแล้วจึงแต่งงาน อย่างนี้ก็จะไม่เกิดเรื่องเสียใจในภายหลัง แบบนี้เป็นเรื่องของคนรุ่นหลังควรศึกษาไว้ ! "

                                            จบเล่ม ๒

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                             คัมภีร์กรรม ๓ กั่นอิ้งเพียน กรรมสนอง 

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                      พระสูตรสั่งสมบุญวาสนาสลายเคราะห์ภัย

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                       คำนำ

        คัมภีร์กรรม  หรือ  กั่นอิ้งเพียน ในภาษาจีน เป็นคัมภีร์ของท่านเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า พระนามตามอริยฐานะของท่านเหลาจื่อ คือ ไท่ซั่งเหล่าจวิน
แต่ชาวบ้านมักเรียกสั้น ๆ ว่า ท่านไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของท่านไท่ซั่ง แม้จะเป็นคัมภีร์ศาสนาเต๋า แต่ความเป็นสัจอมตะของนิพนธ์นี้ เป็นที่ซาบซึ้งจนพระ                         
ธรรมาจารย์จิ้งคง สงฆ์ในพุทธศาสนา รู้สึกประทับใจจนไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ ท่านจิ้งคงจึงนำเอาคัมภีร์กั่นอิ้งเพียนมาบรรยายให้สานุศิษย์ฟัง และเหล่าศิษย์
ของท่านจิ้งคงจึงรวบรวมจัดพิมพ์เป็นเล่มหนากว่า  ๕๐๐  หน้า                                     

        กระผมอ่านแล้วก็ให้ประทับใจ จนอดที่จะถอดความเป็นภาษาไทยไม่ได้ และเนื่องด้วยเป็นคัมภีร์เล่มหนาจะรอให้แปลจนหมดคงต้องใช้เวลาหลายปีจึงดำริแบ่งเป็น ๔ เล่ม เล่มแรกก็ออกเผยแผ่ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๔๖  เล่ม ๒ กรกฏาคม ๒๕๔๗  และ เล่ม ๓ นี้ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๘ และ เล่ม ๔ คงแปลเสร็จในปี ๒๕๔๙ หลังจากจบแล้วถ้ามีผู้สนใจ ก็อาจรวมเล่มปกแข็งก็ได้  คัมภีร์กรรม ๓ ก็ยังเป็นเรื่องของชั่วบาป ต่อจากเล่ม ๒

        กระผมหวังว่า  ท่านผู้อ่านยังคงได้อรรถรสและคติที่เป็นอุทาหรณ์  เป็นศีล  ข้อห้ามไม่ให้ท่านทำผิด ในเล่ม ๓ นี้ จะเน้นเรื่องการล่วงละเมิดกาม ซึ่งตรงกับศีลข้อ ๓ ของชาวพุทธ ตัวอย่างนิทานและบทอธิบาย จะช่วยให้ท่านเห็นชัดเจนถึงกรรมตอบสนองที่เป็นเหตุเป็นผล ท่านไม่สามารถนำเอาหลักการพาณิชย์หรือการสมยอมมาเป็นเหตุผลได้เลย

        ขออำนาจกุศลที่ท่านได้สร้างแล้ว  ปฏิบัติแล้ว  จงเป็นพลวปัจจัยให้ท่านได้ลุถึงฝั่งนิพพานเทอญ.

                                                 ด้วยความเคารพ
                                                   ธรรมบัญชา
                                                  แปลเรียบเรียง     
                                              ๑๘ กันยายน ๒๕๔๘         

        บทบรรยาย ... ธรรมาจารย์จิ้งคง
            บทแปล ... ธรรมบัญชา                   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                        คัมภีร์กรรม ๓ กั่นอิ้งเพียน กรรมสนอง 

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                      พระสูตรสั่งสมบุญวาสนาสลายเคราะห์ภัย

                             คัมภีร์กรรม (กั่นอิ้งเพียน)

        ไท่ซั่งกล่าวว่า  ภัยพิบัติบุญวาสนาไร้ทวาร สุดแต่คนกวักหา บาปบุญตอบสนอง เหมือนเงาตามตัว ด้วยฟ้าดินมีเทพเจ้าปกครอง อิงการกระทำของมนุษย์หนักเบา เพื่อลงโทษตัดขัย ตัดขัยให้ยากจน  ประสบทุกข์ลำบากบ่อย  ผู้คนก็รังเกียจต้องโทษวิบัติตามมา มงคลโชคลาภหลบหาย ดาวร้ายภัยตาม ขัยสิ้นก็ตาย ยังมีเทพเจ้าดาวเหนือสามองค์ อยู่เหนือศรีษะมนุษย์บันทึกชั่วบาป คอยตัดอายุขัย  ยังมีเทพอีกสามตนอยู่ในตัวคน เมื่อถึงวันแกชิง ขึ้นทูลพระเจ้าเบื้องบน รายงานความชั่วบาปของมนุษย์ในวันสิ้นเดือน เทพเจ้าแห่งเตาไฟก็เช่นกัน ผู้มีความผิดมหันต์ตัดขัยหนึ่งรอบ ลหุตัดขัยร้อยวันความผิดมากน้อยมีมากถึงร้อย อยากมีอายุยืนต้องหลีกเลี่ยงเอย

        เป็นธรรมให้เดินหน้า ไม่ใช่ธรรมให้ถอย ไม่ดำเนินทางชั่ว ไม่แอบรังแกข่มเหง สั่งสมบุญกุศล ใจเมตตาต่อสัตว์ จงรักภักดีกตัญญู ให้รักญาติมิตร ให้ตนตรงอบรมผู้อื่น สงสารแม่หม้ายกำพร้ายากไร้ เคารพอาวุโสห่วงใยผู้เยาว์ ไม่ทำร้ายหนอนหญ้าต้นไม้ ต้องสงสารผู้เคราะห์ร้าย ยินดีกับผู้ทำดี ช่วยเหลือผู้คับขัน ฉุดช่วยผู้อยู่ในอันตราย เห็นเขาได้ดีเหมือนตนได้ดี เห็นเขาสูญเสียเหมือนตนสูญเสีย ไม่โพนทนาความชั่วเขา ไม่โอ้อวดความดีตน หยุดยั่งเรื่องชั่วเผยแผ่เรื่องดี ให้มากรับน้อย รับอัปยศไม่แค้น รับความรักดุจความหวาดกลัว ทำคุณไม่หวังผล ให้เขาไม่นึกเสียใจ ที่ว่าเป็นคนดี คนให้ความเคารพแห่งฟ้าคุ้มครอง งานที่ทำก็สำเร็จ เป็นเทพเซียนปรารถนาได้ อยากเป็นเทพเซียนฟ้า ต้องทำความดีหนึ่งพันสามร้อยกุศล อยากเป็นเทพเซียนดิน ต้องทำความดีสามร้อยกุศล

        หากทำสิ่งไม่ถูกต้อง กระทำละเมิดธรรม ถือชั่วว่าสามารถ ทนทำชั่วร้ายได้ แอบทำร้ายคนดี ข่มเหงราชาพ่อแม่ลับหลัง หยิ่งยโสครูบา ละทิ้งหน้าที่หลอกคนไม่รู้ ลวงเพื่อนร่วมเรียน ใส่ร้ายล่อลวง โจมตีวงศ์ตระกูล อันธพาลไม่การุณย์ ป่าเถื่อนตามอารมณ์ ถูกผิดไม่ถูกต้อง เข้าหาชั่วหันหลังดี กดขี่เอาชอบ ประจบนายพอใจ บ่มแค้นไม่หยุด ดูแคลนประชาชน ก่อกวนการปกครอง รางวัลคนชั่ว ลงทัณฑ์ผู้บริสุทธิ์ ฆ่าคนชิงทรัพย์ ใช้เล่ห์แย่งตำแหน่ง เข่นฆ่าผู้ยอมแพ้ ขับคนดีไล่ปราชญ์ รังแกกำพร้าข่มเหงหม้าย ละกฏรับสินบน เอาตรงว่าคด เอาคตว่าตรง โทษเบาเป็นหนัก เห็นประหารเพิ่มโทสะ รู้ผิดไม่แก้ รู้ดีไม่ทำ โยนผิดให้ผู้อื่น ปิดบังวิชา ใส่ร้ายอริยปราชญ์ ทำร้ายคุณธรรม ยิงนกล่าสัตว์ คุ้ยหนอนทำนกตกใจ อุดรูทำลายรัง ทำร้ายครรภ์ทุบไข่

        อยากให้เขาเสียหาย ทำลายความสำเร็จของเขา ให้เขาอันตรายตนสุข ลดเขาประโยชน์ตน เอาชั่วไปแลกดี ดีตนทำลายส่วนรวม ขโมยผลงานเขา ปิดบังความดีเขา เปิดโปงความชั่วเขา เปิดเผยความลับเขา ผลาญทรัพย์สินเขา พรากสายเลือดเขา แย่งของรักเขา ช่วยเหลือเขาทำชั่ว อวดอำนาจข่มขู่ ทำอัปยศเพื่อชัยชนะ ทำลายไร่นาเขา ทำลายการแต่งงานเขา พอรวยก็หยิ่งยโส หลบเลี่ยงไม่ละอาย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                        คัมภีร์กรรม ๓ กั่นอิ้งเพียน กรรมสนอง 

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                      พระสูตรสั่งสมบุญวาสนาสลายเคราะห์ภัย

                             คัมภีร์กรรม (กั่นอิ้งเพียน)

        เหมาเอาคุณป้ายความผิด โยนเคราะห์ขายชั่ว ซื้อยศจอมปลอม หน้าเนื้อใจเสือ ขัดขวางความดีเขา ปิดบังความชั่วตน ใช้อิทธิพลข่มขู่ ทำลายฆ่าป่าเถื่อน ตัดผ้าไร้เหตุ ฆ่าสัตว์ไร้จริยธรรม ทิ้งขว้างธัญพืช เคี่ยวเข็ญประชาชน ทำลายครอบครัวเขาเพื่อชิงทรัพย์สิน ปล่อยน้ำวางเพลิงเพื่อทำลายประชาชน ทำลายแผนการณ์ให้เขาล้มเหลว ทำลายเครื่องมือไม่ให้เขาใช้ เห็นเขาได้หวังเขาฉิบหาย  เห็นเขาร่ำรวยอยากให้เขาล้มละลาย  เห็นเขารูปงามคิดข่มขืน เป็นหนี้เขาหวังให้เขาตาย ขอร้องเขาไม่ได้ก็เกิดสาปแช่ง  เห็นเขาล้มเหลวก็ว่าเขาทำชั่ว เห็นเขาไม่สมประกอบก็หัวเราะใส่ เห็นเขาสามารถ
ควรยกย่องกลับทับถม ใช้มนต์ดำฝังรูป ใช้ยาฆ่าต้นไม้ โกรธแค้นครูอาจารย์ ขัดต่อพ่อพี่

        ใช้แรงขู่เข่นเอา ชอบรุกรานชอบแย่งชิง ปล้นจนร่ำรวย ใช้เล่ห์หาก้าวหน้า ให้รางวัลลงโทษไม่เสมอกัน เสพสุขเกินเลย ทารุณผู้ใต้บังคับ ข่มขู่เขาหวาดกลัว โทษฟ้าโทษคน ว่าลมด่าฝน ยุแหย่ให้สู้ความ เที่ยวเข้าร่วมแก้ง ฟังเมียพูดปด ฝ่าฝืนโอวาทพ่อแม่ ได้ใหม่ลืมเก่า ปากอย่างใจอย่าง โลภแอบอ้างทรัพย์ ฉ้อโกงตบตาหน่วยบน สร้างข่าวใส่ร้ายทำลายเขา ใส่ร้ายเขายกตนตรง ด่าเทพเจ้ายกตนดี ทิ้งธรรมทำชั่ว เมินญาติคบคนนอก  ชี้ฟ้าดินเป็นพยานทั้งที่ชั่ว ท้าพระเจ้าตรวจสอบ ทำทานแล้วเสียดาย ยืมทรัพย์ไม่คืน ไม่เจียมตนหานอกลู่ ใช้จนสุดอำนาจ เสพกามเกินเลย หน้าซื่อใจอำมหิต ให้ของกินสกปรกเขา ใชทางมารหลอกประชาชน มาตราชั่งตวงวัดโกง ปลอมปนสินค้า รีดนาทาเร้น บังคับคนดีให้ชั่ว โป้ปดคนโง่ โลภละโมบไม่เบื่อ แช่งชักว่าตนถูก เมาสุราลวนลาม สายเลือดทะเลาะกัน ชายไม่ซื่อภักดีหญิงไม่อ่อนน้อมตาม บ้านไม่กลมเกลียว ไม่นับถือสามี คุยข่มอวดดี อิจฉาตาร้อน ไม่ดีต่อบุตรภรรยา ไร้จริยาต่อพ่อปู่แม่ย่า ดูถูกบรรพชน

        ขัดขืนคำสั่งเบื้องบน ทำสิ่งไร้ประโยชน์ คับแค้นนอกใจ สบถตนสาปแช่งผู้อื่น ลำเอียงชังลำเอียงรัก ก้าวข้ามบ่อน้ำเจ้าที่ ข้ามอาหารข้ามคน ฆ่าลูกทำแท้ง ชอบแอบทำชั่ว  วันสิ้นเดือนร้องรำ ด่าทอเช้าตรู่วันพระ ถ่มถุยหนักเบาทิศเหนือ ร้องเพลงหน้าพระ จุดธูปจากเตา ใช้ฟืนสกปรกหุงหา เปลือกกายกลางคืน ประหารวันตรุษสาร์ท ถ่มน้ำลายดาวตก ชี้รุ้งชี้สามแสงบ่อย  จ้องอาทิตย์จันทร์นาน ล่าสัตว์เผาป่า ฤดูใบไม้ผลิ ด่าทอทิศเหนือ ตีงูฆ่าเต่าไร้สาเหตุ

        อันบาปต่าง ๆ นี้ เทพเจ้าตามดูหนักเบา หักขัยตามรอบขัยสิ้นก็ตาย หนี้เหลือจากตาย ตกทอดบุตรหลาน พวกอันธพาลเอาเงินเขา ผลชั่วตกถึงลูกเมียคนในบ้านรับไปจนกว่าถึงที่ตาย หากยังไม่ตาย ก็มีภัยจากน้ำไฟโจรของหายเจ็บป่วย คดีความตอบสนอง จนเท่าค่าที่โกงมา โทษบาปฆ่าคนก็ถูกอาวุธฆ่าตอบ เงินทองได้มาไม่ถูกต้อง ดุจเนื้อเน่าแก้หิวเหล้าแก้กระกาย ไม่เพียงไม่อิ่มความตายก็มาถึง  หากใจเริ่มใฝ่ดี ดีแม้ยังไม่ทำ เทพดีก็ตามหา หากเริ่มใฝ่ชั่ว ชั่วแม้ยังไม่ทำ เทพชั่วก็ตามหา ผู้เคยทำชั่ว ภายหลังสำนึกผิดชั่วทั้งหลายไม่ทำ ความดีทั้งปวงถือปฏิบัติ นาน ๆ ไปย่อมได้มงคลโชคลาภดังว่าเปลี่ยนภัยพิบัติเป็นบุญวาสนา

        ดังนั้น ผู้มงคล วาจาดี มองดี ทำดี วันหนึ่งมีสามดี สามปีฟ้าย่อมส่งบุญวาสนา ผู้อุบาทว์ วาจาชั่ว มองชั่ว ทำชั่ว วันหนึ่งมีสามชั่ว สามปีฟ้าย่อมส่งภัยพิบัติ ยังจะไม่พยายามปฏิบัติหรือ ! 
                                                     จบ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                 คัมภีร์กรรม  เล่ม ๓

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  บังเิอิญรวยก็หยิ่งยโส

อธิบาย  :  จับพลัดจับผลูส่งเดชก็บังเอิญรวยขึ้นมา หรือเสี่ยงโชค จนร่ำรวยขึ้น ก็เกิดหยิ่งยโสทำใหญ่โต คำว่า บังเอิญ ซึ่งก็มีความหมายว่า "เกิดบังเอิญ" มิใช่เกิดจากความสามารถของตน เช่น บังเอิญถูกลล๊อตเตอรี่ มีเงินร่ำรวยขึ้น การรวยโดยบังเอิญนี้ ไม่ต้องรวยมหาศาลแค่รวยเป็นล้าน ก็ทำตัวหยิ่งยโส ทำอวดเบ่ง ในที่นี้จะเห็นได้ชัดกับคนจนทั่ว ๆ ไป พอมีเงินเข้าหน่อยก็ลืมตัว ทำฟุ้งเฟ้อ ทำหยิ่ง ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย คนที่ฟุ่มเฟือยก็มักจะมีความโลภ หาเงินโดยมิชอบ กระทั่งคดโกงเงินผู้อื่นเพื่อให้ตนมีใช้จ่าย คนพวกนี้จะเห็นเป็นสำคัญจนสามารถทำความชั่วมหันต์ เอาเปรียบรังแกคนร่วมหมู่บ้าน ดูถูกญาติพี่น้อง ตนเองก็จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่กับคนอื่นแดงเดียวก็ไม่ให้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังวางอำนาจข่มขู่แต่ก็อยู่ได้ไม่นานก็หมดตัว นั่นเพราะหลักธรรมฟ้า มักจะเป็นอริกับเต็มล้น เพราะฉะนั้น การหยิ่งยโสที่ยังแสดงได้ไม่เต็มที่ ตนเองนั่นแหละเป็นผู้พบกับภัยพิบัติเสียก่อน สภาพเช่นนี้ลองดูได้ไม่ผิดหรอก ! 

นิทาน  :  เมื่อก่อนมีเศรษฐีอยู่คนหนึ่ง ชื่อ หยางชี นิสัยเป็นคนละโมบ ความรู้ตื้นเขิน จิตใจก็คับแคบ สะสมเก็บหอมรอมริบเงินทองจนทรัพย์สินเพิ่มขึ้นทุกวัน เพื่อนของเขาชื่อเฉินตงถัง ก็เตือนเขาว่า  "คำว่า หมดสิ้น คือ การสะสมจนร่ำรวย แต่ไม่รู้จักการให้ทาน ต้องได้พบกับภัยประหลาด เธอทำไมไม่ทำความดีเช่นการให้ทานบ้าง เพราะความดีจึงจะสามารถรักษาทรัพย์ของเธอได้ยาวนานขึ้น !"  แต่หยางชี ไม่สนใจฟังคำตักเตือนของเฉินตงถังเลย เวลาผ่านไปอีก 2 - 3 ปี เฉินตงถังก็บอกกับคนอื่นว่า "ตามที่ข้าได้สำรวจตรวจตรา เคราะห์ภัยของหยางชีใกล้จะถึงแล้ว เมื่อก่อนนี้เพียงแต่ใจละโมบตระหนี่เท่านั้น ทำให้คนพากันดูแคลนเขาเท่านั้น มาระยะหลัง ๆ นี้ ได้ข่าวว่าเขาเปลี่ยนแปลงไปมาก ยิ่งถี่ยิ่งนับวันจะยโสและอันธพาลขึ้นทุกที ทำตัวเหยียดหยามผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล เรื่องชั่วร้ายต่าง ๆ ก็ทำนี่เป็นเพราะตนเองเร่งหาเคราะห์ภัยใส่ตัวเร็วเข้ามิใช่หรือ หลังจากเฉินตงถังพูดไว้ได้ไม่นานนัก หยางชีก็ถูกพวกโจรปล้นและฆ่าตาย

คติ  :  คนโบราณว่า "ประหยัดอ่อนน้อม คือการเริ่มต้นของคนมีบุญวาสนา ตระหนี่ หยิ่งยโส คือลางบอกเหตุของคนที่จะมีเคราะห์ภัย เพราะฉะนั้น คนที่บำเพ็ญบุญวาสนาก็จะค่อย ๆ ได้รับโชคมงคล กับคนที่กล้าทำเรื่องชั่ว ที่สุดก็จะล้มฟุบไม่เป็นท่า ตั้งแต่โบราณมาถึงกาลปัจจุบัน ตัวอย่างแบบนี้ มีมากมายก่ายกองนัก !     

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                คัมภีร์กรรม  เล่ม ๓

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  หลบเลี่ยงไม่ละอาย

อธิบาย  :  การไม่เผชิญหน้ากลับหลบเลียง ทั้งหาทางหลบเลี่ยงโดยหวังโชคช่วย ใจไม่มีความละอายเลยสักนิด พระพุทธองค์ว่า "อาตมามีธรรมสองคำสามารถช่วยเหล่าเวไนยได้ อะไรคือธรรมสองคำ คำหนึ่งเรียกว่า  "ละ"  อีกคำเรียกว่า "อาย"  ท่านขงจื่อว่า "การกระทำตนเองมีความละอาย" หมายความว่า "การกระทำนอกลู่นอกทางของตนเอง ใจต้องมีความรู้สึกละอาย !" ในบทบันทึกจริยธรรมว่า "เผชิญความลำบากห้ามหลบเลี่ยง" หมายถึง"ขณะที่กำลังเผชิญกับภัยและความลำบาก อย่าได้เผื่อใจหาทางให้ตนเองได้โชควาสนา หลบหลีกความทุกข์ยากและเคราะห์ภัยได้"  สมัยนี้คนส่วนมาก เป็นคนที่ไม่ห่วงศีลธรรมหรือกฏหมายที่กำหนดไว้โดยหวังให้ตนเองมีโชควาสนา หลบเลี่ยงเคราะห์ภัยได้เป็นพอ ทั้งยังไม่รู้สึกละอายใจเลย คนแบบนี้ไม่มีคุณสมบัติห่างไกลจากความเป็นคนยิ่งนัก ! 

นิทาน  :  ในสมัยถัง ทั้งเกอฝู่อวี่และอันหลู่ชัน ต่างเป็นขุนพลในราชวงศ์ถัง ทั้งสองมักมีเรื่องที่ต้องกระทบกระทั่งชิงดีกัน ไม่ยอมลงให้แก่กัน เมื่อครั้งที่อันหลู่ชันเกิดกบถ เกอฝู่อวี่ถูกทหารของอันหลู่ชันจับได้ ถูกพามาอยู่ต่อหน้าอันหลู่ชัน  อันหลู่ชันก็พูกกับเกอฝู่อวี่ว่า "เมื่อก่อนนี้เจ้าดูถูกข้าบ่อย ๆ ตอนนี้เจ้าพูดซิจะทำอย่างไรดี ?" เกอฝู่อวี่ก็หมอบลงตรงหน้าอันหลู่ชัน กล่าวว่า "ตาเนื้อของบ่าว ไม่สามารถรู้จักผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างท่านได้ !"  อันหลู่ชันได้ฟังก็หัวเราะใหญ่ แล้วก็แต่งตั้งให้เขาเป็นชีคง (หัวหน้ากองที่ดิน)  ต่อมาอันหลู่ชันก็ฆ่าพวกขุนพลของถังที่มาสวามิภักดิ์ทั้งหมด เกอฝู่อวี่ก็ถูกฆ่าด้วย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                  คัมภีร์กรรม  เล่ม ๓

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  เหมาเอาคุณ  ป้ายความผิด

อธิบาย  :  เอาความดีความชอบของผู้อื่นมาเป็นคุณของตน เพื่อสร้างภาพพจน์ของตนให้ดูดี แล้วเอาความผิดของตนป้ายไปให้ผู้อื่น มุ่งหวังผลประโยชน์ของหน้าที่การงาน ไม่ใช่สิ่งที่ตนได้ให้คุณแต่กลับเหมาเอา (ขี้ตู่)  เป็นคุณของตนเอง อย่างนี้เป็นการดูดีชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามได้ศึกษาสืบลึกลงไปก็จะรู้ความจริง ไม่เพียงฝ่ายตรงข้ามจะไม่ขอบคุณตนแล้ว กลับจะดูถูกตนว่าเป็นผู้สร้างเรื่องไม่มีก็ว่ามี อันที่จริงความผิดที่ตนสร้างขึ้นก็คิดที่จะป้ายไปให้คนอื่น ความจริงแล้ว แผนการณ์โยนความผิดให้ผู้อื่นได้ผลแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อฝ่ายตรงข้ามสืบค้นก็จะพบความจริง เช่นนี้แล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะไม่อภัยให้เราแล้ว กลับเพิ่มความเกลียดชังเบื่อหน่ายและเขี้ยวกับตนมากยิ่งขึ้น นี่เพราะคนใจคับแคบทำเรื่อง คับแคบเห็นแก่ตัวโดยแท้ ! 

นิทาน  :  หวังหุ้ย มหาอำมาตย์สมัยซ่ง มึคนมาไหว้วานเขา หวังใหห้ช่วยเหลือตนให้เลื่อนยศ หรือไม่ก็หางานที่ดีให้ทำ หวังหุ้ยจะทำหน้าเคร่งครัดแล้วบอกปัด ถ้าหากมีใครที่ถูกหวังหุ้ยช่วยเหลือหรือได้งานเขาก็จะปกปิดไม่บอกให้เจ้าตัวได้รู้ บุตรชายของหวังหุ้ยพูดกับเขาว่า  "พ่อท่าน ท่านทำไมไม่บอกคนเหล่านั้นว่า พวกเขาเป็นคนที่ท่านได้ช่วยเหลือเล่า ?."  หวังหุ้ยตอบว่า  "ลูกเอ๋ย !  การใช้คนดีคนเก่งเป็นธุระของพระเจ้าอยู่หัว หากไปบอกพวกเขา ทำให้เขารู้ว่าใครเป็นผู้สนับสนุน ใครเป็นผู้ช่วยเหลือ ก็จะเป็นการอคติเห็นแก่ตัว เป็นการขายคุณส่วนตัวไป" 

อธิบาย  :  การนิ่งเฉยรับเป็นความผิดของตน โดยไม่ป่าวประกาศความผิดของเพื่อน จิตใจที่ได้บ่มเลี้ยงเช่นนี้ จึงไม่นับว่าอยู่เหนือคนทั่ว ๆ ไปเป็นหมื่น ๆ เท่าหรอกหรือ ?.  คนที่ได้รับการบ่มเลี้ยงเช่นนี้ ไฉนเลยจะเอาความผิดของตนป้ายไปให้ผู้อื่นเล่า ?.

Tags: