คัมภีร์กรรม เล่ม ๒
ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า
วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ
บทที่หก
ชั่วบาป
คัมภีร์ : กล่าวร้ายเพื่อนร่วมเรียน
อธิบาย : กับเพื่อนร่วมเรียนที่มีมากมาย แทนที่จะให้ความสนิทสนมกลับติฉินนินทากล่าวร้าย ทำลายชื่อเสียงเกียรติยศของเขา เพื่อนนักเรียนหรือเพื่อนฝูงมีความสัมพันธ์เหมือนกับพี่น้อง เพื่อนเป็นหนึ่งในมนุษย์สัมพันธ์ห้า แล้วจะไปกล่าวร้ายทำลายเพื่อนทำไม เหมือนกับแอบซ่อนอาวุธอยู่ข้างหลัง พุทธองค์ตรัสว่า "การคบค้าสมาคมกับมิตรระหว่างกัน มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ
ข้อที่หนึ่ง ระหว่างกัน ที่ทำเรื่องชั่ว ต้องช่วยกันตักเตือนประคองห้ามไปทำชั่วอีก
ข้อที่สอง ระหว่างกัน หากมีการเจ็บไข้ได้ป่วย ควรช่วยเหลือกันสอดส่องดูแลรักษาการเจ็บป่วย
ข้อที่สาม ระหว่างกัน ถ้ารู้ความลับส่วนตัว ไม่ควรพูดไปสู่บุคคลภายนอก
ข้อที่สี่ ระหว่างกัน ต้องให้ความเคารพนับถือยกย่องซึ่งกันและกัน ไม่ขาดการติดต่อ และก็ไม่จดจำความแค้นเคือง
ข้อที่ห้า ระหว่างกัน ถ้าฐานะไม่เสมอกัน ก็ควรช่วยเหลือพยุงเกื้อหนุนกัน ไม่ควรกล่าวร้ายทำลายกัน
อาจมีผู้ถามว่า "ภายหลังคบค้าสมาคมกันแล้วจึงพบว่า เขาไม่ใช่คนดี คิดอยากจะตัดขาดไม่สมาคมกัน ก็กลัวว่าจะทำร้ายน้ำใจระหว่างกัน ถ้าไม่ไปตัดการคบกันกับเขา ก็จะเกิดการเคืองแค้นที่คบค้ากับเพื่อนได้" ท่านจูจื่อตอบว่า "นี่มิใช่เกิดการเคืองแค้นที่คบค้ากับเพื่อนหรอก แต่ในใจมีความเคืองแค้นอยู่ก่อน ต่อหน้าก็แสดงว่าคบค้ากัน อย่างนี้จึงไม่ใช่เกิดการเคืองแค้น ! ถ้าหากเพื่อนไม่ดี มิตรไมตรีก็จะห่างเหินกันบ้าง แต่ต้องค่อย ๆ ห่างเหิน ถ้าหากเขาไม่เสียหายอย่างร้ายแรง ทำไมจึงต้องตัดเขาให้ห่างกันถึงพันลี้เชียวเล่า ถ้าหากใช้ความจริงใจเรื่อย ๆ ไป ก็สามารถจะกล่อมเกลาเขาได้ ทำให้เขารู้สึกสำนึก อย่างนี้จึงจะเรียกว่า ญาติก็ไม่เสียหลักความเป็นญาติ เพื่อนก็ไม่เสียหลักความเป็นเพื่อน
ในสมัยหมิง นายหวังหยางหมิงกล่าวว่า "การคบค้าระหว่างเพื่อน การถ่อมตนเป็นสิ่งสำคัญมาก ! เมื่อเพื่อนคบค้ากัน ระหว่างกันต้องบริสุทธิ์ใจ ถ่อมตัว นับถือเก็บความลับระหว่างกัน ส่วนใหญ่ก็คือตักเตือนห้ามปราม ชี้แนะบ้างนิดหน่อย หากแต่จริงใจเตือนกัน ยกย่องสนับสนุนจะมากหน่อย"
คุณอุนเจวียะเสี้ยวกล่าวว่า "คบเพื่อนต้องสรรเสริญความดีของเขา อย่าถือสาด้านเสียของเขา คบกับเพื่อนที่มีนิสัยแข็งกระด้าง ก็ต้องอดทนอารมณ์ร้ายของเขา เจอะเพื่อนที่นุ่มนวลลอยชาย ก็ต้องอดทนอารมณ์ที่รวนเรของเขา พบกับเพื่อนที่ซื่อตรงจริงใจ ก็ต้องอดทนอารมณ์ยืดยาดของเขา พบกับเพื่อนที่ตุ้งติ้งโอบอ้อม ก็ต้องอดทนอารมณ์โกรธง่ายของเขา เช่นนี้ไม่เพียงได้สิ่งดี ๆ จำนวนมาก และก็เป็นวิธีที่คบเพื่อนที่ดีที่สุด !"
วิเคราะห์ : ด้วยเหตุนี้ ต่อมาคนรุ่นหลังจึงมีคำพูดประโยคหนึ่ง เกี่ยวกับการคบเพื่อนตายว่า "เป็นตายน้ำใจเซียนไต้" คำพูดนี้ไม่ใช้โอ้อวดเกินเลย ! คุณเซิ้นตงฮ้วงกล่าวว่า "การกล่าวหาเพื่อนที่ตายแล้วเทียบกับการกล่าวหาเพื่อนที่ยังมีชีวิต หนักหน่วงร้ายแรงกว่า เป็นการทำลายสัตย์ธรรมของมิตรนะ ! ปัจจุบันการคบเพื่อน ต้องถามตนเองว่า สามารถทำได้โดยไม่เปลี่ยนแปลงตราบจนตัวตายได้หรือไม่เล่า !
สรุป : จากนี้ก็จะเห็นว่า การทำร้ายคนอื่น คู่กรณีไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างไร ตนเองเท่านั้นที่ตกต่ำเพราะถูกกรรมตอบสนอง !