collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: คัมภีร์กรรม ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า : คำนำ  (อ่าน 144257 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                    คัมภีร์   :  ทนทำชั่วร้ายได้

        อันที่ ๑  วันเกิดไม่ควรฆ่าสัตว์ ในพระสูตรซีจิงว่า  "พ่อแม่เหน็ดเหนื่อยที่ให้กำเนิดฉัน"  วันที่แม่ให้กำเนิดฉัน การจะเป็นแม่นี้ยากนัก เพราะฉะนั้นวันเกิดในวันนี้ ควรที่จะถือศีลเจงดฆ่าสัตว์ ทำกุศลให้มาก เพื่อเป็นการเพิ่มบุญให้แม่มีอายุยืนยาวขึ้น หากพ่อแม่สิ้นไปแล้วก็สามารถอุทิศส่วนกุศลนี้ ให้ดวงวิญญาณของพ่อแม่เลื่อนสูงขึ้น จะลืมวันเกิดที่แม่ฟันฝ่าชีวิตได้อย่า่งไร แล้วตามใจตนเองเพื่ออร่อยปากได้อย่างไร การฆ่าสัตว์เพื่อกินเนื้อ ก็รังแต่จะดึงให้พ่อแม่ตกต่ำลง และไม่ดีกับตนเองด้วย แต่เรื่องเช่นนี้กับสภาพสังคมปัจจุบัน กลายเป็นธรรมเนียมต้องฆ่าชีวิตมาเลี้ยงฉลองไปแล้ว ทั้งยังไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ทำให้ใจนี้เจ็บปวดน้ำตาไหลเศร้าใจยิ่งนัก ! 

        อันที่ ๒  เวลาคลอดบุตรไม่ควรฆ่าสัตว์  หากเป็นคนที่ไม่มีบุตรเป็นของตนเอง ก็จะรู้สึกเศร้าเสียใจ สำหรับคนที่มีบุตรของตนเองก็จะให้รู้สึกยินดี แต่ก็ไม่คิดว่าสัตว์ทั้งหลายมันก็รักลูกของมันนา !  มาตอนนี้ต้องการฉลองที่ได้ลูก ก็จะมาฆ่าแกงลูกของพวกมัน ใจคอกินมันได้ลงหรือ ลูกเพิ่งคลอดออกมา แทนนี่จะทำบุญให้เขามีอายุมั่นขวัญยืน กลับมาสร้างบาปกรรมด้วยการฆ่าสัตว์ เป็นการสร้างวิบากกรรมให้กับลูก ช่างโง่เขลาเสียจริง ๆ  แต่คนทั้งโลกก็เคยชินกันแล้ว โดยไม่รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ทำให้คนที่มีน้ำใจเมตตาต้องเจ็บปวด เสียน้ำตา ! 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                  คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                    คัมภีร์   :  ทนทำชั่วร้ายได้

        อันดับที่ ๓  การเซ่นไหว้บรรพชนหรืองานศพ หรือวันเช็งเม้ง ควรอย่างยิ่งต้องงดฆ่าสัตว์ เพื่อเพิ่มบุญกุศลให้กับบรรพชนและผู้จากไป ถ้าหากยังฆ่าสัตว์เอามาเซ่นไหว้หรือเลี้ยงแขกในงานศพ ก็จะเป็นการเพิ่มวิบากกรรมให้กับคนตายและบรรพชนเท่านั้น ไม่เพียงไม่มีประโยชน์แต่กลับมีโทษ ถ้าเป็นผู้มีปัญญาก็จะไม่ทำเด็ดขาด แต่เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องเคยชินของชาวโลกไปแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกว่าผิด ผู้มีน้ำใจก็จะเศร้าเสียใจเสียน้ำตา ! 

        อันดับที่ ๔  งานแต่งงานไม่ควรฆ่าสัตว์  การแต่งงานทำให้ชีวิตสัตว์ตายไปไม่รู้เท่าไร น่าจะรู้ว่าสามีภรรยาที่แต่งงานก้เริ่มต้นให้กำเนิดบุตรมาสืบต่อวงศ์ตระกูล ในวันฉลองอันเป็นมงคลฤกษ์นี้ กลับกลายเป็นวันอุบาทว์ฆ่าชีวิตมาเลี้ยงแขก  เป็นการปลูกฝังเหตุแห่งบาปไป !  เป็นการเอาความโกรธแค้นรวมเข้ามาในบ้าน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นภาวะปกติของคนปัจจุบันนานแล้ว โดยไม่รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าใจนัก ! 

        อันดับ  ๕   การภาวนาขอพรไม่ควรฆ่าสัตว์  คนที่กำลังเจ็บป่วย ก็มักจะฆ่าสัตว์เอามาเซ่นไหว้เจ้า เพื่อภาวนาขอให้เทพเจ้าประสาทพรและคุ้มครองแต่ไม่ได้คิดว่าจุดมุ่งหมายของการเซ่นไหว้คืออะไร ถ้าจะให้ขจัดความตาย มีอายุยืนแล้ว  แล้วฆ่าเอาชีวิตของมันมาต่อชีวิตของเรา มันเป็นการละเมิดหลักธรรมฟ้าอย่างยิ่ง ไม่มีเรื่องอะไรที่ร้ายแรงขนาดนี้แล้ว ควรรู้ว่า   "ผู้ตรงซื่อมีปัญญาจึงเป็นเทพเจ้า"  มีหรือที่เทพเจ้าจะเห็นแก่ตัว การภาวนาขอพรแบบนี้ไม่เพียงแต่ไม่สามารถต่ออายุได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่งวิบากกรรมให้แก่ตนเองอีกด้วย

        อันดับที่  ๖  การแก้บนห้ามฆ่าสัตว์  ควรรู้ว่า  "นิจจังคือพุทธะ ซื่อตรงคือเทพเจ้า"  หลักธรรมนี้เหล่าพุทธะโพธิสัตว์และเทพเจ้าไม่รับสินบลนแล้วให้พรกับคนให้สินบนหรอก !  ปัจจุบันคนชอบมาบนบานหน้าเทพเจ้า แล้วฆ่าสัตว์ตัดวิญญาณ การบนแบบนี้เรียกว่า บนบาป !  ถึงแม้จะเป็นการบนแต่วิบากกรรมตอบสนองกำลังจะตามมา !

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                    คัมภีร์   :  ทนทำชั่วร้ายได้

        อันดับ ๗   การจัดงานเลี้ยงไม่ควรฆ่าสัตว์   ฤกษ์ดีเช่นนี้ ทั้งเจ้าภาพและแขกผู้มีเกียรติ มาชุมนุมกันมาเลี้ยงกัน การใช้อาหารเจคงไม่ทำให้เจ้าภาพกับแขกที่มีความสัมพันธ์กันที่ดีต้องเสียหายหรอก !  ทำไมต้องถวายชีวิตไปฆ่าสัตว์มากินมาดื่มกัน น่าจะรู้นะว่าขณะที่เจ้าภาพกับแขกกำลังสนุกสนานร่าเริงกัน แต่ในครัวสัตว์ที่ถูกฆ่า  ถูกสับ  ถูกตุ๋น  ถูกนิ่ง  ถูกย่าง   พวกมันกำลังร้องไห้ปล่อยโฮ  ทั้งเจ้าภาพและแขกหูตึงไม่ได้ยิน มีหรือจะเห็นใจความเจ็บปวดที่อยู่ในหม้อในกะทะหรอก ! 

        อันดับ  ๘  ผู้ดำรงชีวิตไม่ควรฆ่าสัตว์  ชาวโลกต่างต้องการดำรงชีวิตอยู่ แต่การไปทำกิจกรรมฆ่าสัตว์ เช่น ล่าสัตว์  จับปลา  หรือฆ่าสัตว์เป็นอาชีพหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ควรรู้ว่าเบื้องบนจะไม่ให้กำเนิดคนที่ไม่รู้จักหากิน ขอเพียงมีเทคนิค มีศิลปะบ้าง ก็สามารถหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ทำไมต้องไปทำอาชีพที่ต้องฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต  สร้างบาปกรรมมาเลี้ยงครอบครัว แบบนี้ไม่เพียงละเมิดหลักธรรมฟ้า ถ้ายิ่งฆ่าก็ยิ่งยากจน เพราะฉะนั้น ผู้มีอาชีพฆ่าสัตว์แล้วร่ำรวยได้ ในร้อยคนหาไม่ได้สักคน ยังเป็นการปลูกเหตุที่ลูกหลานไม่กตัญญูแล้ว ยังมีนรกเป็นที่ไปอีกด้วย กรรมตอบสนองไม่มีอะไรรุนแรงกว่านี้อีกแล้ว ทำไมไม่เปลี่ยนอาชีพเล่า ! 
        การให้ของกินที่เป็นมารยาทที่ดี แต่ของกินที่ให้ ถ้ายังมีชีวิต เช่นไก่เป็น ๆ  ปลาเป็น ๆ เป็นต้นล้วนก่อกลไกการฆ่าขึ้น การให้ของมีชีวิตก็เหมือนกับการฆ่าชีวิตให้เขา อย่างนี้ก็รับบาปไปเต็ม ๆ ส่วนคนรับก็แค่กินอิ่มสักมื้อ ทั้งสองฝ่ายไม่มีบุญกุศล ตลอดจนการเลี้ยงปลาสวยงาม อาหารที่เลี้ยงอาจเป็นพวกหนอน คิดคำนวนให้ดี ๆ บางคนเลี้ยงนกกระเรียนต้องใช้ปลาตัวเล็ก ๆ ดูซิว่าหมดชีวิตไปเท่าไร บาปการฆ่าชีวิตจะไม่สนใจไม่ได้ ! 

       คำคม  :  คุณหวงหลูจื๋อ เขียนโฉลกบทหนึ่งว่า  "เนื้อฉันเนื้อเวไนย ชื่อต่างกันกายไม่ต่างกัน จิตแหล่งเดียวกัน เพียงรูปร่างต่างกัน วิบากเขารับไป อร่อยพลีเป็นของฉัน อย่าว่ายมบาลไม่มี คอยดูว่าเป็นไฉน"  ท่านเซียนลี่ตงปิง ก็เคยเขียนโฉลกไว้ว่า  "เธออยากมีอายุยืนให้ฟังข้า เรื่องราวเฉียบแหลมให้อภัยตน อยากอายุยืนต้องปล่อยสัตว์ เป็นหลักธรรมแท้ตามครรลอง ถ้าหากเขาจะตายเธอช่วยเขา ถ้าเธอจะตายฟ้าช่วยเธอ ยืดอายุต้องการบุตรไม่มีวิธีอื่น หยุดฆ่าปล่อยชีวิตเท่านั้นเอย !   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                               คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

               คัมภีร์   :  ข่มเหงราชา  บิดา มารดาลับหลัง 

อธิบาย  :  กับพระราชาผผู้เป็นประมุขของชาติ  และบิดามารดา ควรจะต้องซื่อสัตย์จงรักภักดี มีกตัญญูและเคารพนับถือ ในทางกลับกัน กลับแอบทำร้ายข่มเหง การกระทำไม่จงรักภักดีไม่กตัญญู   การแอบทำร้ายราชา บิดามารดา เป็นการกล่าวถึงจำเพาะ กับคนที่มีชื่อเสียงดีที่เสแสร้งแกล้งทำ สำหรับประเทศชาติกับบิดามารดา  ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อเราประดุจเช่นฟ้ากับดิน  ถ้าหากรับเงินเดือนของหลวงแล้วขี้เกียจปฏิบัติงานหลวง เอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ฉ้อราษฏร์บังหลวงเป็นการข่าเหงเบื้องสูง ปิดบังเบื้องล่างคือประชาชน  คนจิตใจแบบนี้มีหรือที่จะยอมให้รู้ถึงพระราชาหรือประมุขของชาติ นี่แหละคือการแอบทำร้ายข่มเหงพระราชานั่นเอง !  กับบิดามารดาที่ต้องสนองงานเลี้ยงดูอย่างศรัทธาจริงใจ การทำงานดูแลไม่จริงใจ หรือแอบกระทำต่อบิดามารดาด้วยการแข็งขืน ซึ่งเป็นความผิด  คนจิตใจแบบนี้มีหรือที่จะให้บิดามารดารู้เข้า นี่คือการแอบทำร้ายข่มเหงบิดามารดานั่นเอง !

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                 คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                    คัมภีร์   :  แอบทำร้ายคนดี

อธิบาย   :  กับคนดีที่ซื่อสัตย์ภักดี ควรที่จะรักและปกป้องเขา สนับสนุนเขา แต่กลับวางแผนทำร้ายเขา การวางแผนทำร้ายเขาก็เหมือนกับแอบซุ่มยิงเขาหรือจ้างวานมือปืนไปยิงเขา ซึ่งป้องกันได้ยาก เมื่อผู้อื่นถูกเราทำร้ายโดยที่เราอยู่เบื้องหลัง จึงไม่ต้องรับสนองกับการกระทำ ได้ชื่อว่าเป็นคนชั่ว นี่เป็นเรื่องที่เลวมาก บุคคลโดยทั่วไปไม่ควรวางแผนทำร้ายใคร หากวางแผนแอบทำร้ายคนดีแล้วด้วย ยิ่งไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนที่ดีเป็นบุคคลที่ประชาชนฝากความหวังไว้ คนดีของประเทศ ก็เป็นคนดีที่ประชาชนให้ความสำคัญจับตามอง ถ้าคนดีในหมู่บ้านก็เป็นทั้งหมู่บ้านให้ความสำคัญจับตามองเพราะฉะนั้นจะไปแอบทำร้ายคนดีได้อย่างไร ?.

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                 คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                          คัมภีร์  :  หยิ่งยโสครูบา

อธิบาย   :  กับครูอาจารย์ที่ถ่ายทอดธรรม  วิชาความรู้ แก้ไขหลงผิด ควรที่จะเคารพนับถือรับการสั่งสอน แต่กลับหยิ่งยโสดูแคลน นั่นเป็นศิษย์ผู้บกพร่องหลักการเคารพบูชาครูบาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อบิดามารดาให้กำเนิดร่างกายเราแล้ว ยังต้องอาศัยครูอาจารย์แนะนำสั่งสอน จึงจะเป็นผู้มีความรู้ เพราะฉะนั้นกับครูอาจารย์ ก็เหมือนกับพระราชาและบิดามารดา ที่ต้องให้ความเคารพนับถือ คนในปัจจุบันที่เชิญครูมาสอนลูกของตน ก็มักจะแสดงเหมือนดูถูกเงินทอง ทั้งตระหนี่แถมยังขาดมารยาท พูดจาไม่รื่นหู กิริยาไม่ปกติ  ใจดูแคลนครูอาจารย์ แบบนี้ก็ไม่แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานมากนัก !  รู้ไหมว่าผู้เป็นครูอาจารย์นั้น จุดมุ่งหมายก็ต้องการให้คนรุ่นน้องเกิดปัญญา ทำตัวเป็นคนดี ตลอดจนได้สำเร็จเป็ปราชญ์อริยะ บุญกุศลประดุจฝนแรกในฤดูใบไม้ผลิยิ่งใหญ่นัก การจะรับการเลี้ยงดูค้ำชูจากผู้ปกครอง แล้วปล่อยปละละเลยบุตรหลานชาวบ้าน ไม่ควบคุมดูแลสั่งสอนให้เข้มงวด ทำให้บุตรหลานเขาตกอยู่ในอันตราย ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ให้มีครูอาจารย์บางคนช่วยทำการบ้านให้กับลูกศิษย์ อย่างนี้เท่ากับแอบข่มแหงปิดบังผู้ปกครอง ด้วยเห็นแก่เงินทองและใช้เงินซื้อเกียรติบัตร โทษตอบสนองความคิดเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะหนักหน่วงสาหัสแค่ไหน

วิเคราะห์   :  หลักธรรมและวิธีการดูแลครูอาจารย์ ควรเหมือนกับลูกดูแลบิดามารดา เวลาเดินก็ต้องติดตามอยู่ข้างหลังของอาจารย์ เวลานั่งก็ต้งนั่งอยู่ข้าง ๆ อาจารย์ พบอาจารย์ระหว่างทางก็ต้องยืนตรงแล้วยกมือขึ้นถามทุกข์สุขของอาจารย์ เวลาอาจารย์พูดคุยควรจะนิ่งตั้งใจฟัง  ถึงแม้จะผจญกับภยันตรายหรือลำบาก ก็จะต้องไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะโชคดีมงคลหรือทุกข์อุบาทว์ ก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกับอาจารย์ กิริยามารยาทต่ออาจารย์จะขาดตกบกพร่องไม่ได้  แม้อาจารย์จะจากไปแล้ว ก็ยังต้องไว้ทุกข์ทางใจให้อาจารย์สัก ๓ ปี  ถ้าหากทำได้เช่นนี้ก็นับว่าได้ทำหน้าที่ของศิษย์อย่างสมบูรณ์แล้ว

วิเคราะห์   :  ปัจจุบันอาจารย์ยิ่งวันยิ่งตกต่ำ ตกต่ำจนถึงขั้นทำให้ชาวบ้านเจ็บปวด ชื่อว่าเป็นครู บาปกรรมที่ทำให้ลูกชาวบ้านเสียหายต้องได้รับโทษจากเทพเจ้าแน่นอน สมัยก่อนมีครูคนหนึ่ง พอมีอายุได้หกสิบกว่าปี  ก็พูดกับภรรยาของเขาว่า "ชั่วชีวิตของข้า ถึงแม้จะไม่เจริญรุ่งเรือง ก็ยังนับว่าโชคดีที่ได้มีอาชีพเป็นครู  จึงสามารถสร้างครอบครัวได้สำเร็จ"   พูดจบแล้ว คืนนั้นก็ฝันว่า ฝันเห็นบิดาของเขาด่าว่าเขาว่า "ชะตาของเจ้า !  เดิมทีสามารถมีชื่อเสียงได้ แต่เพราะอาชีพครูแล้วไม่ทำหน้าที่สุดความสามารถ แถมนับวันยิ่งขี้เกียจ พระเจ้าเหวินเซียงจึงลบชื่อเจ้าออกไป เธอก็ยังไม่รู้ตัว แถมยังคุยโอ้อวดว่าสมหวังอีก จากตัวอย่างนี้ ก็ให้รู้ว่าบาปกรรมที่ทำให้ลูกชาวบ้านเสียหาย เป็นเรื่องอันตรายยิ่งนัก ! 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                    คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                         คัมภีร์   :  ละทิ้งหน้าที่

อธิบาย   :  หน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชาหรือเจ้านาย เป็นผู้ไม่จงรักภักดีเพียงพอ ถือว่าเป็นผู้ละทิ้งหน้าที่  ผู้ที่ละทิ้งหน้าที่ หมายเอาผู้ใต้บังคับบัญชาที่สนองงานต่อน่วยเหนือ อย่างเช่นเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ทำงานให้กับหัวหน้า พลทหารที่ทำงานให้กับนายพล บ่าวที่ทำงานให้เจ้านาย เหล่านี้คือผู้ทำหน้าที่  การละทิ้งก็มิใช่การละทิ้งหรือขัดขืนอย่างโจ่งแจ้งทีเดียว ถือว่าขณะที่งานกำลังเร่งรัด ตนเองละทิ้งไปไม่สามารถเป็นที่พึ่งของเขาได้ หรือในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่อันตราย ก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเกื้อหนุน เช่น การสู้รบที่ติดพันและอันตราย พลทหารที่ทำการรบกลับละทิ้งหน้าที่ไม่อยู่ช่วยเหลือนายทหารสู้รบ นี่คือการละทิ้งหน้าที่

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                 คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                            คัมภีร์  :  หลอกคนไม่รู้

อธิบาย  :  กับคนที่ไม่มีวิชาความรู้ไม่เข้าใจหลักการทำงาน เรากลับใช้วาจาเท็จมาหลอกลวงเขา ทำให้เขาหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงจนทำให้งานเสียหายคนที่ไม่มีความรู้ควรที่จะแนะนำเขาให้ถูกต้อง บอกเขาให้รู้จักแยกแยะความดีความชั่ว เข้าใจหลักธรรมจนทำให้เขาได้รู้ ไม่หลงมัวเมาสับสน อย่าเห็นว่าเขาหลอกลวงง่าย จึงไปหลอกลวงเขา ในศรางคมสูตรว่า  "อวดอ้างหลอกลวงกับคนที่ไม่มีความรู้ไม่เข้าใจหลักธรรม ทำให้ปัญญาชีวิตของเวไนยเข้าใจผิด คนพวกนี้เมื่อตายไปแล้วก็ต้องตกสู่นรกอเวจี รับทุกเหลือคณานับ !  "ทำไมหนอ !  มนุษย์จึงต้องทนทุกข์ด้วยการสร้างวิบากกรรมเช่นนี้เล่า

Tags:
 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”