collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: คัมภีร์กรรม ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า : คำนำ  (อ่าน 144287 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                  คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                คัมภีร์  :  ถือชั่วว่าสามารถ

อธิบาย  :  เป็นผู้กระทำความชั่วแล้วถือตนทำชั่วได้ว่า มีความสามารถกว่าแน่กว่า  ว่าคำถือชั่วว่าสามารถ เป็นคำพูดของผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษย์ศาสตร์ว่าจิตของคนเดิมทีนั้นสวยงาม แต่ก็มีคนกลับทำชั่ว แล้วเข้าใจว่าการกระทำนั้นเป็นความสามารถ นี่เท่ากับเขาได้สูญเสียองค์จิตอันดีงามของเขาไปแล้ว โดยเฉพาะการถือชั่วว่าสามารถนี้เป็นมูลเหตุการทำชั่วของคนชั่วนับพัน ๆ ปีมาแล้ว ดังนั้นจึงเรียงอันดับความชั่วไว้ในอันดับต้น ๆ ถึงแม้ว่าคนที่โง่ถึงจุดต่ำสุดก้ไม่ยอมที่จะเป็นคนชั่ว แต่ก็ไม่มีใครที่ไม่คาดหวังในตัวเองกลายเป็นคนที่มีความสามารถ เพียงแต่เข้าใจผิดของคำว่า "สามารถ" นี้ เพราะฉะนั้นยิ่งทำก็ยิ่งเลยเถิด  เริ่มแรกก็พูดว่า  "คนที่สามารถมีประโยชน์ คนที่ไม่สามารถไม่มีประโยชน์ ไปถึงไหนก็ถูกเขาข่มเหงรังแก พอนาน ๆ ไปก็รู้ว่าตนเองทำสิ่งที่ไม่ดีในที่สุดก็ยืดอกว่าเป็นคนชั่วโดยไม่ต้องปกปิด อย่างเช่นพวกผู้มีอิทธิพล มีอำนาจ  มีชื่อว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลาย กลายเป็นชื่อที่โก้หรูไป ตัวอย่างเช่น คนที่โลภ อาศัยโอกาสอิทธิพลและกลโกงไปแย่งชิงเงินทองของผู้อื่นมาได้ ถือเป็นเรื่องความสามารถ แล้วก็พูดอย่างโก้หรูว่า เป็นอุบายชาญฉลาด เช่นคนใจสุนัขจิ้งจอก ใช้แรงบีบบังคับที่โหดเหี้ยม ด้วยการใส่ร้ายคนอื่น ถือเป็นเรื่องสามารถ แล้วก็เรียกอย่างโก้หรูว่ามือโหด ถ้าเป็นคนที่ชอบลวนลามเสพกาม ก็จะใช้วิธีข่มเหงหลอกลวงค้ากาม เที่ยวหลอกล่อลูกเมียคยอื่น แล้วก้เรียกอย่างโก้หรูว่าจอมเจ้าชู้ คนที่ปลิ้นปล้อนอาศัยช่องโหว่หลอกลวง เป็นความสามารถ แล้วก็พูดอย่างโก้หรูว่า พวกคล่องแคล่ว  พวกที่ชอบยุแย่ เอาการสร้างข่าวลือเป็นความสามารถ แล้วก็พูดอย่างโก้หรูว่าเป็นคนปากเก่ง คนจำพวกเหล่านี้ พูดได้ไม่มีหมด ทุกคนแข่งขันชิงความพิศดาร การแข่งขันชิงเด่นกันเช่นนี้ ดูว่าใครจะสูงกวาร้ายกว่า  พวกไม่ซื่อตรงกับสภาพการณ์เหล่านี้ เขาจะไม่รู้สึกสงสัย บางคนได้ยินเรื่องแบบนี้เข้าก็ยังว่าเป็นเรื่องดีเลย  ถ้าบังเอิญเจอะคนที่ไม่ฉลาด ไม่มีอุบาย ไม่เป็นมือโหด  ไม่เจ้าชู้  ไม่คล่องแคล่ว ไม่พูดเก่งก็จะไม่มีใครที่จะไม่หัวเราะว่า เขาเป็นคนที่ไม่มีประโยชน์ เป็นกากเดน ของยุคสมัยไป รอจนกว่าทำเรื่องชั่ว ๆ จนหมดแล้ว  กรรมตามสนองนอนอยู่ในโลงศพแล้วก็วิจารณ์กันว่า สู้อยู่หดหัวชั่วคราว ยอมเป็นของกากเดนในสายตาของผู้อื่น ตนเองแน่วแน่บำเพ็ญภายในใจลึก ๆ ถึงแม้มันจะจืดชืด แต่ก็มีรสชาด และก็มั่นคงมาก ไม่มีวันพ่ายแพ้ หากท่านไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นหลักธรรม อย่างนั้นก็ขอเชิญท่านลองสำรวจคนที่ว่าเป็นคนดีในโลกนี้ดู ไม่มีสักคน ที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจากเบื้องบนไหม หากแต่ทุก ๆคนก็เคารพ และคนชั่วก็ไม่มีสักคนที่เบื้องบนไม่ลงโทษไหม  และทุก ๆ คนก็เกลียดชังด้วย  พุทธองค์ตรัสว่า  "คนชั่วทั้งหมดบนโลกนี้ ตายแล้วตกนรกหมด ในนรกมีผีอยู่ตนหนึ่ง เรียกชื่อว่า ไอ้ข้างหัววัว โหดเหี้ยมชั่วร้ายมาก ไม่มีความเมตตาและไม่อดทนเลย เขาเห็นเวไนยสัตว์ที่ตกนรกได้รับความเจ็บทุกข์ต่างๆ มากมาย เขายังเป็นห่วงว่าเจ็บปวดไม่พอยังโหดร้ายไม่พอ มีผู้ถามยมทูตเหล่านี้ว่า "เวไนยสัตว์ในนรกได้รับความเจ็บปวดไม่มีขีดจำกัดแล้ว คนเขาเห็นอกเห็นใจสงสารจริง ๆ แต่ท่านทำไมยังมีจิตใจโดหเหี้ยมร้ายกาจนัก ไม่มีใจที่สงสารเมตต่เลยหรือ! ยมทูตว่า "เวไนยสัตว์ที่รับทุกข์ในนรกนี้ ล้วนไม่กตัญญูพ่อแม่ ใส่ร้ายไตรรัตน์ ด่าทอญาติพี่น้อง ดูถูกครูอาจารย์ ใส่ร้ายคนดี ฆ่าทำร้ายสรรพสัตว์ ทำกรรมชั่วไว้มากมาย ถ้าหากพวกนักโทษที่มาถึงนรกก็เพื่อมารับการลงโทษ แต่ละคนเมื่อถึงคราวที่จะพ้นจากนรกไปเกิดใหม่ พวกเราถวายชีวิตตักเตือนชักนำเขาว่า ในนรกได้รับความทุกข์ทรมานต่าง ๆนั้น  มันได้รับยากยิ่งจริง ๆ ตอนนี้รับโทษจนหมดแล้ว สามารถพ้นจากนรกได้แล้ว หวังว่าพวกเธอออกไปแล้ว อย่างไรเสียก้อย่าได้ทำชั่วอีกเลย แต่นักโทษเหล่านี้ ก็ยังไม่สำนึกผิดยอมแก้ไข  วันนี้ออกจากนรก ผ่านไปไม่นานก็กลับลงมาอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้ ยังไม่รู้จักทุกข์เลย เพราะเหตุนี้แหละฉันกับนักโทษก็ไม่มีใจเมตตาสักนิดเดียว"   เหตุนี้จึงรู้ว่าคนทำชั่วต้องตกนรกแน่ ตอนนี้พวกเรา ที่อยู่ในโลกนี้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ควรขยันมีเมตตา มีกรุณา บำเพ็ญความดีทั้งหลาย เพื่อขจัดกิเลส อุปสรรคสาม  บำเพ็ญอายตนะหกให้บริสุทธิ์  สวดมนต์ถือศีลเจ  พิจาาญาณฝึกธรรม กระโดดพ้นหกช่องหมุนเวียนแห่งทะเลทุกข์  ปล่อยละความโลภโกรธหลง กิเลสพิษทั้งสาม ตลอดจนไม่ฆ่าชีวิต ลักขโมย ละเมิดประเวณี เป็นความชั่วทั้งนั้น ต้องรู้ว่าการทำเรื่องชั่วย่อมได้รับผลชั่วตอบสนอง สิ่งที่พุทธองค์ตรัสเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น เราควรเข้าใจความจริงและเชื่อถือนำไปปฏิบัติ ซิ !

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                   คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                 คัมภีร์  :  ทนทำชั่วร้ายได้

อธิบาย   :  ใจอดทนที่ไปทำร้ายคนและสัตว์ได้  ประโยคนี้ถ้าพูดจำเพาะชีวิตสัตว์ ฟ้ามีคุณธรรมให้กำเนิด แต่ก็มีคนใจร้ายทนทำชั่วร้ายทำลายชีวิตสัตว์ได้ ต้องรู้ว่าการทำลายชีวิตสัตว์ในบรรดาความชั่ว ถือว่าเป็นบาปหนักที่สุด พฤติกรรมชอบทำร้ายชีวิตสัตว์ตามอำเภอใจเช่นนี้ ถือว่าเป็นคนที่ไม่มีใจเมตตากรุณาเลยสักนิดหนึ่ง มุลรากของความดีทั้งหลายก็อยู่ที่ใจเมตตา และมูลรากของความชั่วทั้งหลายหก็อยู่ที่ทนทำความชั่ว เพราะฉะนั้น ให้ละทิ้งความโหดเหี้ยมแล้วเหลือใจที่กรุณาไว้ ซึ่งก็เป็นบารมีที่เหล่าเทพเซียนพุทธต้องบำเพ็ญทั้งสิ้น !  รักตัวกลัวตาย รักใคร่ญาติสนิทของตนเอง มีความรู้สึกเจ็บปวดแทนคน รักลูกหลาน รู้ไหมว่าสัตว์ก็มีความรู้สึกเดียวกับมนุษย์ แต่เพราะมนุษย์มีปัญญา แต่สัตว์ขาดแคลนปัญญา มนุษย์ชาติพูดคุยกันได้ สัตว์พูดคุยกันไม่ได้ มนุษย์มีพลังแรงมากและสามารถใช้เครื่องทุ่นแรงได้ แต่สัตว์แรงน้อยกว่า เราลองมาดูอาหารบนโต๊ะซิ มื้อหนึ่งอย่างน้อยก็หนึ่งชีวิต  เช่น ปลาตัวหนึ่ง ไก้ตัวหนึ่ง บางคั้งต้องฆ่าถึงสิบชีวิต จึงจะได้อาหารจานอร่อย  ถ้าเป็นพวกหอยหรือกุ้ง ก็ต้องฆ่าถึงร้อยชีวิตทีเดียว ยิ่งคนที่ชอบอาหารปราณีตอร่อย ก็จะหาทางกินอย่างพิศดาร  จับมาย่างอย่งเป็น ๆ ผ่าท้องถลกหนัง  ล้วนเป็นเรื่องที่โหดเหี้ยมที่สุดแล้ว อิ่มไปมื้อหนึ่งก็พอใจมีความสุข ถ้าหากพ่อครัวทำชักช้าไปหน่อยก็จะเกิดอารมณ์ว่าร้ายทางครัว เพราะฉะนั้นควรใจเย็น ๆ แล้วคิดดูสักหน่อยหนึ่ง ว่าเป็นเรื่องน่าหวาดกลัวสุดเศร้าหรือเปล่า ! 

        ในพระสูตร  "สัตว์ทั้งหลายล้วนกลัวเจ็บที่ถูกมีดฟันแทงทั้งปวง ไม่มีหรอกที่ไม่รักชีวิต ! " นายหวังเจียะ ต้องการฆ่าแพะเพื่อเลี้ยงแขก แพะวิ่งไปที่แขกแล้วคุกเข่าลงร้องขอชีวิต  นายฉูเชินจะฆ่ากวาง กวางคุกเข่าลงน้ำตาไหล นายเซิ่นเน้อยอู้มาสืบคดีที่เจียหนิง ทางครัวต้องการฆ่าแพะแต่ก็หามีดไม่พบภายหลังพบว่ามีดถูกแพะคาบไปซ่อนที่ใต้ผนัง พระเจ้าอโศกมหาราชออกท่องเที่ยว เกิดงีบหลับตอนกลางวัน ฝันเห็นผู้หญิงร้อยกว่าคนมาหาพระองค์  เหมือนกับจะบอกอะไรแก่พระองค์ หลังจากตื่นขึ้นก็แอบไปสำรวจที่โรงครัว จึงเข้าใจดีที่แท้คือหอยมาเข้าฝันพระองค์ขอให้ช่วยชีวิตเหล่านี้ พวกเราก็รู้ว่าสัตว์ก็รักตัวกลัวตายเหมือนกับคนไม่มีผิด ! ถ้าบังเอิญถูกคนมีดบาด น้ำร้อนลวก หรือถูกเข็มแทง ก็จะร้องลั่นให้คนช่วยหรือไปหาแพทย์ บางรายก็ถึงกับเป็นลม คนยังรักชีวิตร่างกายเช่นนี้ แล้วทำไมกับชีวิตสัตว์กลับไม่มีใจสงสารรักเขา ทำลายพวกเขาตามอำเภอใจ ไม่เสียดาย ที่จะผูกเวรกรรมกับพวกเขาโดยก่อกรรมฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพราะฉะนั้น กรรมชั่วนี้ การฆ่าชีวิตเป็นเรื่องที่เจ็บปวดน่าเวทนาที่สุด พุทธองค์และเทพเซียนต่างก็ตักเตือนพวกเราไม่ให้ฆ่าสัตว์จะต้องรู้ว่าผลกรรม ตอบสนองไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย ควรเอาใจเราเปรียบใจเขา  และคิดคำนึงให้ยิ่งยวด เหตุที่พูดละเอียดเช่นนี้คือ เหตุผลที่ห้ามฆ่าสัตว์ขอร้องท่านผู้เมตตาต้องปฏิบัติอย่างแข็งขัน ! 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                    คัมภีร์   :  ทนทำชั่วร้ายได้

        อันที่ ๑  วันเกิดไม่ควรฆ่าสัตว์ ในพระสูตรซีจิงว่า  "พ่อแม่เหน็ดเหนื่อยที่ให้กำเนิดฉัน"  วันที่แม่ให้กำเนิดฉัน การจะเป็นแม่นี้ยากนัก เพราะฉะนั้นวันเกิดในวันนี้ ควรที่จะถือศีลเจงดฆ่าสัตว์ ทำกุศลให้มาก เพื่อเป็นการเพิ่มบุญให้แม่มีอายุยืนยาวขึ้น หากพ่อแม่สิ้นไปแล้วก็สามารถอุทิศส่วนกุศลนี้ ให้ดวงวิญญาณของพ่อแม่เลื่อนสูงขึ้น จะลืมวันเกิดที่แม่ฟันฝ่าชีวิตได้อย่า่งไร แล้วตามใจตนเองเพื่ออร่อยปากได้อย่างไร การฆ่าสัตว์เพื่อกินเนื้อ ก็รังแต่จะดึงให้พ่อแม่ตกต่ำลง และไม่ดีกับตนเองด้วย แต่เรื่องเช่นนี้กับสภาพสังคมปัจจุบัน กลายเป็นธรรมเนียมต้องฆ่าชีวิตมาเลี้ยงฉลองไปแล้ว ทั้งยังไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ทำให้ใจนี้เจ็บปวดน้ำตาไหลเศร้าใจยิ่งนัก ! 

        อันที่ ๒  เวลาคลอดบุตรไม่ควรฆ่าสัตว์  หากเป็นคนที่ไม่มีบุตรเป็นของตนเอง ก็จะรู้สึกเศร้าเสียใจ สำหรับคนที่มีบุตรของตนเองก็จะให้รู้สึกยินดี แต่ก็ไม่คิดว่าสัตว์ทั้งหลายมันก็รักลูกของมันนา !  มาตอนนี้ต้องการฉลองที่ได้ลูก ก็จะมาฆ่าแกงลูกของพวกมัน ใจคอกินมันได้ลงหรือ ลูกเพิ่งคลอดออกมา แทนนี่จะทำบุญให้เขามีอายุมั่นขวัญยืน กลับมาสร้างบาปกรรมด้วยการฆ่าสัตว์ เป็นการสร้างวิบากกรรมให้กับลูก ช่างโง่เขลาเสียจริง ๆ  แต่คนทั้งโลกก็เคยชินกันแล้ว โดยไม่รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ทำให้คนที่มีน้ำใจเมตตาต้องเจ็บปวด เสียน้ำตา ! 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                  คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                    คัมภีร์   :  ทนทำชั่วร้ายได้

        อันดับที่ ๓  การเซ่นไหว้บรรพชนหรืองานศพ หรือวันเช็งเม้ง ควรอย่างยิ่งต้องงดฆ่าสัตว์ เพื่อเพิ่มบุญกุศลให้กับบรรพชนและผู้จากไป ถ้าหากยังฆ่าสัตว์เอามาเซ่นไหว้หรือเลี้ยงแขกในงานศพ ก็จะเป็นการเพิ่มวิบากกรรมให้กับคนตายและบรรพชนเท่านั้น ไม่เพียงไม่มีประโยชน์แต่กลับมีโทษ ถ้าเป็นผู้มีปัญญาก็จะไม่ทำเด็ดขาด แต่เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องเคยชินของชาวโลกไปแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกว่าผิด ผู้มีน้ำใจก็จะเศร้าเสียใจเสียน้ำตา ! 

        อันดับที่ ๔  งานแต่งงานไม่ควรฆ่าสัตว์  การแต่งงานทำให้ชีวิตสัตว์ตายไปไม่รู้เท่าไร น่าจะรู้ว่าสามีภรรยาที่แต่งงานก้เริ่มต้นให้กำเนิดบุตรมาสืบต่อวงศ์ตระกูล ในวันฉลองอันเป็นมงคลฤกษ์นี้ กลับกลายเป็นวันอุบาทว์ฆ่าชีวิตมาเลี้ยงแขก  เป็นการปลูกฝังเหตุแห่งบาปไป !  เป็นการเอาความโกรธแค้นรวมเข้ามาในบ้าน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นภาวะปกติของคนปัจจุบันนานแล้ว โดยไม่รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าใจนัก ! 

        อันดับ  ๕   การภาวนาขอพรไม่ควรฆ่าสัตว์  คนที่กำลังเจ็บป่วย ก็มักจะฆ่าสัตว์เอามาเซ่นไหว้เจ้า เพื่อภาวนาขอให้เทพเจ้าประสาทพรและคุ้มครองแต่ไม่ได้คิดว่าจุดมุ่งหมายของการเซ่นไหว้คืออะไร ถ้าจะให้ขจัดความตาย มีอายุยืนแล้ว  แล้วฆ่าเอาชีวิตของมันมาต่อชีวิตของเรา มันเป็นการละเมิดหลักธรรมฟ้าอย่างยิ่ง ไม่มีเรื่องอะไรที่ร้ายแรงขนาดนี้แล้ว ควรรู้ว่า   "ผู้ตรงซื่อมีปัญญาจึงเป็นเทพเจ้า"  มีหรือที่เทพเจ้าจะเห็นแก่ตัว การภาวนาขอพรแบบนี้ไม่เพียงแต่ไม่สามารถต่ออายุได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่งวิบากกรรมให้แก่ตนเองอีกด้วย

        อันดับที่  ๖  การแก้บนห้ามฆ่าสัตว์  ควรรู้ว่า  "นิจจังคือพุทธะ ซื่อตรงคือเทพเจ้า"  หลักธรรมนี้เหล่าพุทธะโพธิสัตว์และเทพเจ้าไม่รับสินบลนแล้วให้พรกับคนให้สินบนหรอก !  ปัจจุบันคนชอบมาบนบานหน้าเทพเจ้า แล้วฆ่าสัตว์ตัดวิญญาณ การบนแบบนี้เรียกว่า บนบาป !  ถึงแม้จะเป็นการบนแต่วิบากกรรมตอบสนองกำลังจะตามมา !

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                    คัมภีร์   :  ทนทำชั่วร้ายได้

        อันดับ ๗   การจัดงานเลี้ยงไม่ควรฆ่าสัตว์   ฤกษ์ดีเช่นนี้ ทั้งเจ้าภาพและแขกผู้มีเกียรติ มาชุมนุมกันมาเลี้ยงกัน การใช้อาหารเจคงไม่ทำให้เจ้าภาพกับแขกที่มีความสัมพันธ์กันที่ดีต้องเสียหายหรอก !  ทำไมต้องถวายชีวิตไปฆ่าสัตว์มากินมาดื่มกัน น่าจะรู้นะว่าขณะที่เจ้าภาพกับแขกกำลังสนุกสนานร่าเริงกัน แต่ในครัวสัตว์ที่ถูกฆ่า  ถูกสับ  ถูกตุ๋น  ถูกนิ่ง  ถูกย่าง   พวกมันกำลังร้องไห้ปล่อยโฮ  ทั้งเจ้าภาพและแขกหูตึงไม่ได้ยิน มีหรือจะเห็นใจความเจ็บปวดที่อยู่ในหม้อในกะทะหรอก ! 

        อันดับ  ๘  ผู้ดำรงชีวิตไม่ควรฆ่าสัตว์  ชาวโลกต่างต้องการดำรงชีวิตอยู่ แต่การไปทำกิจกรรมฆ่าสัตว์ เช่น ล่าสัตว์  จับปลา  หรือฆ่าสัตว์เป็นอาชีพหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ควรรู้ว่าเบื้องบนจะไม่ให้กำเนิดคนที่ไม่รู้จักหากิน ขอเพียงมีเทคนิค มีศิลปะบ้าง ก็สามารถหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ทำไมต้องไปทำอาชีพที่ต้องฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต  สร้างบาปกรรมมาเลี้ยงครอบครัว แบบนี้ไม่เพียงละเมิดหลักธรรมฟ้า ถ้ายิ่งฆ่าก็ยิ่งยากจน เพราะฉะนั้น ผู้มีอาชีพฆ่าสัตว์แล้วร่ำรวยได้ ในร้อยคนหาไม่ได้สักคน ยังเป็นการปลูกเหตุที่ลูกหลานไม่กตัญญูแล้ว ยังมีนรกเป็นที่ไปอีกด้วย กรรมตอบสนองไม่มีอะไรรุนแรงกว่านี้อีกแล้ว ทำไมไม่เปลี่ยนอาชีพเล่า ! 
        การให้ของกินที่เป็นมารยาทที่ดี แต่ของกินที่ให้ ถ้ายังมีชีวิต เช่นไก่เป็น ๆ  ปลาเป็น ๆ เป็นต้นล้วนก่อกลไกการฆ่าขึ้น การให้ของมีชีวิตก็เหมือนกับการฆ่าชีวิตให้เขา อย่างนี้ก็รับบาปไปเต็ม ๆ ส่วนคนรับก็แค่กินอิ่มสักมื้อ ทั้งสองฝ่ายไม่มีบุญกุศล ตลอดจนการเลี้ยงปลาสวยงาม อาหารที่เลี้ยงอาจเป็นพวกหนอน คิดคำนวนให้ดี ๆ บางคนเลี้ยงนกกระเรียนต้องใช้ปลาตัวเล็ก ๆ ดูซิว่าหมดชีวิตไปเท่าไร บาปการฆ่าชีวิตจะไม่สนใจไม่ได้ ! 

       คำคม  :  คุณหวงหลูจื๋อ เขียนโฉลกบทหนึ่งว่า  "เนื้อฉันเนื้อเวไนย ชื่อต่างกันกายไม่ต่างกัน จิตแหล่งเดียวกัน เพียงรูปร่างต่างกัน วิบากเขารับไป อร่อยพลีเป็นของฉัน อย่าว่ายมบาลไม่มี คอยดูว่าเป็นไฉน"  ท่านเซียนลี่ตงปิง ก็เคยเขียนโฉลกไว้ว่า  "เธออยากมีอายุยืนให้ฟังข้า เรื่องราวเฉียบแหลมให้อภัยตน อยากอายุยืนต้องปล่อยสัตว์ เป็นหลักธรรมแท้ตามครรลอง ถ้าหากเขาจะตายเธอช่วยเขา ถ้าเธอจะตายฟ้าช่วยเธอ ยืดอายุต้องการบุตรไม่มีวิธีอื่น หยุดฆ่าปล่อยชีวิตเท่านั้นเอย !   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                               คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

               คัมภีร์   :  ข่มเหงราชา  บิดา มารดาลับหลัง 

อธิบาย  :  กับพระราชาผผู้เป็นประมุขของชาติ  และบิดามารดา ควรจะต้องซื่อสัตย์จงรักภักดี มีกตัญญูและเคารพนับถือ ในทางกลับกัน กลับแอบทำร้ายข่มเหง การกระทำไม่จงรักภักดีไม่กตัญญู   การแอบทำร้ายราชา บิดามารดา เป็นการกล่าวถึงจำเพาะ กับคนที่มีชื่อเสียงดีที่เสแสร้งแกล้งทำ สำหรับประเทศชาติกับบิดามารดา  ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อเราประดุจเช่นฟ้ากับดิน  ถ้าหากรับเงินเดือนของหลวงแล้วขี้เกียจปฏิบัติงานหลวง เอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ฉ้อราษฏร์บังหลวงเป็นการข่าเหงเบื้องสูง ปิดบังเบื้องล่างคือประชาชน  คนจิตใจแบบนี้มีหรือที่จะยอมให้รู้ถึงพระราชาหรือประมุขของชาติ นี่แหละคือการแอบทำร้ายข่มเหงพระราชานั่นเอง !  กับบิดามารดาที่ต้องสนองงานเลี้ยงดูอย่างศรัทธาจริงใจ การทำงานดูแลไม่จริงใจ หรือแอบกระทำต่อบิดามารดาด้วยการแข็งขืน ซึ่งเป็นความผิด  คนจิตใจแบบนี้มีหรือที่จะให้บิดามารดารู้เข้า นี่คือการแอบทำร้ายข่มเหงบิดามารดานั่นเอง !

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                 คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                    คัมภีร์   :  แอบทำร้ายคนดี

อธิบาย   :  กับคนดีที่ซื่อสัตย์ภักดี ควรที่จะรักและปกป้องเขา สนับสนุนเขา แต่กลับวางแผนทำร้ายเขา การวางแผนทำร้ายเขาก็เหมือนกับแอบซุ่มยิงเขาหรือจ้างวานมือปืนไปยิงเขา ซึ่งป้องกันได้ยาก เมื่อผู้อื่นถูกเราทำร้ายโดยที่เราอยู่เบื้องหลัง จึงไม่ต้องรับสนองกับการกระทำ ได้ชื่อว่าเป็นคนชั่ว นี่เป็นเรื่องที่เลวมาก บุคคลโดยทั่วไปไม่ควรวางแผนทำร้ายใคร หากวางแผนแอบทำร้ายคนดีแล้วด้วย ยิ่งไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนที่ดีเป็นบุคคลที่ประชาชนฝากความหวังไว้ คนดีของประเทศ ก็เป็นคนดีที่ประชาชนให้ความสำคัญจับตามอง ถ้าคนดีในหมู่บ้านก็เป็นทั้งหมู่บ้านให้ความสำคัญจับตามองเพราะฉะนั้นจะไปแอบทำร้ายคนดีได้อย่างไร ?.

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                 คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                          คัมภีร์  :  หยิ่งยโสครูบา

อธิบาย   :  กับครูอาจารย์ที่ถ่ายทอดธรรม  วิชาความรู้ แก้ไขหลงผิด ควรที่จะเคารพนับถือรับการสั่งสอน แต่กลับหยิ่งยโสดูแคลน นั่นเป็นศิษย์ผู้บกพร่องหลักการเคารพบูชาครูบาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อบิดามารดาให้กำเนิดร่างกายเราแล้ว ยังต้องอาศัยครูอาจารย์แนะนำสั่งสอน จึงจะเป็นผู้มีความรู้ เพราะฉะนั้นกับครูอาจารย์ ก็เหมือนกับพระราชาและบิดามารดา ที่ต้องให้ความเคารพนับถือ คนในปัจจุบันที่เชิญครูมาสอนลูกของตน ก็มักจะแสดงเหมือนดูถูกเงินทอง ทั้งตระหนี่แถมยังขาดมารยาท พูดจาไม่รื่นหู กิริยาไม่ปกติ  ใจดูแคลนครูอาจารย์ แบบนี้ก็ไม่แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานมากนัก !  รู้ไหมว่าผู้เป็นครูอาจารย์นั้น จุดมุ่งหมายก็ต้องการให้คนรุ่นน้องเกิดปัญญา ทำตัวเป็นคนดี ตลอดจนได้สำเร็จเป็ปราชญ์อริยะ บุญกุศลประดุจฝนแรกในฤดูใบไม้ผลิยิ่งใหญ่นัก การจะรับการเลี้ยงดูค้ำชูจากผู้ปกครอง แล้วปล่อยปละละเลยบุตรหลานชาวบ้าน ไม่ควบคุมดูแลสั่งสอนให้เข้มงวด ทำให้บุตรหลานเขาตกอยู่ในอันตราย ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ให้มีครูอาจารย์บางคนช่วยทำการบ้านให้กับลูกศิษย์ อย่างนี้เท่ากับแอบข่มแหงปิดบังผู้ปกครอง ด้วยเห็นแก่เงินทองและใช้เงินซื้อเกียรติบัตร โทษตอบสนองความคิดเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะหนักหน่วงสาหัสแค่ไหน

วิเคราะห์   :  หลักธรรมและวิธีการดูแลครูอาจารย์ ควรเหมือนกับลูกดูแลบิดามารดา เวลาเดินก็ต้องติดตามอยู่ข้างหลังของอาจารย์ เวลานั่งก็ต้งนั่งอยู่ข้าง ๆ อาจารย์ พบอาจารย์ระหว่างทางก็ต้องยืนตรงแล้วยกมือขึ้นถามทุกข์สุขของอาจารย์ เวลาอาจารย์พูดคุยควรจะนิ่งตั้งใจฟัง  ถึงแม้จะผจญกับภยันตรายหรือลำบาก ก็จะต้องไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะโชคดีมงคลหรือทุกข์อุบาทว์ ก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกับอาจารย์ กิริยามารยาทต่ออาจารย์จะขาดตกบกพร่องไม่ได้  แม้อาจารย์จะจากไปแล้ว ก็ยังต้องไว้ทุกข์ทางใจให้อาจารย์สัก ๓ ปี  ถ้าหากทำได้เช่นนี้ก็นับว่าได้ทำหน้าที่ของศิษย์อย่างสมบูรณ์แล้ว

วิเคราะห์   :  ปัจจุบันอาจารย์ยิ่งวันยิ่งตกต่ำ ตกต่ำจนถึงขั้นทำให้ชาวบ้านเจ็บปวด ชื่อว่าเป็นครู บาปกรรมที่ทำให้ลูกชาวบ้านเสียหายต้องได้รับโทษจากเทพเจ้าแน่นอน สมัยก่อนมีครูคนหนึ่ง พอมีอายุได้หกสิบกว่าปี  ก็พูดกับภรรยาของเขาว่า "ชั่วชีวิตของข้า ถึงแม้จะไม่เจริญรุ่งเรือง ก็ยังนับว่าโชคดีที่ได้มีอาชีพเป็นครู  จึงสามารถสร้างครอบครัวได้สำเร็จ"   พูดจบแล้ว คืนนั้นก็ฝันว่า ฝันเห็นบิดาของเขาด่าว่าเขาว่า "ชะตาของเจ้า !  เดิมทีสามารถมีชื่อเสียงได้ แต่เพราะอาชีพครูแล้วไม่ทำหน้าที่สุดความสามารถ แถมนับวันยิ่งขี้เกียจ พระเจ้าเหวินเซียงจึงลบชื่อเจ้าออกไป เธอก็ยังไม่รู้ตัว แถมยังคุยโอ้อวดว่าสมหวังอีก จากตัวอย่างนี้ ก็ให้รู้ว่าบาปกรรมที่ทำให้ลูกชาวบ้านเสียหาย เป็นเรื่องอันตรายยิ่งนัก ! 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                    คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                         คัมภีร์   :  ละทิ้งหน้าที่

อธิบาย   :  หน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชาหรือเจ้านาย เป็นผู้ไม่จงรักภักดีเพียงพอ ถือว่าเป็นผู้ละทิ้งหน้าที่  ผู้ที่ละทิ้งหน้าที่ หมายเอาผู้ใต้บังคับบัญชาที่สนองงานต่อน่วยเหนือ อย่างเช่นเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ทำงานให้กับหัวหน้า พลทหารที่ทำงานให้กับนายพล บ่าวที่ทำงานให้เจ้านาย เหล่านี้คือผู้ทำหน้าที่  การละทิ้งก็มิใช่การละทิ้งหรือขัดขืนอย่างโจ่งแจ้งทีเดียว ถือว่าขณะที่งานกำลังเร่งรัด ตนเองละทิ้งไปไม่สามารถเป็นที่พึ่งของเขาได้ หรือในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่อันตราย ก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเกื้อหนุน เช่น การสู้รบที่ติดพันและอันตราย พลทหารที่ทำการรบกลับละทิ้งหน้าที่ไม่อยู่ช่วยเหลือนายทหารสู้รบ นี่คือการละทิ้งหน้าที่

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                 คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป

                            คัมภีร์  :  หลอกคนไม่รู้

อธิบาย  :  กับคนที่ไม่มีวิชาความรู้ไม่เข้าใจหลักการทำงาน เรากลับใช้วาจาเท็จมาหลอกลวงเขา ทำให้เขาหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงจนทำให้งานเสียหายคนที่ไม่มีความรู้ควรที่จะแนะนำเขาให้ถูกต้อง บอกเขาให้รู้จักแยกแยะความดีความชั่ว เข้าใจหลักธรรมจนทำให้เขาได้รู้ ไม่หลงมัวเมาสับสน อย่าเห็นว่าเขาหลอกลวงง่าย จึงไปหลอกลวงเขา ในศรางคมสูตรว่า  "อวดอ้างหลอกลวงกับคนที่ไม่มีความรู้ไม่เข้าใจหลักธรรม ทำให้ปัญญาชีวิตของเวไนยเข้าใจผิด คนพวกนี้เมื่อตายไปแล้วก็ต้องตกสู่นรกอเวจี รับทุกเหลือคณานับ !  "ทำไมหนอ !  มนุษย์จึงต้องทนทุกข์ด้วยการสร้างวิบากกรรมเช่นนี้เล่า

Tags: