คัมภีร์กรรม เล่ม ๓
ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า
วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ
บทที่หก
ชั่วบาป
คัมภีร์ : สร้างข่าวใส่ร้ายทำลายเขา
อธิบาย : สร้างคำพูดไม่ดีเป็นการกระทำชั่ว แล้วใส่ร้ายป้ายสีเพื่อทำลายเขาตามอำเภอใจ แม้ผู้อื่นจะทำผิดมาแล้ว เราควรหาวิธีช่วยปกป้องเขาด้วย ถ้าคนไม่มีความผิดกลับสร้างข่าวลือใส่ร้าย ทำลายเขา ความชั่วร้ายแบบนี้ยิ่งกว่าอาวุธหรือเสือสุนัขจิ้งจอกเสียอีก ลองคิดดูซิเมื่อคนไม่มีโทษบาป แต่ถูกอันธพาลสร้างข่าวใส่ร้าย คนที่เขาไม่รู้เรืองก็จะพูดร้ายตามด้วย คนที่ได้ฟังข่าวก็แยกไม่ออกว่าใครถูกใครผิด ทำให้คนดีกับคนชั่ว คลุกเคล้ากันจนแยกไม่ออก บางครั้งก็กระทบกับหน้าที่การงาน บางครั้งกำลังจะได้ตำแหน่งหรือเลื่อนขั้นก็พลอยพลาดหวัง มันเป็นความเจ็บปวดสาหัสของบัณฑิตทีเดียว !
พุทธพจน์ว่า : การสร้างบาปใส่ร้าย ตายไปแล้วตกนรกอาวุธมีดและถอนลิ้น และยามมีชีวิตก็ถูกฆ่าทำร้ายได้ง่าย ตลอดจนร่างกายทุพลพาธเป็นผลกรรมตอบสนอง " กลอนโบราณว่า "คำติฉินนินทาไม่ควรฟัง ฟังแล้วก่อภัยพิบัติ ราชาฟังข้าบาทต้องสำเร็จโทษ พ่อฟังลูกต้องตัดสิน สามีภรรยาฟังลูกต้องแยก พี่น้องฟังต้องจาก เพื่อนฝูงฟังก็เหินห่าง ญาติ ๐ ฟังก็ตัดขาด ร่างกายสูงเจ็ดฟุต อย่าฟังเจ้าเจ้าลิ้นสามนิ้ว บนลิ้นมีธารมังกรฆ่าคนไม่มีเลือด" ผลภัย
ของการติฉินนินทาร้ายแรงขนาดนี้ เมื่อฟังคนติฉินนินทาร้ายแรงขนาดนี้ เมื่อฟังคนติฉินนินทาแล้วจะไม่ระวังแยกแยะหรอกหรือ ?.
นิทาน : นายเฉินเหลียงหมอสมัยหมิง พูดว่า "เมื่อก่อนตอนได้ไปราชการไปตรวจการที่อำเภอกงอัน มีคนแซ่ไป่ยเป็นอาจารย์ไปสอนที่เมืองหลวง ภรรยาเขาชอบทำกุศล เคยเอาชื่อของเขาเขียนบนบทความและก็บริจาคเงินให้กับนางชีหนึ่งตำลึง โดยให้ใช้ด้ายปอยาวหนึ่งโยชปักบทความบนธงทิว ก็ให้บังเอิญภรรยานายพงเพื่อนร่วมงานของอาจารย์ไป่ย มาเยี่ยม เห็นข้อความบนธงทิวก็ตกใจพูดว่า "ข้าราชการครูไปมาหาสู่กับนางชี เกรงว่าจะกระทบงานของข้าราชการ" ภรรยาอาจารย์ไป่ยได้ยินก็เชื่อว่าเป็นจริงว่า จากนี้ไปอนาคตข้าราชการของสามีคงจบสิ้นแล้ว ใจคอไม่สบาย รอคอยสามีกลับจากสอบไม่ติดกลับมา เขาจึงเอาผ้าปอมาทำเสื้อและตัดธงทิ้ง ภรรยารู้สึกเสียใจมากจึงแขวนคอฆ่าตัวตาย
พอดีข้าได้ยินเรื่องนี้เข้าจึงไปถามนายอำเภอ ๆ จึงเล่าเรื่องให้ฟัง ข้ารู้สึกสงสารอาจารย์ไป่ยที่พบโศกนาฏกรรมของภรรยา ! ต่อมาสำนักศึกษากำลังพิจารณาตำแหน่งอาจารย์ เขาพูดกับเขาว่า "อาจารย์ไป่ยกับภรรยาเพื่อนร่วมงานเกิดมีความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นภรรยาเขาจึงไม่พอใจและมักทะเลาะกันบ่อย ๆ อาจารย์ไป่ยโกรธมากจึงบังคับภรรยาฆ่าตัวตาย บาปกรรมอันนี้ ฟ้าดินก็ไม่เก็บไว้" ข้าจึงเล่าเรื่องอาจารย์ไป่ยที่รู้มาให้ทางสำนัก ท่านหลินกงฟังแล้วรู้สึกเคลือบแคลงสงสัย ระหว่างการพิจารณาตัดสินไม่ได้อยู่นั้น ข้าก็พูดกับท่านหลินกงว่า "ไม่รู้ว่าเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์ไป่ย ท่านเชื่อใคร ถ้าหากคนนี้เป็นบัณฑิตตรง เรื่องที่เขาเล่าก็เชื่อได้ ถ้าเขาไม่ใช่บัณฑิตตรงก็ขอให้ท่านตรวจสอบให้รอบคอบอีกที" เจ้าพูดถูก ! จึงเอาพู่กันขึ้นมาลบรอยขีดบทความของอาจารย์ไป่ยออก ต่อมาอาจารย์ไป่ยได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ของกั๊วจื่อหลัน แล้วข้าก็ไปเป็นผู้ตรวจการเมืองฟูเจี้ยน เป็นประธานตรวจสอบเมืองฟูเจี้ยน" ต่อมาได้พบท่านหลินกงที่ฟูเจี้ยน หลินกงชี้ไปที่ข้างบ้านแล้วพูดกับข้าว่า "เจ้าของบ้านสกุลอู๋ เคยรับตำแหน่งเป็นอาจารย์ที่อำเภอกงอัน เป็นเพราะเขานินทาใส่ร้ายอาจารย์ไป่ย เป็นคนจิตใจไม่ตรง เป็นเพราะข้าได้ฟังคำพูดของเจ้าแล้ว จึงกระจ่างแจ้ง ต่อมาอาจารย์อู๋เลื่อนไปสอบที่เจียงซีและก็ถูกเพื่อนร่วมงานนินทาใส่ร้าย จึงถูกออกจากราชการ เขาจึงกลับบ้านเกิด ระหว่างทางผ่านทะเลสาบเซินหยางเกิดเรือพลิกคว่ำจมน้ำตาย เดี๋ยวนี้ทางบ้านก็ตกต่ำมาก