collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: คัมภีร์กรรม ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า : คำนำ  (อ่าน 144274 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
บทที่หก ชั่วบาป  :  ใช้ทางมารหลอกประชาชน

อธิบาย   :  ท่านอูอวี่ไก้กล่าวว่า "ธรรม  เป็นทางตรงที่ทุกคนร่วมกันน้อมนำทำตาม" ศานสนาทั้งสามคือ  หยู  พุทธ  เต๋า  ล้วนเป็นธรรมของอริยเจ้า ถึงแม้ทั้งสามศาสนามีรูปแบบที่ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่เป้าหมายสูงสุดของพวกท่านล้วนต้องการให้คนเข้าใจจิตตน เห็นจิตเดิม  ต่อไปก็เปลี่ยนจากชั่วไปสู่ดี เพราะฉะนั้น อริยเจ้าของสามศาสนาที่พูดธรรมะเหมือนออกจากปากเดียวกัน และก้ไม่ชอบที่จะใช้วิชามารลี้ลับมาหลอกลวงชาวโลก !  อย่างไรก็ตามก็มีบางคนที่จิตใจไม่ดี ก็นำเอาหลักธรรมของ 3 ศาสนาบิดเบือนเพื่อใช้หลอกลวงคน  เหล่านี้แหละที่เรียกว่าใช้ทางมารหลอกประชาชน ซึ่งไม่ใช่เป็นธรรมแท้ !  อาทิเช่น ในสมัยฮั้น ก็มีนายจงเจียะ  สมัยจิ้นมีนายซุนซือ  นายหลู่ซุ่น  สมัยหยวนมีนายหงจิน  หลิวผู่ทง  และยุคใกล้เป็นอู๋เหว่ยหวังเทียน กับลัทธิดอกบัวขาว เป็นต้น  พวกผู้นำเหล่านี้ จิตใจไม่ตรงการกระทำไม่ดี ใช้วิชามารมาหลอกลวงประชาชน ละเมิดฝ่าฝืนกษัตริย์ สร้างบาปมหันต์ท่วมฟ้า สร้างเหตุแห่งทางนรก พวกนี้ล้วนเป็นพวกโจรขุนนางชั่ว กฏหมายบ้านเมืองต้องกำจัดและยมบาลตอบสนองเข้มงวดไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด !

นิทาน   :  สมันสุย นายซ่งจือเสียน มีความสามารถทางมายากล เขาจะปล่อยแสงจากที่พักอาศัยให้เห็นเหมือนพุทธรูป ทั้งยังตั้งตนว่าเป็นพระศรีอริยเมตไตรยจุติมาสู่โลก เพื่อฉุดช่วยผู้คน เขาแขวนกระจกที่ห้องโถง ถ้ามีใครมาเยี่ยมเยียน เขาก็จะใช้กระจกส่องผู้มาเยือนถึงอดีตชาติว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน แล้วก็สอนให้ผู้มาเยือนกราบไหว้ก่อนจึงจะเห็นเป็นรูปคน การกระทำของซ่งจือเสียนแบบนี้ทำให้มีคนพากันมาชุมนุมนับพันคน จากนั้นก็เริ่มอาละวาดก่อจลาจล ทางการส่งทหารมาปราบ เขาสร้างภาพนิมิตรอบ ๆ บ้านที่เขาอยู่ว่ามีคูเพลิง คนที่เห็นก็ไม่กล้าเข้าไป นายทหารก็พูดว่า "บริเวณนี้ไม่เคยมีคูเพลิงมาก่อน อันนี้เป็นภาพมายาเท่านั้น !  พวกกองทหารได้ยินแล้วก็พากันเข้าไป ก็ปรากฏว่าไม่ใช่คูเพลิง จึงจับซ่งจือเสียนได้ จับมาแล่เนื้อทีละชิ้นจนตาย

อธิบาย   :  ท่านหยวนโมวอิง สมัยหมิงกล่าวว่า "ผู้ที่มีวิชามาร (ไสยศาสตร์)  ที่ใช้ข่มเหงคนได้แต่ไม่ยอมถ่ายทอดสอนคน บุญตอบสนองของเขาก็จะมาก !  โบราณว่า "ได้วิชาพลางตัว ในสามปีไม่ได้ใช้ ก็สามารถสำเร็จเป็นเซียน ! ยังมีอีก "ชาวเต๋าที่มีวิชา หลอมทอง แต่ไม่ใช้ คน ๆ นี้มีจิตใจสูง สามารถเข้าสู่ธรรมได้"  เพราะคนที่บำเพ็ญจริง จะบ่มเลี้ยงบังแสงฉุดช่วยคนเป็นหลัก ถ้าได้วิชาอะไรมานิดหน่อยก็นำมาหลอกลวงคน แสดงว่ายังเป็นคนที่ตัดไม่ขาดจากชื่อเสียงเกียรติยศ คิดจะเข้าสู่ธรรมยังห่างไกลนัก !  นับอะไรกับคนใช้วิชามารหลอกลวงคน ไม่ต้องพูดถึงเลย !     

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
บทที่หก ชั่วบาป  :  มาตราชั่งวัดตวงโกง

อธิบาย   : 
การใช้มาตราชั่งวัดตวงที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ การกระทำเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของพ่อค้าแม้ค้าที่ต้องการกำไรมาก  มาตราชั่งวัดตวงล้วนเป็นเครื่องมือเพื่อตีค่าของสินค้าที่ทุกคนยอมรับ  แต่บางคนก็ใช้มาตราชั่งวัดตวงที่โกงในการค้าขาย เช่น ซื้อเข้าได้มากขายออกได้น้อย ศึกษาวิเคราะห์คนที่ทำแบบนี้ก็ต้องการเอาเปรียบเท่านั้น !  พวกเขารู้ไหมว่า โกงเขาครึ่งขีด ตนเองเสียบุญกุศลหนึ่งขีด แล้วคนที่ทำลายเขาจะยังประโยชน์อะไรเล่า ต้องถูกฟ้าดินลงให้โทษได้รับภัยพิบัติต่าง ๆ แต่บางเรื่องเจ้าของกิจการก็ไม่รู้ไม่เป็นใจด้วย ลูกน้องลูกจ้างแอบทำเอง อย่างไรเสีย บาปก็ยังตกสู่เจ้าของ เพราะฉะนั้นเจ้าของต้องตรวจตราให้ดี ๆ

นิทาน   :  ท่านหยงเหมยกง ในสมัยหยวน ประหยัดและซื่อตรงยินดีให้ทาน เครื่องชั่งตวงวัดในบ้านจะมีมาตราฐานอันเดียวกันหมด เขาจะสลักอักษรบนมาตราทุกอันว่า "ออกก็อันนี้ เข้าก็อันนี้ ลูกหลานก็อย่างนี้ตลอดกาล ! ลูกหลานของเขาแต่ละรุ่นก็ตั้งใจเคารพกฏหมาย ลูกหลานแต่ละรุ่นก็เจริญรุ่งเรือง

นิทาน   :  ที่เมืองกวางหลง มีตาเฒ่าหวัง ใช้มาตราวัดสั้นขายผ้า พอตายไปก็เข้าฝันลูกชายว่า "ตอนข้ามีชีวิตใช้ไม้เมตรสั้นโกงคน ท่านยมบาลก็ลงโทษ ให้ข้าไปเกิดเป็นวัวที่บ้านตระกูลเฮ่า หมู่บ้านซีซี ที่ท้องวัวตัวนี้มีอักษรหวังอยู่" ลูกชายของเขาก็ติดตามไปถึงบ้านตระกูลเฮ่า ก็ให้มีแม่วัวบ้านนั้น กำลังตกลูกวัวอยู่พอดี พอลูกวัวออกมาแล้วที่ใต้ท้องของมันก็มีขนสีขาวเหมือนอักษรหวัง ลูกชายจึงซื้อวัวตัวนี้มาที่บ้าน และก็หาอาหารดี ๆ ให้กิน มันก็ไม่ยอมกิน พอให้มันกินหญ้ามันจึงยอมกิน ถ้าให้มันแบกของหนักหรือไปไถนา เจ้าวัวก็ทำท่าสบายใจ ถ้าปล่อยเลี้ยงไว้เฉย ๆ มันก็จะกระโดดและชนดูอาการไม่สบาย เพราะมโนธรรมมืดบอดที่เอาแต่ได้ รู้จักกรรมตอบสนองเช่นนี้ไหม ?.

นิทาน   :  ในสมัยหมิงที่เมืองหยางโจว มีร้านค้าร้านหนึ่งคือ ร้านไต้หนาน ก่อนที่เจ้าของร้านจะสิ้นใจ เขาบอกกับลูกชายว่า "ข้าตั้งตัวได้ก็อาศัยตาชั่งอันนี้ มันทำด้วยไม้ดำตรงไส้กลางกลวงว่างใส่ปรอทเอาไว้ เวลาชั่งออกก็ขยับปรอทเทไปทางหัว เวลาชั่งเข้าก็ขยับปรอทเทไปทางปลาย แบบนี้ซื้อเข้าหนักขายออกเบา นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ข้ารวย !"   ลูกชายฟังแล้ว ในใจก็กล่าวโทษบิดา แต่ไม่กล้าพูดออกมา หลังจากบิดาตายแล้วก็เผาตาชั่งทิ้ง ควันที่เผาตาชั่งกลายเป็นมังกรดำที่ลอยขึ้นฟ้า ต่อมาลูกชาย 2 คนของเขาตายโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาก็ถึงกับพูดว่า "บิดาของข้าใจไม่เป็นธรรมก็ยังมีความสงบสุข แต่ปัจจุบันเขาซื้อเข้าขายออกเป็นธรรมไม่กล้ารังแกผู้อื่น ลูกก็ตายไป 2 คน ธรรมแห่งฟ้าคงพูดยากอย่างนี้ ?." พอพูดจบเขาก้เข้านอน ทันใดก็ฝันว่า ได้ไปที่สำนักทางการ ภายในตำหนักมีหัวหน้าข้าราชการบอกแก่เขาว่า  "พ่อของเธอทำมาค้าขาย ออกเบาเข้าหนัก รังแกคนเอาเปรียบ ถึงแม้ได้ผลประโยชน์มาก แต่ในดวงชะตาของเขาเป็นผู้มีทรัพย์อยู่แล้ว แต่เพราะเขาใจโกงสร้างบาป จึงได้รับโทษจากฟ้า พระเจ้าได้ส่งดาวทำลาย 2 ดวงมาเกิดเป็นลูกของเธอ พอมันโตแล้วก็จะผลาญเงินของเธอ จากนั้นบ้านของเธอก็จะไฟไหม้ ทรัพย์สินก็จะถูกทำลายเกลี้ยง ลูกชายตายหมดไม่มีผู้สืบสกุล เพื่อเป็นการตอบแทนที่พ่อเจ้าสร้างกรรมชั่ว ปัจจุบันเธอได้แก้ไขความชั่วของพ่อเธอ ปิดบังความชั่วของพ่อที่ทำไว้  แล้วก็ทำแต่เรื่องที่เป็นธรรม ทำดีกับทุกคน ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงได้ทำลายดาวร้าย 2 ดวง เก็บกลับมา อีกไม่นานก็จะเปลี่ยนลูกให้เธอ 2 คน จะทำให้บ้านเธอมีชื่อเสียง เพราะฉะนั้นเธอยังต้องสร้างบุญกุศลให้มากขึ้น อย่าได้ฟุ้งซ่านฝังตนอยู่ในความแค้นเลย !"  หลังจากเขาตื่นขึ้นเขาก็ยังจดจำสิ่งที่พระเจ้ารัชฟ้าบอกแก่เขา ขยันสร้างบุญกุศลในเวลา  3 ปี เขาก็มีลูกชายอีก 2 คน พอพวกเขาโตก็สอบได้ตำแหน่งจิ้นสือ และมีลูกหลานหลายคน เจริญรุ่งเรืองมาก

สรุป  : ท่านจางหงจิ้นพูดว่า "ตอนที่ข้าอยู่กันกวน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกหลานของคน ๆ นี้ เพราะฉะนั้นข้าจึงรู้ละเอียดเรื่องนี้ดี ดังนั้น ข้าจึงไม่พูดถึงชื่อของเขา สาเหตุเพื่อไม่ให้พูดถึงความชั่วที่คนรุ่นก่อนทำไว้นั่นเอง ! "   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
บทที่หก ชั่วบาป  :  ฆ่าลูกทำแท้ง

อธิบาย   :  ฆ่าลูกคือการทำลายลูกที่กำเนิดออกมาแล้ว การทำแท้งคือฆ่าลูกที่ยังอยู่ในครรภ์
กายคนเป็นสิ่งล่ำค่า การที่จะได้เกิดเป็นคนนั้นยากแสนยากที่มนุษย์ถือกำเนิดเกิดมา เทพเทวาก็ยังให้การเฉลิมฉลอง เทพเจ้าแห่งเตาไฟก็กำหนดดวงชะตา อาจพูดได้ว่าฟ้าดินเคลื่อนไหวจึงถือว่ามีคุณค่ายากแก่การบรรยาย !  ยิ่งเด็กทารกที่เพิ่งคลอดอกกมาเขาเป็นหนี้อะไรกับพ่อแม่หรือ ?. พ่อแม่ที่ใจโหดเหี้ยมบางคนถึงกับฆ่าทิ้งเด็กทารก พวกหญิงที่สำส่อนกับคน พอท้องขึ้นมาก็ทำแท้ง การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ปาน หมดปัญญาที่จะเยียวยาสั่งสอน !  บางครอบครัวมีฐานะยากจนและมีลูกมาก จึงฆ่าลูกทั้ง ๆ ที่เพิ่งเกิดมา หรือไม่ก็ทำแท้งเสียก่อน พวกเขาควรรู้ว่าบาปกรรมฆ่าคนไม่อาจสำนึกบาปไถ่โทษได้ แม้แต่สัตว์เล็ก ๆ ก็ยังห้ามฆ่าสัตว์ต้องปลดปล่อยชีวิต นับประสาอะไรกับลูกของเรา ! คนที่ชาตินี้ไม่มีลูก หรือมีลูกแล้วพอเลี้้ยงโตก็ตาย หรือลูกตายก่อนพ่อแม่แก่ เหล่านี้ล้วนเป็นผลกรรมตอบสนองที่คนกระทำมาในอดีตชาติ

นิทาน  : 
ขณะที่นายเฉียนปังเหว่ย เป็นนายอำเภอเมืองกุ้ยซีอยู่นั้น เป็นเพราะนิสัยของคนท้องถิ่น ถ้าให้กำเนิดลูกหญิงส่วนใหญ่ไม่อยากเลี้ยงก็ฆ่าเด็กทารกตายเลย บางทีก็ลงโทษกันถึง  5 ครัวเรือน จึงเป็นเหตุให้เด็กทารกรอดพ้นถูกฆ่าตาย ต่อมาภายหลังนายเฉียนปังเหว่ยได้เลื่อนยศเป็นผู้ว่าเมืองติ่งโจ่ว และมีอายุยืนมาก ลูกหลานก็มีความเจริญยิ่ง

อธิบาย  :  คนอย่างเฉียนปังเหว่ย ที่ห้ามไม่ให้ทำแท้ง ฆ่าเด็กทารกจึงมีบุญกุศลมาก ปัจจุบันควรรีบตักเตือนผู้อื่นไม่ให้ทำบาป เช่นนี้ก็จะมีบุญกุศลมาก

นิทาน  :  สมัยก่อนลูกสาวนายเก๋ออิ้ง นางเก๋ออิ่งหงษ์ ถูกผี 2 ตนพาวิญญาณนางไปเที่ยวนรกถึง 18 ขุม เธอดูตั้งแต่แรกจนถึงนรกขุมสุดท้าย มีเจ้าพญายมซึ่งอยู่บนบัลลังก์ ข้างหน้าบัลลังก์ก็มีแม่บ้านจำนวนมากยืนเข้าแถวอยู่ แต่ละคนก็มีเด็กเล็ก ๆ เกาะที่ขาของนางแล้วร้องไห้พูดว่า "เอาชีวิตฉันคืนมา ! พวกแม่บ้านเหล่านี้เป็นเพราะมีลูกมากจึงฆ่าลูกตาย บ้างก็เป็นเพราะครอบครัวยากจน  เลี้ยงลูกไม่ไหวก็ฆ่าทิ้ง บางคนก็อิจฉาเมียน้อยมีลูกจึงบังคับให้ทำแท้ง บ้างเมื่อตั้งครรภ์โดยลักลอบมีเพศสัมพันธ์จึงกินยาทำแท้ง  บ้างเป็นเพราะทะเลาะวิวาทตีกันจนแท้งลูก บ้างก็มีโทสะลูกร้องไห้ไม่หยุดจึงตบตีเหวี่ยงลูกจนตาย บ้างก็เลี้ยงดูลูกไม่ดีทำให้ลูกตาย  ท่านยมบาลจะถามอย่างละเอียด บนตัวของแม่บ้านถูกขื่อแปใส่ไว้  หน้าตาอิดโรยกังวล ร่างกายผ่ายผอม  เห็นแล้วก็น่าสงสาร หลังจากเก๋ออิ่งหงษ์กลับสู่โลกจึงเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้บิดาฟัง และพิมพ์เผยแพร่และเขียนไว้บนผนังวัดเทียนหนิงเพื่อเป็นการตักเตือนชาวโลก

นิทาน  :  แม่บ้านหยางเค่อเซิน ยากจนขี้โรคตั้งแต่เด็ก พอแก่ตัวลงยิ่งโหดร้าย นางพูดเองเออเองว่า "เมื่อชาติก่อนเดิมทีเป็นนายแพทย์เวลาตรวจโลกไม่ใส่ใจตรวจถึงสาเหตุของโรค มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีแม่บ้านคนหนึ่งพูดว่า ในท้องของนางมีพยาธิตัวยาว ฉันเองก็ไม่แยกแยะตรวจตราให้ถูกต้อง ที่จริงนางมีครรภ์อยู่ จึงให้นางดื่มเหล้าหยวนฮวา ซึ่งจะฆ่าพยาธิให้ตาย ในที่สุด หลังจากนางดื่มเหล้าหยวนฮวาแล้ว ลูกแฝดในท้องก็ตายลง เป็นเพราะฉันวินิจฉัยผิดจึงให้ยาผิด ดังนั้นจึงฆ่าทั้งสามชีวิต เจ้าพญายมจึงลงโทษฐานฆ่าคนตาย หลังจากรับโทษในนรกแล้ว ก็ลงโทษให้ฉันไปเกิดเป็นหญิงชาตินี้เป็นชาติที่สามแล้ว ทุกชาติก็จะยากจนและเป็นทาส ต้องได้รับความหิวโหยยากจนทรมาน หาความสุขไม่ได้เลย ชะตากรรมของฉันอยากจะบอกบรรดานายแพทย์ต้องดูฉันเป็นตัวอย่าง" พอพูดจบนางก็สิ้นใจตาย

สรุป  :  พระเจ้าเหวียนเชียงกล่าวว่า "ลูกไม่กตัญญู กฏสวรรค์ก็มีบทลงโทษอยู่แล้ว ลูกไม่มีความผิดพ่อแม่กลับฆ่าทิ้ง เท่ากับฆ่าประชาชน ถ้าพ่อแม่จะฆ่าลูกของตนเอง แล้วทำไมจึงไม่ยับยั้งความใคร่อยาก ?.  เมื่อกล้าที่จะฆ่าคนไม่สนใจหลักธรรมฟ้า คนแบบนี้ในปัจจุบันจะรับว่าไม่มีหรือ ข้าเห็นเมืองนรก ผีที่รับโทษกรรมมีมากมาย ที่ทำความชั่วเช่นนี้ !  ดังนั้น หวังว่าคนต้องย้อนสำรวจตนและรู้สึกเข้าใจ อย่าให้ตนเองต้องถูกฟ้าลงโทษโดนเร็วเถิด ! "

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
บทที่หก ชั่วบาป  :  ปลอมปนสินค้า

อธิบาย   :
เอาของเก๊ปนไปกับสินค้า ปัจจุบันสินค้าปลอมมีเกลื่อนไปทั่ว ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าสินค้าแท้เสียอีก นี่เพราะจิตใจชาวโลกกำลังเปลี่ยนแปลง !  ไม่ว่าเครื่องดื่มยารักษาโรค โลหะฯ เป็นต้น ดูเหมือนจะหลอกลวงมากขึ้น เพราะใจคนมันตายด้านไปแล้ว ! ตลอดจนธนบัตรปลอมบาปกรรมยิ่งนักขึ้น เพราะฉะนั้นเบื้องบนจึงสงเคราะห์ภัยมาให้และเร็วขึ้นทุกที !

นิทาน  :
ในสมัยชิง รัชสมัยฮ่องเต้คังซี มีพ่อค้าชาฟูเจียน คนหนึ่งชื่อ กู่โหม่ว  อยู่ที่อำเภอเจียนอิน แอบขายเงินปลอม เขาเอาเงินปลอมไปที่ตลาด ไม่มีใครจับได้ว่าเป็นเงินปลอม แต่เงินปลอมอยู่ได้ไม่ถึง 10 วัน ถ้าเลย 10 วัน คุณภาพก็เปลี่ยน แต่นายเกอรู้เรื่องดีจึงเอาทอง 2 ตำลึงไปแลกเงินปลอม 20 ตำลึง จากนั้นก็นั่งเรือกลับบ้าน คืนนั้น ตอนเรื่อผ่านเมืองฮัวทัง ก็เกิดลมพายุขึ้น ทำให้เรือจม ของที่นายกอซื้อมาและข้าวของที่ติดตัวจมน้ำไปหมด ดีที่นายกอว่ายน้ำเก่งจึงรอดมาไม่จมน้ำตาย เหลือแต่ตัวกลับบ้าน แต่นายกู่โหม่วถูกฟ้าผ่าตายในคืนนั้น และเตาหลอมที่ทำเงินปลอม ก็ถูกฟ้าผ่าจนแตกกระจุยไปหมด

อธิบาย  : โอ้ ! น่าชังเสียจริง ๆ นายกู่โหม่วใช้เล่ห์กลหลอกคนถูกฟ้าผ่าตาย เป็นหลักเหตุผลที่ควรเป็นเช่นนั้น แต่นายกอเป็นเพราะเกิดความโลภชั่วขณะจิต จึงสูญเสียทองไป 6 ตำลึงที่ตนมีอยู่ แต่เสื้อผ้าข้าวของไม่รู้มีราคาเท่าไหร่  ถ้าหากทำการค้าถึงระดับนี้ พูดได้ว่าขาดทุนย่อยยับ ถ้าพลาดอีกนิดเดียวชีวิตก็จมอยู่ในสายน้ำ อันตรายเสียจริง ๆ เพราะฉะนั้น พวกคนโกงที่ไม่รู้ น่าสงสารเหลือเกิน ! 

คติพจน์  :  จุดมั่งหมายของการทำการค้าก็เพื่อการดำรงชีวิต !  เมื่อตนเองต้องการดำรงชีวิตให้คงอยู่ แล้วคนอื่นเล่า เขาไม่อยากดำรงชีวิตหรอกหรือ เราต้องการเลี้ยงดูครอบครัว แล้วคนอื่นเขาไม่เลี้ยงดูครอบครัวหรือ ?. นับอะไรกับการหลอกลวงใจตนละเมิดฟ้าดิน การตอบสนองรุนแรง ไม่มีหรอกที่ตัวไม่ตาย ทั้งยังทำลายครอบครัวจบชีวิต ! เพราะฉะนั้น นี่จึงไม่ใช่ใจของคนที่ทำมาค้าขายหรอก !

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
บทที่หก ชั่วบาป  : รีดนาทาเร้น

        อธิบาย  : 
การรีดนาทาเร้นก็เพื่อประโยชน์มหาศาล จึงต้องตั้งใจใช้วิธีการถึงที่สุด !  ปัจจุบันที่พูดถึงนักเลงคุมเรือ หรือ อันธพาลที่คุมคิวรถ เหล่านี้ถือว่าเป็นพวกรีดนาทาเร้นทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ชี้บ่งเฉพาะที่เป็นเอกชนจึงจะเรียกว่ารีดนาทาเร้น แม้แต่ชนชั้นคอปกขาวชนขั้นกลางก็ทำธุรกิจเช่นนี้ ที่เรียกว่าโจรใส่สูท ทำธุรกิจขูดรีดประชาชน โดยใช่ช่องโหว่ของกฏหมาย รวมทั้งพวกที่เรียกว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ด้วย ไม่ใช่เฉพาะพวกนักเลงหัวไม้

        นิทาน  : จงหงมีพระสวรรค์ทางวาจา การขีดเขียนก็เก่ง ทั้งยังคล่องตัวกับทางอำเภอ รู้จักที่นาและสำมะโนครัว ชี้ได้ถูกต้อง เขาสามารถทำให้นาของชาวบ้านจำนวนมาก ฉับพลันกลายเป็นผู้ไร้ที่ทำกิน  ดังนั้นเขาจึงมีที่ดินจำนวนมาก ประชาชนที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของเขารู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา ถ้าหากพูดออกมาในตอนเช้า ตอนเย็นก็จะมีเจ้าหน้าที่มาหาถึงบ้านเพื่อเก็บส่วยนา จางหงมีความสามารถที่จะขจัดประชาชน ถ้าหากมีข้าราชการผู้ใหญ่มาเยือนก็มักจะเรียกเขามาถามไถ่เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน ข้าราชการผู้ใหญ่ที่มาเยือนก็จะจับมือจับไม้กับเขาได้ สุดท้ายก็สามารถฟังเขาบงการได้ แต่ละวันเขาจะสอนข้าราชการผู้ใหญ่ว่า จะทำอย่างไรจึงจะสามารถรีดเงินจากประชาชน พอรีดเงินมาได้ ข้าราชการก็แบ่งเงินเป็น 2 ก้อน ตัวจางหงจะเอาไปถึง 70 %  ในตอนนั้น ผู้ตรวจการท่านถังกง เป็นผู้มีสะอาดรู้เรื่องราวนี้ดี จึงส่งคนมีฝีมือบู๊ที่แข็งแรงคนหนึ่งมาจับเขา ผูกมัดตัวส่งมาสอบสวนที่อำเภอ ขณะที่แก้มัดอยู่นั้น นายจางหงใช้ทองจำนวนมากติดสินบน แต่ข้าราชการฝ่ายบู๊ไม่ยอมรับสินบน เขาจึงวางแผนหลบหนี ทางการติดตามไม่ทันค้นหาจนทั่วก็ไม่พบไร้ร่องรอย ทันใดนั้นท้องฟ้าทางทิศตะวันออกก็ผ่าเปรี้ยงขึ้นอย่างน่าตกใจ แล้วจางหงก็ถูกสายฟ้าผ่าตาย ท้องไส้แตกทะลักอวัยวะภายในไหลออกมากอง ทุกคนเห็นแล้วก้ไม่มีใครอยากเข้าไปเก็บศพ แม้กระทั่งหมาป่า หมูป่าก็ยังไม่เข้าใกล้ เพราะกลิ่นเหม็นมาก ! 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
บทที่หก ชั่วบาป  :  บังคับคนดีให้ชั่ว

        อธิบาย  :
  ใช้อิทธิพลบังคับลูกชาวบ้านที่ดี เพื่อให้พวกเขาเป็นบ่าวไพร่นางบำเรอเป็นทาส ชาติปัจจุบันเป็นบ่าวไพร่ก็เพราะอดีตชาติก่อกรรมชั่วล้วนเป็นคนทำบาปเกินจำนวนหนึ่งพันแปดร้อยครั้งมาก่อน แต่ก็มีที่ไม่ใช่บ่าวไพร่ เดิมทีเป็นลูกชาวบ้านดี ๆ แต่ถูกพวกมีอิทธิพลบีบบังคับทำให้พวกเขากลายเป็นบ่าวไพร่ นี่แหละคือบังคับคนดีให้ชั่ว !  ตลอดจนเอาหญิงสาวไปขายตัว ถือเป็นสิบชั่วโทษมหันต์ อภัยไม่ได้เลย

        นิทาน  :  ที่เมืองเจียงโจว นายโจวเสียมกับซิซุ้น เป็นเพื่อนกัน ซิซุ้นจนมากมีบุตรชายคนเดียว เมื่อเขาตายไปจึงยกลูกชายให้โจวเสียมดูแลโจวเสียมก้เอาลุกชายของซิซุ้นไปเป็นบ่าวไพร่มาใช้งาน ถ้าไม่พอใจเล็กน้อยก็จะตบตีจนบาดเจ็บ  มีวันหนึง โจวเสียมได้พบซิซุ้นที่ถนน โจวเสียมตกใจถามว่า  "เจ้าไม่ใช่ตายไปแล้วหรือ ทำไมจึงมาโลกมนุษย์ล่ะ ! "  ซิซุ้นตอบว่า "ข้ามาดูแลลูกชายของข้า แล้วมาเร่งบังคับเจ้าด้วย"  โจวเสียมได้ยินแล้วตกใจจนเหงื่อกาฬไหลเหมือนฝนตก ภายหลังกลับมาถึงบ้านก็ตายทันที

        อธิบาย  : มักเคยเห็นบ้านเศรษฐีจะมีญาติที่ยากจนไม่มีที่พึ่งมาขออาศัย พอพวกเขาเข้ามาอยู่ก็จะเรียกพวกเขาใช้เหมือนบ่าวไพร่ ทั้งยังตะคอกดุด่า สิ่งนี้ก็เป็นข้อห้ามของท่านไท่ชั่งด้วย !  อย่างไรก็ตามในระยะแรกเริ่ม กว่าครึ่งก็มักมีจิตใจอาทรช่วยเหลือญาติพี่น้อง ตอนหลังก็มาทำเรื่องรังแกบังคับญาติ การทำเช่นนี้ไม่เพียงไม่มีบุญ ยังเป็นการบั่นทอนบุญ อย่างนี้จะไม่น่าเสียใจหรอกหรือ ?.

        นิทาน  : ที่มณฑลเจ้อเจียงมีกองคลัง ทุกปีจะรับสมัครพนักงานมาดูแลโดยรับจากบ้านที่มีอันจะกินในเมืองหางโจว พนักงานกูแลการเบิกจ่ายหรือเก็บเข้า ก็มีคนหนึ่งที่ถูกเลือกให้มาทำหน้าที่ดูแลคลัง เป็นเพราะได้เบียดบังเงินของทางการไปมาก ไม่สามารถชดใช้คืน ผู้ว่าการหวังจึงไปจับเอาลูกเมียมาที่ทำการ เขาก็ยังไม่มีเงินมาใช้คืน ผู้ว่าหวังจึงเรียกคนนำเอาเรือลำเล็กแล้วให้ลูกเมียของเขาลงไปในเรือที่ทะเลสาบซีหู เพื่อให้มาคอยต้อนรับผู้คนที่มาเที่ยวทะเลสาบซีหู เงินเดือนที่ได้รับก็เก็บเข้าทางการ ต่อมาภายหลังลูกหลานของผู้ว่าหวังตกต่ำลง บ้างก็ไปเป็นโสเภณี

         อธิบาย  : มีพ่อแม่บางคนถึงกับไม่มีความกลัวบาป ไม่ละอายใจ ทำเรื่องไม่สมควรยอมขายลูกให้ไปเป็นบ่าวไพร่ ถ้าเป็นเราจะทนได้ไหมถ้าคนที่ดีมีเงินทองอยากทำกุศลก็ควรรีบเข้าช่วยเหลือ เป็นการปกป้องลูกของชาวบ้าน แบบนี้จะได้บุญกุศลมากนะ !  ถ้าหากไม่สามารถทำได้ก็อย่าไปทำเรื่องอัปยศพวกเขา ถึงแม้จะไม่ถูกขายไปให้คนอื่น แต่ก็ไม่เสียทีเราได้จริงใจแล้ว  ผู้ดีหรือไพรเป็นเรื่องไม่แน่นอน เพียงเพราะลูกคนจนถูกขายให้กับคนรวย จึงได้ชื่อว่าไพร่ ที่จริงก็ยังเป็นคนดีอยู่ ! ปัจจุบันคนมักรักของ ๆ ตัว ดุจไข่มุกในฝ่ามือ ให้เขากินดีใส่ดี แต่กับบ่าวไพร่เพียงเรื่องไม่พอใจเล็ก ๆ ก็ถึงกับทุบตี  ให้เขากินเลวใส่หยาบ ให้หิวหนาว  พวกเขาก็เป็นลูกมีพ่อแม่เหมือนกัน ทำไมจึงไม่ยุติธรรมนักเล่า !  คงไม่ได้คิดกระมังว่า คนรวยก็กลายเป็นคนจนได้ คนจนก็เปลี่ยนเป็นคนรวยได้ !  แม้แต่ธรรมแห่งฟ้า ก็ยังรู้จักใครบ้างที่สามารถรับประกันว่าคนดีไม่เปลี่ยนเป็นคนเลว และคนเลวจะไม่เปลี่ยนเป็นคนดีหรอกหรือ ?.

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
บทที่หก ชั่วบาป  :  โป้ปดคนโง่

อธิบาย   :
ใช้แผนการร้ายหลอกลวงคนโง่เขลาให้เข้ามาสู่กับดัก เรียกว่าโป้ปด ยิ่งกระทำกับคนโง่แล้วยิ่งน่าสงสาร โดยที่คนโง่ก็ไม่สามารถแก้แค้นแต่ในความลีลับกลับมีคนช่วยแก้แค้นแทน ทางด้านคนโง่แล้วกลับไม่ได้รับอันตรายอะไร แต่ผู้กระทำเสียอีกจะได้รับความเสียหายเอง !  ในโอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝานกล่าวว่า  "ยากจน ร่ำรวยอำนาจไม่แน่นอน" ไร่นาสาโถบ้านช่องเจ้าของไม่มีกำหนด มีเงินก็ซื้อไม่มีเงินก็ขาย คนที่ซื้อที่ดินบ้านช่องของคนอื่น ควรที่จะรู้หลักธรรมอันนี้ว่า คนที่ขายทรัพย์สินอาจจะไม่มีกิน หรือเป็นหนี้สิน หรือเจ็บป่วยล้มตาย หรือแต่งงานแล้วฟ้องร้องแย่งชิงทรัพย์ เพราะว่ามีค่าใช้จ่ายร้อยแปด เพราะฉะนั้นจึงขายทรัพย์สินร้อยแปด คนที่ซื้อทรัพย์สินของเขา ควรที่จะอะลุ่มอะล่วยให้เขาได้มาก เพื่อให้ทรัพย์สินที่เขาขายมีราคามีค่างวด ถึงแม้พอเปลี่ยนมือเงินที่ได้ก็หมดไป แต่ก็พอที่เขาจะจัดการเรื่องร้ายได้ ! หหากคนที่รวยแต่ไม่มีเมตตา แต่ก็ชอบใช้แผนร้ายหลอกลวงคนทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาเดือดร้อนต้องการใช้เงิน ก็แสดงท่าทางเหมือนไม่คิดจะซื้อ จึงต่อรองราคาต่ำจนไร้ค่า หลังจากถ่ายโอนกันแล้วก็พยายามผ่อนให้โดยไม่ยอมจ่ายเสียครั้งเดียว หรือซื้อเขาในราคาสูง แต่กำหนดระยะเวลาผ่อนให้ที่เล็กน้อย คนที่ขายทรัพย์สินได้เงินย่อยก็ใช้จนหมด จนเขาไม่สามารถทำเรื่องราวให้จบสิ้นได้ เพราะการเทียวไปเทียวมาก็มีค่าใช้จ่ายจนเหลือไม่ถึงครึ่ง  ส่วนคนรวยที่ซื้อก็ภูมิอกภูมิใจว่า ตนเองได้ใช้แผนการณ์ดี หารู้ไม่ว่า ธรรมแห่งฟ้าตอบคืนดีนัก บางทีก็ตอบสนองกับตัวเขาเอง มีบ้างก็มีเคราะห์ภัยกับลูกหลานคนส่วนใหญ่หลง ไม่รู้ว่าเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไร ?.   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
บทที่หก ชั่วบาป  :  โลภละโมบไม่เบื่อ

อธิบาย  :
โลภไม่เบื่อโดยไม่รู้ตัว ละโมบในการกิน อุปมาเหมือนคนใจโลภ ก็เหมือนปากกับของกิน ซึ่งไม่มีหยุดนิ่ง ไม่มีที่สุด ! ท่านเหลาจื่อว่า "โทษใดก็ไม่มีมากกว่าความอยาก เคราะห์ใดก็ไม่มีมากกว่าไม่รู้จักพอ" คนที่รู้จักพอถึงแม้จะจบต่ำต้อยก็สบาย คนที่ไม่รู้จักพอ แม้จะร่ำรวยก็วิตกทุกข์ ความโลภของชาวโลกที่แสวงหา รอจนกว่าหมดเวาระแล้ว ที่สุดก็มลายหมดสิ้น !  เหตุผลอันนี้ไม่ต้องพูดกันอีก แต่ก็จบลงที่เคราะห์ภัยและโทษบาปยิ่งสรุปได้ยาก

นิทาน  : ในสมัยถัง รัชสมัยไท่จงฮ่องเต้ นายหยวนไต้ รองราชเลขา ขณะที่ได้ตำแหน่งเสนาบดี เขาปล่อยปละตามใจลูกชายให้รีดภาษีคนอื่น ได้รับสินบน พวกขุนนางทางเมืองหลวง และเมืองอื่นก็กระทบกระเทือน เริ่มแรกก็ย้ายพวกจงรักภักดี พวกซื่อสัตย์ ต่อไปก็โลภหากินกับกฏหมายเถื่อนในบ้านของหยวนไต้ เสพสุขสุรุ่ยสุร่าย แม้แต่ฮ่องเต้ยังเทียบไม่ได้เลย ฮ่องเต้ก็มักจะตักเตือนให้เขาระมัดระวัง ประหยัดบ้าง แต่เขาไม่ยอมเปลี่ยน ! ทำตัวฟุ้งเฟ้อเหมือนเดิม ต่อมาฮ่องเต้ทรงพิโรธ จึงมีคำสั่งจับหยวนไต้ และสั่งประหารชีวิตตลอดจนลูกเมียของเขาด้วย เขาถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด นับจำนวนมากมายก่ายกอง ฮ่องเต้แจกจ่ายให้แก่ข้าราชการต่าง ๆ กระทั่งหัวเมืองต่าง ๆ ก็ได้รับ แม้กระทั่งพริกไทย มีมากถึง 8 ร้อยตัน และอื่น ๆ นับไม่หมด

คติพจน์  : นับแต่โบราณมา คนที่เป็นเสนาบดี ไม่มีหรอกที่ตายเพราะหิวโหย แต่กลับมาตายที่ทรัพย์ศฤคาร ช่างน่าหัวเราะเสียเหลือเกิน ! 

นิทาน  : สมัยหมิง นายลี่หมิง ชาวเมืองเจียชิง มณฑลเจ้อเจียง ได้กาล้ำค่าใบหนึ่ง  เศรษฐีเฉาหน่วยใช้เงินถึง 20 เจียะ ของข้าวสารไปแลกเปลี่ยนกาวิเศษ แต่ลี่หมิงไม่รับปาก และก็เอาไปให้อู๋หนีฮุยดู  อู๋หนี่ฮุยให้ข้าวสารถึง 100 เจียะ ลี่หมิงก็ตอบตกลงแลกเปลี่ยน  แต่นายหลิวจู๋ก็เสนอลี่หมิงว่า "ฉันมีแผนการอันหนึ่ง สามารถทำให้เธอได้ประโยชน์มหาศาล ถ้าหากเธอเอากาวิเศษนี้ไปบรรณาการแก่หัวหน้าขันทีจางให้เขาเห็นพ้อง นำเอาตราสารเกลือของเมืองเจียชิงให้เธอไปควบคุมการค้าขาย เธอก็จะได้ประโยชน์นับร้อยเท่า"  นายลี่หมิงตอบรับ  นายหลิวจู๋ก็ช่วยติดต่อผู้เกี่ยวข้องทำเรื่องจนสำเร็จ ได้เงินมากถึงสามพันกว่าตำลึง หลิวจู๋แบ่งเป็น 3 ส่วน แบ่งให้ลี่หมิง 1 ส่วน ลี่หมิงได้ตราสารเกลือ นั่งเรือกลับบ้าน ขณะจะข้ามแม่น้ำก็เรือเกิดล่มตราสารเกลือเปปียกน้ำเสียหาย ขณะนั้นผู้ว่าเมืองเจียชิงนายหยางจี่จง ส่งคนออกมาติดตามจับสารตราเกลือ ในที่สุดลี่หมิงก็ถูกจับเข้าคุกและตายในคุก ส่วนหลิงจู๋ต้องขายทรัพย์สินทั้งหมดมาชดใช้ให้กับตราสารเกลือ โบราณว่า "ชาวโลกอยู่ไม่ถึงร้อยปี ทำแผนบาปพันปี" ทำไมคนจึงโลภไม่เบื่อเช่นนี้หนา !  หรือคิดวางแผนให้กับลูกหลานหารู้ไม่ว่า "ถ้าลูกหลานสู้ฉันไม่ได้ เอาเงินไปทำไม ?. ถ้าลูกหลานเก่งกว่าฉัน ก็จะเอาเงินไปทำไม ?." ท่านชูกวางในสมัยฮั่นเคยพูดว่า "ข้าเป็นเฒ่าฟั่นเฟือนหรือ ?. ไม่วางแผนให้ลูกหลานหรอกหรือ ?.  ข้ามีที่นาไร่สวน เพียงลูกหลานต้องวิริยะไถหว่าน ก็เพียงพอที่จะกินอยู่ได้ หากเพิ่มให้ลูกหลานมากเกินเลย จะเป็นการสอนลูกหลานให้ขี้เกียจ ผู้ปราดเปรื่องมีทรัพย์สินมาก ก็จะทำลายอุดมการณ์ได้ ผู้โง่เขลาที่มีทรัพย์สินมากก็จะยิ่งเพิ่มโทษบาป คนที่ร่ำรวยมักถูกชาวบ้านกล่าวโทษ ถึงแม้ข้าจะไม่มีความรู้สอนลูก ก็ไม่หวังเพิ่มพูนโทษบาปแก่ลูกหลาน และเป็นเป้ากล่าวโทษของชาวบ้าน !" คำพูดดังกล่าวจะเห็นว่า ท่านซือหม่าอุน มีโอวาทสอนครอบครัวให้สั่งสมบุญกุศลมากกว่าสั่งสมเงินทอง พวกเราทำไมไม่อ่านให้ขึ้นใจและปฏิบัติตามเล่า ?.

Tags:
 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”