collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: คัมภีร์กรรม ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า : คำนำ  (อ่าน 144141 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                    คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  ทำร้ายคุณธรรม

อธิบาย  :  พบปะผู้มีธรรม ไม่เคารพเขา ไม่อยู่ใกล้เขา กลับจะทำร้ายเขา ข่มเหงรังแกเขา  ผู้มีคุณธรรม เช่น นักปราชญ์ บัณฑิต  พระสงฆ์  นักพรต  ที่บำเพ็ญด้วยความอดทน วาจาของพวกเขาสามารถให้ชาวโลกเอาอย่างการกระทำของพวกเขา สามารถเป็นแบบอย่างให้กับชาวโลก ผู้มีคุณธรรมเหล่านี้เป็นผู้คนที่โดดเด่นเหนือมวลชน ก็เพราะเป็นปูชนียบุคคล เป็นคุณธรรมของฟ้าดิน เราจะมาเคารพนับถือเขาก็ยังน้อยไป ทำไไมจะยังไปทำร้ายรังแกเขาได้อีก

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                  คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  ยิงนกล่าสัตว์

อธิบาย  :  การยิงไม่ใช่เพียงใช้ธนูยิงเท่านั้น จะเป็นปืน  หน้าไม้  ลูกดอก  แม้แต่หลุมพราง  บ่วงแร้ว ฯ เป็นต้น  ก็ถือว่าเป็นการยิงล่า ทั้งนั้น อาจเป็นเพราะต้องการเงินหรือเพื่ออาหารปากท้อง ก็เป็นการทำให้สัตว์ตายลง ถูกยิงถูกตัดหัว  เหล่านี้ไม่รู้ว่าจะเจ็บปวดมากเท่าไร  อันที่จริงเราควรมีเมตตาดูแลปกป้องช่วยเหลือพวกมัน คนที่กินเนื้อมันจะยินยอมผูกเวรกับพวกมัน  ที่ต้องชดใช้กรรมจากความแค้น การที่เราต้องการฆ่ามันเพื่อชดเชยเป็นอาหาร หรือเพื่ออาชีพ นี่เป็นการสร้างเวรกรรมที่ไม่รู้จักจบสิ้น เพื่อหาประโยชน์อันจำกัดจำเขี่ยเท่านั้นหรือ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                   คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  คุ้ยหนอนทำนกตกใจ

อธิบาย  :  การขุดคุ้ยหาหนอนที่อาศัยอยู่ในดิน ถ้าหากเราขุดมันขึ้นมาจากดิน โดยเฉพาะในฤดูหนาวแล้ว มันก็อาจหนาวตายได้ หรือไปรังแกทำให้พวกนกที่พักผ่อนบนต้นไม้ตกใจกลัวจนถึงแก่ความตายได้  ท่านไท่ชั่ง เขียนไว้พิเศษ เพื่อห้ามคนไม่ให้ทำก็ดุจเดียวกับพระพุทธโพธิสัตว์ ที่มีความเมตตาสงสารสัตว์เล็กสัตว์น้อย  หลักธรรมเช่นนี้ทำไมคนจึงไม่เข้าใจ  เป็นศีลข้อแรกในศาสนาพุทธด้วย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                    คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  อุดรูทำลายรัง

อธิบาย  :  พวกหนอนมดและแมลงหลายชนิดอาศัยอยู่ตามรูในดิน เราไปอุดรูทำให้มันไม่มีทางออก พวกมันก็อาจอดตายอยู่ในรูได้ รังนกที่อยู่บนต้นไม้ซึ่งนกใช้เป็นที่กกไข่เลี้ยงลูกนก ถ้าเราไปทำลายรังหรือสอยรังลงมา ก็เหมือนบ้านคนที่ถูกลมพายุหรือไฟไหม้บ้าน ขาดที่อยู่อาศัย บางครั้งก็ทำให้พวกมันถึงแก่ความตาย จนท่านไท่ชั่งถึงกับเขียนไว้ว่า "หากคนที่รุ่นลูกหลานล้มเหลวแตกดับล้วนเป็นเพราะเหตุจากชาติก่อนเขาได้อุดรูทำลายรังมาก่อนทั้งนั้น พวกที่จุดไฟเผาป่าหรือฆ่าสัตว์ หรือวิดน้ำให้หนองแห้งเพื่อจับปลาหรือทำลายลูกสัตว์ เป็นโทษกรรมที่นำมาถึงลูกหลานให้เสื่อมทราม  ล้มเหลว  ซึ่งเป็นผลกรรมตอบสนองทั้งนั้น !"   อาจมีผู้ถามว่า "ควรที่จะกรุณาคนเสียก่อน ภายหลังจึงไปรักสัตว์ถึงจะถูก ทำไมเดี๋ยวนี้จึงสอนคนให้รักสัตว์ก่อน มีเหตุผลใดหรือ" เราควรตอบว่า "การกรุณาคนนั้นง่ายกว่า ทำได้ง่าย  แต่การรักสัตว์ ทำได้ยากกว่า ถ้าคน ๆ หนึ่งกล้าที่จะไปทำลายสัตว์ เขาก็กล้าพอที่จะทำร้ายคนแต่ถ้าเขาไม่กล้าที่จะไปทำลายสัตว์ ดังนั้นใจของเขาที่กระทำต่อคนจะเป็นเช่นไรก็พอรู้ได้ !" ในพระสูตรฮ้อเอี๋ยนกล่าวว่า "ฉันทนไม่ได้ที่จะเรียกมดสักตัวหนึ่งไปทนลำบาก ไฉนจะเรียกคนไปทำได้เล่า !" 

        ในสมัยซ้ง  ฮ่องเต้เฉินถัง ได้สอบถามนายพรานว่า การใช้ตาข่ายดักสัตว์ให้กางตาข่ายแค่ ๓ ด้าน ปล่อยเว้นเสียด้านหนึ่ง ทำให้เหล่านายพรานซาบซึ้ง ฮ่องเต้เฉินถังได้ผลักดันความกรุณาต่อสัตว์แก่ประชาชน เพราะฉะนั้นบุญบารมีแห่งความกรุณาได้ปกคุ้มเหล่าสัตว์ใต้หล้า 

        ฮ่องเต้ฉีซวงอ๋องมีอยู่คราวหนึ่ง ทนไม่ได้ที่เห็นวัวตัวหนึ่ง ที่ถูกจูงผ่านหน้า  สั่นกลัวมาก เหมือนคนไม่มีความผิดแต่ถูกส่งไปฆ่าตาย ดังนั้นจึงให้เปลี่ยนเป็นแพะตัวหนึ่งเสีย  ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่า ฉีซวงอ๋องตระหนี่เอาแพะมาแลกวัวที่ตัวโตกว่า ท่านเมิ่งจื่อกล่าวชมถึงความกรุณาของฉีซวงอ๋อง เหมาะที่จะปกครองประเทศ ถ้าหากฉีซวงอ๋องสามารถกระจายความกรุณานี้ให้กว้างไกลก็สามารถที่จะรักษาประเทศไว้ได้

        ถ้าทำให้ขุนพลไป่ยฉีแห่งเมืองเฉิน ที่มีใจกรุณารักสัตว์ ก็จะไม่สั่งฆ่าทหารเมืองจ้างไปถึงสี่แสนคน !  เพราะฉะนั้น การรักสัตว์กับรักคนก็เป็นใจกรุณาอันเดียวกัน  พุทธองค์ขณะบำเพ็ญอยู่นั้นสงสารนกพิราบตัวหนึ่ง กำลังจะถูกนกเหยี่ยวตัวหนึ่งจิกตีเอา จึงปกป้องนกพิราบ  นกเหยี่ยวเห็นเช่นนั้นก็ต่อว่าพุทธองค์ว่าช่างโหดร้ายเพียงเพื่อช่วยเหลือนกพิราบตัวเดียว ต้องทำให้เหยี่ยวต้องอดตาย ดังนั้น พุทธองค์จึงหยิบมีดตัดเนื้อที่ต้นแขนไปเลี้ยงเหยี่ยว โดยใจของพุทธองค์ไม่นึกเจ็บแค้นแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้เนื้อที่ต้นแขนจึงงอกขึ้นมาใหม่ทันที การที่พุทธองค์มีใจมหาเมตตาตัดเนื้อเลี้ยงเหยี่ยว ไม่เพียงร่ำลือไปทั่วทุกทิศแต่เอ่อล้นมาทุกกัปกัลป์ ใครล่ะที่พูดว่า คนที่รักสัตว์จะไม่รักคนด้วย !  เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่สามารถทำถึงใจที่จะฉุดช่วยทุกข์ เขาก็คือภาพปรากฏของพระโพธิสัตว์กวนอิม ใครก็ตามถ้าทำให้ทุกขณะจิตมีเมตตา เขาก็คือพระโพธิสัตว์เมตไตรยลงมาเกิด ! 

 คำคม  :  ธรรมาจารย์เซ็นฉือโซ้ว กล่าวว่า "ชาวโลกฆ่าสัตว์กันมาก จึงมีเคราะห์ภัยจากอาวุธสงครามเพื่อชดใช้หนี้ชีวิต ทำลายทรัพย์สินบ้านช่องพรากลูกแยกภรรยา ที่เคยทำลายรังของมัน การตอบสนองต่างรับกันไป ให้ชำระหูฟังคำพระบ้าง"  ความหมายของโศลกนี้ "ชาวโลกมีเหตุจากการฆ่าตัดชีวิต จึงมีเื่องเคราะห์ภัยของอาวุธสงคราม เป็นผลกรรมตอบสนอง เพราะว่าเธอได้ฆ่าตัดชีวิตพวกเขาไว้ เพราะฉะนั้น เขาจึงมาฆ่าพวกเธอบ้างให้เธอชดใช้ชีวิต ถ้าเธอเป็นหนี้แล้วไม่ใช้คืน เขาก็มาเผาบ้านของเธอ ทำให้เธอเสียหายทรัพย์สิน การที่เธอสูญเสียลูกเมีย เหตุมาจากเธอเคยทำลายรังของพวกผึ้งพวกนกไว้ นี่คือผลกรรมตอบสนอง การตอบสนองเสมอกัน เพราะฉะนั้น ของให้พวกเราล้างหูแล้วฟังคำพุทธองค์ให้ดี ๆ !"

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                     คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  ทำร้ายครรภ์ทุบไข่

อธิบาย  :  การทำร้ายสัตว์กำลังตั้งท้องหรือทุบไข่แตก ถึงแม้สัตว์ยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเหมือนกัน เพราะทั้งสัตว์ตั้งท้องและไข่ภายในล้วนมีชีวิตแล้ว ก็เฉกเช่นเดียวกับคนที่มีครรภ์  เพราะฉะนั้นการทำร้ายครรภ์หรือทำให้ไข่ของมันแตก ก็เท่ากับการฆ่าตัดชีวิต พุทธองค์ตรัสว่า "หากเห็นคนชั่วโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน  ไม่เชื่อหลักธรรมของการตอบสนองแล้วกล้าที่จะไปจับลูกนกหรือเอาไข่ของมันมากิน ทำให้พวกมันสูญเสียลูก ๆ ไป มันก็จะร้องกุ๊ก ๆ ด้วยความเจ็บปวด บ้างก็ถึงกับมีเลือดออกในตา เพราะความเจ็บปวด คนพวกนี้อาจจะถูกโดดเดี่ยวตัวคนเดียวไม่มีลูกหลาน อันเป็นผลกรรมตอบสนอง !" 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                     คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  อยากให้เขาเสียหาย

อธิบาย  :  อยากให้เขาเสียหายประสบกับเคราะห์ภัย ผู้ที่เสียหายถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นมงคล ไม่รู้สึกสงสารเวทนาเขากลับอยากให้เสียหายฉิบหายเป็นดีที่สุด ดังคำพูดที่ว่าเคราะห์สะใจ คนแบบนี้เห็นภัยเคราะห์แล้วก็มีความสุข  เพราะว่าเคราะห์ไม่ตกกับเขา ถ้าคนล้มเหลวไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นตนเองละก็จะมีความสุขหรือ ดังนั้น คนที่แม้จะโง่ก็ไม่ควรเป็นอย่างนี้ ! 

คติ  :  เป็นเพราะความคิดเห็นแก่ตัว จึงเกิดความเสียหายมาถึงตนเอง ในนิพพานสูตรว่า  "ผู้บำเพ็ญธรรม  ต้องเอาปัญญามาใช้กับธรรมหก  ให้กดข่มใจตนขณะที่ใช้ใจทำงานต้องให้มีความเสมอภาค"  ( ธรรมหก คือ  กายกรรม  วจีกรรม  มโนกรรม  มีธรรมบ่ม  ถือศีล  และมีสัมมาทิฐิ )  ในสมัยซ่ง นายเช้าคังเจี๋ยะ กล่าวเป็นโศลกว่า  "ทุกเช้าธูปหนึ่งดอก ขอบคุณฟ้าดินกษัตริย์ แต่ขอให้นามีรวงสุก  ให้ทุกคนอายุยืน  ให้ประเทศมีขุนนางดี  ให้บ้านไร้บุตรอกตัญญู  สี่ทิศสงบหมดรบอาวุธ  แม้ว่าข้าโลภก็ไม่เป็นไร"  จะเห็นได้ว่า ทั้งพุทธ เต๋า และหยู ล้วนสอนให้คนเสมอภาคกัน เพราะฉะนั้น พวกเราควรมีใจนี้มากดข่มรักษาใจตน อย่าให้ตนมีใจเห็นแก่ตัวเป็นอันขาด ซึ่งจะเป็นการสร้างวิบากกรรมหนัก 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                  คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  ทำลายความสำเร็จของเขา

อธิบาย  :  ทำลายความสำเร็จของผู้อื่น ให้ผลงานของเขาเสียหายล้มเหลว คนที่อยากประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ก็ต้องใช้ความสามารถเจต็มที่  ถ้าหากเราไปรบกวนทำลายเขาทำให้เขาเสียหาย  จิตใจเช่นนี้ ก็เหมือนดังใจอสรพิษ !

        ท่านจินชีชานพูดว่า  "หากเราได้ยินคนทำเรื่องดี เราก็ควรยกย่องชมเชยเขาและร่วมมือกับงานของเขา หากเราได้ยินคนทำเรื่องชั่ว เราควรปิดบังความชั่วของเขา !  การทำให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จก็ไม่ทำให้ตนเองเสียคุณธรรม นี่คือการมีน้ำใจของคนโบราณ แล้วคนที่ประสบความสำเร็จแล้วยังกล้าที่จะไปทำลายความสำเร็จของเขาหรือ !

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                   คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  ให้เขาอันตรายตนสุข

อธิบาย   :  ทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย  แต่แสวงหาให้ตนมีความสุข พระสูตรนับร้อยพัน ก็พูดแต่เรื่องของใจ ขณะที่เรากับผู้อื่นอยู่ในสถานที่มีจลาจล แล้วอยากให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายแต่ให้ตนเองปลอดภัยใจก็คิออย่างนี้เป็นคนที่สูญเสียมโนธรรม ท่านอวี่เถียะเจียว กล่าวว่า  "การหลบอันตรายถือเป็นเรื่องปกติ แต่เหตุใดฟ้าเบื้องบนจึงเห็นเป็นชั่วเล่า ?.  เบื้องบนมิใช่เห็นเป็นเรื่องชั่วที่พวกเขาแสวงหาความปลอดภัยแต่อย่างไร แต่ที่เห็นเป็นเรื่องชั้่วเพราะเขาผลักอันตรายไปให้แก่ผู้อื่นรับไป ประสบการณ์ของชีวิตก็ผ่านมามากมายก็แยกระหว่างอันตรายกับปลอดภัย  ถ้าหากเธอรู้แต่ให้ตนเองมีความปลอดภัยโดยไม่ห่วงใยว่าผู้อื่นจะมีอันตรายหรือไม่  นั่นก็หมายความว่า กลไกแห่งการฆ่าถูกหมกเม็ดเอาไว้ ซึ่งมันจะสามารถเกิดระเบิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สมมุติให้แผนอันตรายนี้ได้รับความสำเร็จแล้ว คนที่คดในข้องอในกระดูกก็นอนหลับได้อย่างสบายใจ แต่กับคนที่มีใจเมตตากรุณากลับอยู่นิ่งเฉยไม่ได้เลย !  เพราะฉะนั้นทิศทางของพวกเขาที่มุ่งสู่ หรือผู้ตรงข้ามกันที่มุ่งสู่อันตราย พวกที่หลบหลีก  หรือผู้อยู่ตรงข้ามกลายเป็นหลบหลีกจากทางเรียบ !  ถ้าหากเป็นคนสามารถทำให้ระหว่างเขากับเรามีใจเสมอภาคกันแล้ว ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ปลอดภัยทั้งหมด ! 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                    คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  ลดเขาประโยชน์ตน

อธิบาย   :  ขัดขวางลดประโยชน์ของผู้อื่น เพียงเพื่อผลประโยชน์ตน ในโลกนี้ผู้ที่มีประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นจึงจะสมควรได้ผลประโยชน์ตน ถ้าหากไม่มีผลประโยชน์ต่อผู้อื่นมีแต่ประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น  ยังไม่ใช่ผลประโยชน์ที่แท้จริงยิ่งกว่านั้นยังไปกดลดผลประโยชน์ผู้อื่นให้เสียหาย แต่ตนเองกลับได้ผลประโยชน์มหาศาล !  คนพวกนี้ที่เขาพูดกันว่า  "ห่วงแต่ความร่ำรวยของตนเอง  ไม่ห่วงความยากจนของคนอื่น"   ท่านอวี่เถียะเจียว กล่าวว่า  "คนปัจจุบันที่มุ่งกับทรัพย์สินไร่นา บ้านช่องเป็นต้น ล้วนเป็นคนที่ลดเขาประโยชน์ตนทั้งนั้น พวกเขาจะรู้ได้อย่างไร สิ่งที่เขาทำก็เข้าทำนองขอยืมเงินแต่ไม่เขือนหลักฐานยืมเงินเช่นนี้เป็นต้น !  ถึงแม้ทรัพย์สินเขาจะเพิ่มขึ้นทุกวันก็ตาม แต่ว่าชีวิตมีจำกัด ด้วยเหตุนี้อายุขัยนับว่ายิ่งสั้นเข้ามาทุกที !  นี่แหละ ผลประโยชน์ ! " 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                   คัมภีร์กรรม  เล่ม ๒

                   ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า 

                          วิถีสร้างบุญวาสนา ขจัดภัยพิบัติ 

                                     บทที่หก

                                     ชั่วบาป 

                           คัมภีร์   :  เอาชั่วไปแลกดี

อธิบาย   :  ขณะจะมอบสินค้าจะแอบเอาของเลวไปเปลียน การแอบเปลี่ยนสินค้าเป็นกลวิธีชั่วของพ่อค้าชั่ว ซึ่งมักพบเห็นได้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ชั่วโดยเฉพาะมักแอบเอาของเลวให้กับลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้าจร การกระทำแบบนี้ใกล้เคียงกับการลักขโมย ท่านสังฆราชองค์ที่ ๔ พูดว่า "สภาวะภายนอกไม่ได้แบ่งแยกว่าีดีชั่ว ดีชั่วนั้นเกิดจากใจ ถ้าใจไม่ฝืนแบ่งแยก การคิดฟุ้งซ่านหรือยึดติด ก็ไม่มีที่ ๆ จะเกิดขึ้นได้" 

        สมัยก่อน พระธรรมาจารย์หยวนเย้า เดินทางมาประเทศจีนด้วยหนทางนับเป็นพัน ๆ ลี้ เพื่อมาสืบหาอาจารย์ดัง ๆ จะได้เรียนพุทธธรรม มีอยู่คืนหนึ่ง หลังเดินทางไกลมาเหน็ดเหนื่อย ค่ำลงจึงหลับนอนอยู่แถวหลุมฝังศพ ขณะนั้นทั้งเหนื่อยและคอแห้ง คิดอยากดื่มน้ำ เขาเห็นข้างกายมีหลุมน้ำใสจึงเอาบาตรไปตักมาดื่มจนหมดบาตร ขณะนั้นรู้สึกดื่มด้วยความสดชื่นสบายใจ !  พอถึงตอนเช้ามองดูน้ำนั้นอีกครั้ง ที่แท้ก็เป็นน้ำที่ไหลจากศพในบริเวณนั้น พระหยวนเย้า มีอาการกระอักกระอ่วน จึงพยายามอาเจียนเอาน้ำที่ดื่มออกมา หลังจากอาเจียนแล้วก็ให้บรรลุฉับพลันว่า  "ภูมิทั้งสามอยู่ที่ใจ ธรรมทั้งหลายอยู่ที่รู้  ภูมิสามหกวิถีหมุนเวียน  ล้วนอยู่ที่ใจก่อขึ้น  ธรรมทั้งหลายในจักรวาลนี้ล้วนสุดแต่ใจของเราไปแบ่งแยก เพราะฉะนั้นความรู้สึก สวยหรือชั่วอยู่ที่เวทนาใจเราไม่แบ่งแยก มันไม่เกี่ยวอะไรกับน้ำนั้นเลย !" 

Tags: