บทที่หก ชั่วบาป : ปลอมปนสินค้า
อธิบาย :เอาของเก๊ปนไปกับสินค้า ปัจจุบันสินค้าปลอมมีเกลื่อนไปทั่ว ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าสินค้าแท้เสียอีก นี่เพราะจิตใจชาวโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ! ไม่ว่าเครื่องดื่มยารักษาโรค โลหะฯ เป็นต้น ดูเหมือนจะหลอกลวงมากขึ้น เพราะใจคนมันตายด้านไปแล้ว ! ตลอดจนธนบัตรปลอมบาปกรรมยิ่งนักขึ้น เพราะฉะนั้นเบื้องบนจึงสงเคราะห์ภัยมาให้และเร็วขึ้นทุกที !
นิทาน : ในสมัยชิง รัชสมัยฮ่องเต้คังซี มีพ่อค้าชาฟูเจียน คนหนึ่งชื่อ กู่โหม่ว อยู่ที่อำเภอเจียนอิน แอบขายเงินปลอม เขาเอาเงินปลอมไปที่ตลาด ไม่มีใครจับได้ว่าเป็นเงินปลอม แต่เงินปลอมอยู่ได้ไม่ถึง 10 วัน ถ้าเลย 10 วัน คุณภาพก็เปลี่ยน แต่นายเกอรู้เรื่องดีจึงเอาทอง 2 ตำลึงไปแลกเงินปลอม 20 ตำลึง จากนั้นก็นั่งเรือกลับบ้าน คืนนั้น ตอนเรื่อผ่านเมืองฮัวทัง ก็เกิดลมพายุขึ้น ทำให้เรือจม ของที่นายกอซื้อมาและข้าวของที่ติดตัวจมน้ำไปหมด ดีที่นายกอว่ายน้ำเก่งจึงรอดมาไม่จมน้ำตาย เหลือแต่ตัวกลับบ้าน แต่นายกู่โหม่วถูกฟ้าผ่าตายในคืนนั้น และเตาหลอมที่ทำเงินปลอม ก็ถูกฟ้าผ่าจนแตกกระจุยไปหมด
อธิบาย : โอ้ ! น่าชังเสียจริง ๆ นายกู่โหม่วใช้เล่ห์กลหลอกคนถูกฟ้าผ่าตาย เป็นหลักเหตุผลที่ควรเป็นเช่นนั้น แต่นายกอเป็นเพราะเกิดความโลภชั่วขณะจิต จึงสูญเสียทองไป 6 ตำลึงที่ตนมีอยู่ แต่เสื้อผ้าข้าวของไม่รู้มีราคาเท่าไหร่ ถ้าหากทำการค้าถึงระดับนี้ พูดได้ว่าขาดทุนย่อยยับ ถ้าพลาดอีกนิดเดียวชีวิตก็จมอยู่ในสายน้ำ อันตรายเสียจริง ๆ เพราะฉะนั้น พวกคนโกงที่ไม่รู้ น่าสงสารเหลือเกิน !
คติพจน์ : จุดมั่งหมายของการทำการค้าก็เพื่อการดำรงชีวิต ! เมื่อตนเองต้องการดำรงชีวิตให้คงอยู่ แล้วคนอื่นเล่า เขาไม่อยากดำรงชีวิตหรอกหรือ เราต้องการเลี้ยงดูครอบครัว แล้วคนอื่นเขาไม่เลี้ยงดูครอบครัวหรือ ?. นับอะไรกับการหลอกลวงใจตนละเมิดฟ้าดิน การตอบสนองรุนแรง ไม่มีหรอกที่ตัวไม่ตาย ทั้งยังทำลายครอบครัวจบชีวิต ! เพราะฉะนั้น นี่จึงไม่ใช่ใจของคนที่ทำมาค้าขายหรอก !