คัมภีร์กรรม ไท่ซั่ง กั่นอิ้งเพียน ของเหลาจื่อ ศาสดาแห่งเต๋า
บทที่สาม
ตรวจสอบ
คัมภีร์ : ความผิดมากน้อยมีมากถึงร้อย อยากมีอายุยืนต้องหลีกเลี่ยงเอย
อธิบาย : เรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นโทษบากเป็นเวรกรรม ทั้งบาปมาก บาปน้อย มีเป็นร้อย ๆ เรื่อง คนที่คิดจะมีอายุให้ยืนยาวก็ต้องหลบเื่ิลี่ยงเวรกรรมเหล่านี้ ท่านไท่ชั่งจะสอนคนให้หลีกเลี่ยงการทำความผดไว้ก่อน บอกด้วยว่ามีมากมายเป็นร้อยเรื่อง ก็มีการยกตัวอย่างไว้บ้างในคัมภีร์เริ่มต้นจาก "อะไรไม่ถูกต้องไม่กระทำ" ถึง "ตายก็ยังเกินเลย" บาปกรรมที่ทำดังกล่าวมาแล้วในตอนต้นที่พูดถึงการตัดทอนอายุขัย ซึ่งสอนคนให้ณุ้จักระมัดระวัง พอมาถึงตอนนี้ก็มาพูดถึงการมีชีวิตยืน เป็นการสอนคนให้รู้จักนิยมชมชอบ กล้าหาญที่จะแก้ไขความผิดหันมาทำความดี ถึงแม้จะเป็นความผิดเล็ก ๆ น้อยๆ ก็ไม่กล้าทำ อย่างนี้ก็ต้องอายุยืนยาวเป็นผลตอบแทน โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติธรรม ล้วนต้องสั่งสมบุญกุศล อบรมตนเองด้วยคุณธรรมเป็นหลักปฏิบัติพื้นฐาน ถ้านำเอาหลักปฏิบัติของท่านขงจื่อมีหลัก "สี่ตรงร้อยกระทำ" ในพุทธธรรมมี "บารมีหก" ทางลัทธิเต๋ามี "สามพันบุญแปดร้อยกุศล" เหล่านี้ล้วนเป็นการสั่งสมบุญกุศล หลบเลี่ยงบาปทั้งสิ้น ดังนั้น การที่จะคิดสั่งสมบุญกุศลเพื่อแก้บาป ก็ต้องเรียนรู้ถึงธรรมอันสูงสุด หากจะเรียนรู้ถึงธรรมอันสูงสุด ก็ต้องมีความเข้าใจแจ่มแจ้งในใจตน เพราะว่าใจคือองค์ธรรม และธรรมก็คือกิริยาของใจ หากคนสามารถสำรวตรวจตราใจเพ่งจิต จนเห็นองค์ธรรมกลมสว่างจนปรากฏตรงหน้า เป็นกิริยาที่ไม่มุ่งหวังไม่กระทำ ก็สำเร็จได้เอง ไม่ต้องอาศัยบารมีอะไรก็จะสามารถหลุดฉับพลันถึงฝั่งโน้น นี่ถ้าไม่ใช่บำเพ็ญจนใจโปร่งใสแล้ว จะสามารถทำให้ความคิดต่าง ๆ ห่างหายไปฉับพลันได้หรือ ฝุ่นกิเลสไม่อาจเปรอะเปื้อนได้ มูลใจอิสระ ตั้งใจไม่เกิดแน่นอน เพราะฉะนั้น คนที่บำเพ็ญจนองค์ธรรมสว่าง ไม่ทำให้กายสังขารไปถ่วงจิตเดิมไม่ถูกสภาวะภายนอกมาทำให้ใจจริงของตนสับสน สามารถตอบรับกับสรรพสิ่งตามกลไกลสัมพันธ์ ก็จะมีหลักธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับเหลืออยู่นี่ก็คือการเข้าถึงธรรมอันสูงสุด