ภาคผผนวก : เตือนให้พูดคัมภีร์เป็นการคุ้มครองบุญให้ลุ่มลึก
คัมภีร์กั่นอิ้งเพียนของท่านไท่ชั่ง เป็นการฉุดช่วยโลกทั่วไปนับหมื่นชาติ ประดุจญาณเมตตากลางทะเลทุกข์ เป็นโอสถดีสำหรับเจ็บป่วย หากชาวโลกพูดอธิบายคัมภีร์นี้ ซึ่งมีความเป็นมาที่ยาวนานแล้ว ! อาทิเช่น นายโจวหู่แห่งเมืองตู๋หนิง เขาจะอ่านคัมภีร์นี้ทุกวัน และก็ชอบที่จะเล่าให้คนอื่นฟัง จนสามารถทำให้ผู้ฟังหันมาทำความดี อยู่มาวันหนึ่ง เขาก็ตายกระทันหัน ทางยมบาลพูดกับเขาว่า "เดิมชะตาชีวิตของเธอบันทึกอยู่ในสมุทรอดอยาก เป็นเพราะเธอพูดคัมภีร์นี้ให้คนฟังบ่อย ๆ ดังนั้นจึงต่ออายุขัยให้ยาย และแก้บันทึกไปที่สมุดอายุขัยแล้ว" ทั้งยังพูดต่ออีกว่า "คัมภีร์นี้หากนำมาปฏิบัติ เมือง ๆ หนึ่งก็ได้พ้นภัยพิบัติ หากทั้งโลกปฏิบัติ ทั้งโลกนี้ก็เจริญมั่งคั่ง" หลังจากโจวหู่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา จึงบันทึกวาจาของยทโลกไว้เพื่อใช้กล่อมเกลาชาวโลก คนที่ท่องอ่านคัมภีร์กั่นอิ้งเพียน ที่เป็นกุลบุตร กุลธิดา ควรหาเวลาอธิบายคัมภีร์นี้ให้ทุกคนฟัง เพื่อให้คนในที่ทุกตรอกซอยได้ฟัง ก็จะกลายเป็นซอยเจริญสุข อย่างนี้แล้วบุญกุศลเพิ่มพูนจนไม่อาจคาดคิดได้ ! คนดีในปัจจุบัน ควรจะบังเกิดใจตักเตือนคน ไม่ควรที่จะให้ตนดีคนเดียว คนที่เป็นครูอาจารย์ ควรจะใช้เวลาที่เหลือในชั่วโมงกันเวลาไว้นิดหนึ่ง เพื่อเล่าให้นักเรียนฟังถึงพื้นฐานหลักการเป็นคนดี นักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงอุดมศึกษา ควรพูดให้พวกเขาฟัง ควรเตือนให้เขาสวดท่องวันละเที่ยว และน้อมไปปฏิบัติตลอดชีวิต จะเป็นการช่วยเหลือให้สร้างกรรมดี อันนี้จะเป็นบุญกุศลมหาศาลของครูอาจารย์ ! คนที่เป็นพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สาวในปัจจุบัน ถ้าต้องการให้ลูกดี ให้น้องดี เป็นการรักษากายและบ้านให้ร่ำรวย ก็ควรที่จะพูดอธิบายกั่นอิ้งเพียนให้ฟังทุกวัน ให้รู้จักหลักธรรมเหตุผลและประจักษ์หลักฐาน ทำให้ลูกหลานสามารถที่จะสั่งสมบุญกุศลได้ อย่างนี้ก็จะเป็นบ่อเกิดการสร้างบุญให้ยืนยาวไกล ! เมื่อตนเองได้อ่านจบแล้ว ยิ่งต้องเตือนให้คนอื่นอ่าน หรือเมื่อตนเองได้เล่าอธิบายให้คนอื่นฟังแล้ว ก็ต้องเตือนคนอื่นไปเล่าต่อ ๆ กันไป ขณะที่เล่าอธิบาย จะต้องมีความสุข ไม่เบื่อที่จะเล่ารายละเอียด ทำอย่างไรเพื่อให้ผู้ฟังภายหลังแล้วก็จะมีชีวิตชีวา แก้ไขความผิด มุ่งสู่ความดี นั่นคือ ประสิทธิผลอย่างแท้จริงที่ได้รับจากการกล่อมเกลาล่ะ !
~~~ จบเล่มบริบูรณ์ ~~~