ปรัชญาเมิ่งจื่อ : ปราชญ์เมิ่งจื่อ
๑. บทเหลียงฮุ่ยอ๋วง ตอนต้น
วันนี้ หากอ๋องท่านใช้การปกครองด้วยการุณยธรรม เพื่อให้เหล่าขุนนาง ทหารทั้งหมด ล้วยอยากอยู่คู่ราชวงศ์อ๋องท่าน ชาวไร่ชาวนา ล้วนอยากคราดไถบนผืนแผ่นดินของอ๋องท่าน คนค้าขาย ก็ล้วนอยากเก็บสินค้าไว้ภายในตลาดของอ๋องท่าน คนเดินทาง ก็ล้วนอยากเข้าออกตามถนนหนทางของอ๋องท่าน ประชาชนที่เกลียดชังเจ้าเหนือหัวของเขา ก้จะพากันมาระบายความทุกข์กับอ๋องท่าน หากเป็นเช่นนี้ ใครหรือจะต่อสู้กับอ๋องท่านได้ พระเจ้าฉีเซวียนอ๋วงว่า "เรารู้ตัวว่าด้อยปัญญา เกรงว่าจะไม่อาจทำเช่นนี้ได้ ขอท่านได้ช่วยให้เราสมความตั้งใจด้วย จงสอนเราให้ชัดเจน แม้เราจะไม่ปราดเปรื่อง ก็จะลองทำตามท่านดู" ปราชญ์เมิ่งจื่อว่า"จะต้องตระหนักอีกว่าชาวบ้านชาวเมืองหากไม่มีสินทรัพย์มั่นคง จิตใจก็จะขาดความหนักแน่น จิตใจหนักแน่นนี้ มีแต่ "สุชนผู้กล้า" เท่านั้นที่เป็นได้ สำหรับชาวบ้านชาวเมืองทั่วไป หากไม่มีสินทรัพย์มั่นคง จิตใจก็จะไม่หนักแน่น เมื่อปราศจากความหนักแน่นมั่นคง ก็จะประพฤติตนนอกลู่นอกทาง เสียหายไปตามความพอใจสุดท้ายก็ต้องตกไปสู่โทษผิด ถูกจับมารับโทษ เช่นนี้ เท่ากับใช้ร่างแหไม่มีรูปขอบข่ายชาวบ้านชาวเมืองไว้ ไหนหรือคือเจ้าเหนือหัวผุ้การุณย์ปกครอง เป็นการปกครองที่ใช้ร่างแห ครอบข่ายประชาราษฏร์ ไว้มิใช่ดอกหรือ ด้วยเหตุดังนี้ ประมุขผู้ชาญฉลาดกำหนดทรัพย์สินแก่ประชาราษฏร์ จะต้องให้เขาเห็นว่ามีฐานะพอควรแก่การปฏิการะบิดามารดา พอควรแก่การเลี้ยงดูอุปการะลูกเมีย ในวัยฉกรรจ์ มั่นใจต่อความอุดมสมบูรณ์ได้ตลอดชีวิต ในวัยชรา มั่นใจว่าจะไม่อดอยากตายอย่างอนาถา จากนั้น ผลักดันให้เข้าสู่คุณความดี ดังนี้ ประชาราษฏร์ก็จะยินดีอยู่ในความปกครองอย่างง่ายดาย วันนี้นั้น ประมุขควบคุมสินทรัพย์ประชาราษฏร์ เก็บภาษีอากร จนทำให้ไม่พอแก่การปฏิการะบิดามารดาได้เต็มที่ ไม่พอแก่การอุปการะลูกเมียได้ทั่วถ้วน ในวัยฉกรรจ์ ต้องเหนื่อยยากลำบากชั่วชีวิตเช่นนี้ มิพ้นที่ชราวัยจะต้องอนาถอดตาย สภาพการณ์ดังกล่าว แม้เพียงช่วยเหลือผู้ที่จะต้องอดตายก็ยังไม่ทั่วถึงเลย ยังจะมีเวลาพูดถึงการปกครองโดยจริยมโนธรรม หรืออ๋องท่านแทนที่จะใช้ระบบศักดินาปกครอง ไฉนไม่เปลี่ยนการปกครองโดยธรรมเล่า ทุกครอบครัวให้มีบ้านอาศัยในเนื้อที่ห้าหมู่ (หนึ่งหมู่เท่ากับหกพันตารางฟุต) ปลูกต้นหม่อนไว้ริมรั้วบ้าน อายุห้าสิบ ก็จะได้สวมใส่ผ้าไหมแพรพรรณแล้ว สุนัข สุกร ไก่ สัตว์เลี้ยงเหล่านี้ หากไม่ิดต่อการเจริญพันธุ์ตามควรแก่ฤดูกาล คนที่อายุเจ็ดสิบปีจะกินเนื้อสัตว์ ก็จะได้กิน จัดสรรที่นาทำกินให้ครอบครัวละหนึ่งร้อยหมู่ (6,000 ตารางฟุต X 100) เพาะปลูกให้ถูกต้องตามฤดูกาล สมาชิกครอบครัวมีแปดคน ก็จะไม่มีที่ต้องอดตาย อีกขั้นหนึ่งคือ ก่อตั้งสถานศึกษา ให้การอบรมธรรมะของความกตัญญู พี่น้องปรองดอง คนผมขาว (ชราวัย) ก็จะไม่ต้องแบกหามของหนักอยู่ตามทาง อายุเจ็ดสิบ (สูงวัย) ได้สวมใส่แพรพรรณ กินอิ่ม ไพร่ฟ้าประชาราษฏร์ไม่ขาดแคลนเสื้อผ้าอาหาร เช่นนี้แล้ว บ้านเมืองยังไม่รุ่งเรืองได้ คงไม่มี
(บทนี้ ท่านปราชญ์เมิ่งจื่อยกตัวอย่างตักเตือนให้พระเจ้าฉีเซวี๋ยนอ๋วง ละทิ้งความคิดเผด็จการที่จะปกครองบ้านเมืองในระบบศักดินาเบ็ดเสร็จ)
จบบทเหลียงฮุ่ยอ๋วงตอนต้น