collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ร้อยขันติ : คำนำ  (อ่าน 57688 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                      ร้อยขันติ   

               แปดสิบแปดขันติ  :   สงสารคนรับโทษตกต่ำ

        เพื่อนบ้านใกล้กันมีคนหนึ่งชื้อ แปะบ่วง  คนพี่ก่อกรรมทำชั่ว ครอบครัวขัดสนมาก่อน ต่อมาก็ร่ำรวยขึ้น ขณะมาพบกับกงอี้แล้วนั่งคุยกัน กงอี้ตักเตือนให้เขากลับตัวแก้ไขความชั่วเสีย แล้วบอกให้เฮ้งแปะบ่วงแจ้งฟ้าดินสาบานว่าจะกระทำแต่ความดี จึงจะสามารถเสวยสุขได้นาน นายแปะบ่วงเชื่อถืออย่างสนิท จึงสำนึกผิดต่อฟ้า แก้ไขความชั่วไปสู่ความดี เขาขยันปฏิบัติอยู่ 3 ปี ครอบครัวยังอับโชค ทำให้เฮ้งแปะบ่วงเกิดคลางแคลงใจ สงสัยในคำพูดของกงอี้ อยากกลับไปประพฤติตัวเหมือนเมื่อก่อน มีวันหนึ่งก็มาพูดกับกงอี้ว่า เรื่องกุศลในโลกนี้เป็นของปลอม เมื่อก่อนฉันเคยทำชั่วมาบ้านก็สุขสบาย ตั้งแต่มาฟังคำพูดของท่านสาบานว่า จะแก้ไขความชั่วมาทำความดีแล้ว คนในบ้านตายลงไปครึ่งหนึ่ง ทั้งยังโดนอัคคีภัย 3 ครั้ง ไหนว่าทำดีจะได้ดีเล่า กงอี้ว่า เป็นด้วยเธอกระทำความดีซาบซึ้งฟ้า ไม่ใช่ว่าฟ้าจะทำร้ายเธอ คนที่แก้ไขความผิดนั้นเหมือนการยืมหนี้ เอาหนี้หักลบหนี้ ต้องทำให้หนี้สินหมดไม่ค้างคากันก่อน ต่อไปก็จะไม่มีใครมาถามไถ่เรื่องหนี้ เหมือนเธอที่หนี้กรรมเก่ายังไม่หมด น้ำแก้วเดียวจะไปดับไฟได้หรือ นี่ด้วยว่าฟ้ากระทำต่อเธอเต็มที่ต้องรับทุกข์รับเหนื่อยหักบุญในปัจจุบัน ทดสอบว่าใจเธอจะจริงใจหรือไม่ ดังนั้น ถ้าหากเธอมีรากกุศลดี ไม่หวั่นไหวสั่นคลอน ย่อมมีมงคลไหลมาเทมา มีหรือจะปลอม โบราณมีบทธรรมบทหนึ่ง พูดเกี่ยวกับฟ้า เธอเอาไปอ่านดูก็จะรู้ละเอียด นายแปะบ่วงรับไปอ่านว่า

ก้มกราบรายงานฟ้า ฟ้ายินดีทำไม                  ฟ้าไม่ยินดีตนแต่ยินดีตามธรรม
ควรรู้ว่าขัดหลักธรรมคือฝ่าฝืนฟ้า                    ฟ้าพิโรจน์ตั้งแต่นั้นมา
โกรธเธอเป็นคนไม่ซื่อสัตย์                          พ่อแม่พี่น้องไม่มีจริยธรรม
ไม่มีเมตตาไม่มีกตัญญูไม่นับถือเพื่อน             แย่งนาแย่งที่แย่งทรัพย์สิน
โกรธเธอเป็นคนไม่ญาติดีกัน                        สามีภรรยาเพื่อนมิตรกล่าวหากัน
ไม่คิดอยู่ร่วมกันคบหาเพื่อน                         ใจแคบเห็นแก่ตัวไร้้สัจจะไม่ละอาย 
โกรธเธอเป็นคนที่ลืมจิตตน                          ความอยากได้ผลประโยชน์ถึงวางแผน
เพียงหวังให้บ้านตนอิ่มอ้วนสมบูรณ์                ไม่คิดบ้านอื่นบ่นทุกข์เข็ญ
โกรธเธอเป็นคนนิสัยเสพสกปรก                    ไม่คิดว่าตนก็มีพี่สาวน้องสาวเหมือนกัน
เพียงชั่ววูบที่พอใจก็ทำลาย                         พิษสะสมฟ้าจึงโกรธถึงที่สุด     
โกรธเธอเป็นคนแพร่ชั่วให้มวลชน                   คนผิดน้อยร้อยคนมีแค่สองสาม
ป้ายสีป้ายมลทินล้วนไม่มีมูล                         มีแต่ตายทางกุศลไม่อณุญาต   
ขอให้พวกมนุษย์เกิดสำนึกเข้าใจ                    ใจแกร่งฟ้าผ่าไม่เพื่มให้เธอ
ทำกุศลสิบต้องปลูกฝังกุศลสิบ                        เอากุศลไปยันอกุศลโทษมลาย
คล้อยตามจิตไม่ให้ห่างแม้ขณะ                       นานไปกลายเป็นวัชรกายของตน
บรรดาบาปไม่ทำบุญสร้างไว้                           ตำหนักฟ้ารักเมตตาให้โชคลาภ
ถ้าไม่ละหลงประพฤติอันธพาล                        มีเงินกองเป็นเป็นภูเขาก็เท่านั้น
ขาดลูกหลานติดตระกูล                                วิญญาณก็คงรับโทษในนรก
อย่าได้พูดว่าฟ้าพูดไม่ได้                              คนควรซาบซึ้งฟ้าให้ธรรมตรง

        นายเฮงแปะบ่วงอ่านจบ ก็คิดว่าโศลกโบราณที่พูดเรื่องของฟ้า ตนทำผิดมาตลอดต้องว่าโทษกรรมของฉันหนัก ได้เพราะท่านประทานโศลกแก่ข้า ข้าขอสาบานจะไม่กระทำชั่วจะสร้างแต่ความดี ถึงตายก็ไม่เปลี่ยน นี่เพราะกงอี้สงสารคนตกต่ำ เป็นขันติที่ 88 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

แรงคนแรงกว่าหลักธรรมฟ้า                  ทำงานหาขัดขีนกันไม่
กลับน้อมนอบถ่อมตนเสมอไป               ระมัดระวังอย่าให้คนทำผิด 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                    ร้อยขันติ   

             แปดสิบเก้าขันติ  :   เตือนคนฝึกปราณยุติก่อคดี

        บ้านที่ห่างไกลไปประมาณ 40 ลี้ มีชายคนหนึ่งชื่อ ฉิ้นเลี้ยง ครอบครัวพอจะมีกิน นิสัยซื่อตรง วันหนึ่งมาหากงอี้ด้วยอาการไม่สบาย คนเล่าว่าจะฟ้องร้องคนแซ่ทั้ง เรื่องปิดกั้นทางน้ำ ทางฝ่านทั้งใช้อิทธิพลไม่ยอมปล่อยน้ำมาทางร่องน้ำ อาศัยคนรู้จักให้ไปเจรจาถึง 3 ครั้งก็ไม่ได้ผล เขาไม่ยอมให้ข้าใช้น้ำ ข้าคิดว่าจะไปฟ้องศาล วันนี้ก็ไม่สบายมาขอความเห็นจากท่าน กงอี้ว่า ยังมีแหล่งน้ำอื่นอีกไหม นายเลี้ยงว่าทางอื่นก็มีน้ำใช้อยู่ แต่ทนอาการกดดันไม่ไหว แต่ทางน้ำนี้สมัยก่อนมีมานานแล้ว เขาใช้กำลังแย่งเอาไปหมด ขณะนี้ข้าอายุจะห้าสิบแล้ว มีบุตรชาย 2 คนแต่ก็ยังเด็กอยู่ หากข้าไม่เอาเรื่องกับเขาอาศัยศาลสั่งให้ วันหลังข้าตายแล้ว ลูกก็จะถูกเขาเหยียดหยาม กงอี้ว่า ไม่ต้องให้ศาลจัดการ ลูกก็จะไม่ถูกเหยียดหยาม นายเลี้ยงถามว่า จะไม่ถูกเหยียดหยามอย่างไร กงอี้ว่าให้ฝึกลมปราณและยุติฟ้องร้อง ความซื่อสัตย์และความการุณยธรรมยังมีอยู่ ผู้มีหลักธรรมจะไม่แย่งชิง ก็คือเก็บเยื่อใยไว้ให้เขา วันหลังเขาจะรู้สึกตัว แก้ไขด้วยพระคุณ ความเลวร้ายจะหยุดลงได้อย่างไร  กงอี้ก็พูดเรื่องบ่มเลี้ยงปราณของคนโบราณให้ฟังว่า "บ่มเลี้ยงปราณอาศัยใจ ปราณเรียบทั้งร้ายเจ็บป่วยก็หาย" ปราณมีชื่อ 2 ชนิด แยกเป็น 2 ตอน ชื่อหนึ่งเกิดขึ้นง่ายเตือนให้ระวังหลบเลี่ยงเสีย อีกชื่อหนึ่งตามนิสัย ปรับปรุงนิสัยขยันบำเพ็ญจิต ยามปกติตรึกคิดให้ละเอียด ถ้าใจกับอารมณ์ไม่ถือสาเกิดขึ้นก็ต้องระงับบ่มเลี้ยงน้ำไฟให้พอดีกัน เผชิญปัญหาต้องอดทนคำพูดให้มันละลายก็จะถึงอริยปัญญา อารมณ์จะกว้างไม่มีกำจัด จิตใจก็เบาสบาย เมื่่อกงอี้พูดจบ นายเลี้ยงว่า ขอถามหน่อยว่าอารมณ์ดีมีประโยชน์อะไร ข้าจะไปหาน้ำจากแหล่งอื่นมาใช้ ก็จะไม่ต้องกลัวศาลไปควบคุม นี่คือกงอี้สอนคนให้ฝึกอบรมอารมณ์ เป็นขันติที่ 89 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

รู้หยุดดับไฟที่ไม่มีชื่อ                  มีแต่กงอี้ที่ซื่อเห็นแตกต่าง
ช่วยคนอาศัยวิธีโบราณอ้าง           เขียนกลอนวางอารมณ์โลกหมดสิ้น

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                        ร้อยขันติ   

                     เก้าสิบขันติ  :  อ่านขันติคีตาซาบซึ้งคน

        กล่าวคือ กงอี้มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ ปึงข่งซิ้ว มาคุยกับกงอี้ว่า มีผู้คนจำนวนมากยกย่องท่านว่าเป็นคนผู้มีขันติผ่อนปรนที่สุด วันนี้จึงมาขอคำชี้แนะว่า ความหมายของการอดทนผ่อนปรนนั้นมีดีอย่างไร กงอี้จะอ่านบทกลอนให้ฟังว่า

อดทนอารมณ์ยอดที่สุด             สามารถลุถึงธรรมได้แท้จริง
อดทนได้น้อยก็ลุธรรมน้อย         อดทนมากก็สร้างธรรมได้ใหญ่
ไม่มีความอดทนพาตนตาย         มีความอดทนชีวิตยืนยาว
พิจารณาลึกอักษรอดทนแข็ง       ย่อมชนะผู้แกร่งได้ดี
เรื่องทั้งหลายอดทนได้ครบ         บุญกุศลตามตัวอดทนมา
รู้จักความหมายของอดทน          กายทั้งกายล้วนมีค่า
อดทนผ่อนปรนดีที่หนึ่ง             พวกเรารีบมาศึกษา

        พออ่านจบนายข่งซิ้วก็พูดว่า ฟังคติพจน์ที่ท่านสอนแล้ว ข้ามีเรื่องอยู่ 3 เรื่องที่ยังไม่จบ กงอี้ว่าพูดให้ฟังซิ ข่งซิ้วว่า เรื่องที่หนึ่งคือ สุสานของบรรพบุรุษมีต้นไม้อยู่ 2 ต้น ถูกคนแซ่เอี้ย ตัดไปต้นหนึ่ง คนรอบข้างเขาตัดสินว่าเอี้ยจะต้องชดเชยความผิด ข้าก็ยังไม่ได้ติดตาม  เรื่องที่ 2 คือว่า ข้าจูงลูกวัวตัวหนึ่งไปให้นายอ้วง ตรวจดูว่าดีหรือไม่ดี ผูกลูกวัวไว้ที่หน้าบ้านประตูบ้านของนายอ้วง  นายอ้วงเป็นหนี้คนอื่นก็เลยเอาวัวไปขัดหนี้ นายอ้วงมาขอร้องข้าจะชดใช้เงินให้ แต่ข้าก็ไม่ยินยอม เรื่องที่ 3 คือข้าได้ว่าจ้างครูมาสอนหนังสือที่บ้าน มานานกว่า 2 เดือนแล้ว พอพบกับตั้งกวงเจ็ก ก็แอบตกลงพาไปสอนที่บ้านของเขา ตามความคิดของข้าจะเอา 3 เรื่องไปฟ้องร้องต่อศาล เมื่อมาฟังคำของท่านแล้ว การอดทนผ่อนปรนคือโชควาสนา  คงต้องยุติเรื่องทั้งสามกระมัง กงอี้ว่าดี ทั้งสามเรื่องล้วนมีเหตุผลควรยุติ ย่อมได้รับบุญวาสนาจากทั้ง 3 บ้านที่รังแกเจ้า  นี่คือกงอี้ใช้ธรรมซาบซึ้งคน เป็นขันติที่ 90 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

คนมีบุญวาสนาด้วยใจกว้าง             เข้าใจหาทางออกเหมือนฟ้ามหึมา
ดวงใจเหมือนตะวันจันทรา              ส่องประภาอบอุ่นคลายหนาว

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                          ร้อยขันติ   

                    เก้าสิบเอ็ดขันติ  :  กงอี้ปลอบคนให้คลายแค้น

        มีอยู่วันหนึ่ง กงอี้พบคนหนึ่งชื่อ เฮ้งกิมเจ็ง มาพูดกับกงอี้ว่า ข้ามีความแค้นกับคน แซ่หวม ชื่อ เสียวเต็ก สาเหตุมีคดีความทำให้พี่ชายข้าต้องตายไป แต่ตอนนี้นายเสียวเต็กก็ตายไปแล้ว ภรรยาของเขา แซ่โง้ว มีลูกชายคนหนึ่ง เป็นหม้ายไม่ยอมแต่งใหม่  แ่ตอนนี้มีคนชื่อ อวงเง็กเซ้ง จะเอาไปเป็นเมีย นางโง้วอยู่ใกล้บ้านข้า ข้าจะอาศัยโอกาสนี้กดดันให้นางโง้วแต่งไปเสีย ลูกกำพร้าไม่มีที่พึ่งก็จะตกต่ำ ข้าจะวางแผนทำร้ายไม่ให้มีผู้สืบสกุล กงอี้ว่า วางแผนเช่นนี้ไม่ได้  หากทำเช่นนั้นฟ้าไม่ยอม ดินไม่รับ คนแซ่หวมที่ทำร้ายพี่ชายของเธอก็ตายไปแล้ว เจ้าคิดจะข่มเหงเธอ ไม่ให้รักษาจารีตพรหมจรรย์ได้ตลอด ความชั่วเช่นนี้ท่วมฟ้า แล้วยังจะคลุมลูกกำพร้าของเขาอีก บาปนี้มหันต์นัก กิมเจ็งจึงว่า ตามที่ท่านพูดความแค้นของพี่ชายก็ชำระไม่ได้นะซิ กงอี้ว่า ฟ้าก็ชำระความให้เธอแล้ว เธอทำไมไม่คิดล่ะว่าเขาทำร้ายพี่ชายเธอถึงตาย บัดนี้เขาก็ตายไปแล้ว สามารถพูดได้ว่า ฟ้าสนองตอบยุติธรรม ถ้าเธอยังจะกระทำความชั่วนั้นอีกฟ้าคงเอาหัวเธอแน่ กรรมตอบสนองไม่มีผิดเพี้ยน กงอี้พูดแล้วก็ร่ายโศลกให้ฟังว่า ""อันความโกรธบีบคั้นคนถึงอันตราย คนชั่วน้อยคนนักที่จะรอดพ้น หนึ่งรู้แต่ว่าโหดร้ายสกปรกอย่างเดียว สองไม่รู้จักความใสสะอาด รู้แต่จะแก้แค้นลูกเดียว ตาข่ายผูกมัดอารมณ์โลภและขี้เกียจ มนุษย์อยู่ได้กี่สิบปี อาศยความชั่วติดต่อกันสามชั่วโคตร วันหนึ่งเมื่อตายลง ในยมโลกก็ไม่มีความดีพลอยทำให้ลูกหลานเสียหาย วิบากกรรมรัดตัวแก้หลุดยาก"""พอกงอี้ ร่ายจบลง นายกิมเจ็งก็พูดว่า ขอทำตามโอวาทของท่านอย่างระมัดระวัง แค้นของพี่ชายไม่ต้องชำระแล้ว กงอี้ว่า เธอไม่ทำกรรมก็ไม่สนอง  เธอยังต้องน้อมนำโอวาทของพระเจ้าบุ้นเซียงไปปฤิบัติ เอื้ออาทรคนกำพร้า สงสารคนโดดเดี่ยว แม่ลูกแซ่หวมบ้านอยู้ใกล้กับเธอ ยิ่งต้องเพิ่มความอาทร  ขอให้ฟ้าคอยเหลียวแล  กิมเจ็งตอบรับคำอย่างดี คลายอวิชชาไปทีเดียวเมื่อใจเปลี่ยนกลับ แก้ไขความชั่วไปทำความดี ความแค้นเอาบุญคุณดูแล  นี่คือกงอี้เร่งเร้าคนให้คลายความแค้นมาอาทรกำพร้า เป็นขันติที่ 91 ต่อมาภายหลังคนก็แต่งกลอนให้

บอกความหมายของแค้นให้เข้าใจ             เพื่อจะได้เวทนาคนกำพร้า
บ้านใกล้เคียงอาทรได้ทุกเวลา                 ความกรุณาบริจาคได้สะดวก

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                     ร้อยขันติ   

             เก้าสิบสองขันติ  :  จิตบริสุทธิ์ว่าคน ชักนำไปทางดี 

        กล่าวคือ กงอี้พูดคุยกับนาย ลิ้มเคี้ยว ถึงเรื่องราวต่าง ๆ นายเคี้ยวปีนี้อายุประมาณหกสิบ เป็นผู้มั่งคั่ง นายเคี้ยวพูดว่า ข้าเป็นคนที่ชอบพูดใครตรง ๆ ทำไมต้องตักเตือนคนให้ทำความดี พูดไปจนปากแฉะ ข้าคิดว่านิสัยคนเป็นเช่นนั้น ถ้านิสัยโกงก็โกงอยู่ หรือว่าคนโกงจะเป็นคนดีได้ นิสัยตรงก็ตรง หรือตรงจะกลายเป็นโกง กงอี้ว่านิสัยตรงไม่พูดว่าตรง นิสัยโกงไม่พูดว่าโกง  ผู้มีนิสัยตรงก็ปฏิบัติมหาธรรม  ถ้าไม่ใช่อริยเจ้าก็ทำไม่ได้ นิสัยโกงก็เป็นปุถุชนที่เกกมะเรก ถ้าไม่ตักเตือนกล่อมเกลามีหรือจะคล้อยตาม  นายเคี้ยวว่า ท่านวิจารณ์ข้าตรง ๆ ขอให้ท่านวิจารณ์นิสัยข้าว่าเป็นอย่างไร กงอี้ปิติยินดีพูดว่า นิสัยอารมณ์ถอยหลบแข็ง มีแต่ตัวกู ไม่มีเก่งกว่า เรื่องง่ายก็จะตรงไว้ก่อน ถ้าเจรจาไม่เข้ากัน บางทีเรื่องดีกลับเป็นไม่ดี เพื่อนฝูงเข้ามาตักเตือนยาก พี่น้องเผื่อแผ่น้อย เอาแต่อารมณ์  รู้จักพอน้อย แม้มีเหตุผลยาวนานและละเอียด แม้เปลี่ยนแปลงก็ทำลายบุญ ผู้อาวุโสก็ยังถูกทำร้าย นายเคี้ยวว่า ท่านวิจารณ์ข้าเหมือนพระเจ้า  ที่จริงข้าไม่สมควรรับคำตรงได้ พวกเพื่อนฝูงก็ไม่มีใครตักเตือนข้า  เพราะฉะนั้น พี่น้องข้าก็ไม่ปรองดองกัน กงอี้ว่า ว่าตามหนังสือของปราชญ์อริยะแล้ว พี่น้องไม่ปรองดอง เพื่อนฝูงไม่สมานฉันท์ แสดงว่าคุณสัมพันธ์ห้าบกพร่อง ตรงจะมาจากที่ไหน นายเคี้ยวว่า ขอบคุณที่ท่านพูดตรง ๆ สอนข้า จากวันนี้ไปจะต้องปรับปรุงคุณสัมพันธ์ห้า ทำตามโอวาทของปราชญ์อริยะ เกือบจะสูญเปล่าทั้งชีวิตตกต่ำด้วยทำตัวเอง กงอี้ก็พูดขออภัย จากนั้นก็ลาจากกันไป แล้วพวกเขาก็แก้ไขปรับปรุงจนพี่น้องรักใคร่กัน นี่แหละคุณค่าที่กงอี้ใช้จิตบริสุทธิ์ชักนำคนไปสู่ความดี เป็นขันติที่ 92 ต่อมาภายหลังมีคนเขียนกลอนให้

พิจารณาอักษรตรงไม่ครบถ้วน             เข้าใจคุณสัมพันธ์ล้วนกรรมสัมพันธ์
กงอี้ชักนำคนให้รู้อดทนกัน                 แข็งอ่อนสงเคราะห์กันตามอริยะ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                       ร้อยขันติ   

               เก้าสิบสามขันติ  :  รับบริจาคด้วยความนุ่มนวล

        กล่าวคือที่ใกล้ ๆ กับบ้านกงอี้ มีการก่อสร้างศาลเจ้าปู่ฟ้า (เทียนกง) หนึ่งหลัง มีหัวหน้าดำเนินการชื่อ เฮ้งเต็งจับ ได้มาขอร้องให้กงอี้ไปช่วยพูดเรื่องของเอี้ยปู้เลี้ยง ด้วยขอให้เอี้ยปู้เลี้ยงบริจาคเงินก่อสร้าง 5 พันอีแปะ ตอนนั้นนายปู้เลี้ยงได้ลั่นวาจาตอบตกลงแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่ให้เงินบริจาค กงอี้จึงไปที่บ้านเฮ้งเต็งจับแล้วพากันไปที่บ้านของนายปู้เลี้ยง กงอี้ะูดว่า ข้าได้รับการขอร้องจากนายเฮ้งให้มาเจรจากับท่านว่า การที่ท่านจะบริจาคเมื่อวันก่อนนั้น บัดนี้จะมาขอเก็บเงินนั้น นายปู้เลี้ยงตอบว่า ข้าไม่มีเงินช่วยเหลือ กงอี้พูดว่า เมื่อยินดีบริจาคแล้วบอกว่าไม่มี นายปู้เลี้ยงว่า เขาเชิญท่านมาเอาเงินรีบ ๆ สาวเท้าออกไป กงอี้นั่งอยู่บ้านคนเดียวกำลังทำสมาธิอยู่ ทันใดก็ได้ยินข้างบ้านมีคนพูดกับนายปุ้เลี้ยงอย่างเสียใจว่า ลูกคนโตของปู้เลี้ยงเมื่อคืนเสียพนันไป 8 พันอีแปะ เช้าวันนี้ก็ไปข่มขืนเมียชาวบ้าน ถูกจับได้ต้องเสียเงินไปอีก สองพัน เขาจึงปล่อยตัวมา นายปู้เลี้ยงว่ากรรมตามสนอง ฯ อีกสักครู่หนึ่งนายปู้เลี้ยงก้เข้ามาที่ห้องโถงมาพูดกับกงอี้ว่า สะสมดีหรือทำกุศลดี  เนื่องด้วยกงอี้รู้ว่า ปู้เลี้ยงรู้สำนึกตัวแล้วจึงว่า เมื่อสะสมทรัพย์ก้อย่าโอ้อวด โดยไม่ห่วงครอบครัว หากอยากให้บ้านสมบูรณ์อยู่นานก็ต้องซ่อมสละเงินสร้างกุศล เมื่อมีกุศลคุ้มครองลูกหลาน ทั้งปราชญ์ ทั้งกตัญญูจะเพิ่มพูน ขี้เหนียวไม่ยอมทำกุศล  ไม่มีกุศล ก็มีลูกหลานไม่ดี เป็นคนเสเพลเที่ยวเสพกามและเล่นการพนัน เห็นเงินทองเหมือนดินทราย ในที่สุดบ้านก็ล้มสลาย เป็นที่รู่เห็นของคนทั่วไป ถ้าหากต้องการแสวงหาสร้างกุศล มีสามทางแพร่งใหญ่หนึ่งต้องเตรียมรุณสัมพันธ์ห้าให้พร้อม  สองบ้านใกล้เรือนเคียงต้องปลูกไมตรี  สามโอวาทแห่งพรหมลิขิต  เมื่อกุศลสมบูรณ์ธรรมก็บังเกิดขึ้น บารมีก็สำเร็จได้ในวันหนึ่ง ฟ้านั้นตอบสนองชัดเจนไม่ผิดเพี้ยน นายปู้เลี้ยงว่า ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นผู้มีการศึกษาก็ยังไม่มีความรู้ละเอียด ทั้งนี้เพราะมัวเมาในผลประโยชน์ เห็นแก่ทรัพย์เป็นสำัคัญ หากพูดตามความหมายของท่านแล้ว ทำความดียังประโยชน์แก่ผู้อื่น คงต้องไหว้วานท่านมอบเงินให้กับทางศาลเจ้าแล้วล่ะ ข้าจะนำเงินมามอบไว้ให้กับท่าน ไม่รบกวนท่านแล้ว กงอี้เดินทางกลับไป ผ่านไปอีก 2 วัน เขาก็นำเงินมามอบให้เรียบร้อย นี่คือการกล่อมเกลาให้หันมาสู่ความดี เป็นขันติที่ 93 ต่อมาภายหลังคนก็แต่งกลอนให้

คนดีย่อมเอาความดีน้อมนำ             พบอุปสรรคกระหน่ำคิดกลับหลัง
คนดื้อรันปะพรมน้ำมนต์ขลัง            ให้กำลังอย่าเห็นทรัพย์สำคัญสุด

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                      ร้อยขันติ  

               เก้าสิบสี่ขันติ  :  สอนคนไม่ให้แก่งแย่ง

        มีวันหนึ่ง ทันใดก็ให้มีคนแซ่เฮ้ง ชื่อขวยบุ้น บ้านอยู่ใกล้กัน ถือมีดเข้ามาหากงอี้แล้วพูดว่า นายหลี่เซ้งสือ กำลังจะมาตัดต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ระหว่างเขตหนึ่งต้น ข้าก็อยากมาขอความเห็นจากท่าน ตนมีความคิดจะไปฆ่ามัน ไม่ทราบว่าท่านจะว่าอย่างไร  กงอี้ว่าต้นไม้แค่ต้นหนึ่งมีราคาค่างวดไม่เท่าไรจะต้องทำโหดเหี้ยมกันหรือ เกรงว่าเป็นเรื่องไม่สมควรเสียหายทั้งคนทั้งทรัพย์ ไฉนจึงเป็นเช่นนั้น นายเฮ้งว่าข้าโกรธจนทนไม่ได้ กงอี้ว่าเมื่อเธอมาถามความเห็นของข้า ก็ขอให้นิ่งฟังข้าพูดโศลกให้ฟังจะดีกว่า กงอี้ก็ร่ายโศลกว่า ""คนมีอารมณ์เจ็ด แม้โทสะยับยั้งยาก โอสถระงับโทสะ ขันติรักษาได้ยอด รักษาช้าเกิน แข็งขืนจะเลวร้าย หากน้ำท่วมหัวชีวิตก็อ่อนระโหย เชื้อไฟที่ลุกไหม้ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ หินสองก้อนกระทบกัน ย่อมมีแตกข้างหนึ่ง โทสะเกิดจากความหวั่นไหว ขันติระงับด้วยความสงบ ถ้าโทสะเกิดขึ้น ต้องดับด้วยขันติ คิดดูแค่ต้นไม้แนวเขต ค่าเงินสักเท่าไร หากกระทำโหด เกรงว่าจะรับโทษ อารมณ์ระเบิดสูญทรัพย์ ควรหันหลบโดยใจ  ยอมคนบุญมาก คนอดทนมีปัญญา อดทนถึงที่สุดจะค่อย ๆ จางคลาย  อดทนถึงสามครา คือข้ากงอี้ไงเล่า นายเฮ้งว่า ได้ฟังโศลกดีของท่าน นับว่างามยิ่ง อันต้นไม้ต้นเดียวค่างวดไม่เท่าไร ขอน้อมรับโอวาทของท่าน แล้วกลับบ้านไป ไม่ไปแก่งแย่ง  นี่คือกงอี้สอนคนไม่ให้แก่งแย่ง เป็นขันติที่ 94 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

เอาปัญญายังประโยชน์เขาทวี             เอาความดีวิจารณ์แก้แย่งชิง
เอาโศลกชี้แนะลึกซึ้งยิ่ง                   โบราณนักศึกษาจึงมีพระคุ้ม    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27/07/2011, 01:27 โดย jariya1204 »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                      ร้อยขันติ   

                เก้าสิบห้าขันติ  :  ยอมเสียเพื่อสงสารคนจน

        กล่าวคือ กงอี้ได้ขายวัวตัวหนึ่งราคาสองหมื่นสี่พันอีแปะ เมื่อรับเงินครบแล้ว ผู้ื้ซื้อก็จูงวัวไป พอรุ่งขึ้นอีกวัน วัวตัวนั้นก็ตายลง มีคนเดินถนนเล่าให้กงอี้ฟังเมื่อเจอะกันว่า คนซื้อวัวเมื่อวานนี้กำลังร้องไห้ กับวัวที่ซื้อมา เขาพูดว่าเขามีเงินทุนเพียงเท่านี้ เมื่อวัวตาย คนทั้งบ้านก็ควรตายตามไปด้วย  เมื่อกงอี้ได้ความชัดเจนแล้ว ก็รีบตรงไปยังบ้านของผู้ซื้อวัว ก็เห็นเขานั่งเฝ้าวัวไปร้องไห้ไป กงอี้จึงเข้าไปหาเขาแล้วถามว่า วัวตายแล้วร้องไห้ทำไม ผู้ซื้อเห็นกงอี้เข้ามาก็รีบคุกเข่าต่อหน้าแล้วร้องไห้ว่า ข้ามีเงินแค่วัวตัวนี้เท่านั้น เมื่อวัวตายก็ควรต้องตาย กงอี้ว่าเอาวัวมาแค่คืนเดียวก็ตาย วัวนี้เดิมเป็นของข้า เธอไม่ต้องเศร้าโศก เธอเอาเงินของเธอคืนไป ข้าจะเรียกคนมาเอามันไปฝังกลบเอง เธอสบายใจได้ไม่ต้องติดใจ ว่าแล้วก็เรียกผู้ซื้อไปที่บ้านกงอี้ด้วยกันเพื่อรับเงินคืน ผู้ซื้อจึงว่า ขอบคุณท่านมหาบุญ ข้ายอมรับเงินเพียงแค่กึ่งหนึ่ง กงอี้ไม่เห็นด้วย จึงคืนเงินทั้งหมดไป แล้วก้เรียกคนงานสิบคนไปที่ตลาดเพื่อนำวัวไปฝังกลบให้ลึก กงอี้ถอนหายใจพูดกับคนอื่น ๆ ว่าผู้ซื้อลดหนี้วัวไป วัวก็ลดหนี้ของข้าไป ข้าก็เรียกคนให้นำไปฝังไม่ต้องรับหนี้วัว และก็ไม่เอาหนี้คนซื้อ ชาวบ้านจึงว่ากงอี้ยอมเสียหายเพื่อให้ผู้อื่นได้ประโยชน์ นี่คือคุณธรรมของกงอี้ที่ยอมสละเพื่อผู้อื่น เป็นขันติที่  95 ต่อมาภายหลังมีคนแต่งกลอนให้

ธรรมสลายหนี้โลกโลกีย์             เพื่อคนที่โศกเศร้าอย่างเฉยเมย
มีไม่มีได้เสียสว่างเผย               ไม่ละเลยให้ผู้อื่นเสียหาย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                     ร้อยขันติ   

               เก้าสิบหกขันติ  :  ดุว่านักพรตที่พูดจาลามก

        วันหนึ่ง กงอี้ไปงานศพที่บ้านญาติ ได้เห็นพวกนักพรตที่ไม่ควบคุมมารยาท ทำแทะโลมกับพวกผู้หญิง กงอี้คิดจะสั่งสอนพวกที่ไม่รู้ เช่นการวิจารณ์ถูกผิดเรื่องของผู้อื่น พูดเรื่องชู้สาวและการด่าทอกัน กงอี้เกล้งพูดว่า อริยเจ้าพูดว่า โจมตีเรื่องที่ผิดโทษนั้นถึงตัว ก็ให้มีนักพรตคนหนึ่งกล่าวว่า ศาสนาของเรามีเหลาจื่อ จะเทียบความผิดได้อย่างไร กงอี้ว่า ท่านเหลาจื่อก็พูดเรื่องผู้หญิงหรือ มีการด่าทอกันไปมาหรือ นักพรตว่า พวกเราขณะทำศาสนกิจก็จะควบคุม แต่เมื่อเลิกงานแล้วก็ไม่ถือสา กงอี้ว่าพระเจ้าอยู่ที่ใจ ธูปเผาในกระถาง คนโบราณว่าเมื่อตรึกคิดให้มีความจงรักภักดี แต่เมื่อเลิกก็ให้ชดเชยที่เสียหาย  ใจต้องศรัทธาซื่อตรง เรื่องสัจธรรมต้องรู้ ค้นคว้าธรรมถึงที่สุด ใจต้องจดจ่ออยู่ที่ปราชญ์อริยะ ต้องไม่ลืมคุณธรรมทุกขณะ การพูดการกระทำไม่ระมัดระวังถือว่าลบหลู่ธรรม ข่มเหงพระเจ้า เป็นการสั่งสมบาป จะพูดว่าเป็นศาสนาของเหลาจื่อได้อย่างไร พวกนักพรตรู้อับอายว่า พวกเรามีความผิดมหันต์ ยินดีรับฟังโอวาทของท่าน ขอเรียนถามท่านว่า การสวดมนต์ปลงศพช่วยเหลือผู้วายชนม์ได้หรือไม่ กงอี้ว่า พนะเจ้าบุ้นตี้พูดว่า การบูชาเทพเจ้าหรือไหว้พระพุทธะ สวดมนต์ไหว้เทพเจ้าเพื่อให้อภัยโทษบาป การสวดมนต์เพื่อบำเพญกุศลชำระความผิดต้องเป็นคนที่ซื่อตรงมาร่ำเรียน ใจก็จะรับพระเจ้าได้ หากเขาเชิญไปทำพิธีสวดมนต์ปลงศพก็เพื่อให้เกิดความรู้สึกต่อลูกหลานญาติมิตรที่คุกเข่าฟังธรรมอยู่หน้าปะรำพิธี การสวดอ่านต้องชัดถ้อยชัดคำให้กระจ่างแจ้งแก่ผู้ฟังรู้ความหมาย มีใจแก้ไขแทนผู้วายชนม์ และทำให้ทาญาติคนรุ่นหลังเข้าใจเกรงกลัวการจากไปนี้ ก็จะได้ผลเต็มที่ หากไม่ใช่ทำได้แบบนี้ก็ไม่ได้บุญกุศลอะไร แถมจะได้รับเคราะห์ด้วย นักพรตว่าฟังคำสั่งสอนนายท่าน หลักธรรมถูกต้องไม่เพี้ยน  ขอเรียนถามเรื่องยมโลก ทำอะไรจึงจะรู้ว่าการสวดมนต์ปลงศพจะได้รับการตอบสนอง กงอี้ว่า ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปราชญ์สืบทอดกันมาว่า ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์ฝ่ายเต๋า หรือ ในพุทธธรรมล้วนมีพูดไว้ละเอียดชัดเจน สามศาสนา หลักธรรมเดียวกันไม่แตกต่าง คุณธรรมห้าเป็นรากที่เพิ่มเติมหากมนุษย์ได้รับวิถีธรรมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะทางโลกหรือยมโลก ก็จะสว่างไสวด้วยคุณธรรม นักพรตยังถามต่ออีกว่า ทุกวันนี้ผู้ที่มาเป็นนักพรต ส่วนใหญ่ทำให้ครอบครัวลำบากเพราะอะไร กงอี้ว่า ความร่ำรวยแต่ไหนแต่ไรมาก็มีหลักธรรมเหมือนกัน จะพูดว่าเรียนธรรมพาให้ครอบครัวยากจน บุญล้นสั่งสมได้ด้วยการประหยัด เมื่อกุศลบารมีมากแล้ว ก็จะร่ำรวยได้เอง นักพรตพูดพร้อมกันว่า รู้สึกซาบซึ้งในโอวาทของท่าน นี่คือการชี้แนะธรรมของกงอี้ เป็นขันติที่ 96 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้ว่า

คนดื้อไม่รู้จักหลักธรรม             การกระทำถ้าไม่มีความเกรงกลัว
กงอี้สำเร็จการสงเคราะห์คนชั่ว    ยมโลกได้อาศัยไปด้วยกัน

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                       ร้อยขันติ   

                เก้าสิบเจ็ดขันติ  :  กงอี้ปลุกเจ้าพ่อให้กลับใจ

        มีอยู่วันหนึ่ง กงอี้ได้พบผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งชื่อ เตียฮ่ง เขาเก่งในการใช้ปากกาต่างมีด รับทำคดีความ ทั้งยังรู้ว่าในตำบนั้นใครมีใครจน เป็นผู้คบหาสมาคมกับข้าราชการในอำเภอ เขาพูดกับกงอี้ว่า คนตั้งอยู่ระหว่างฟ้ากับดิน ควรต้องทำงานมักใหญ่ใฝ่สูง เพื่อมีชื่อเป็นที่รู้จัก คนไม่กล้ามาลบหลู่ กงอี้ว่า ทำงานใหญ่โตอะไรนายฮ่งว่า คนอย่างข้าไม่มีความรู้เข้าออกอำเภอเป็นประจำนานถึง 18 ปี ไม่มีข้าราชการคนไหนที่ไม่ชอบข้า ช่วยเหลือคนให้ชนะคดีมาแล้วสี่ห้าสิบคดี ในละแวกนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักข้า กงอี้ก็พูดตรง ๆ ว่า คนที่รู้จักเธอก็แต่ในนามของเจ้าพ่ออันตราย ทำไมไม่สร้างชื่อในทางซื่อสัตย์กตัญญูเล่า จะเป็นผู้ทำคุณธรรมของบรรพชนประจักษ์แจ้งในเบื้องสูง ในเบื้องล่างก็ให้ลูกหลานรุ่งเรือง ในเบื้องกลางก็ฉุดช่วยตนเอง อย่างนี้จึงนับว่าไม่เสียชาติเกิด นายฮ่งว่า ข้ามีอายุได้ 60 ปีแล้ว ยังไม่เจ็บป่วยมีลูกชายสาม ลูกสาวสี่ ชีวิตความเป็นมาอยู่ปกติ โบราณมาคนที่ภักดีกตัญญูมันจะมีชีวิตไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์นัก พอสำหรับเลี้ยงดูบุตรเท่านั้น กงอี้ว่า ต้องรู้จักความเป็นคน มีอยู่สองแนวทางคือ ความดี ความชั่ว ผู้มีความดีตายแล้วก็ไปรับเป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์  ผู้มีความชั่ว ประชาชนโกรธแค้นมักจะตายไม่ค่อยดี เช่น นายชิ้งคุ่ย นายหลี่ลิ้ม  ปู่นายโจโฉ เป็นต้น ที่มีชื่อเหม็นไปตลอดกาล มีใครน่าอัปยศเท่าในสมัยนั้น ทั้งสามคนใช้อิทธิพลมาก ซึ่งไม่เป็นประโยชฯือะไรต่อมิตรสหาย เป็นคนที่รู้สึกตัวลำบาก หากยินยอมรับฟังผู้อื่น มีกฏระเบียบ มีศีล แก้ไขความผิด กระทำความดีล้วมีหรือจะต้องอัปยศไปนานนับหมื่นชาติ  นายฮ่งว่า การแก้ไขความผิดต้องเริ่มต้นทำอะไร กงอี้ว่า ให้สวดมนต์บทกำเอ่งเพียน คัมภีร์ปลุกโลกของท่านกวนอู และนรก พุทธธรรม จากง่ายไปสู่ที่ลึก ความผิดทั้งหลายไม่ทำ ความดีทั้งหลายน้อมนำ ก็จะสามารถกลับเคราะห์เป็นบุญได้ เมื่อนายฮ่งฟังจบก็พูดขึ้นว่า พร้อมชี้นิ้วไปบนฟ้าแล้วสาบาน แล้วก้ก้มหัวขอบคุณกงอี้ที่ชี้แนะ ตั้งแต่นั้นมา นายเตียฮ่งก็แก้ไขความชั่ว ไปสู่ความเที่ยงธรรม ตั้งใจศึกษาจริงจังในทางความดี นี่ด้วยกงอี้ปลุกคนให้รู้สึกตัวตื่น และแก้ไขกลับตัวเป็นคนดี เป็นขันติที่ 97 ต่อมาภายหลังคนก็แต่งกลอนให้ว่า

ช่วยไขความสงสัยลุความดี             ผู้หลงโชคดีที่พบจางกงอี้
ผู้รู้ตัวตื่นไม่ต้องใช้มุกมณี               หนึ่งอัคคีแดงหิมะละลายเอง

Tags: