collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ร้อยขันติ : คำนำ  (อ่าน 57690 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ   

                ยี่สิบเจ็ดขันติ    :  เทพเข้าฝัน  ชี้แนะบุญบาป

        ในละแวกบ้านท่านกงอี้  ตระกูลเฉิน  นับถือเสมือนญาตื คนในบ้านล้มตายกันหมดเหลือบุตรชายคนเดียว มีชื่อว่า จิ้นอัน ยังเป็นเด็กอยู่ไม่มีคนเลี้ยงดู  กงอี้นับถือเป็นญาติจึงพามาอยู่บ้านแล้วให้เรียนหนังสือ แล้วนำเงินที่เหลือของตระกูลเฉินปล่อยบัญชีโดยไม่ได้คาดคิด  มีคนในตระกูลเฉินคนหนึ่ง มีชื่อว่า เฉินเค่อไท้  ไม่พอใจ  ได้พาชาวบ้านมาขอดูบัญชี ท่านกงอี้ก็เอาบัญชีมาให้ดู ตรวจดูแล้วไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย ชาวบ้านจึงรุมต่อว่าเฉินเค่อไท้ว่า  บัญชีก็ถูกต้องทุกอย่าง มีอคติคิดมิชอบ ชาวบ้านก็ยังขอให้กงอี้ดูแลบัญชีต่อไป เฉินเค่อไท้อับอายกลับบ้านระหว่างทางได้เจอกับอาจารย์เข้าทรง มีชื่อว่าหวงสู้อิ เขาถามเค่อไท่ว่ามีเรื่องอะไรหรือ  เค่อไท้ก็ยังกล่าวหากงอี้ว่าโกงบัญชีแน่นอน  แต่ทำอะไรเขาไม่ได้ หวงสู้อิ กล่าวว่า ในเดือนนี้มีช่วงเวลาที่จะแก้แค้นได้ เค่อไท่ดีใจมากจึงเขียนคำร้องเสกสรรค์ปั้นแต่งร่วมวางแผนกับสู้อิ  กล่าวหาว่าเขาโกงบัญชีไปพันเหวิน ท่านกงอี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย คืนนั้นเทวดาก็มาเข้าฝัน แจ้งข่าวถามว่ากงอี้ท่านไม่รู้หรือว่าถูกกล่าวร้าย  กงอี้ตอบว่า ไม่ทราบ เทวดาจึงพูดว่า ข้าเห็นเทวดาผู้บันทึกบุญกุศล เพราะเฉินเค่อไท่ได้เขียนคำร้องยื่นไปเบื้องบน กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ดูแลทรัพย์ของเฉินจิ้นอัน ได้เบียดบังเอาทรัพย์ไป ข้าได้ตรวจสอบกับเทวดาภูมิเจ้าที่แล้ว ท่านว่าท่านเป็นคนยุติธรรมไม่เอนเอียง สั่งสมคุณบารมี โอบอ้อมอารีมีเมตตาธรรม ขอให้ท่านรีบเขียนแจกแจงบัญชีตั้งแต่เริ่มต้นจนจบให้ชัดเจน แล้วรายงานต่อเบื้องบนเสร็จแล้วให้เผาไป ข้าก็จะนำไปรายงานต่อเบื้องบนให้ประทานพรให้ท่านร่ำรวยมีสุข  แล้วลงโทษเฉินเค่อไท้ที่จิตใจต่ำช้า ลงโทษเขาทั้งครอบครัว เพื่อให้ประจักษ์ชัดในบาปบุญคุณโทษ จำไว้นะ อย่าลืม  เมื่อกงอี้ตื่นขึ้นมาก็รีบ ๆ เขียนรายงานแล้วเผาถวายสู่เบื้องบน เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเดือน คนในครอบครัวเฉินเค่อไท้ไม่ว่าเด็กผู้ใหญ่ต่างล้มป่วย ก็คิดที่จะไปหาอาจารย์หวงสู้อิหาทางแก้ไข  หาหมอมาช่วยรักษา คิดไม่ถึงว่าอาจารย์หวงสู้อิก็เจ็บป่วยด้วย  ภายในสิบวันตายไปแปดคน  รักษาก็ไม่หาย โรคก็ไม่ติดต่อไปที่อื่น  จะเห็นได้ว่าบาปบุญเห็นชัดแจ้งนั่นก็คือ คนดีฟ้าคุ้มเทวดาป้อง เปลี่ยนร้ายให้เป็นดี นี่คือขันติที่ยี่สิบเจ็ดของท่านกงอี้ ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

ทำงานคล้อยตามฟ้าสูงส่ง             ไฉนคดโกงล่วงเกินทางลับ
ทางโลกทางผีหลักการเดียวกัน       ซื่อตรงมั่นตอบแทนมั่งมีสุข

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ   

                ยี่สิบแปดขันติ    :  สั่งสอนชักนำคนเกกมะเรก

        กล่าวถึง เฉินจิ้นอัน ซึ่งฝากเลี้ยงและเรียนหนังสือที่บ้านกงอี้  มีอยู่วันหนึ่งเกิดทะเลาะวิวาทกับคนงานของกงอี้  ท่านกงอี้จึงเรียกคนทั้งสองลงมานั่งสงบสติอารมณ์อยู่ข้าง ๆ กงอี้  แล้วจึงเริ่มสั่งสอนจิ้นอันว่า

เรียนหนังสือรู้หลักการเก็บซ่อนใจ             เข้าถึงธรรมอารมณ์ไม่อวดดี
รู้ระงับละมุนละมัยประเสริฐศรี                   เอ่ยวจีระมัดระวังคำภาษา
สรรพสิ่งรับได้ไม่กังวล                            มีขันติผ่อนปรนไม่ถือสา
จิตสงบอารมณ์เรียบใช่เสียหน้า                ชาวหยูถือธรรมามีวินัย
แล้วหันมาสอนคนงานว่า                         ชาติก่อนขาดบำเพ็ญชะตาไม่ดี
ชาตินี้หวังหาคนช่วยกอบกู้                       ไม่ได้ร่ำเรียนไม่มีความรู้
พูดจาไม่รื่นหูจงอย่าทำ                             ยังไม่ฝึกจริตของครอบครัว
หลงเมามัวตกต่ำอันธพาลไพล่                   เห็นแก่โลภคนเพื่อนเอาแต่ได้
นับอะไรอวดดีพูดเสียดสี

        หลังจากกงอี้สั่งสอนคนทั้งสองจบลง ทั้งสองผงกศรีษะขอบคุณแล้วถอยออกไป  นี่คือกงอี้สั่งสอนชักนำคนเกกมะเรก เป็นขันติที่ยี่สิบแปด ต่อมาภายหลังคนเขียนกลอนให้

เก่งหนึ่งโง่หนึ่งทะเลาะวิวาท             เพราะขาดศิริวิไลชักนำสอนดี
ทำลายเก่งโง่ต่างผ่อนปรนปรีย์          สร้างศักดิ์ศรีถือโอกาสเกิดเป็นชาย     

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ   

                 ยี่สิบเก้าขันติ   :   ปล่อยสัตว์ซาบซึ้งสวรรค์

        อันเนื่องจากวันวิสาขบูชาอันเป็นวันประสูติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ท่านกงอี้จึงเตรียมปล่อยสัตว์ ซื้อพวกปลาและสัตว์อื่น ๆ บ้าง ระหว่างทางไปปล่อยสัตว์ ก้มีพวกอันธพาลเจ็ดแปดคนรอคอยอยู่ข้างตลิ่งแม่น้ำ  พวกเขาจะรอให้ปล่อยปลาแล้วคอยจับ กงอี้ก็ขอร้องเหล่าอันธพาล ขอเชิญพวกเขาไปที่บ้านเพื่อเลี้ยงสุราอาหารจงอย่าได้จับสัตว์ที่ปล่อยเลย  มีคนหนึ่งในกลุ่มก็ร้องตะโกนขึ้นว่า ท่านก็ปล่อยของท่านไป  เราก็จับของเราไป เกี่ยวข้องอะไรกับท่านเล่า ท่านบอกว่าจะเลี้ยงสุราอาหารก็เพื่อหลอกพวกเรา พอพูดจบต่างคนต่างก็กระโจนลงจับ กงอี้ไม่รู้จะทำไฉน ได้แต่ยกมือไหว้ฟ้าแล้วก้กลับบ้าน ทันใดนั้น ท้องฟ้ามืดคลึ้มไปหมด เสียงฟ้าร้องดังลั่น ฝนตกลงมาห่าใหญ่ ทั้งแปดคนกระโดดขึ้นฝั่งหาที่หลบฝน หลบเข้าไปในถ้ำ โดยไม่รู้ตัวว่าเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้มีคนตายไปหกศพยังไม่ทันเก็บ ชาวบ้านต่างก็โจทย์ขานกันว่า พวกจับสัตว์ที่นำมาปล่อยจึงถูกกรรมตามสนอง เหลือ 2 ชีวิตไว้เพื่อเป็นประจักษ์หลักฐานจะได้ถ่ายทอดสืบไป ต่อจากนั้นถ้ามีคนซื้อสัตว์มาปล่อยก็ไม่มีใครกล้าไปจับ นี่คือการปล่อยสัตว์ของกงอี้ซาบซึ้งถึงสวรรค์ เป็นขันติที่ยี่สิบเก้า  ต่อมาภายหลังคนจึงเขียนกลอนว่า

ปล่อยสัตว์กุศลซาบซึ้งสวรรค์             ฉับพลันสายฟ้าส่งถึงกัน
อุทกภัยตายหกรอดสองฉกรรจ์            ลือลั่นข่าวแพร่หมู่บ้านเรือนเคียง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ   

                สามสิบขันติ   :  ริเริ่มสร้างสะพาน ไม่สนใจผู้ใส่ร้าย

        กล่าวคือกงอี้ได้ริเริ่มสร้างสะพาน บริจาคเงินจำนวนร้อยหยวน  ชาวบ้านก็ได้ร่วมบริจาคอีกกว่าเก้าร้อยหยวน เมื่อเลือกวันได้ฤกษ์ลงมือก่อสร้างแล้ว มีการทำบัญชีอย่างรัดกุมไม่ตกหล่นแม้แต่อีแปะเดียว  ในกรรมการด้วยกัน  มีอยู่คนหนึ่งที่พยายามจะโกงเงินกองกลางแต่ก็หาโอกาสไม่ได้ ก็เลยปล่อยข่าวหาว่ากงอี้สร้างสะพานหวังหลอกเอาเงินชาวบ้าน กงอี้ได้ยินก็วางเฉย คงทำงานสร้างสะพานต่อไปด้วยความศรัทธา จนกระทั่งสร้างสะพานใหญ่สำเร็จลง วันที่เก็บงาน กงอี้ก็เรียกประชุมชาวบ้านแล้วช่วยกันสะสางบัญชี นอกเหนือจากเงินบริจาคแล้วยังใช้จ่ายเกินไปอีกกว่าร้อยหยวน กงอี้จึงพูดกับชาวบ้านว่า เงินที่จ่ายเกินจะว่าอย่างไร ทุกคนต่างเงียบ กงอี้จึงกล่าวว่า เงินที่จ่ายเกินก็ถือว่าข้าบริจาเพิ่มไปก็แล้วกัน ทุกคนต่างก็สรรเสริญกงอี้ว่าเป็นผู้สร้างบุญสร้างกุศลอย่างจริงจังเป็นผู้มหาบุญ โบราณกล่าวว่า ผู้บำเพ็ญกุศลถูกใส่ร้ายจะเจริญ มีธรรมสูงมารก็จะมา เบื้องบนเท่านั้นที่จะลงโทษหรือให้รางวัล เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน คนที่ใส่ร้ายกงอี้ก็ป่วยเป็นบ้าไป  แสดงว่ากงอี้สร้างกุศลด้วยความศรัทธาโดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตน  เมื่อชาวบ้านรู้เข้าต่างก็รู้สึกหวาดหวั่น เรื่องนี้เพราะกงอี้ถูกใส่ร้ายแล้วไม่สนใจ เป็นขันติที่สามสิบ ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้ว่า

งานกุศลที่สุดเป็นกุศล             ฟังพวกฉ้อฉลเปลืองใจ
มีเคราะห์แบ่งแยกเขารับไป       รางวัลโทษผีเทพนับถือ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                ร้อยขันติ   

                สามสิบเอ็ดขันติ   :  เตือนคนไม่ให้ฆ่าสัตว์์

        มีเพื่อนบ้านแซ่อึ้ง มีนิสัยชอบกินนก ทั้งยังยิงปืนได้ วันหนึ่งขณะที่ฝูงนกกาเหว่าบินกลับลัง กงอี้เจอเขาระหว่างทาง จึงขอให้เขาหาที่นั่งข้างทางแล้วตักเตือนว่า

สิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนเกี่ยวดองจิตฟ้า             มีคุณต่อโลกบ่งบอกเวลา
สี่ฤดูกาลแปดเทศกาลเสียงตอบรับ                 วสันต์คิมหันต์ศารทเหมันต์แต่ละลักษณ์
ชาวนาคนงานค้าขายรู้เวลาทำงาน                  สัตว์บกสัตว์ปีกร่วมอารมณ์หนึ่ง
ไม่ได้ทวงขออาหารนุ่งห่มจากคน                     วสันต์หิวเหมันต์หนาวมีใครสนิท
อุ้มโอบลูกเหมือนคนดำรงชีพ                           เสาะหากินเหมือนหนีฟืนไฟ
หลบไปหลบมากลัวคนเห็น                              ยังกลัวคนใช้ตาข่ายดัก
เผลอตัวถูกจับเข้ากรงขัง                                 ผัวเมียแม่ลูกร้องระงม
แม่ดุเหว่าที่ตายไร็ร่องรอย                                พ่อดุเหว่าอ้างว้างเดียวดาย
ร้องหาเขาลูกโน้นเวียนมาหาเขาลูกนี้                ไม่คิดกินอาหารเฉกเช่นคน
คุณธรรมห้าสัตว์ก็รู้                                          นกไก่รู้ขันในยามเช้า   
ฟ้าเบื้องบนให้กำหนดชีวิต                                ทำร้ายทลายไข่ใครจมปรัก
หรือตัดลบอายุให้สิ้นลง                                    หรือให้ยากจนตลอดชีวิต
ในโลกนี้ตอบสนองไม่รู้กี่มากน้อย                       ร่ำรวยมีศักดิ์ด้วยเหตุอันใด
บรรดาพุทธโพธิสัตว์ให้ดูได้                              คนไหนถือตัวไม่เมตตา
เตือนเธอให้เลิกแก้ไขการกระทำ                        อย่าให้กายนี้ล่วงสู่หลงใหล

        พูดจบคนแซ่อึ้งก็กล่าวขอบคุณ จะไม่ลืมพระคุณกงอี้ เมื่อนายอึ้งกลับถึงบ้านก็ปล่อยดุเหว่าหมดกรงขัง ทั้งเผาทิ้งเครื่องดักสัตว์ จุดธูปสาบานต่อพุทธรูปว่าจะไม่ทำลายชีวิตอีก ทั้งยังปล่อยสัตว์ เปลี่ยนแปลงอาชีพ ต่อมาก็ร่ำรวยรุ่งเรือง นี่ก็เพราะกงอี้สงสารคนให้เห็นแก่ชีวิต เป็นขันติที่สามสิบเอ็ด  ต่อมาคนก้แต่งกลอนให้

ผู้ใหญ่รักสัตว์ฟ้ายินดี                 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สามโลกนี้ต่างเคารพ
พร่ำตักเตือนผู้คนสู่กุศลบถ         ชื่อก้องดิลกนามอุโฆษ   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ 

                สามสิบสองขันติ   :  ถูกแย่งของ อันธพาลรับกรรม

        ที่บ้านของกงอี้มีโคแก่ตายลงตัวหนึ่ง กงอี้เรียกลูกบ้านช่วยกันฝังกลบ ก็ให้บังเอิญมีชาวมณฑลฮ้อหน้ำเดินมาเห็นเข้า แล้วก็ไปเรียกพรรคพวกทั้งหมด 17 คน มาขโมยตอนกลางคืน ลูกบ้านกงอี้เห็นเข้าก็มารายงานกงอี้ กงอี้รีบไปที่เกิดเหตุ พวกอันธพาลมีอาวุธในมือ ปากก็ร้องจะฆ่าคนแล้วก็นำโคไป ลูกบ้านจะเข้าไปแย่งกลับ แต่กงอี้ห้ามปรามไว้เกรงที่จะเกิดเรื่องใหญ่ ปล่อยให้เขาไป พวกอันธพาลได้โคไปแบ่งปัน เอาสุรามาดื่ม ไม่คาดคิดฟ้าจะลงโทษ  คนไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ พอดื่มสุราเสร็จก็ลงมือแบ่งปันเนื้อโค แต่แบ่งไม่เท่ากัน จึงเกิดต่อยตีกัน บ้างถือมีดไล่ฟัน บาดเจ็บตายไป 3 คน  เรื่องราวลุกลามใหญ่โต พวกอันธพาลถูกจับขึ้นศาลพิจารณา ศาลว่าไปตามความจริง 14 คนถูกกระบองตีจนตาย คนที่เอาเนื้อวัวไปกินก็ให้ชดใช้เงินหมื่นอีแปะ พวกที่ผิดก็ให้กรีดหนังให้ประชาชนเห็นทั้งอำเภอได้ขจัดคนชั่วหมดสิ้น นี่คือกงอี้ถูกแย่งชิงสามารถทนได้เป็นขันติที่สามสิบสอง ภายหลังคนเขียนกลอนให้

กรรมตามสนองชัดเจนไม่พลาด             อันธพาลหาเรื่องบ้านสลาย
ตะรางมีคุณต่อชนมากหลาย                  เขี้ยวเล็บร้ายของศาลน่ากลัวเกรง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ 

                 สามสิบสามขันติ   :  ให้อภัยคนขี้เกียจ  บริจาคโลงศพ

        กล่าวคือ  กงอี้ได้ว่าจ้างคนงานประจำชื่อ หน้ำ แซ่จิว ตอนเข้ามาทำงานใหม่ ๆ กงอี้มักจะพูดธรรมให้ฟัง อาทิ เช่น การุณยธรรมบ้าง ความซื่อสัตย์บ้าง จิวหน้ำก้รับฟังด้วยดีและก็ขยันทำงาน มีความจงรักภักดี ต่อมากงอี้มีงานรัดตัวและไม่ค่อยมีเวลาสอนสั่ง ต่อมาอีกเกือบปี  นายจิวหน้ำก็เผยธาตุแท้ให้เห็น นิสัยเลวไม่มีที่ติ และมักจะข่มเหงกงอี้อยู่เสมอ  กงอี้ก็รู้สึกผ่อนปรนเขา คิดว่าสิ้นปีจะคิดบัญชีให้เขาลาออกไป แต่จิวหน้ำก้ไม่รู้สึกตัวจนเคยชิน พอถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ เห็นว่าทำงานยังไม่เต็มหนึ่งปี คนงามทั้งทีมมี 6 คนด้วยกัน ทุกคนต่างรู้ดีว่าจิวหน้ำเป็นคนขี้เกียจ รู้จักกินไม่รู้จักทำงาน ชีวิตคนเรายามมีชีวิตต้องรับการสั่งสอนจากบิดามารดาประการหนึ่ง ประการที่สองต้องมีครูอาจารย์ เพื่อนดีชี้แนะ ชีวิตจึงจะมีวาสนา แต่จิวหน้ำไม่มีบิดามารดาตั้งแต่เยาว์วัย พ่อแม่ตายตั้งแต่อายุได้ 10 ปี  อยู่ตัวคนเดียวไม่มีญาติ ชาวบ้านเขาขอกงอี้ให้ช่วยดูแล ตอนมาอยู่ใหม่ ๆ ก้เชื่อฟังดี ต่อมากงอี้มีงานมากจึงขาดการควบคุมบ่มนิสัย จากนั้นชีวิจก็ตกต่ำ พอย่างเข้าปีที่ 3  ก็เป็นปีข้าวยากหมากแพง จึงไม่มีใครจ้างไปทำงาน ทั้งยังมีโรคไม่ได้รักษา จึงเร่ร่อนเป็นขอทาน ร่างกายผ่ายผอม วันหนึ่งขอทานมาถึงบ้านกงอี้ คนในบ้านเอาข้าวให้กินชามหนึ่ง ยังกินไม่ทันหมดชามก็ล้มตายลงที่พื้น กงอี้รู้สึกเสียดาย คนนี้ตลอดชีวิตขี้เกียจจนหมดหนทางจึงมาถึงที่นี่ กงอี้สั้งให้คนที่บ้านไปเตรียมหาโลงศพใส่ให้แล้วนำไปฝัง นี่คือกงอี้ให้อภัยแก่คนขี้เกียจ ผู้คนจึงแต่งกลอนให้

คนไพร่รังแกเจ้านายไม่ดี             นายใจดียอมเธอมีโทษหนัก
โลกนี้กี่มากน้อยที่อายุยืน             ตายแล้วพบยมบาลอย่างไร           

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ   

                สามสิบสี่ขันติ   :  สงสารคนตกทุกข์

        เช้าวันหนึ่งขณะที่กงอี้กำลังจะไปที่โรงงาน ได้พบแม่ลูกสองคน กำลังร้องไห้ด้วยความทุกข์ระทมอยู่ข้างทาง กงอี้จึงเดินเข้าไปถามว่า คุณนายเป็นอะไรไปหรือเหตุใดจึงร้องไห้ระทมทุกข์เช่นนี้ นางเช็ดน้ำตาแล้วบอกว่า ความทุกข์ลำบากของฉันพูดยากท่านไปเถอะ กงอี้ว่าในโลกนี้มีเรื่องทุกข์ยากลำบากมากอย่างนั้นหรือ ข้าอยากรู้รายละเอียด นางเห็นเขาถามอย่างมีน้ำใจจึงพูดขึ้นว่า นายท่านนั่งลงข้างทางสักครู่ อีฉันจะพูดให้ฟัง เสร็จแล้วนางก็รำพันออกมาเป็นบทกลอนว่า

เก็บความละอายไว้ในใจ             บอกกล่าวให้นายท่านอดทนฟัง
บิดาของฉันนามฟงกงสือ            ท่านเอาฉันแต่งให้โอ้วหงเคียง
แต่งมาได้สามปีบิดาสามีเสีย        ใจคอระเหี่ยจนสุดพรรณา
อยู่กับสามีมีลูกได้ขวบกว่า            ที่เมืองหลวงเปิดสอบคัดเลือก
เขาจากไปหกปีกว่าไร้วี่แวว           มิมีจดหมายตอบกลับแม้ฉบับ
แม่เลี้ยงเขากราดเกรี้ยวใส่            ใช้งานหนักเลี้ยงลูกข้าวเหลือเดน
บัดนี้ลูกแปดขวบยังไม่เต็ม            พึงรู้ว่าต้องพรากจากลูกน้อยนิด
เขาวางแผนยาพิษให้ฉันตาย         ด้วยตนทำชั่วสันดานไพร่
แอบคบคนโฉดเอาฉันขาย            เอาฉันขายแต่งให้คนไป
โชคดีคนใช้จากบ้านมารดามา       จึงแอบวางแผนพูดกับฉัน
คืนนี้จะมาแอบลักพาตัวไป             แต่เช้านี้ฉันแม่ลูกหนีมาก่อน
ดูดูไปคงเอาชีวิตมาทิ้ง                  หลบหนีมาได้ก็หมดหนทาง
ฉันทิ้งไปใจเจ็บลูกน้อยนิด             ยมบาลหน้าบัลลังก์ฟ้องร้องทุกข์

        พอพูดจบก็ก้มหัวจะชนหิน กงอี้รีบห้ามปรามกล่าวว่า  มีข้าช่วยเหลือเจ้า อย่ามองข้ามชีวิต ได้ฟังคำร้องทุกข์ของเจ้าแล้ว ถือเคยเป็นผู้ร่ำเรียนมาก่อน นางตอบว่า พ่อแม่ให้ร่ำเรียนมานาน 11 ปี  ฉันมีชื่อเรียก ฟงเลี้ยงเอ็ง กงอี้ถามว่า บ้านแม่อยู่ไกลจากที่นี่มากไหม พี่น้องของพ่อแม่ยังอยู่หรือไม่ นางตอบว่า  บ้านแม่อยู่ห่างจากที่นี่ 90 ลี้ พ่อแม่สิ้นบุญหมดแล้ว มีอาคนหนึ่งชื่อฟงสือกือ เปิดโรงเตี้ยม และเป็นครูสอนหนังสืออยู่ในศาลเจ้ากวนอู ห่างจากที่นี่ 40 ลี้ กงอี้บอกว่า เธอไปหลบที่บ้านข้าก่อน นางพูดว่า เท้านางเล็ก เดินเหินลำบาก ท้องก็หิว ตอนนี้ได้รับความช่วยเหลือจากท่าน ขอความสะดวก กงอี้จึงจ้างหามเกี้ยวให้ไปส่งนางที่โรงเตี้ยมที่ฟงสือกือ นางขอทราบชื่อที่อยู่ของกงอี้ เพื่อมาตอบแทนพระคุณ    กงอี้จึงบอกชื่อและที่อยู่ให้นางไป แล้วส่งนางขึ้นเกี้ยว นางบอกว่าพระคุณครั้งนี้จะไม่ลืม กงอี้กลับเข้าบ้านเขียนจดหมายขึ้นฉบับหนึ่ง กับเงิน 2 พันอีแปะ  ใช้ให้คนไปส่งที่บ้านโอ้ว ผู้นำจดหมายพร้อมเงิน ก็เดินทางไปส่งจดหมายให้แก่บ้านโอ้วแล้วกลับมา นางแม่เลี้ยงได้รับจดหมาย ก็เรียกคนอ่านให้ฟัง จดหมายเขียนว่า  "" ลูกโง่โอ้วหงเคียงขอคารวะคุณแม่ ด้วยบารมีบรรพชน ทำให้ลูกสอบได้ งานในราชสำนักรัดตัวกลับมาไม่ได้ จึงเขียนจดหมายมาให้แม่ทราบ ช่วยสั่งสอนลูกเมียข้าด้วย ปีหน้าจะกลับมาบ้าน ต้องรอหนังสือราชสำนักเล่าเรื่องไม่หมด ขออภัยแม่ด้วย อ่านจบแม่เลี้ยงก็ตกใจกลัว พูดแต่ว่าลูกข้าตายไปแล้ว ข้ากำลังจะเอาลูกเมียมันไปขายได้เงินมา 3 ชั่ง นัดมาให้รับตัวคืนนี้ ข้าขังนางไว้ที่บนห้องตะวันออก จึงรีบให้คนขึ้นไปดู ก็ไม่เห็นลูกสะใภ้ จึงเรียกคนใช้มาถาม นายหญิงใหญ่ไปไหน คนใช้ตอบว่า เช้านี้แม่ลูกออกไปแล้วพูดต่อว่า เจ้านายหยางห้าขี่ม้ามาแล้ว แม่เลี้ยงรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน พูดต่อ ตายแล้ว ๆ นางยื่นจดหมายให้เจ้านายหยางดู เขาดูแล้วก็ขอทวงเงินคืน แม่เลี้ยงรีบนำเงินมาคืนให้ เจ้านายหยางพูดว่า เสียแรงข้าไปหมด พวกเอ็งพี่น้องทั้งหลายให้ลากแม่นางนี้ไปด้วย พวกเอ็งเอาไปสนุกกัน น่าสงสารแม่เลี้ยง อายุเกือบ 50 ปี ถูกพวกนี้รุมทึ้ง นี่แหละหนาก่อทุกข์ให้เขา ทุกข์นั้นถึงตัว ธรรมะแห่งฟ้าชัดเจน ต่อมาภายหลัง พอถึงฤดูใบไม้ผลิ ปีรุ่งขึ้น ก็มีข่างโอ้วหงเคียงสอบเข้ารับราชการได้ ได้มีคำสั่งให้กลับบ้าน เมื่อหงเคียงกลับมาถึงบ้าน ได้รับข่าวร้ายของภรรยาจึงรีบรุดไปยังบ้านของกงอี้ ตอบแทนพระคุณทีี่สงสารช่วยเหลือบุตรภรรยา นี่คือขันติที่34  ต่อมาก็มีคนยิ้มเยาะแม่เลี้ยงจึงเขียนกลอนว่า

ไร้เมตตาวางแผนคนในบ้าน             ธรรมแห่งฟ้าไม่พลาดตอบแทน
หญิงดีมีคนช่วยค่อยหายแค้น           แม่เลี้ยงวางแผนกรรมย้อนสนอง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ     

                 สามสิบห้าขันติ   :  กล่าวหาคนงานขโมยผลลี้ 

        ในเทศกาลขนมบะจ่าง หลังจากเซ่นไหว้พระเจ้าเสร็จลงแล้ว ทันใดก็ให้มีคนแซ่ถังคนหนึ่งถลันเข้ามาในบ้าน กล่าวหาว่าคนงานในบ้านขโมยผลลี้ กงอี้บอกให้เขานั่งรอก่อน แล้วก็เรียกเหล่าคนงานออกมาสอบถามว่า ทำไมจึงทำการเกเรเช่นนี้ ไปขโมยลูกลี้ของคนอื่นได้หรือ คนงานว่า นายท่านกรุณาสั่งสอน แตง ถั่ว ของคนอื่นไม่ให้เอา ใต้ต้นลี้ผลห้อยโตงเตง ทำไมจะกล้าขโมย กงอี้รู้ว่าคนงานถูกใส่ความ สำรวจตรวจดูสีหน้าของนายถัง เหมือนกับสีหน้าคนตาย กงอี้ก็เตรียมเงินไว้นับร้อยอีแปะ จึงบอกคนงานให้อภัย คนงานถูกใส่ความก็ไม่ยอม กงอี้ว่า พวกเธอไม่ให้อภัย ก็ให้ถูกโบยก็แล้วกัน แล้วก็บังคับให้คนงงานเอาเงินไปให้ โดยไม่รู้ว่านายถังกับคนงานมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อก่อนมีคดีฆ่ากัน หาที่หลบซ่อนไม่ได้ นายถังจึงปรึกษากับเมียอแบกินยาพิษ เพื่อคิดจะให้ร้ายกงอี้ แต่ก็ถูกกงอี้ตรวจดูสีหน้า จึงทำให้นายถังหมดหนทางใส่ร้าย ประจวบกับได้เงินจึงกลับไป พอตกกลางคืนยาพิษกำเริบถึงแก่ความตาย นี่เพราะกงอี้สำรวจตรวจดูสีหน้า จึงรอดพ้นจากเคราะห์ภัย เป็นขันติที่ 35 ภายหลังคนที่แต่งกลอนให้

ที่ราบเรียบลมพายุวน             กล่าวหาคนขโมยลี้ไร้สำนึก
ด้วยกงอี้มีคุณธรรมฟ้าคุ้ม        ตรวจละเอียดว่ามารร้ายจึงรอด

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ   

                 สามสิบหกขันติ   :  กล่าวหลักคุณธรรมสอนจริยธรรม

        ห่างจากบ้านกงอี้ไปประมาณ 30 ลี้ มีคหบดีคนหนึ่ง มีบุตรคนหนึ่งเรียกว่า เสี่ยงจี่ นิสัยทรนงมาก ไม่เชื่อฟังบิดา แต่เสี่ยงจี่เป็นผู้รู้หนังสืออยู่ คหบดีได้กล่าวถึงความมีคุณธรรมของกงอี้ ที่มักจะช่วยกล่อมเกลาผู้คน จึงพาลูกชายมาหากงอี้ให้ว่ากล่าวสั่งสอน คหบดีกล่าวกับกงอี้ว่า ได้ยินกิติศัพท์การสั่งสอนให้โอวาทบ้านใกล้เรือนเคียงของท่านจางมานานแล้ว วันนี้จึงพาลูกน้อยมารับการสั่งสอนจากท่านจางเป็นการพิเศษ กงอี้จึงกล่าวขึ้นว่า มีบุตรฉลาดเฉลียวการงานไม่ใส่ใจ บุญกุศลสั่งสมซาบซึ้งสวรรค์ มีเจ้าเกื้อกูลสบายใจหน้าตาสดใส ก้อนเลนปัดทิ้งกตัญญูปฏิบัติให้สมบูรณ์ คหบดีว่าให้สอนคุณธรรมตั้งใจพาลูกน้อยมารับการอบรม วิงวอนให้ท่านมอบการอบรมสั่งสอนเพื่อขจัดความโง่เขลา กงอี้ว่า ข้าพเจ้าจะเอาหลักการที่อบรมชาวบ้านว่าให้ฟังสักบทหนึ่งเพื่อให้คุณชายรับไว้ จะไม่ใช้คำพูดทั่ว ๆ ไป จะเลือกมาให้เฉพาะเสี่ยงเจี่ยง จึงพูดด้วยน้ำเสียงกังวานว่า ผู้ป็นบุตรฝึกเรียนให้อบอุ่นดีงาม ความอบอุ่นดีงามต้องประหยัดจึงจะยืนยาว  ความยืนยาวนั้นหมายถึงตอบแทนหลักธรรมฟ้า หลักธรรมฟ้าประจักษ์แจ้งตอบสนองพิเศษ พิเศษได้รับบุญถึงผู้ภักดีกตัญญู  ภักดีกตัญญูสืบทอดถึงบ้านเจริญแน่นอน เจริญนั้นภายหลังสืบทอดสู่ลูกหลาน ลูกหลานมีความฉลาดก็เข้าใจความหมาย ความหมายคือโอวาท"ซื่อสัตย์สุจริต"  ซื่อสัตย์ฝึกได้กตัญญูเต็มบ้าน เงินทองเต็มบ้านจริยธรรมสำคัญ สำคัญคุณธรรมห้าไม่ยึดถือแข็งขืน   ยึดถือแข็งขืนแสดงรุนแรงไม่ปรองดอง ปรองดองสามีภรรยาอย่าทำร้ายกัน ทำร้ายเพื่อนมิตรก็ไร้สัจจะ สัจจะได้ชื่อว่าช่วยเหลือผ่อนปรนเพื่อนบ้าน ผ่อนปรนงานกุศลย่อมบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ยึดถือให้มั่นมีราศีเก็บซ่อน ราศีซ่อนเร้นไม่มีความกังวล ความกังวลทำให้กาย ใจแกว่ง แกร่งถึงที่สุดย่อมหักตัดอายุ อายุจะเพิ่มเติมด้วยคุณธรรมแท้ แผ่คุณธรรมได้รับมหากรุณาจากพระเจ้า พระคุณที่ประทานเกียรติยศสุขไม่สิ้น ความไม่สิ้นปรากฏลุถึงยาวนาน ความยาวนานชื่อก้องปฐพีสืบไป   พูดจบ นายเสี่ยงจี่ถึงกับมีเหงื่อชุ่มหน้าลงก้มกราบขอสมัครเป็นลูกศิษย์ นี่คือกงอี้มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นขันติที่ 36ต่อมามีผู้แต่งกลอนให้

ร้อยมณีหลักธรรมครบถ้วน            คำสอนล้วนงามสมเป็นปราชญ์
เกิดเป็นคนกตัญญูคู่ฉลาด           เรียนหยูศาสตร์ปราชญ์สืบตระกูล

Tags: