collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ร้อยขันติ : คำนำ  (อ่าน 58259 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                       ร้อยขันติ   

                แปดสิบหกขันติ  :   ยังประโยชน์แก่คน ปลดเปลื้องแค้น

        กงอี้มียา "ขนานเอก" สามรถช่วยคนเจ็บป่วยได้มีนายคนหนึ่ง แซ่เงี้ยม ชื่อ เกี้ยวใช้ บ้านยากจน มีบุตรสาวคนหนึ่งอายุ 20 ปี ป่วยหนักมาเป็นแรมปีจวนจะตายแล้ว คิดจะใส่ร้ายกงอี้ จึงได้มาหากงอี้เพื่อขอยาไปรักษาลูกสาว กงอี้ให้ไปชุดหนึ่ง พอกินไปได้ครึ่งชุดก็เสียชีวิต วันรุ่งขึ้น ขณะที่หญิงคนนั้นตาย ก็มีนายเนี้ยเจ็กเสียง กำลังคุยกับกงอี้เรื่องเวรกรรม ก็เห็นเกี้ยงใช้มาถึงบ้านกงอี้แล้วพูดว่า อาศัยท่านให้ยาเม็ดฆ่าคน พอกินก็ตาย กงอี้ว่า ทำไมพูดแบบนี้ คนใช้ยาจำนวนหลายคน รักษาก็หายมากมาย นายเกี้ยงใช้ว่า ลูกสาวข้ายาของท่านฆ่าตาย เนี้ยเจ็กเสียงพูดว่า ได้ยินว่าลูกสาวท่านป่วยมานานแล้ว จะมาโทษยาได้อย่างไร นายเกี้ยงใช้ว่าข้าจะหามมาให้กับกงอี้ กงอี้ว่ายาเม็ดยังเหลืออยู่หรือไม่ นายเกี้ยงใช้ว่ายังเหลือครึ่งหนึ่ง กงอี้ว่าเธอกลับไปเอาที่เหลือมา นายเกี้ยงใช้กลับไปเอายา เนี้ยเจ็กเสียงก็พูดว่า คน ๆ นี้ไม่มีน้ำใจ เขาจะให้ร้ายกับท่าน กงอี้ว่า คงมีทางออก ชั่วไม่นานเกี้ยงใช้ก็นำยามาให้แก่กงอี้ กงอี้ว่า เธอว่ายาของข้ามีพิษ ข้าก็จะเอายามาทดสอบ ถ้าหากกินแล้วตายฉันจะชดใช้ชีวิตลูกสาวเธอ นายเกี้ยงใช้ว่า ท่านไปทดสอบ ข้าจะเอาโลงศพ ไม่ทดสอบข้าก็จะเอาโลงศพ นายเนี้ยเจ็กเสียงฟังแล้วพูดว่า ฟังสภาพเธอพูด ถ้าไม่มีโลงศพไม่ยอมเลิก เกี้ยงใช้ว่า ถ้าไม่มีโลงศพก็จะพูดว่ายาพิษ นายเจ็กเสียงว่าพูดอย่างนี้ก็ดีทำตามจิตฟ้า แม้จะไม่มีโลงศพก็พูดไม่่ได้ว่ายามีพิษ กลายเป็นทำลายการแพทย์ กงอี้คิดอยู่นานก็พูดว่า ให้มาเอาโลงศพได้ นายเกี้ยงใช้ดีใจว่า ขอบคุณมาก ๆ โลงศพนี้ประมาณ 2 พันอีแปะ เมื่อยกโลงศพไปแล้ว กงอี้ก็ยังกังวลใจว่าเรื่องนี้ถูกใส่ร้าย วันหลังให้ยาใครต้องระมัดระวังมีตัวอย่างเคยมาแล้วก็จะไม่ถูกใส่ร้ายอีก เจ็กเสียงว่า มีคติพจน์ว่า พบเรื่องหนึ่งก็ฉลาดเรื่องหนึ่ง แล้วก็พูดว่านายเงี้ยมเกี้ยงใช้ ลูกตายก็กล่าวหายากงอี้มีพิษแบบนี้ไม่ดี เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน คนในบ้านเกี้ยงใช้ก็เจ็บป่วยกันทุกคน แม้แต่ความยยังไม่มีคนเลี้ยงจนอดตาย งานในนาก็ไม่มีคนทำ จึงวานคนให้มาหากงอี้เพื่อขอยา คนในบ้านไม่ยอมให้ กงอี้ว่ายังประโยชน์แก่ผู้อื่น ยังจะมีความแค้นส่วนตัวอีกหรือ ว่าแล้วก็ให้ยาเขาไป พอได้ยาโรคก็หายกันทั้งบ้าน นายเกี้ยงใช้จึงพูดกับคนอื่นบ่อย ๆ ว่า บุญคุฯต้องตอบแทน ข้าขอเป็นพยานว่า ท่านกงอี้ให้ประโยชน์แก่ผู้อื่น โดยปลดเปลื้องความแค้น เป็นขันติที่ 86 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้ว่า

ให้ประโยชน์คนเรื่องประหลาดมาก        ให้ยาปลดทุกข์ยากยังให้โลงแถม
สั่งสมบุญที่สุดไม่เป็นเรื่องแซม            บุญคุณตอบแทนปล่อยตามธรรม

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                      ร้อยขันติ   

             แปดสิบเจ็ดขันติ  :   ตั้งไหน้ำชาถูกตีแตก

        บ้านของท่านกงอี้อยู่ติดถนนใหญ่ มีผู้คนเดินผ่านไปมามาก พอถึงฤดูร้อนจะมีคนมาดื่มน้ำชากันมาก กงอี้จึงตั้งไหน้ำชาเพื่อให้คนดื่ม แต่ไม่รู้ว่าไหชาถูกใครตีแตก ก็ได้แต่ตระเตรียมไหใบใหม่ไปทดแทน ก็ยังถูกตีแตกอีก  เป็นเช่นนี้อยู่ถึง 3 ครั้ง กงอี้ก็ไม่ถือสา เพียงต้องการให้คนไปมาได้ประโยชน์ก็พอ ได้แต่ค่อยตระเตรียมใบใหม่  วันหนึ่ง ทันใดก็มีเด็กชายข้างบ้าน แซ่เอี้ย ชื่อ เพ้า วิ่งมาหากงอี้ ขอร้องให้ช่วยเหลือคุ้มครองหน่อย เขาพูดว่าบิดาควบคุมเข้มงวดทนไม่ได้ กงอี้ว่าพ่อเจ้าตีเจ้าทำไม เอี้ยเพ้าตอบว่า ไม่มีสาเหตุ กงอี้ว่า มีอย่างนี้ด้วยหรือ  ขณะนั้น พ่อของเอี้ยเพ้าก็ถือไม้ตะพตเข้ามา มองเห็นเจ้าเพ้าอยู่ต่อหน้ากงอี้ ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น กงอี้ว่า ตีลูกมีความผิดอะไร  พ่อเอี้ยตอบว่าลูกไม่รักดี กล้าทำผิดกับนายท่าน เพราะลูกน้อยตีไหชาของท่านแตกจึงต้องตี กงอี้ว่า แม้จะตีไหชาของข้าแตกก็เป็นเรื่องเล็กน้อย ข้าไม่ถือสาลูกน้อยของเธอหรอก นายเอี้ยว่า ขอความกรุณาของท่านเมตตาข้าด้วย กงอี้ว่า ปกติข้าตั้งไหชาให้คนอื่นดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว ฟ้าใช้ให้ลูกน้อยของเธอมาตีแตก หมายความว่าฟ้าได้เตือนข้าให้มีใจมั่นคง ว่าแล้วก็พูดโศลกให้ฟังว่า

ตั้งไหชาเรื่องเล็กยังไม่มั่นคง             ฟ้าให้ลูกข้างบ้านมาตักเตือนข้า
ถ้าบำรุงให้คนอื่นชุ่มชื่นปากคอ           ข้าก็จะระมัดระวังหวนกลับคิด
ข้าให้ทานน้ำชามานานแล้ว               เตือนพ่อลูกให้กลับไปด้วยกัน
ต่างให้เมตตากตัญญูสอนธรรม           อย่าเป็นเพราะข้ามาถกเถียงกัน

        นี่ด้วยกงอี้ให้ทานน้ำชา เป็นขันติที่ 87 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

ตรวจสอบความประสงค์คนมา             เมื่อกลไกมาจึงเข้าใจถึงฟ้า
สอนแนะเขาจากทานน้ำชา                บอกให้มีเมตตากตัญญู

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                      ร้อยขันติ   

               แปดสิบแปดขันติ  :   สงสารคนรับโทษตกต่ำ

        เพื่อนบ้านใกล้กันมีคนหนึ่งชื้อ แปะบ่วง  คนพี่ก่อกรรมทำชั่ว ครอบครัวขัดสนมาก่อน ต่อมาก็ร่ำรวยขึ้น ขณะมาพบกับกงอี้แล้วนั่งคุยกัน กงอี้ตักเตือนให้เขากลับตัวแก้ไขความชั่วเสีย แล้วบอกให้เฮ้งแปะบ่วงแจ้งฟ้าดินสาบานว่าจะกระทำแต่ความดี จึงจะสามารถเสวยสุขได้นาน นายแปะบ่วงเชื่อถืออย่างสนิท จึงสำนึกผิดต่อฟ้า แก้ไขความชั่วไปสู่ความดี เขาขยันปฏิบัติอยู่ 3 ปี ครอบครัวยังอับโชค ทำให้เฮ้งแปะบ่วงเกิดคลางแคลงใจ สงสัยในคำพูดของกงอี้ อยากกลับไปประพฤติตัวเหมือนเมื่อก่อน มีวันหนึ่งก็มาพูดกับกงอี้ว่า เรื่องกุศลในโลกนี้เป็นของปลอม เมื่อก่อนฉันเคยทำชั่วมาบ้านก็สุขสบาย ตั้งแต่มาฟังคำพูดของท่านสาบานว่า จะแก้ไขความชั่วมาทำความดีแล้ว คนในบ้านตายลงไปครึ่งหนึ่ง ทั้งยังโดนอัคคีภัย 3 ครั้ง ไหนว่าทำดีจะได้ดีเล่า กงอี้ว่า เป็นด้วยเธอกระทำความดีซาบซึ้งฟ้า ไม่ใช่ว่าฟ้าจะทำร้ายเธอ คนที่แก้ไขความผิดนั้นเหมือนการยืมหนี้ เอาหนี้หักลบหนี้ ต้องทำให้หนี้สินหมดไม่ค้างคากันก่อน ต่อไปก็จะไม่มีใครมาถามไถ่เรื่องหนี้ เหมือนเธอที่หนี้กรรมเก่ายังไม่หมด น้ำแก้วเดียวจะไปดับไฟได้หรือ นี่ด้วยว่าฟ้ากระทำต่อเธอเต็มที่ต้องรับทุกข์รับเหนื่อยหักบุญในปัจจุบัน ทดสอบว่าใจเธอจะจริงใจหรือไม่ ดังนั้น ถ้าหากเธอมีรากกุศลดี ไม่หวั่นไหวสั่นคลอน ย่อมมีมงคลไหลมาเทมา มีหรือจะปลอม โบราณมีบทธรรมบทหนึ่ง พูดเกี่ยวกับฟ้า เธอเอาไปอ่านดูก็จะรู้ละเอียด นายแปะบ่วงรับไปอ่านว่า

ก้มกราบรายงานฟ้า ฟ้ายินดีทำไม                  ฟ้าไม่ยินดีตนแต่ยินดีตามธรรม
ควรรู้ว่าขัดหลักธรรมคือฝ่าฝืนฟ้า                    ฟ้าพิโรจน์ตั้งแต่นั้นมา
โกรธเธอเป็นคนไม่ซื่อสัตย์                          พ่อแม่พี่น้องไม่มีจริยธรรม
ไม่มีเมตตาไม่มีกตัญญูไม่นับถือเพื่อน             แย่งนาแย่งที่แย่งทรัพย์สิน
โกรธเธอเป็นคนไม่ญาติดีกัน                        สามีภรรยาเพื่อนมิตรกล่าวหากัน
ไม่คิดอยู่ร่วมกันคบหาเพื่อน                         ใจแคบเห็นแก่ตัวไร้้สัจจะไม่ละอาย 
โกรธเธอเป็นคนที่ลืมจิตตน                          ความอยากได้ผลประโยชน์ถึงวางแผน
เพียงหวังให้บ้านตนอิ่มอ้วนสมบูรณ์                ไม่คิดบ้านอื่นบ่นทุกข์เข็ญ
โกรธเธอเป็นคนนิสัยเสพสกปรก                    ไม่คิดว่าตนก็มีพี่สาวน้องสาวเหมือนกัน
เพียงชั่ววูบที่พอใจก็ทำลาย                         พิษสะสมฟ้าจึงโกรธถึงที่สุด     
โกรธเธอเป็นคนแพร่ชั่วให้มวลชน                   คนผิดน้อยร้อยคนมีแค่สองสาม
ป้ายสีป้ายมลทินล้วนไม่มีมูล                         มีแต่ตายทางกุศลไม่อณุญาต   
ขอให้พวกมนุษย์เกิดสำนึกเข้าใจ                    ใจแกร่งฟ้าผ่าไม่เพื่มให้เธอ
ทำกุศลสิบต้องปลูกฝังกุศลสิบ                        เอากุศลไปยันอกุศลโทษมลาย
คล้อยตามจิตไม่ให้ห่างแม้ขณะ                       นานไปกลายเป็นวัชรกายของตน
บรรดาบาปไม่ทำบุญสร้างไว้                           ตำหนักฟ้ารักเมตตาให้โชคลาภ
ถ้าไม่ละหลงประพฤติอันธพาล                        มีเงินกองเป็นเป็นภูเขาก็เท่านั้น
ขาดลูกหลานติดตระกูล                                วิญญาณก็คงรับโทษในนรก
อย่าได้พูดว่าฟ้าพูดไม่ได้                              คนควรซาบซึ้งฟ้าให้ธรรมตรง

        นายเฮงแปะบ่วงอ่านจบ ก็คิดว่าโศลกโบราณที่พูดเรื่องของฟ้า ตนทำผิดมาตลอดต้องว่าโทษกรรมของฉันหนัก ได้เพราะท่านประทานโศลกแก่ข้า ข้าขอสาบานจะไม่กระทำชั่วจะสร้างแต่ความดี ถึงตายก็ไม่เปลี่ยน นี่เพราะกงอี้สงสารคนตกต่ำ เป็นขันติที่ 88 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

แรงคนแรงกว่าหลักธรรมฟ้า                  ทำงานหาขัดขีนกันไม่
กลับน้อมนอบถ่อมตนเสมอไป               ระมัดระวังอย่าให้คนทำผิด 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                    ร้อยขันติ   

             แปดสิบเก้าขันติ  :   เตือนคนฝึกปราณยุติก่อคดี

        บ้านที่ห่างไกลไปประมาณ 40 ลี้ มีชายคนหนึ่งชื่อ ฉิ้นเลี้ยง ครอบครัวพอจะมีกิน นิสัยซื่อตรง วันหนึ่งมาหากงอี้ด้วยอาการไม่สบาย คนเล่าว่าจะฟ้องร้องคนแซ่ทั้ง เรื่องปิดกั้นทางน้ำ ทางฝ่านทั้งใช้อิทธิพลไม่ยอมปล่อยน้ำมาทางร่องน้ำ อาศัยคนรู้จักให้ไปเจรจาถึง 3 ครั้งก็ไม่ได้ผล เขาไม่ยอมให้ข้าใช้น้ำ ข้าคิดว่าจะไปฟ้องศาล วันนี้ก็ไม่สบายมาขอความเห็นจากท่าน กงอี้ว่า ยังมีแหล่งน้ำอื่นอีกไหม นายเลี้ยงว่าทางอื่นก็มีน้ำใช้อยู่ แต่ทนอาการกดดันไม่ไหว แต่ทางน้ำนี้สมัยก่อนมีมานานแล้ว เขาใช้กำลังแย่งเอาไปหมด ขณะนี้ข้าอายุจะห้าสิบแล้ว มีบุตรชาย 2 คนแต่ก็ยังเด็กอยู่ หากข้าไม่เอาเรื่องกับเขาอาศัยศาลสั่งให้ วันหลังข้าตายแล้ว ลูกก็จะถูกเขาเหยียดหยาม กงอี้ว่า ไม่ต้องให้ศาลจัดการ ลูกก็จะไม่ถูกเหยียดหยาม นายเลี้ยงถามว่า จะไม่ถูกเหยียดหยามอย่างไร กงอี้ว่าให้ฝึกลมปราณและยุติฟ้องร้อง ความซื่อสัตย์และความการุณยธรรมยังมีอยู่ ผู้มีหลักธรรมจะไม่แย่งชิง ก็คือเก็บเยื่อใยไว้ให้เขา วันหลังเขาจะรู้สึกตัว แก้ไขด้วยพระคุณ ความเลวร้ายจะหยุดลงได้อย่างไร  กงอี้ก็พูดเรื่องบ่มเลี้ยงปราณของคนโบราณให้ฟังว่า "บ่มเลี้ยงปราณอาศัยใจ ปราณเรียบทั้งร้ายเจ็บป่วยก็หาย" ปราณมีชื่อ 2 ชนิด แยกเป็น 2 ตอน ชื่อหนึ่งเกิดขึ้นง่ายเตือนให้ระวังหลบเลี่ยงเสีย อีกชื่อหนึ่งตามนิสัย ปรับปรุงนิสัยขยันบำเพ็ญจิต ยามปกติตรึกคิดให้ละเอียด ถ้าใจกับอารมณ์ไม่ถือสาเกิดขึ้นก็ต้องระงับบ่มเลี้ยงน้ำไฟให้พอดีกัน เผชิญปัญหาต้องอดทนคำพูดให้มันละลายก็จะถึงอริยปัญญา อารมณ์จะกว้างไม่มีกำจัด จิตใจก็เบาสบาย เมื่่อกงอี้พูดจบ นายเลี้ยงว่า ขอถามหน่อยว่าอารมณ์ดีมีประโยชน์อะไร ข้าจะไปหาน้ำจากแหล่งอื่นมาใช้ ก็จะไม่ต้องกลัวศาลไปควบคุม นี่คือกงอี้สอนคนให้ฝึกอบรมอารมณ์ เป็นขันติที่ 89 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

รู้หยุดดับไฟที่ไม่มีชื่อ                  มีแต่กงอี้ที่ซื่อเห็นแตกต่าง
ช่วยคนอาศัยวิธีโบราณอ้าง           เขียนกลอนวางอารมณ์โลกหมดสิ้น

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                        ร้อยขันติ   

                     เก้าสิบขันติ  :  อ่านขันติคีตาซาบซึ้งคน

        กล่าวคือ กงอี้มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ ปึงข่งซิ้ว มาคุยกับกงอี้ว่า มีผู้คนจำนวนมากยกย่องท่านว่าเป็นคนผู้มีขันติผ่อนปรนที่สุด วันนี้จึงมาขอคำชี้แนะว่า ความหมายของการอดทนผ่อนปรนนั้นมีดีอย่างไร กงอี้จะอ่านบทกลอนให้ฟังว่า

อดทนอารมณ์ยอดที่สุด             สามารถลุถึงธรรมได้แท้จริง
อดทนได้น้อยก็ลุธรรมน้อย         อดทนมากก็สร้างธรรมได้ใหญ่
ไม่มีความอดทนพาตนตาย         มีความอดทนชีวิตยืนยาว
พิจารณาลึกอักษรอดทนแข็ง       ย่อมชนะผู้แกร่งได้ดี
เรื่องทั้งหลายอดทนได้ครบ         บุญกุศลตามตัวอดทนมา
รู้จักความหมายของอดทน          กายทั้งกายล้วนมีค่า
อดทนผ่อนปรนดีที่หนึ่ง             พวกเรารีบมาศึกษา

        พออ่านจบนายข่งซิ้วก็พูดว่า ฟังคติพจน์ที่ท่านสอนแล้ว ข้ามีเรื่องอยู่ 3 เรื่องที่ยังไม่จบ กงอี้ว่าพูดให้ฟังซิ ข่งซิ้วว่า เรื่องที่หนึ่งคือ สุสานของบรรพบุรุษมีต้นไม้อยู่ 2 ต้น ถูกคนแซ่เอี้ย ตัดไปต้นหนึ่ง คนรอบข้างเขาตัดสินว่าเอี้ยจะต้องชดเชยความผิด ข้าก็ยังไม่ได้ติดตาม  เรื่องที่ 2 คือว่า ข้าจูงลูกวัวตัวหนึ่งไปให้นายอ้วง ตรวจดูว่าดีหรือไม่ดี ผูกลูกวัวไว้ที่หน้าบ้านประตูบ้านของนายอ้วง  นายอ้วงเป็นหนี้คนอื่นก็เลยเอาวัวไปขัดหนี้ นายอ้วงมาขอร้องข้าจะชดใช้เงินให้ แต่ข้าก็ไม่ยินยอม เรื่องที่ 3 คือข้าได้ว่าจ้างครูมาสอนหนังสือที่บ้าน มานานกว่า 2 เดือนแล้ว พอพบกับตั้งกวงเจ็ก ก็แอบตกลงพาไปสอนที่บ้านของเขา ตามความคิดของข้าจะเอา 3 เรื่องไปฟ้องร้องต่อศาล เมื่อมาฟังคำของท่านแล้ว การอดทนผ่อนปรนคือโชควาสนา  คงต้องยุติเรื่องทั้งสามกระมัง กงอี้ว่าดี ทั้งสามเรื่องล้วนมีเหตุผลควรยุติ ย่อมได้รับบุญวาสนาจากทั้ง 3 บ้านที่รังแกเจ้า  นี่คือกงอี้ใช้ธรรมซาบซึ้งคน เป็นขันติที่ 90 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้

คนมีบุญวาสนาด้วยใจกว้าง             เข้าใจหาทางออกเหมือนฟ้ามหึมา
ดวงใจเหมือนตะวันจันทรา              ส่องประภาอบอุ่นคลายหนาว

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                          ร้อยขันติ   

                    เก้าสิบเอ็ดขันติ  :  กงอี้ปลอบคนให้คลายแค้น

        มีอยู่วันหนึ่ง กงอี้พบคนหนึ่งชื่อ เฮ้งกิมเจ็ง มาพูดกับกงอี้ว่า ข้ามีความแค้นกับคน แซ่หวม ชื่อ เสียวเต็ก สาเหตุมีคดีความทำให้พี่ชายข้าต้องตายไป แต่ตอนนี้นายเสียวเต็กก็ตายไปแล้ว ภรรยาของเขา แซ่โง้ว มีลูกชายคนหนึ่ง เป็นหม้ายไม่ยอมแต่งใหม่  แ่ตอนนี้มีคนชื่อ อวงเง็กเซ้ง จะเอาไปเป็นเมีย นางโง้วอยู่ใกล้บ้านข้า ข้าจะอาศัยโอกาสนี้กดดันให้นางโง้วแต่งไปเสีย ลูกกำพร้าไม่มีที่พึ่งก็จะตกต่ำ ข้าจะวางแผนทำร้ายไม่ให้มีผู้สืบสกุล กงอี้ว่า วางแผนเช่นนี้ไม่ได้  หากทำเช่นนั้นฟ้าไม่ยอม ดินไม่รับ คนแซ่หวมที่ทำร้ายพี่ชายของเธอก็ตายไปแล้ว เจ้าคิดจะข่มเหงเธอ ไม่ให้รักษาจารีตพรหมจรรย์ได้ตลอด ความชั่วเช่นนี้ท่วมฟ้า แล้วยังจะคลุมลูกกำพร้าของเขาอีก บาปนี้มหันต์นัก กิมเจ็งจึงว่า ตามที่ท่านพูดความแค้นของพี่ชายก็ชำระไม่ได้นะซิ กงอี้ว่า ฟ้าก็ชำระความให้เธอแล้ว เธอทำไมไม่คิดล่ะว่าเขาทำร้ายพี่ชายเธอถึงตาย บัดนี้เขาก็ตายไปแล้ว สามารถพูดได้ว่า ฟ้าสนองตอบยุติธรรม ถ้าเธอยังจะกระทำความชั่วนั้นอีกฟ้าคงเอาหัวเธอแน่ กรรมตอบสนองไม่มีผิดเพี้ยน กงอี้พูดแล้วก็ร่ายโศลกให้ฟังว่า ""อันความโกรธบีบคั้นคนถึงอันตราย คนชั่วน้อยคนนักที่จะรอดพ้น หนึ่งรู้แต่ว่าโหดร้ายสกปรกอย่างเดียว สองไม่รู้จักความใสสะอาด รู้แต่จะแก้แค้นลูกเดียว ตาข่ายผูกมัดอารมณ์โลภและขี้เกียจ มนุษย์อยู่ได้กี่สิบปี อาศยความชั่วติดต่อกันสามชั่วโคตร วันหนึ่งเมื่อตายลง ในยมโลกก็ไม่มีความดีพลอยทำให้ลูกหลานเสียหาย วิบากกรรมรัดตัวแก้หลุดยาก"""พอกงอี้ ร่ายจบลง นายกิมเจ็งก็พูดว่า ขอทำตามโอวาทของท่านอย่างระมัดระวัง แค้นของพี่ชายไม่ต้องชำระแล้ว กงอี้ว่า เธอไม่ทำกรรมก็ไม่สนอง  เธอยังต้องน้อมนำโอวาทของพระเจ้าบุ้นเซียงไปปฤิบัติ เอื้ออาทรคนกำพร้า สงสารคนโดดเดี่ยว แม่ลูกแซ่หวมบ้านอยู้ใกล้กับเธอ ยิ่งต้องเพิ่มความอาทร  ขอให้ฟ้าคอยเหลียวแล  กิมเจ็งตอบรับคำอย่างดี คลายอวิชชาไปทีเดียวเมื่อใจเปลี่ยนกลับ แก้ไขความชั่วไปทำความดี ความแค้นเอาบุญคุณดูแล  นี่คือกงอี้เร่งเร้าคนให้คลายความแค้นมาอาทรกำพร้า เป็นขันติที่ 91 ต่อมาภายหลังคนก็แต่งกลอนให้

บอกความหมายของแค้นให้เข้าใจ             เพื่อจะได้เวทนาคนกำพร้า
บ้านใกล้เคียงอาทรได้ทุกเวลา                 ความกรุณาบริจาคได้สะดวก

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                     ร้อยขันติ   

             เก้าสิบสองขันติ  :  จิตบริสุทธิ์ว่าคน ชักนำไปทางดี 

        กล่าวคือ กงอี้พูดคุยกับนาย ลิ้มเคี้ยว ถึงเรื่องราวต่าง ๆ นายเคี้ยวปีนี้อายุประมาณหกสิบ เป็นผู้มั่งคั่ง นายเคี้ยวพูดว่า ข้าเป็นคนที่ชอบพูดใครตรง ๆ ทำไมต้องตักเตือนคนให้ทำความดี พูดไปจนปากแฉะ ข้าคิดว่านิสัยคนเป็นเช่นนั้น ถ้านิสัยโกงก็โกงอยู่ หรือว่าคนโกงจะเป็นคนดีได้ นิสัยตรงก็ตรง หรือตรงจะกลายเป็นโกง กงอี้ว่านิสัยตรงไม่พูดว่าตรง นิสัยโกงไม่พูดว่าโกง  ผู้มีนิสัยตรงก็ปฏิบัติมหาธรรม  ถ้าไม่ใช่อริยเจ้าก็ทำไม่ได้ นิสัยโกงก็เป็นปุถุชนที่เกกมะเรก ถ้าไม่ตักเตือนกล่อมเกลามีหรือจะคล้อยตาม  นายเคี้ยวว่า ท่านวิจารณ์ข้าตรง ๆ ขอให้ท่านวิจารณ์นิสัยข้าว่าเป็นอย่างไร กงอี้ปิติยินดีพูดว่า นิสัยอารมณ์ถอยหลบแข็ง มีแต่ตัวกู ไม่มีเก่งกว่า เรื่องง่ายก็จะตรงไว้ก่อน ถ้าเจรจาไม่เข้ากัน บางทีเรื่องดีกลับเป็นไม่ดี เพื่อนฝูงเข้ามาตักเตือนยาก พี่น้องเผื่อแผ่น้อย เอาแต่อารมณ์  รู้จักพอน้อย แม้มีเหตุผลยาวนานและละเอียด แม้เปลี่ยนแปลงก็ทำลายบุญ ผู้อาวุโสก็ยังถูกทำร้าย นายเคี้ยวว่า ท่านวิจารณ์ข้าเหมือนพระเจ้า  ที่จริงข้าไม่สมควรรับคำตรงได้ พวกเพื่อนฝูงก็ไม่มีใครตักเตือนข้า  เพราะฉะนั้น พี่น้องข้าก็ไม่ปรองดองกัน กงอี้ว่า ว่าตามหนังสือของปราชญ์อริยะแล้ว พี่น้องไม่ปรองดอง เพื่อนฝูงไม่สมานฉันท์ แสดงว่าคุณสัมพันธ์ห้าบกพร่อง ตรงจะมาจากที่ไหน นายเคี้ยวว่า ขอบคุณที่ท่านพูดตรง ๆ สอนข้า จากวันนี้ไปจะต้องปรับปรุงคุณสัมพันธ์ห้า ทำตามโอวาทของปราชญ์อริยะ เกือบจะสูญเปล่าทั้งชีวิตตกต่ำด้วยทำตัวเอง กงอี้ก็พูดขออภัย จากนั้นก็ลาจากกันไป แล้วพวกเขาก็แก้ไขปรับปรุงจนพี่น้องรักใคร่กัน นี่แหละคุณค่าที่กงอี้ใช้จิตบริสุทธิ์ชักนำคนไปสู่ความดี เป็นขันติที่ 92 ต่อมาภายหลังมีคนเขียนกลอนให้

พิจารณาอักษรตรงไม่ครบถ้วน             เข้าใจคุณสัมพันธ์ล้วนกรรมสัมพันธ์
กงอี้ชักนำคนให้รู้อดทนกัน                 แข็งอ่อนสงเคราะห์กันตามอริยะ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                       ร้อยขันติ   

               เก้าสิบสามขันติ  :  รับบริจาคด้วยความนุ่มนวล

        กล่าวคือที่ใกล้ ๆ กับบ้านกงอี้ มีการก่อสร้างศาลเจ้าปู่ฟ้า (เทียนกง) หนึ่งหลัง มีหัวหน้าดำเนินการชื่อ เฮ้งเต็งจับ ได้มาขอร้องให้กงอี้ไปช่วยพูดเรื่องของเอี้ยปู้เลี้ยง ด้วยขอให้เอี้ยปู้เลี้ยงบริจาคเงินก่อสร้าง 5 พันอีแปะ ตอนนั้นนายปู้เลี้ยงได้ลั่นวาจาตอบตกลงแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่ให้เงินบริจาค กงอี้จึงไปที่บ้านเฮ้งเต็งจับแล้วพากันไปที่บ้านของนายปู้เลี้ยง กงอี้ะูดว่า ข้าได้รับการขอร้องจากนายเฮ้งให้มาเจรจากับท่านว่า การที่ท่านจะบริจาคเมื่อวันก่อนนั้น บัดนี้จะมาขอเก็บเงินนั้น นายปู้เลี้ยงตอบว่า ข้าไม่มีเงินช่วยเหลือ กงอี้พูดว่า เมื่อยินดีบริจาคแล้วบอกว่าไม่มี นายปู้เลี้ยงว่า เขาเชิญท่านมาเอาเงินรีบ ๆ สาวเท้าออกไป กงอี้นั่งอยู่บ้านคนเดียวกำลังทำสมาธิอยู่ ทันใดก็ได้ยินข้างบ้านมีคนพูดกับนายปุ้เลี้ยงอย่างเสียใจว่า ลูกคนโตของปู้เลี้ยงเมื่อคืนเสียพนันไป 8 พันอีแปะ เช้าวันนี้ก็ไปข่มขืนเมียชาวบ้าน ถูกจับได้ต้องเสียเงินไปอีก สองพัน เขาจึงปล่อยตัวมา นายปู้เลี้ยงว่ากรรมตามสนอง ฯ อีกสักครู่หนึ่งนายปู้เลี้ยงก้เข้ามาที่ห้องโถงมาพูดกับกงอี้ว่า สะสมดีหรือทำกุศลดี  เนื่องด้วยกงอี้รู้ว่า ปู้เลี้ยงรู้สำนึกตัวแล้วจึงว่า เมื่อสะสมทรัพย์ก้อย่าโอ้อวด โดยไม่ห่วงครอบครัว หากอยากให้บ้านสมบูรณ์อยู่นานก็ต้องซ่อมสละเงินสร้างกุศล เมื่อมีกุศลคุ้มครองลูกหลาน ทั้งปราชญ์ ทั้งกตัญญูจะเพิ่มพูน ขี้เหนียวไม่ยอมทำกุศล  ไม่มีกุศล ก็มีลูกหลานไม่ดี เป็นคนเสเพลเที่ยวเสพกามและเล่นการพนัน เห็นเงินทองเหมือนดินทราย ในที่สุดบ้านก็ล้มสลาย เป็นที่รู่เห็นของคนทั่วไป ถ้าหากต้องการแสวงหาสร้างกุศล มีสามทางแพร่งใหญ่หนึ่งต้องเตรียมรุณสัมพันธ์ห้าให้พร้อม  สองบ้านใกล้เรือนเคียงต้องปลูกไมตรี  สามโอวาทแห่งพรหมลิขิต  เมื่อกุศลสมบูรณ์ธรรมก็บังเกิดขึ้น บารมีก็สำเร็จได้ในวันหนึ่ง ฟ้านั้นตอบสนองชัดเจนไม่ผิดเพี้ยน นายปู้เลี้ยงว่า ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นผู้มีการศึกษาก็ยังไม่มีความรู้ละเอียด ทั้งนี้เพราะมัวเมาในผลประโยชน์ เห็นแก่ทรัพย์เป็นสำัคัญ หากพูดตามความหมายของท่านแล้ว ทำความดียังประโยชน์แก่ผู้อื่น คงต้องไหว้วานท่านมอบเงินให้กับทางศาลเจ้าแล้วล่ะ ข้าจะนำเงินมามอบไว้ให้กับท่าน ไม่รบกวนท่านแล้ว กงอี้เดินทางกลับไป ผ่านไปอีก 2 วัน เขาก็นำเงินมามอบให้เรียบร้อย นี่คือการกล่อมเกลาให้หันมาสู่ความดี เป็นขันติที่ 93 ต่อมาภายหลังคนก็แต่งกลอนให้

คนดีย่อมเอาความดีน้อมนำ             พบอุปสรรคกระหน่ำคิดกลับหลัง
คนดื้อรันปะพรมน้ำมนต์ขลัง            ให้กำลังอย่าเห็นทรัพย์สำคัญสุด

Tags:
 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”