แรงปณิธานกับแรงบาปเวร
ตอนที่ 3
ติดตามพระองค์จอมชันษาเจ้าทักษิณาลัยท่องสวรรค์
ขณะหลับอยู่นั้น ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไร มีใครมาตบข้างเตียงนอน ร้องว่า "ลุกขึ้น ลุกขึ้น" จึงลืมตาขึ้นเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ปลายเตียง เรียกให้เข้าไปหา ผู้น้อยมองดู ต้องไม่ใช่คนแน่ ๆ เพราะใบหน้ามีแสงเรื่อเรือง ผู้น้อยรู้ว่าไม่ใช่คน แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ท่านพูดว่า "จะพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง จะไปไหม" ผู้น้อยตอบว่า "ดีครับ ๆ " ความรู้สึกบอกตัวเองว่าท่านคืือ พระองค์จอมชันษาเจ้า หนันจี๋เหล่าเซียน - อง พระองค์โปรดว่า "จะไปก็กอดไม้เท้าข้าไว้ให้ดี จะไปละ" แม้ผู้น้อยจะลอยออกมาจากห้องผู้ป่วยแล้ว แต่ก็ยังเห็นสภาพในห้องได้ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก เนื่องจากการเหินฟ้าของผู้น้อยเป็นไปอย่างไม่ค่อยสบายตัว ในใจจึงคิดว่า "พระองค์ได้โปรด กระผมไม่ไปแล้ว" ปรากฏว่าท่านรู้ จึงกรอกพลังอุ่นเข้ามาให้ เนื้อตัวจึงเกิดความสมดุลคงที่ ระหว่างทางเหินฟ้า มาหยุด ณ ที่กว้างแห่งหนึ่ง พระองค์จอมชันษาเจ้า ฯ จูงมือผู้น้อยเดินไป ผ่านขั้นบันได ผ่านเข้าประตูบานหนึ่ง ปรากฏหนังสือสามตัวข้างหน้า คือ "ทักษิณาทวาร หนันเทียนเหมิน" สองข้างประตูมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฉลองพระองค์ชุดขาว สวมเกราะ ดูออกว่าน่าจะเป็นแม่ทัพ ไกลออกไปหน่อย เห็นผู้คนมากมายเข้าแถวรอลงทะเบียน ตอบไตรรั้ตน์ ตอบคำถามอื่น ๆ พอผ่านเลยทักษิณาทวาร พระองค์จอมชันษาเจ้า ฯ ก้พาผู้น้อยเหินฟ้าต่อไป แต่ผู้น้อยมีข้อข้องใจ พระองค์จึงถามผู้น้อยว่า "เจ้ารู้ว่าที่ผ่านมาเดี๋ยวนี้นั้นคือที่ไหนไหม" ผู้น้อยตอบว่า "ทักษิณาทวาร" ผู้น้อยตอบแล้วก้ดีใจ เพราะอะไร เพราะผู้น้อยคิดว่า "การบำเพ็ญของเรา ถ้าไม่ต้องตอบไตรรัตน์จะผ่านทักษิณาทวารได้" ผู้น้อยจึงจงใจทูลถามพระองค์จอมชันษา ฯ ว่า "เราจะผ่านทักษิณาทวาร จะต้องตอบไตรรัตน์มิใช่หรือขอรับ ถ้าเช่นนั้นทำไมกระผมจึงไม่ต้อง" พระองค์ยิ้ม ไม่ตอบ แต่ชี้ที่พระองค์เอง ความเป็นจริงก็คือ เป็นเพราะพระองค์นำพาเข้ามาแน่นอน ทหารฟ้า แม่ทัพฟ้าจึงไม่เอาตัวผู้น้อยไปตอบไตรรัตน์ ก็เหมือนทางโลก เมื่อเราจะเข้าทำเนียบประธานาธิบดี พอดีมีประธานาธิบดีมาจูงมือเราเข้าไปในทำเนียบ คงไม่มีตำรวจรักษาการนายไหนรั้งตัวเราไปตรวจสอบบัตรประชาชนหรอก ถูกไหม? อย่างเดียวกัน เรากลับไปเบื้องบน คือเซียนพุทธะพาเรากลับขึ้นไป แน่นอนก็จะไม่ต้องตอบคำถามตรวจสอบความถูกต้องเหล่านั้น ผู้น้อยเป็นผู้อาศัยพระบารมีคุณอย่างเดียว ภายหน้า เรากลับคืนเบื้องบน ล้วนจะต้องตอบไตรรัตน์ ถ้าเราเป็นผู้บำเพ็ญจริง ก็จะไม่เพียงตอบไตรรัตน์ที่เป็นนามรูป ญาณทวาร รหัสคาถา ลัญจกรเท่านั้น ควรจะตอบความชัดจริงของไตรรัตน์ที่เป็น "กุศลบุญ คณธรรม ปัญญาธรรม เมตตากรุณาธรรม" ที่ยิ่งกว่า ขอเพียงเราบำเพ็ญจริง เคี่ยวกรำจริง ภายหน้าจะไม่ต้องเป็นห่วงอย่างเด็ดขาดว่า จะถูกกั้นอยู่ภายนอกทักษิณาทวาร บางคน ที่ปฏิบัติบำเพ็ญมาชั่วชีวิต พอสูงวัย ความจำไม่ดี ถ้าอย่างนั้นจำไตรรัตน์ไม่ได้ ก้ไม่ได้ผ่านทักษิณาทวารนะซิ ใช่ไหม แท้ริงไม่เป็นเช่นนั้น เบื้องบนจะพิจารณาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแน่นอน ระหว่างที่เหินฟ้าต่อไป พระองค์จอมชันษา ฯ ทรงเมตตากรุณามาก โปรดว่า พรหมโลก เบื้องฟ้ารวมมีห้าทวาร มีชื่อเป็น "ออก ตก ใต้ เหนือ กลาง" บูรพาทวาร ผู้บำเพ็ญสำเร็จล้วนเป็นตรีเทพพิทักษ์มหาราช ยังมีผู้ที่งดงามด้วยอักษรศิลป์ เช่น สามคุณ (ซันไฉ) ส่วนใหญ่โดยประมาณมาจาก "พระปราสาททักษิณารัศมี หนันฮว๋ากง" ทางบูรพาทวาร สำหรับยุคแดง ทั้งพระสงฆ์ นักพรต บาทหลวง (ศาสนาคริสต์) ล้วนกลับสู่ประจิมทวาร ภายหลังเมื่อยุคนี้ผ่านไปแล้ว ประจิมทวารก็จะไม่มี ผู้บำเพ็ญในยุคนี้ มีประตูเดียวที่เปิดกว้างให้คือ ทักษิณาทวาร ไม่ว่าจะบำเพ็ญในศาสนาใด จะเป็นศาสนาปราชญ์ พุทธศาสนา เต๋า คริสต์ อิสลาม จะกลับคืนพรหมโลกเบื้องสูง ยังจะต้องผ่านประตูทักษิณาทวารนี้ก่อน ถ้าเราบำเพ็ญในพุทธศาสนาจริง ๆ ผ่านทักษิณาทวารแล้ว ก้กลับไปยังพุทธเกษตรประจิมทิศ พุทธเกษตรไม่ใช่หมายถึง พระอมิตาภะ เท่านั้นที่ประทับอยู่ ที่นั่นคือวิสุทธิเกษตร เป็นแดนบริสุทธิ์หมดจด แท้จริงก็คือ พรหมโลกเบื้องสูงทั้งนั้น เป็นส่วนหนึ่งของพรหมโลกเบื้องสูง เบื้องบนอุดรเป็นสังกัดใดเล่า นั่นก็ึคือ ฝ่ายอัสนีบาต ฝ่ายวายุ ฝ่ายพยัคฆ์ ฝ่ายมังกร จอมเทพพิทักษ์ธรรมทั้งหลาย ทหารฟ้า แม่ทัพฟ้า ล้วนอยู่ ณ เบื้องฟ้าอุดร รวมทั้งจอมราชบุตรนาจา ผู้พี่ชาวธรรม ก็อยู่ที่เบื้องฟ้าอุดร ขุนพล แม่ทัพฝ่ายยุทธ ล้วนอยู่ที่เบื้องฟ้าอุดร ยังมีเบื้องฟ้ากลาง ก็คือเหล่าเทวดานางฟ้าทั้งหลายทั่วไปที่บำเพ็ญสำเร็จ ผู้สำเร็จระดับนี้ก็ต้องผ่านทักษิณาทวารด้วยเช่นกัน ฉะนั้นจึงกล่าวว่า "บัดนี้ มีประตูอยู่หนึ่งเดียว คือ ทักษิณาทวาร หนันเทียนเหมิน" หมื่นศาสน์พากันก่อเกิดเฟื่องฟู ก็ยังคงจะต้องกลับคืนความเป็นหนึ่งเดียว