แรงปณิธาน
กับ แรงบาปเวร
ศุภนิมิต - แปลและเรียบเรียง
สำนักพิมพ์ส่งเสริมคุณภาพชีวิต
23 ชอย 44 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน
เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700
โทร 02 - 8830620 - 1
ไท่ถงธรรมสถาน โทร 044 - 322087
พิมพ์ที่ : อักษรสยามการพิมพ์ 1137/1 จรัญสนิทวงศ์ 13 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ 10160 โทร 02 - 410 - 7813
บทบรรณาธิการ
ความสูงส่งล้ำค่าของวิถีธรรม ความวิเศษยิ่งของหนึ่งจุดเบิกจากพระวิสุทธิอาจารย์ เพียงแค่พุทธระเบียบอันประณีตจริงจังของศิษย์ธรรมกาลยุคขาว อีกทั้งด้วยความเป็นธรรมะ ทั้งพูดและปฏิบัติตน จนกระทั่งจิตดำริที่กลั่นกรองกันจนใส ก็เพียงพอที่จะทำให้พ้นจากกิเลสขุ่นข้อง และอาจล่วงพ้นเกิดตายได้แล้ว บัดนี้ ยุคกาลสุดท้าย ขณะที่ศิษย์ธรรมกาลยุคขาว กำลังขะมักเขม้นที่จะสร้างบุญก่อเกิดคุณธรรม แต่ก็มักจะมีการหลงหายไปจากความตั้งใจแต่เดิมที หายไปจากใจตน บ้างก็มีชั่วโมงการปฏิบัติธรรม แล้วก่อเกิดความยโสโอหังลืมตัว นั่นเกิดจากความหละหลวมต่อพุทธระเบียบ ละเลยต่อความเคารพศรัทธา เอางานของฟ้ามาทำเยี่ยงงานชาวบ้าน เอาความรู้สึกนึกคิดของใจคนสำคัญผิดว่าเป็นใจฟ้า หลงอยู่ในลาภสักการะทางธรรม ถลำตัวอยู่ในกรอบกักโดยไม่รู้ตัว ยิ่งกว่านั้น ยังถูกการงานทางโลกกักขังไว้ งานอริยะกับงานทางโลกขัดแย้งกัน ไม่อาจฝ่าฟันการทวงถามติดตามของแรงกรรมกับผลประโยชน์ที่รมใจให้มืดมัวได้ ทำให้ลืมแรงปณิธานเบื้องต้นด้วยประการฉะนี้
เมื่อเกิดหนึ่งความคิดก็เกิดหนึ่ง "เหตุต้น" จากมโนกรรม เป็น "ผลตาม" มา แรงของเวรกรรมจึงตามมาถึงประตูหน้าบ้านตน ฟ้าเบื้องบนต้องการเตือนใจผู้ปฏิบัติบำเพ็ญในยุคสุดท้ายให้รู้ตื่น จงอย่าเนื่องด้วยความคิดเพียงวูบเดียวที่โลภอยากยึดหมาย ทำลายความดีที่ปฏิบัติบำเพ็ญมาชั่วชีวิต ดังนั้นจึงอาศัยตัวอย่างจากเหตุและผลกรรมของ ฟั่นเจี่ยงซือ ............... ที่ปฏิบัติบำเพ็ญมาด้วยความศรัทธาจริงใจฉุดช่วยคนมาแล้วมากมาย เป็นข้อคิดเตือนใจแก่ศิษย์ธรรมกาลยุคขาว ที่กำลังปฏิบัติบำเ็พ็ญด้วยความศรัทธาอยู่ขณะนี้ให้ได้รู้ว่า "จะส่องเห็นจิตสำนึกต่อสัจธรรมที่ไหวคลอนไม่คงที่ของตนขณะปฏิบัติธรรมได้อย่างไร จะฉุดช่วยจิตวิญญาณตนขณะที่คิดเห็นเอนเอียงให้ตรงทาง ขณะฉุดช่วยผู้คนได้อย่างไร" มิจฉาดำริกับความคิดฟุ่งซ่าน ฟั่นเจี่ยงซือกล่าวว่า "ผู้น้อยเองแต่ก่อนก็เชื่อมั่นปฏิบัติตนทุกเวลา รู้สึกว่าตนก็คือผู้บำเพ็ญที่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง แต่สุดท้ายจึงได้รู้ว่า การเป็นผู้บำเพ็ญธรรมของตนมีคุณสมบัติเพียงขณะอยู่ในตำหนักพระเท่านั้น" ถ้าหากไม่ได้บำเพ็ญธรรมอยู่กับการปฏิบัติธรรมกิจ ถ้าหากเวลาที่ไม่มีปณิธานครองใจ แรงของเวรกรรมก็จะมาปรากฏตรงหน้า ฟั่นเจี่ยงซือ ............... เป็นอาจารย์บรรยายธรรม เป็นชายหนุ่มในอาณาจักรธรรมวงการปัญญาชน ด้วยความศรัทธาจริงใจ ได้ฉุดช่วยนำพาญาติเพื่อนพ้องมากมายให้ได้รับวิถีธรรม ไม่เคยย่อท้อต่อการฉุดช่วยเสียสละตน อีกทั้งได้รับความเกื้อหนุนจากพุทธะเซียน แต่โดยไม่คาดคิดด้วยเหตุที่ใจไหวเอนปรารถนาจะหาเงิน ใจธรรมถดถอยไป แรงเวรกรรมตามติด จากแต่เดิมทีที่ยังมีใจของพระโพธิสัตว์ กลายเป็นใจของปุถุชนไป
ในขณะหัวเลี้ยวหัวต่อของความเป็นความตาย เบื้องบน ได้โปรดเห็นแก่ที่ "ฟั่นเจี่ยงซือ" เคยปฏิบัติบำเพ็ญมา ซึ่งยังนับว่ามีศรัทธาจริงใจมาก่อน จึงให้เขาได้ผ่านพ้นจากสนามรบที่ ต้องต่อสุ้ปะทะกันระหว่างความเป็นกับความตายในครั้งนี้ อีกทั้งโดยพระองค์ "จอมชันษาเจ้าทักษิณาลัย....................................หนันจี๋เหล่าเซียน - อง" ได้โปรดนำไปท่องสวรรค์ ให้เขาได้เห็นเหตุ - ผลกรรมของตนเองในอดีตชาติ กับบาปบุญในการปฏิบัติบำเพ็ญธรรม ฟั่นเจี่ยงซือท่องสวรรค์ ไม่ใช่การท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่จากการท่องเที่ยวได้เห็นตนเอง อีกทั้งสิ่งละเอียดประณีต ที่ผู้ปฏิบัติบำเพ็ญในยุคสุดท้ายละเลยไปเป็นทั้งคุณกับโทษ บทบันทึกนี้ ยังไม่เคยมีมาก่อนในท่องสวรรค์บทอื่น ๆ ฟั่นเจี่ยงซืออธิบาย "เหตุต้นผลตาม" ของตนเองทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่อย่างหมดสิ้น อีกทั้งพิจารณาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นั่นคือจิตดำริคิด จากการบอกเล่าของเขา เราจึงได้พบว่าผู้ปฏิบัติในยุคสุดท้าย ได้ละเลยเมล็ดพันธุ์โพธิ ละเลยศีล ละเลยพุทธระเบียบ ที่ผู้บำเพ็ญพึงมี ฟ้าเบื้องบนอาศัย "เหตุต้นผลตาม" ที่ฟั่นเจี่ยงซือท่องสวรรค์เป็นตัวอย่างจริง เป็นข้อเตือนใจชาวเราศิษย์ธรรมกาลยุคขาว ที่หละหลวมต่อพุทธระเบียบ ต่อการบำเพ็ญที่ปรากฏอยู่ทั่วไป
หวังว่าทุกคนจะกลับใจสอดส่องตนทันที ทุกขณะจิตรักษาไว้ให้ดี จึงจะไม่ตกไปเมื่อใกล้เวลาบรรลุ เท่ากับบำเพ็ญเสียเปล่าชั่วชีวิต สำนักพิมพ์เมื่อได้ฟังเทปที่ฟั่นเจี่ยงซือพูดไว้ ตื่นตระหนกกับใจที่โง๋หลง ความสะท้านสำนึกเิกิดขึ้นเองในใจ คิดว่าเราผู้ปฏิบัติบำเพ็ญด้วยศรัทธานั้น เป็นจริงแท้แค่ไหน ยังจะมีปัญหาน่าละอายใจต่อใคร ๆ อีกไหม ควรเป็นเวลาวางกรอบในตนเองได้แล้ว ปรารถนาช่วยแพร่ข่าวจากเบื้องบน จึงลงมือเขียนบทบรรณาธิการนี้ แจกจ่ายเป็นวิทยาทาน
จาก กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์หมิงเต๋อ