ปรัชญาเมิ่งจื่อ
แปลและเรียบเรียงโดย ศุภนิมิต
คณะผู้จัดทำ
ศุภนิมิต
นายวีเกียรติ มารคแมน
นายปรีชา อัศวกาญจนา
นางสาวชลาลัย วงศ์วิญญูตระการ
จัดพิมพ์โดย
สำนักพิมพ์ส่งเสริมคุณภาพชีวิต 23 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 44 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700
โทรศัพท์ 0-2883 - 0620 , - 081-613-7550 โทรสาร 0-2883 - 0621
และ ไท่ถงธรรมสถาน 19 หมู 9 บ้านเขาพระ ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30320 โทรศัพท์ 0-4432-2087-8
พิมพ์ที่
อักษรสยามการพิมพ์ 1137/1 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 13 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2410 - 7813
สารบัญ
ปราชญ์เมิ่งจื่อ เริ่มเรื่อง
ประวัติสังเขปปราชญ์เมิ่งจื่อ
ปรัชญาพื้นฐานจากปราชญ์เมิ่งจื่อ
1. บทเหลียงฮุ่ยอ๋วง ตอนต้น
บทเหลียงฮุ่ยอ๋วง ตอนท้าย
2 บทกงซุนโฉ่ว ตอนต้น
บทกงซุนโฉ่ว ตอนท้าย
3. บทเถิงเหวินกง ตอนต้น
บทเถิงเหวินกง ตอนท้าย
4. บทหลีโหลว ตอนต้น
บทหลีโหลว ตอนท้าย
5. บทวั่นจัง ตอนต้น
บทวั่นจัง ตอนท้าย
6. บทเก้าจื่อ ตอนต้น
บทเก้าจื่อ ตอนท้าย
7. บทจิ้นซิน ตอนต้น
บทจิ้นซิน ตอนท้าย
ดรรชนี
ปรัชญาเมิ่งจื่อ
ปราชญ์เมิ่งจื่อ
เริ่มเรื่อง
ก่อนคริสตศักราชหนึ่งพันหนึ่งร้อยกว่าปี เป็นสมัยปลายราชวงศ์อินซัง (สามพันสองร้อยปีโดยประมาณ) ผู้ปกครองแผ่นดินคือ โจ้วอ๋วง ทรราชผู้ฉาวโฉ่ โจ้วอ๋วงหลงราคะ ประหารขุนนางศรีที่เตือนสติ ข้าราชฯ คนดีต่างหนีหาย ประชาชนระส่ำระสายทุกข์ยาก ก่อนหน้านั้น ขณะรุ่งเรือง ทางทิศตะวันตกของบ้านเมืองยังมีชุมชนกลุ่มใหญ่สกุลโจว เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อบัลลังก์ทรราชสั่นคลอน กลุ่มชนสกุลโจว ซึ่งนำโดยประมุขจีฟา จึงบุกเข้าขับไล่ ขจัดภัยแก่ประชาราษฏร์ ก่อนคริสตศักราชหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบเอ็ดปี ทรราชโจ้วอ๋วง พ่ายแพ้ยับเยิน ไปเผาตัวตายที่เมืองเจาเกอ ราชวงศ์อินซังถึงการสิ้นสูญ จีฟา ผู้นำกลุ่มชนสกุลโจว ก็คือ กษัตริย์โจวอู่อ๋วง ในเวลาต่อมา เพื่อการปลอบขวัญชาวบ้านชาวเมืองเก่าของทรราชโจ้วอ๋วง กษัตริย์โจวอู่อ๋วง ได้แต่งตั้งราชบุตรอู่เกิงของทรราชเป็นอ๋องรักษาการเมืองเก่า แบ่งแผ่นดินผืนใหญ่ จัดสร้างเมืองใหม่แก่โจวกง (จีตั้น) พระอนุชาผู้มีคุณต่อแผ่นดินของพระองค์ โจวกงเอาแผ่นดินพระราชทาน ซึ่งปัจจุบันคือ มณฑลซันตง อำเภอฉวี่ฟู่ สร้างเป็นเมืองหลู่ นั่นคือ ถิ่นกำเนิดของปราชญ์เมธีมากมายในภายหลัง เนื่องจากโจวกงจะต้องดูแลราชการเมืองหลวงของกษัตริย์โจวอู่อ๋วง จึงส่งป๋อฉิน ราชบุตรของพระองค์เองไปเป็นเจ้าเมืองหลู่
ป๋อฉิน จึงนับเป็นเจ้าเมืองต้นราชวงศ์หลู่ ได้สืบต่อยุคสมัยโดยรัชทายาท นับเป็นสายตรงจากโจวกง หรือ พระเจ้าปู่โจวกง ซึ่งเป็นพระอนุชา ผู้สูงส่งด้วยคุณธรรม จริยธรรม ของอริยกษัตริย์โจวอู่อ๋วง หลายร้อยปีต่อมา จนถึงรัชสมัยพระเจ้าหลู่หวนกง พระเจ้าหลู่หวนกง แต่งตั้งรัชทายาทจีถง (วัน เดือน เวลา กำเนิด ตรงกับพระบิดา) สืบต่อเป็นพระเจ้าหลู่จวงกง พระเจ้าหลู่จวงกงมีพระอนุชาสามพระองค์ ได้เจริญงอกงามเป็นสามตระกูลใหญ่ คือ ตระกูลเมิ่งซุน สูซุนกับจี้ซุน ล้วนเป็นมหามนตรีที่สูงส่งด้วยอำนาจราชศักดิ์
ปราชญืเมิ่งจื่อ คือ ทายาทบุตรหลานของท่านเมิ่งซุน จึงใช้แซ่สกุลเมิ่ง ภายหลังบรรพบุรุษสกุลเมิ่ง รุ่นใดไม่แจ้งชัด ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่เมืองโจว ปราชญ์เมิ่งจื่อ จึงกลายเป็นคนเมืองโจวไป เมืองหลู่ กับ เมืองโจว ระยะทางห่างกันเพียงไม่กี่สิบลี้ ปัจจุบันคือซันตง มณฑลเดียวกัน
บิดา ของปราชญ์เมิ่งจื่อ นามว่า เมิ่งจี วายชนม์เมื่อเมิ่งจื่ออายุได้ สามปี มารดาของเมิ่งจื่อเป็นกุลสตรี ธิดาสกุลจั่ง เป็นยอดมารดาที่ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า "หากปราศจากท่าน โลกจะไม่มีปราชญ์ที่ชื่อว่า "เมิ่งจื่อ" ย้อนหลังค้นหาจึงได้พบว่า ปราชญ์เมิ่งจื่อสืบสายต่อมาจากพระเจ้าปู่โจวกง จากป๋อฉินเป็นอันดับแรก สืบต่อด้วยเจ้าเมืองหลู่อีกหลายพระองค์ จนถึงพระอนุชาเมิ่งซุน จึงเกิดแซ่สกุลเมิ่ง
ปราชญ์เมิ่งจื่อถือ กำเนิดก่อนปีคริสตศักราช 372 ปี ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าโจวเลี่ยอ๋วง ปีที่สี่ ปราชญ์เมิ่งจื่อ นาม เคอ นามรอง จื่ออวี๋ เนื่องจากกำพร้าบิดา ฐานะยากจน มีแต่มารดาหาเลี้ยงอุ้มชู ระหว่างวัย สิบห้า สิบหกปี จากการอบรมโน้มนำของมารดา เมิ่งจื่อชื่นชอบปรัชญา จึงเดินทางมาศึกษาที่บ้านเมืองจอมปราชญ์บรมครูขงจื่อ ปราชญ์เมิ่งจื่อใกล้ชิดติดตามศิษย์ของปราชญ์จื่อซือ ศิษย์เอกของบรมครู ปราชญ์เมิ่งจื่อรับศิษย์ปรัชญาเมื่ออายุได้สามสิบ อายุสี่สิบเริ่มปฏิบัติตามอุดมการณ์ออกเดินทางเช่นเดียวกับที่บรมครูโปรด จาริกเรียงเมือง (โจวอิ๋วเลี่ยกว๋อ) เพื่อกล่อมกลายเหล่าประมุขให้ดำเนินการปกครองโดยกรุณาธรรม แต่มิอาจฝ่าฟันกิเลสวิสัยในใจของผู้มีอำนาจได้ ปราชญ์เมิ่งจื่อจึงเดินทางกลับ ตั้งใจให้การศึกษาปรัชญาแก่อนุชน
ศิษย์เอกของท่าน อาทิ วั่นจัง กงซุนโฉ่ว เข้าใจเจตนารมณ์สูงส่งของครูปราชญ์ จึงร่วมช่วยงานรวบรวมพิจารณาปรัชญาของท่านจอมปราชญ์ขงจื่อ กับ ปรัชญาความคิดของครูปราชญ์เมิ่งจื่อ ให้ปรากฏแก่ชนรุ่นหลัง อย่างน้อยก็เพื่อฉุดยั้งความเสื่อมทรามของจิตใจ รักษาไว้ซึ่งคุณธรรม จริยธรรม กรุณาธรรม ที่ทั้งท่านบรมครูขงจื่อ และ ครูปราชญ์เมิ่งจื่อ ได้เพียรพยายามเรียกร้องด้วยชีวิตทั้งชีวิตที่อุทิศสิ้นแล้ว
ปราชญ์เมิ่งจื่อ ละสังขารในปีก่อนคริสตศักราช 289 ปี รวมสิริอายะ แปดสิบสี่ปี สรีรร่างแห่งความเป็นปราชญ์ชนของท่าน ได้รับการฝังไว้บนแผ่นดินด้านประตูเมืองทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ยี่สิบห้าลี้ บนเทือกเขาด้านตะวันตก ซีจีซัน
ศุภนิมิต แปลและเรียบเรียง