collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ท่องนรก  (อ่าน 86042 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                            เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 2ึ7  วันที่  23  เมษายน  พ.ศ. 2520

                     ตอน  ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

           อุทิศตน        พึ่งพระพุทธ        ด้วยใจจริง
โยนมีดทิ้ง                เลิกฆ่าสัตว์        ผียำเกรง
ศีลวิสุทธิ์                  ยึดให้มั่น          ไม่คลางแคลง
พิมานแมน                แดนสวรรค์        ทางสะดวก

อรหันต์จี้กง   : 
การจะบำเพ็ญจนสำเร็จเป็นเทพเทวานั้น มิใช่สิ่งที่กระทำได้ง่ายนัก แต่การที่จะรักษาศีลนั้นให้ (จิตใจ) มั่นคงตลอด เช่นนักปราชญ์หรือผู้ทรงศีลยิ่งยากมาก บนพื้นโลกนี้มีโรงเจวัดสงฆ์อยู่ทั่วไป แขวนป้ายยี่ห้ออย่างแจ่มแจ้งจรัสแสง ถกเถียงตำราวิจารณ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่งเข้าฌาณบรรลุธรรม อันที่จริงนั้นสถานที่ช่วยกอบกู้มวลมนุษย์ให้พ้นทุกข์เป็นเมืองแมนแห่งโลกมนุษย์ในยุคหลังนี้ มีอยู่ไม่น้อยที่อาศัยอ้างชื่อสิ่งศักดิ์สิทธินี้แอบทำการเสื่อมเสียศีลธรรม หรืออาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องมือหากิน บ้างก็แอบแกะสลักรูปเทพเจ้าเป็นสินค้าเพื่อขายให้แก่นักท่องเทียว พลิกแพลงแปรเปลี่ยน เรื่องหลอกเอาทรัพย์ล่อลวงผู้หญิงมีนับครั้งไม่ถ้วย อุจาดและละเมิดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โทษฐานการลวงโทษทำลายล้างหนักข้อขึ้น ยมบาลเข้มงวดหนักหน่วงมาก ไม่มีการยกเว้นอภัยให้เด็ดขาด วันนี้ ข้าฯจะพาเจ้าหยางเซิงไปท่องชมนรก เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่มวลมนุษย์ เจ้าหยางเซิงเตรียมท่องนรก รีบขึ้นบนดอกบัวเร็ว

หยางเซิง   :  ขอรับคำบัญชา กระผมได้ขึ้นนั่งบนดอกบัวแล้ว มิทราบว่าวันนี้จะไปสู่แห่งใด ?

อรหันต์จี้กง   :  "นรกผึ้งพิษ" รีบหลับตาเร็วเตรียมออกเดินทาง

หยางเซิง   :  กระผมได้ปิดตาทั้งสองข้างแล้ว เชิญท่านอาจารย์เริ่มได้แล้ว.....

อรหันต์จี้กง   :  ถึงแล้วละ รีบลงจากดอกบัวเร็ว

หยางเซิง   :  อ้อ ที่แท้ "นรกผึ้งน้อย" อยู่ต่อหน้าแล้ว ยมทูตต่างคุมตัววิญญาณโทษมากหลายเข้าไปในคุก แต่ละตนโดนเฆี่ยนตีไปตามทางเดินครวญครางสะอึกสะอื้น ทำให้คนได้ยินใจคอหดหู่ มิทราบว่าพวกนั้นมีโทษติดตัวประการใด?

อรหันต์จี้กง   :  พวกนี้อาศัยเทพเทวดาหากิน ในแดนมนุษย์ ตอนมีชีวิตอยู่มันกินอิ่มจนเกินไป เมื่อตายลงแล้วจึงต้องโดนกฏนรกทำโทษเหตุการณ์โดยละเอียดนั้นต้องรอให้เข้าไปเยี่ยมชมภายในคุกจึงจะรู้ถึงแก่น พัศดีและนายทหารได้มาต้อนรับเราแล้ว รีบเข้าไปทำความเคารพเสีย

หยางเซิง   :  ท่านพัศดีและนายทหารทั้งหลาย ข้าพเจ้าหยางเซิงู้เป็นศิษย์ ขอแสดงคารวะต่อท่าน ข้าพเจ้าเป็นศิษย์สำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมืองไถ่ตง แดนมนุษย์ ได้รับคำสั่งมาท่องเมืองนรก เพื่อแต่งหนังสือพร้อมกับท่านอาจารย์ วันนี้มาเยี่ยมชมคุกของท่าน ขอได้โปรดให้ความสะดวกด้วย

พัศดี   :  โปรดอย่าได้เกรงใจเลย คุกนี้คือ "แดนผึ้งพิษนรกน้อย" อยู่ในความปกครองของขุมที่ 4 เป็นคุกที่สร้างขึ้นมาใหม่ เนื่องจากในยุคหลังนี้มีผู้ทำบาปเวรมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีการลดน้อยลงเลย ท่านศาสดาจารย์แห่งยมโลกจัดการสร้างคุกแห่งใหม่ ณ ขุมที่ 4 ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อที่จะควบคุมอบรมนักโทษ เชิญท่านทั้งสองเข้าไปเยี่ยมชมภายใน

หยางเซิง   :  ขอบคุณมาก !  โอ้โฮ ! ท่านอาจารย์ครับ กระผมไม่กล้าเข้าไป ในนั้นล้วนเป็นตัวผึ้ง แต่ละตัวโตเท่าหัวแม่มือออกสีดำคล้ายผึ้งหัวสิงห์ โหมเข้าต่อยพวกนักโทษในคุก ทุกคนส่งเสียคร่ำครวญ จะหลบหนีก็ไม่มีทางออก ต่างก็เบียดเข้าใกล้มุมกำแพง บางตัวก็บินมุ่งมาทางเรานี้ กลัวถูกมันต่อยจังเลย หลบเสียดีกว่ามั้ง !  ผึ้งหัวสิงห์นี้พิษมันร้ายกาจ ต่อยคนตายได้นะ

อรหันต์จี้กง   :  เจ้าไปแตกตืนตาลีตาเหลือกไปไย พวกผึ้งพิษนี้มีญาณพิเศษ มิใช่ว่าพบคนก็ต่อยดะไป เพราะเหตุว่าวิญญาณโทษมีกลิ่นไอไม่บริสุทธิ์ติดตัวอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงชอบเข้าไปใกล้นักเหมือนดังสถานที่สะอาดหมดจด พวกยุงแมลงจะไม่เข้าใกล้ ที่สกปรกเหม็น พวกยุงแมลงก็แห่กันเข้าไป ผึ้งตัวที่บินมานี้ก็เพื่อแสดงความหมายเป็นการต้อนรับพวกเราเท่านั้นเอง

หยางเซิง   :  เป็นเรื่องที่แปลกดี ที่แท้เสียงปืนใหญ่มิได้ทำร้ายคน แต่กลับกลายเป็นเสียงปืนใหญ่ที่ยิงสลุดสดุดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                          เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 2ึ7  วันที่  23  เมษายน  พ.ศ. 2520

                     ตอน  ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

           อุทิศตน        พึ่งพระพุทธ        ด้วยใจจริง
โยนมีดทิ้ง                เลิกฆ่าสัตว์        ผียำเกรง
ศีลวิสุทธิ์                  ยึดให้มั่น          ไม่คลางแคลง
พิมานแมน                แดนสวรรค์        ทางสะดวก

พัศดี   :  เชิญ
ท่านทั้งสองเข้าไปเยี่ยมชม  ท่านหยางเซิงมิพักตื่นตระหนักตกใจก่อนหรือ ? หากว่าผึ้งพิษต่อยคนโดยไม่เลือกหน้า เราจะแผ่นหนีแบบอย่างไม่เห็นฝุ่นไปนานแล้ว ผึ้งพิษเหล่านี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อยเฉพาะพวกที่อาศัยพระอาศัยเจ้า เพื่อหลอกเอาทรัพย์ลวงผู้หญิงเท่านั้น ทำให้มันไม่มีทางจะหลบหนี หากวิญญาณโทษคิดจะวิ่งหนี ฝูงผึ้งกลับตามไล่ต่อยเอา ท่านเห็นไหม วิญญาณโทษแต่ละตน มีบาดแผลเกลื่อนกลาดเต็มตัว เฉพาะอย่างยิ่งศรีษะบวมซ้ำ  พิษร้ายออกฤทธิ์น้ำตาตกเป็นสายฝน แต่ละตนกุมหัวแล้วโลดเต้นเหยง ๆ 

หยางเซิง   :  การทำโทษที่โหดเหี้ยมทารุณเหลือเกิน วิญญาณโทษทุกตนโดนฝูงผึ้งไล่ต่อย ที่คุมขังก็คับแคบและไม่มีทางออกจะหลบก็ไม่มีที่ให้หลบ ขอถามท่านพัศดีว่า พวกนั้นทำบาปอะไรบ้าง ไฉนจึงยังมาถูกลงโทษที่นี่

พัศดี   :  เพื่อให้ได้ลงพิมพ์ในหนังสือ  "เที่ยวเมืองนรก" ข้าพเจ้าจะเปิดประตูคุก สั่งให้วิญญาณโทษ  2 - 3  ตนออกมาเล่าเรื่องที่ตนทำชั่วไว้ในแดนมนุษย์ด้วยตัวมันเอง เป็นการเตือนชาวโลก

อรหันต์จี้กง   :  ดีมาก !  ขณะนี้ทุกขุมในยมโลกต่างก็ทราบว่าเรารับราชโองการแต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" เก็บประมวลข้อมูลไว้ใช้ในการตักเตือนชนชาวโลก  ขอท่านพัศดีโปรดได้เสนอแนะ เกียวกับรายละเอียดการทำบาปของพวกนักโทษด้วย

พัศดี   :  นี่คือหนาที่ของข้าพเจ้าอยู่แล้ว  ข้าพเจ้าจะปล่อยตัววิญญาณโทษ 2 ตนก่อน สั่งให้มันเล่าเรื่องความชั่วในตอนอยู่ในแดนมนุษย์  ให้ท่านหยางเซิงได้รับทราบไว้ อย่าอิดออดเสียเวลา

หยางเซิง   :  ขอถามท่านบุรุษผู้นี้ ท่านทำอะไรผิดบ้างในขณะมีชีวิตอยู่ ไฉนจึงถูกตัดสินให้มารับโทษยังที่นี้ ?

วิญญาณโทษ   :  พูดไปก็อายคนเปล่า ไม่มีหน้าตาจะพบหาคนอีก ข้าพเจ้าเป็นศิษย์ในสำนักทรงแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่ภาคใต้ของไต้หวัน เนื่องจากเป็นตัวทรงมานานปี ต่อมาถูกส่งไปรับหน้าที่เป็นรองเจ้าสำนัก ครั้งหนึ่ง ในสำนักนี้ได้รับการลงทรงเพื่อแต่งหนังสือ จะพิมพ์หสังสือธรรมส่งไปที่ต่าง ๆ  ข้าพเจ้าก็ได้ทำงานเต็มพละกำลัง ออกเรี่ยไรตามที่ต่าง ๆ หวังจะพิมพ์ให้มากขึ้นแจกจ่ายผู้คน เนื่องด้วยคำพูดของข้าพเจ้าคมคายมาก ในเวลา 2 เดือนเศษก็เรี่ยไรเงินได้ 3 หมื่นเหรียญเศษ  ขณะนั้น ข้าพเจ้าเป็นหนี้ผู้อื่นอยู่บ้าง เมื่อเจ้าหนี้มาเร่งทวงหนี้ ข้าพเจ้าคิดไม่ตกว่าจะทำประการใดดี เพราะเหตุว่าในตัวมีเงินอยู่ 3 หมื่นกว่าเหรียญ ยักไว้สักส่วนเพื่อใช้หนี้คงจะดีมั้ง ในที่สุดจึงส่งมอบให้เจ้าสำนักไปเพียง 2 หมื่นเหรียญ  คงเหลือไว้หนึ่งหมื่นสองพันสี่ร้อยห้าสิบหกเหรียญ นอกจากชำระหนี้ไปแล้ว ยังมีเหลือเศษอยู่บ้างไว้เป็นค่าใช้จ่ายประจำตัว คิดว่าผู้อื่นไม่มีทางทราบได้ แต่ว่าหลังจากนั้นมา เกิดความละอายแก่ใจต่อองค์ประทับทรง ท่านก็มิได้เขียนถึงเรื่องข้าพเจ้ายักยอกทรัพย์แต่อย่างไร  3 ปีก่อน ข้าพเจ้าตายลงด้วยโรคกระเพาะที่ร้ายแรงมาก ถูกทหารหน้าความม้าคุมตัว  ขณะนั้นเอง องค์ประทับทรงได้เข้ามาตวาดต่อหน้าข้าฯ ว่า "แกเกิดความคิดชั่วเพียงวูบเดียว แต่จนกระทั่งถึงเวลาตายยังไม่สำนักตัว เพราะว่าตอนแกมีชีวิตอยู่นั้นมีมูลเหตุหลายอย่างจึงไม่เปิดเผยต่อหน้าคน พุทธเทพลงประทับทรง ประกาศธรรมก็คือ สั่งสอนให้คนละบาปสร้างบุญ ได้รวมหลักธรรมความจริงแห่งการประพฤติตัวปฏิบัติชอบ อยู่ในนั้นอย่างพรักพร้อมแล้ว" เมื่อแกเรียนรู้คำสอนอันศักดิ์สิทธิ์แต่ไม่ปฏิบัติตาม จึงสมควรแก่โทษแล้ว  และได้มอบให้ยมทูตส่งให้ยมบาล ให้ตัดสินโทษในสถานหนัก เมื่อข้าพเจ้าถึงยมโลก ท่านยมบาลมีความโกรธจัด ได้ถูกคุมไปหอกระจก (กรรม) วิเศษฉายรูปเดิมปรากฏออกมาก่อน โดยฉายเอาเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าไปเรี่ยไรเงินแล้วยักยอก ส่วนหนึ่งที่จะพิมพ์หนังสือธรรมนั้น ฉายปรากฏอกอย่างไม่มีปกปิดผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย  ทำให้ข้าพเจ้าใจคอสั่นกลัวไปหมด ต่อมาส่งให้ขุมที่ 4 โหงวกัวอ๊วงตัดสินลงโทษ โดยตัดสินให้ตกเข้า "นรกผึ้งพิษ" 28 ปี  แล้วจึงส่งมอบมาให้ขุมที่ 5  จัดการ  แต่ละวันโดนผึ้งพิษกัดต่อยอยู่ในที่นี้ทั้งปวดทั้งคันไปทั่วร่างกายเหลือที่จะทนทานได้ บวมซ้ำยิ่งนัก ผึ้งพิษพอเห็นข้าพเจ้าก็ไล่ตามไม่ลดละ ห้องขังแคบนิดเดียวไม่มีที่จะหลบหลีก จึงสำนึกรู้ตัวว่าตอนที่ข้าไปเป็นนักทรงอยู่ในแดนมนุษย์เป็นศิษย์เฉพาะของท่านแป๊ะกง ไม่ปฏิบัติตามคำสอนอันศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าทำความชั่วไปเพียงครั้งเดียว ก็ไม่มีทางที่จะกอบกู้ช่วยเหลือได้ จึงหวังนักทรงในสำนักทั่วพิภพระมัดระวังคำพูดทั้งการปฏิบัติ แม้จะผิดเพียงนิดเดียว แต่ไม่สามารถจะปิดตาสวรรค์ได้ ขณะนี้ ข้าพจ้าจะสำนึกได้ก็สายเสียแล้วเป็นการเนรคุณต่อคำสั่งสอนของแป๊ะกง พวกนักธรรมด้วยกันเป็นอย่างยิ่ง อัปยศอดสูนัก

พัศดี   :  แกเข้าอยู่ในสำนักศักดิ์สิทธิ์ ไม่รับธรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ ทรยศต่อครูบาอาจารย์และหลอกลวงชาวบ้าน ส่วนหนึ่งที่เนรคุณต่ออาจารย์  ส่วนที่สองทรยศต่อผู้ที่สละเงินเพื่อพิมพ์หนังสือธรรม  แต่ว่าผู้ที่ตั้งใจทำทานจริงแล้ว ไม่หวั่นพระปลอม  ผู้ที่ให้ทานไปแล้วก็ได้เกิดมีใจกุศลอย่างสมบูรณ์ บุญกุศลนั้นจะไม่สูยมลาย ผู้ที่ละโมบโกงเงินไป ก็เกิดใจอุบาทว์ขึ้น มีโทษหนักติดตัวอยู่ บรรดามนุษย์ที่สละตน เข้าอยู่ในสำนักศักดิ์สิทธิ์แล้ว เรื่องเงินทองแม้แต่สตางค์แดงเดียวก็ต้องเคลียร์ให้เรียบร้อย มิเช่นนั้นแล้วจะทำให้สำนักศักดิ์สิทธิ์แปดเปื้อนมีราคี และเสื่อมวินัย อันใสสะอาด นรกจะลงโทษหนักขึ้น  ชาวโลกสมควรที่ระมัดระวังให้ดี 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                 เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 2ึ7  วันที่  23  เมษายน  พ.ศ. 2520

                     ตอน  ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

           อุทิศตน        พึ่งพระพุทธ        ด้วยใจจริง
โยนมีดทิ้ง                เลิกฆ่าสัตว์        ผียำเกรง
ศีลวิสุทธิ์                  ยึดให้มั่น          ไม่คลางแคลง
พิมานแมน                แดนสวรรค์        ทางสะดวก

อรหันต์จี้กง   :  แกะดำในสำนักอันศักดิ์สิทธิ์
เรื่องเงินทองไม่สะอาดเสื่อมเสียต่อวินัยที่ผ่องแผ้ว โทษนั้นควรตายเป็นหมื่นหน กฏในยมโลกถือเป็นโทษที่ให้อภัยไม่ได้่เลย ขอฝากไปยังชาวโลกรับรู้ไว้ด้วย ผู้บำเพ็ญธรรมนั้นต้องถือเคร่งในวินัยและกฏข้อบังคับ เพื่อที่ไม่ต้องตกนรกรับการทรมาน แล้วต้องตกไปใน 4 ทางเกิดของสัตว์เพื่อเวียนว่ายตายเกิดอีก  จะรู้สึกสำนึกก็สายไปเสียแล้ว  เพราะเหตุว่าเวลาสำหรับวันนี้หมดลงแล้ว วันอื่นจะมาเยี่ยมคำนับอีกครั้ง เจ้าหยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนัก ขอบคุณที่ท่านพัศดีให้คำแนะนำมาก

หยางเซิง   :  ขอบคุณท่านพัศดีและนายทหารที่ให้ความสะดวกเราได้เข้าไปเยี่ยมชมในคุก เนื่องจากเวลาดึกมากแล้ว ขอลาก่อนละ

พัศดี   :  นายทหารทั้งหลายได้ตั้งแถวนมัสการส่ง เชิญทั้งสองมาเที่ยวใหม่นะครับ

หยางเซิง   :  กระผมขึ้นนั่งบนดอกบัวแล้ว เชิญท่านอาจารย์กลับสำนักเถิด...

อรหันต์จี้กง   :  สำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง ถึงแล้ว  หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                             เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 2ึ8  วันที่  26  พฤษภาคม  พ.ศ. 2520

                     ตอน  ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย ครั้งที่ 2

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

              อาจารย์เทพ        ทรงโปรดเรา        พระคุณนำ
คุณธรรมล้ำ                       เอื้ออาทร            มิรู้วาย
ในโลกนี้                          นักธรรมชั่ว           มีมากมาย
บำเพ็ญกาย                     ลวงสังคม             ต้องรับกรรม

อรหันต์จี้กง   :   พระพุทธ  เทวดา  เทพศักดิ์สิทธิ์เสด็จสู่โลกมนุษย์เพื่อโปรดเวไนยสัตว์
  กอบกู้ช่วยมวลมนุษย์ รับสอนศิษย์ประสาทวิชาให้ อบรมสั่งสอนบำเพ็ญธรรม คอยแต่จะสอนให้ชาวโลกกลับคืนสู่ความดั้งเดิมต้นกำเนิด เพื่อบำเพ็ญบรรลุสำเร็จธรรมที่แท้จริง พระคุณสวรรค์ท่านและคุณธรรมของครูบาอาจารย์นั้น หนักหนาใหญ่ยิ่งจนหาที่เปรียบมิได้ ที่เรียกว่า "เป็นครูเพียงวันเดียว ต้องนับถือเป็นบิดาไปตลอดกาล" ตามหลักธรมแล้วต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนของครูอาจารย์  เอาแบบอย่างความประพฤติจากท่าน หากแต่ว่ามีพวกศิษย์อุบาทว์ แหกธรรมทำลายศีลอาศัยชื่อจากเทพเจ้ารวบทรัพย์ลวงผู้หญิง  ไม่บำเพ็ญเป็นเทพยดา แต่บำเพ็ญเป็นผู้หลอกลวงในคราบของเทพเจ้า ไม่ไปสวรรค์ กลับมาโดนคดีในโรงศาล โทษฐานบาปกรรมนั้นไม่เบาเลย ผู็ที่เข้าไปเป็นศิษย์แห่งสำนักสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ละเมิดกฏเกณฑ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์  ยมกฏนั้นลงโทษหนักมาก มวลชนไม่ว่าจะสละตัวเข้าไปบำเพ็ญธรรมอยู่ในศาสนาใดก็ตาม ควรที่จะปฏิบัติตามธรรมวินัย มารยาทอันศักดิ์สิทธิ์นั้น ๆ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงโทษที่ไม่สามารถให้อภัยได้ เจ้าหยางเซิงเตรียมท่องนรกสำหรับวันนี้ รีบขึ้นบนดอกบัวเร็ว

หยางเซิง   :  กระผมนั่งเรียบร้อยแล้ว มิทราบว่าจะมุ่งสู่แห่งใดในวันนี้?

อรหันต์จี้กง   :  ไป  "นรกผึ้งพิษ" นั้นอีก ไปดูพวกแหกธรรมเสียศีลจะลงเอยกันอย่างไร ปิดตาทั้งสองข้าง เราจะเริ่มเดินทางแล้ว...ถึงแล้วละ รีบลงจากดอกบัวเร็ว

พัศดี   :  ขอต้อนรับท่านอาจารย์กับท่านหยางเซิง มาเยือนคุกนี้เป็นคำรบที่สอง

อรหันต์จี้กง   :  เพราะเหตุนี้ขณะนี้ในโลกมนุษย์ มีคนไม่น้อยอาศัยชื่อแห่งเทพเจ้ารวบรวมทรัพย์ ล่อลวงหญิงอย่างอุกอาจกว้างขวาง ทำให้สะกสะท้านต่อศักดิ์ศรีอันศักดิ์สิธิ์ของวินัยแห่งศาสนา อันถ่องแท้ชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงกลับมาเสาะหาข้อมูลเตือนใจชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง

พัศดี   :  ขอรับ พระคุณท่าน ท่านทั้งสองโปรดตามข้าพเจ้าเข้าไปข้างใน ข้าพเจ้าจะปล่อยวิญญาณโทษ 2 - 3  ตน ให้มันเล่าเรื่องความทำชั่วของตนเองต่อท่านหยางเซิง

หยางเซิง   :  ขอบคุณท่านพัศดีมาก ผึ้งพิษเหล่านี้บินว่อนทั่วไปหมด พอเห็นวิญญาณโทษก็ต่อยเอาต่อยเอา จนบวมซ้ำไปตาม ๆ กัน จนหัวหมุนตาลาย

พัศดี   :  ไม่เพียงเท่านี้ซิครับ ยังปวดแสบปวดร้อนเป็นไข้ด้วย เพราะว่าผึ้งพิษนี้มีพิษรุนแรงยิ่ง ข้าพเจ้าจะเอานักโทษ 2 - 3 ตน ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่ตนเคยทำผิด ให้นายทหารรีบคุมตัววิญญาณโทษออกมาเร็ว

นายทหาร   :  ขอรับคำบัญชา... ได้เอาตัววิญญาณโทษ 3 ตนออกมาแล้ว

พัศดี   :  วิญญาณโทษฟังคำสั่งให้ดี พระคุณท่านนี้คือ อรหันต์จี้กง  อีกท่านหนึงคือหยางเซิง แห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งเมืองไถ่ตง สองศิษย์อาจารย์รับโองการแต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" ให้ทุกคนสารภาพความผิดที่ตนทำไว้ในแดนมนุษย์ เพื่อเป็นการเตือนใจชาวโลก

หยางเซิง   :  ขอถามบุรุษผู้นี้ ท่านมารับโทษยังที่นี้ด้วยเหตุใด?                       

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                            เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 2ึ8  วันที่  26  พฤษภาคม  พ.ศ. 2520

                     ตอน  ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย ครั้งที่ 2

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

              อาจารย์เทพ        ทรงโปรดเรา        พระคุณนำ
คุณธรรมล้ำ                       เอื้ออาทร            มิรู้วาย
ในโลกนี้                          นักธรรมชั่ว           มีมากมาย
บำเพ็ญกาย                     ลวงสังคม             ต้องรับกรรม 

วิญญาณโทษ   :  ผมไม่ควรเลย
เป็นความจริง ขณะที่ผมอยู่ในแดนมนุษย์ มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ในตำบลหนึ่ง เนื่องจากในหมู่บ้านจะสร้างศาลเจ้า ผมจึงออกทำการเรี่ยไรเงินแทนชาวบ้าน แต่ไม่เคลียร์เงินทองให้เรียบร้อย โดยเอาเงินที่เรี่ยไรมา อมไว้ส่วนหนึ่งเข้ากระเป๋าตัวเอง เมื่อตายแล้วจึงรู็ว่าการอมเงินของเทพเจ้านั้นมีบาปหนักหนา ดังนั้นจึงถูกตัดสินให้มารับโทษในคุกนี้ ผึ้งพิษต่อยคนเจ็บปวดมากโดยไม่มีการปราณี ทั้งปวดทั้งคัน ยากที่จะทนทานได้ ท่านก็เห็นตามตัวผมแดงซ้ำไปหมด เงินทองเทพเจ้าแม้สตางค์แดงเดียวก็อมไม่ได้ การที่ผึ้งพิษต่อยนั้นเป็นการสนองตอบของผม ผมผิดครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น นอกจากนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

พัศดี   :  แกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ต้องบริการผู้เป็นลูกบ้านของแก ทำความดีให้แก่บ้านเกิดเมืองนอน  หมู่บ้านจะสร้างศาลเจ้า เพื่อเป็นการระลึกถึงสิ่งศีักดิ์สิทธิ์ปางก่อนและให้ความเคารพเลื่อมใส แต่แกกลับฉวยโอกาสรวบทรัพย์ โทษนั้นอภัยให้ไม่ได้  ตนที่ 2 รีบสารภาพผิดระหว่างมีชีวิตอยู่โดยเร็ว

หยางเซิง   :  ขอถามอาจารย์รูปนี้ ท่านออกบวช แล้วไฉนท่านไม่ไปทางทิศตะวันตกแดนผุดผ่อง แต่กลับมาอยู่นรกด้วยเล่า?.

วิญญาณโทษ   :  นโมพุทโธ !  ประทานอภัย ๆ ! ฉันเมื่อตอนอายุได้ 15 ปี ออกบวชเป็นชีเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้าท่าน ศึกษาบำเพ็ญในธรรมใจคิดว่าจะบำเพ็ญธรรมจนสำเร็จขั้นอรหันต์ แต่จิตใจตนไม่มั่นคงถาวรพอ เงินทองที่ประดาญา๖ิโยมถวายแด่วัดนั้น ฉันก็แอบยักยอกไว้ใช้เองบ้าง  เก็บสะสมไว้บ้าง มิได้มอบเงินทั้งหมดนั้นไปใช้จ่ายในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัด  หรือซื้อของที่ทางวัดจำเป็นต้องใช้หากมีญาตฺโยมให้ช่วยสวดสะเดาะเคราะห์ก็ทำไปอย่างลวก ๆ ขอไปที หากมีคนมานิมนต์ไปสวดศพ ก็จะทำแบบซื้อขายตีราคาเป็นเงินเป็นทองจะสวดกี่กัณฑ์ ก็แล้วแต่เงินมากเงินน้อยที่เรียกว่า "เงินมากของก็มาก เงินน้อยขอก็ได้"  หมายความว่าสวดตามราคาที่ตกลงกันไว้ หากมีญาติโยมที่ค่อนข้างยากจนมานิมนต์ ก็จะแสดงออกว่าไม่ค่อยพอใจด้วย หรืออ้างโน่นอ้างนี่ไม่คิดจะไป ถ้าเผื่อเจอผู้ดีคนรวยก็จะทำสุดความสามารถจัดการให้อย่างมโหฬารเพื่อเอาใจเจ้าภาพ  เพราะเหตุว่าตอนมีชีวิตอยู่มักมากในทรัพย์ เมื่อตายลงแล้วพระพุทธท่าจึงไม่ต้อนรับ ยังโดนดันลง "นรกผึ้งน้อย" มารับโทษ  เจ็บปวด  ทุกข์เข็ญอย่างสาหัสสากรรจ์

พัศดี   :  เธอเป็นพระเป็นชี สละตนออกบวช ควรมีพื้นฐานที่สะอาดหมดจด (คือตัดกิเลสออก) ฝึกฝนอบรมบ่มนิสัย  แต่สลัดกิเลสออกไม่ได้  นิยมชมชอบเรื่องสุขกายสบายใจ  เห็นเงินเป็นพระเจ้า  ขัดต่อหลักธรรมพระพุทธท่าน จึงตัดสินให้เธอมารับโทษยังที่นี่

อรหันต์จี้กง   :  เมื่อบวชเป็นพระเป็นชี ก็ต้องเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสกุลเดิมมาเป็นชื่อทางพระ แต่ละรูปจึงมีชื่อว่า  พระ  ศักดิ์ศรีนั้นหาที่เสมอเหมือนมิได้เลย ก็คือเท่ากับพระพุทธนั่นแหละ แต่ทนต่อกิเลสสิ่งยั่วยวนไม่ได้  ไม่ใช่ความเมตตาปราณีช่วยกอบกู้มวลชน ใจคออันสามานย์ธรรมดานี้ ยากที่จะเสมอเหมือนจิตของท่านพระโพธิสัตว์ได้ ทำใจให้ถึง 3 กำหนดได้ 4  จึงสามารถเข้าเฝ้าพระพุทธ พิษ 3   ธาตุไม่ละทิ้ง ก็ต้องไป 6 ช่องทาง เพื่อเวียนว่ายตายเกิดดังเดิม ขอมวชมลในทั่วพื้นพิภพไม่ว่าจะบำเพ็ญในทางเต๋า  ทางพุทธ  หากว่าไม่ตัดกิเลสทิ้งเสีย  ก็ยากที่จะขึ้นสู่สวรรค์  วันนี้เวลาหมดลงแล้ววันอื่นค่อยมาเยี่ยมชมใหม่ เจ้าหยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนัก

หยางเซิง   :  ขอบคุณมากที่ท่านพัศดีและนายทหารในการรับรองที่อบอุ่นมาก เราจะกลับสำนักกันแล้ว ขอลาท่านก่อนละ

พัศดี   :  สิ่งใดที่ขาดตกบกพร่อง ขอท่านทั้งสองโปรดให้อภัยด้วย หวังว่าท่านจะมาให้การสั่งสอนอีกครั้ง

อรหันต์จี้กง   :  รีบขึ้นดอกบัวเร็ว

หยางเซิง   :  กระผมนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์เดินทางกลับเถิด...

อรหันต์จี้กง   :  ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว  หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าร่างดังเดิม   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                            เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 2ึ9  วันที่  20  พฤษภาคม  พ.ศ. 2520

                     ตอน  ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย ครั้งที่ 3

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

             เทพลงทรง        ช่วยชาวโลก        เมตตาจิต
ฝึกฝนฤทธิ์                     แลธรรมะ             อยู่เนืองนิตย์
แนะคนหลง                    ด้วยวาจา            อันศักดิ์สิทธิ์
พ้นวิกฤต                       ขจัดเคราะห์         แก่มวลชน

อรหันต์จี้กง   :  เทพเทวะ
ท่านลงประทับทรงเพื่อกอบกู้ช่วยเหลือชาวโลกตั้งใจใช้เมตตาจิต  ความปราณี  ปลดความทุกข์ยากของมวลชน  แต่ถูกพวกนักบวชปลอม  เทพปลอม  ฉกฉวยพาไปในทางผิด เพื่อหาผลประโยชน์โดยทรัพย์ สมควรลงโทษเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง พวกหมอดูยกตัวเองว่า "ปากเหล็ก" แต่มีบางคนกัดคนโดยไม่ให้เห็นเลือด โหดร้ายเท่ากับเสือสิงห์ พวกศิษย์ทรยศต่อท่าน "กุ้ยก๊กเซียนซือ" ศาสดาจารย์แห่งต้นตำหรับหมอดู ทำให้เสื่อมเสียไปถึงท่านนั้น เมื่อตายลงแล้วโดนยมบาลทำโทษอย่างหนัก หลังจากนั้นให้หมุนไปเกิดเป็นพวกนก กา ใน "หุบเขาผีเปลี่ยน" อาศัยปากเหล็กนั้น ๆ ร้องเสียงเจี้ยว ๆ อันไพเราะเท่านั้นเอง วันนี้ได้เวลาท่องนรกแล้ว เจ้าหยางเซิงเตรียมตัวขึ้นบนดอกบัวเร็ว 

หยางเซิง   :  ขอรับคำบัญชา อากาศร้อนมากมิทราบว่าหนทางแห่งนรกจะเย็นสบายกว่านี้บ้างไหม?.

อรหันต์จี้กง   :  บรรยากาศในนรกหนาวเหน็บ จะทำให้เจ้าขนลุก รีบขึ้นบนดอกบัวเร็ว อย่าเสียเวลาอีกเลย

หยางเซิง   :  ขอรับกระผม นั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์เริ่มได้ ...

อรหันต์จี้กง   :  ถึงแล้ว รีบลงเสีย

พัศดี   :  ขอต้อนรับท่านทั้งสอง ที่มาเยี่ยมคุกนี้อีกครั้งหนึ่ง

หยางเซิง   :  วันนี้มาเยี่ยม "นรกผึ้งน้อย" อีกครั้งท่านพัศดีและนายทหารได้ออกมาต้อนรับเราแล้ว

อรหันต์จี้กง   : ในโลกมนุษย์มีพวกทรชนอาศัยชื่อของเทพเจ้า แต่ทำสิ่งที่เสื่อมเสียคุณธรรมชื่อเสียงของท่าน ดังนั้น จึงทำให้เราต้องเวียนมาถึง 3 ครั้ง ยังที่ "นรกผึ้งพิษ" เพื่อรวบรวมข้อมูลประกาศเปิดเผยสิ่งที่ได้รู้ได้เห็นในแดนนรก เพื่อปลอบเตือนกอบกู้ชาวโลก

พัศดี   :  ท่านทั้งสอง เชิญตามข้าพเจ้าเข้าไปข้างใน พักผ่อนดื่มน้ำชากันเถิด

หยางเซิง   :  วันนี้ได้เสียเวลาไปบ้างแล้ว กระผมว่าไม่ต้องก็ได้นะครับ

พัศดี   :  ถ้างั้น เชิญท่านอาจารย์ และท่านหยางเซิงเข้าไปในคุกกันเถิด

หยางเซิง   :  ผึ้งพิษอยู่เต็มห้อง เอาตัวคนเป็นรัง ล้วนบินไปปตอมอยู่บนร่างของวิญญาณโทษนั้น มิได้ทำการผลิตน้ำผึ้งนะ แต่ทำการพ่นยิงน้ำพิษ

อรหันต์จี้กง   :  อยู่ในแดนมนุษย์กินของหวานมามากแล้ว มาอยู่ที่นี่ให้มันลิ้มรสขมเสียบ้าง

หยางเซิง   :  วิญญาณโทษร้องลั่น ด้วยความเจ็บปวดแตกตื่น วิ่งพล่านแต่ไม่มีทางออก

อรหันต์จี้กง   :  นี่แหละคือ "สวรรค์" มีทางมันไม่ไป นรกไม่มีประตู ดันจะเข้า "เป็นอย่างนี้ละ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                             เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 2ึ9  วันที่  20  พฤษภาคม  พ.ศ. 2520

                     ตอน  ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย ครั้งที่ 3

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

             เทพลงทรง        ช่วยชาวโลก        เมตตาจิต
ฝึกฝนฤทธิ์                     แลธรรมะ             อยู่เนืองนิตย์
แนะคนหลง                    ด้วยวาจา            อันศักดิ์สิทธิ์
พ้นวิกฤต                       ขจัดเคราะห์         แก่มวลชน 

พัศดี   : 
ขณะนี้โลกมนุษย์มีผู้จัดการโรงเจ้าโรงธรรมหลายคนอาศัยชื่อเสียงสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลอกล่อทรัพย์สินและผู้หญิง  ทางสังคมก็ติเตียนกล่าวโทษอยู่เนืองนิตย์ ทำให้กระทบต่อเกียรติศักดิ์อันผุดผ่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ "นรกผึ้งน้อย" มีวิญญาณโทษเพิ่มขึ้นเสมอ ๆ ทำให้เสทือนในอารมณ์ข้าพเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าจะให้วิญญาณโทษ 2 - 3 ตนที่มีสัญญลักษณ์ซึ่งจะเป็นตัวแทนได้มาเล่าความชั่ว ทำลายศีลที่ตนก่อไว้ในโลกมนุษย์ เพื่อลงพิมพ์ใน "เที่ยวเมืองนรก"

หยางเซิง   :  รบกวนท่านพัศดี ที่ให้ความช่วยเหลือที่จะทำให้เราศิษย์อาจารย์สามารถบรรลุถึงหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้ รู้สึกขอบคุณเป็นที่ยิ่ง

พัศดี   :  นี่เป็นสิ่งที่ควรกระทำอยู่แล้ว อย่าได้เกรงใจเลย ได้ให้นายทหารคุมตัววิญญาณโทษ 3 ตนออกมาแล้วฟังคำสั่ง ท่านผู้นี้คือหยางเซิงแห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมืองไถ่ตงในแดนมนุษย์ โดยมีท่านอรหันต์จี้กงพาเข้ามายังยมโลก สืบเสาะและสำรวจความลับในแดนนรก เพื่อแต่งหนังสือเตือนชาวโลก ให้รีบเล่าสารภาพตอนอยู่เมืองมนุษย์ ได้ทำชั่วอย่างไรบ้างอย่างหมดเปลือก

วิญญาณโทษ   :  ผมเป็นเด็กทรง ของจอมพลหอกลาง สำนักหนึ่งในเมืองไถ่ตง ตอนมีชีวิตอยู่เริ่มแรกเทพเจ้ามาอาศัยตัวผมลงประทับทรงช่วยชาวโลก  ก็ได้ช่วยกอบกู้ผู้คนนับจำนวนไม่น้อยจริง ผู้ป่วยที่นายแพทย์ไม่สามารถรักษาให้หาย มีหลายรายล้วนได้รับการรักษาจากเดชเทพเจ้าแห่งจอมพลหอกลางนี้ ต่อมา ผมเห็นว่ามีคนศรัทธามากยิ่งขึ้น บางครั้งท่านจอมพลหอกลางไม่อยู่ ผมก็จะเกล้งทำกระโดดโลดเต้นว่าเจ้าลงประทับทรงแล้ว ให้โทษแก่ร่างกายที่เจ็บไข้ของผู้มาเฝ้าทรง และก็อาศัยโอกาสนี้บอกกับผู้มาเฝ้าทรงว่า มีฆาตเคราะห์หรือมีภูตผีปีศาจสิงสู่ตัวก็บ่อยครั้ง ต้องทำการสะเดาะถึงจะแก้ไข แต่ผู้ที่สะเดาะเคราะห์ต้องเผากระดาษทองเป็นจำนวนมาก รีดเอาเงินทีละพัน  สองพัน  สามพัน  ต่าง ๆ นานา  ทั้งนี้ล้วนมิใช่ความประสงค์ของเทพเจ้า ในชีวิตหาเงินทองได้มิใช่น้อย ยังซื้อตึกสูงหลายชั้น ได้เสพสุขชนิดชั้นยอด เมื่อตายแล้วถูกยมทูตคุมตัวไปยังขุมที่ 4  ท่านยมบาลโกรธมาก ดุว่าตัวแกเป็นเด็กนักทรง แห่งจอมพลหอกลาง ตามหลักแล้วต้องรอจนกว่าธาตุทุกส่วนสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วจึงจะทำการกอบกู้ผู้คนได้ แต่แกบังอาจเอาชื่อเจ้าไปหลอกลวงโกยทรัพย์ ความดีที่ช่วยกอบกู้ผู้คนหักล้างกับความชั่วที่โกยทรัพย์ไปแล้ว ความชั่วมากกว่าความดี จึงตัดสินให้ตกเข้า"นรกผึ้งพิษนรกน้อย" ไปรับโทษลงทัณฑ์ทุก ๆ วัน โดนผึ้งพิษกัดต่อย จนปวดแสบเหลือจะทนทานได้ ตอนมีชีวิตอยู่แม้เอามีดดาบมาแทงฟันตามตัว ยังไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย แต่บัดนี้โดนผึ้งตัวเดียวปล่อยเหล็กไนเข้าทีเดียว จะเจ็บปวดถึงขั้วหัวใจ สำนึกตัวได้ก็สายเสียแล้ว ขอฝากคำไปยังเด็กนักทรงในแดนมนุษย์ด้วย ต้องตั้งอยู่ในจิตที่ช่วยกอบกู้ผู้คนอันดั้งเดิมนั้นไว้ อย่าไปเปลี่ยนใจกลางทาง เข้ากับเจ้าเพื่องานการ อย่าอาศัยเจ้ามาหลอกคน จึงจะไม่ต้องเดินตามรอยของผมอย่างนี้

อรหันต์จี้กง   :   
เทพเจ้าลงประทับทรงเพื่อช่วยมวลชนเป็นปฏิบัติสืบต่อกันมาของศาสนาเดิม ทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือบรรดาคนป่วยที่นายแพทย์ไม่สามารถให้การรักษาได้ ช่วยรักษาในทางไสยศาสตร์ ซึ่งเป็นคุณธรรมที่เมตตาชีวิตมนุษย์ของฟ้าสวรรค์ท่าน  ต่อมามนุษย์ได้ถือเอาเป็นเครื่องมือกอบโกยรวบทรัพย์ขัดกับความมุ่งหมายแห่งการช่วยชีวิตของสวรรค์ท่านเป็นอย่างยิ่ง นับได้ว่าผู้ทรงเป็นเหตุในการทำบาป การรับประทับทรงเพื่อช่วยกอบกู้ชาวโลก หากจะทำเพื่อยังชีพ ก็แล้วแต่ผู้เฝ้าทรงจะบริจาค ก็ยังไม่ผิดอะไรนักหนา  ถ้าอาศัยสิ่งนี้ทำการรับทรัพย์แบบซื้อขาย "รักษาโดยเทพเจ้า" ก็จะกลายเป็น "อาศัยเทพเจ้าหากิน" กฏหมายของบ้านเมืองอนุญาตให้ ยมกฏแห่งนรกก็ไม่ให้อภัย

พัศดี   :  สั่งให้วิญญาณโทษตนที่ 2 เล่าเรื่องความชั่วที่ตนทำไว้ในแดนมนุษย์ ให้ท่านหยางเซิงฟัง 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                             เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 2ึ9  วันที่  20  พฤษภาคม  พ.ศ. 2520

                     ตอน  ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย ครั้งที่ 3

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

             เทพลงทรง        ช่วยชาวโลก        เมตตาจิต
ฝึกฝนฤทธิ์                     แลธรรมะ             อยู่เนืองนิตย์
แนะคนหลง                    ด้วยวาจา            อันศักดิ์สิทธิ์
พ้นวิกฤต                       ขจัดเคราะห์         แก่มวลชน 

วิญญาณโทษ   : 
ตอนอยู่ในโลกมนุษย์ ผมเป็นหมอดูคนหนึ่ง ศึกษาทางโหราศาสตร์ หากินไปทั่ว มักจะตั้งโต๊ะดูหมอตามตลาดโต้รุ่ง ช่วยแก้ปัญหาช่วยเหลือผู้คน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในขณะที่การค้าซบเซา ก็มีเจ้าหนุ่มผู้หนึ่งมาขอให้ตรวจโชคชะตาราศี ผมสังเกตดูเห็นการแต่งกายเป็ฯคนต่างถิ่น  จึงรัวลิ้นอันติดสปริงนั้นบอกเขาว่า อนาคตอันใกล้นี้ชะตาจะถึงฆาต ต้องทำการสะเดาะเคราะห์  มิเช่นนั้หนทางข้างหน้าจะมืดมน ผมก็เรียนจบทางเวทย์มนต์ของขลังจะย้ายดวงย้ายดาวได้  เจ้าหนุ่มนั้นเชือว่าเป็นความจริง ก็เลยตกหลุมพลางของผม หลังทำสะเดาะเคราะห์แล้ว ผมเรียกเอาเงิน 1,500 เหรียญเป็นค่าบริการ  ต่อจากนั้นจึงใช้ลูกไม้หลอกลวงทรัพย์ เมื่อตายลงแล้วยมบาลตวาดดุด่าผมว่า เรียนจบตำราหมอดู ขาดศีลธรรม หลอกลวงเงินทองผู้อื่น ตัดสินผมเข้าคุก "นรกผึ้งพิษ"  12 ปี ขณะนี้รับโทษมาแล้วเพียง 3 ปีเศษ วันข้างหน้าความทุกข์ยังมีอีกมาก ผึ้งพิษไม่ประทานน้ำหวานให้ ล้วนฉีดให้แต่เข็มพิษ  ทั่วกายบวมซ้ำ และคันเหลือกำลัง จึงสำนึกได้ว่าเมื่อก่อนนั้นเราไม่ควรทำเลย

อรหันต์จี้กง   :  ตอนมีชีวิตอยู่ คำพูดคำจา หวานดังน้ำผึ้ง พูดอย่างน้ำไหลไฟดับ คุยว่ามีฤทธิ์เดชสารพัด ที่แท้เหมือนกับผึ้งพิษตัวหนึ่ง ให้โทษเขามาก ช่วยคนได้น้อยจึงต้องรับการตอบสนองดังทุกวันนี้แหละ  ขอเตือนหมอดูในโลกมนุษย์ จงฝึกอบรมธรรม บำเพ็ญตนใช้หลักความจริง ช่วยกอบกู้ผู้คน ช่วยแก้ไขปัญหาสับสนยุ่งยากแก่ผู้อื่น ก็จะสร้างบุญสร้างกุศลอันใหญ่หลวง การตรวจดวงตรวจดาวอันชุ่ย ๆ ส่งเดช เป็นการตรวจเฉพาะเงินในกระเป๋าของผู้อื่นก็จะไม่สมชื่อว่าหมอดู นรกจะมีส่วนกำนัลให้ วันนี้เวลาดึกมากแล้ว เราเตรียมกลับสำนักเถอะ

หยางเซิง   :  ขอถามท่านพัศดีว่า ผู้อาศัยเจ้าหากินพวกนั้น เมื่อตายลงแล้วมารับโทษที่คุกนี้ทั้งหมดหรือไฉน?.

พัศดี   :  มันก็ไม่แน่หรอก  บ้างก็ลวงหญิงโดยเฉพาะ หรือมีพฤติการณ์พิเศษกว่านี้ก็ขังไว้ที่อื่น ที่ขังอยู่ในคุกนี้เพียงแต่บางส่วนเท่านั้นเอง

หยางเซิง   :  เนื่องจากเวลาหมดแล้ว ขอบคุณท่านพัศดีและนายทหารที่ให้การแนะนำ เราศิษย์อาจารย์ขอลาก่อนละ

พัศดี   :  ให้นายทหารตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์ 

อรหันต์จี้กง   :  ขอบคุณท่านพัศดีมาก เราขอลาแล้ว เจ้าหยางเซิงเตรียมออกจากคุก รีบขึ้นบนดอกบัว

หยางเซิง   :  กระผมนั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์ท่านกลับได้...

อรหันต์จี้กง   :  ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม

 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”