เที่ยวเมืองนรก
ครั้งที่ 22 วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2520
ขุมที่ 4
ตอน พบปะท่านยมบาลโหงวกัวอ๊วง
พระอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า :
ชีวิตคน เหมือนขี่ม้า ชมโคมไฟ
เวลาผ่านไป อย่างรีบเร่ง ไม่กลับย้อน
รูปนามใหม่ จิตวิสุทธิ์ ประภัสสร
ครบวงจร เริ่มดิถี ใครเหาะเหิน
อรหันต์จี้กง : เป็นโชคลาภวาสนาของเจ้าหยางเซิงแล้ว ท่านโหงวกัวอ๊วงประทานน้ำอมฤตที่ท่านได้ดื่มเป็นส่วนตัวนั้นให้เจ้า นับเป็นสิ่งประเสริฐสุดแห่งหมู่เทพเทวดา เมื่อเจ้าดื่มแล้วสามารถจะเพิ่มพูนสติปัญญาขึ้นได้อีก
โหงวกัวอ๊วง : ท่านอาจารย์และหยางเซิงมิต้องเกรงใจรีบดื่มเสีย
หยางเซิง : รสชาติหอมหวาน ชื่นอกชื่นใจ ความรู้สึกที่เยือกเย็นและอบอุ่นรวมอยู่ในตัว ขอขอบคุณท่านยมบาลที่ประทานให้ กระผมจะพยายามจนสุดความสามารถ เพื่อทำหน้าที่แต่งหนังสือให้สำเร็จลุล่วงไป
โหงวกัวอ๊วง : มิต้องเกรงใจ น้ำอมฤตนี้ "พระแม่แห่งสระศักดิ์สิทธิ์" ประทานให้ยมบาลทั้ง 10 ขุม ได้รับทั่วกันหมด ดื่มแล้วสามารถเพิ่มพลังแห่งดวงกมลให้ช่วงโชติรุ่งโรจน์ขึ้น ถ้าเป็นตุลาการแดนนรกจะดื่มน้ำอมฤต ภูตผีปีศาจก็จะดื่มแต่น้ำชาเท่านั้น เนื่องจากตำแหน่งหน้าที่และผลบุญต่างกันนั่นเอง การเลี้ยงดูกำนัลจึงแตกต่างกันด้วยประการเช่นนี้
หยางเซิง : ขุมของท่านทำการชำระตัดสินลงโทษพวกวิญญาณโทษนั้นมีสภาพการเช่นไรครับ ?.
โหงวกัวอ๊วง : ข้าพเจ้าก็คุมสิบหกนรกน้อยเช่นกัน นอกนั้นยังมีคุกนรกที่สร้างเพิ่มขึ้นใหม่เพื่อป้องกันโทษที่ชาวมนุษย์กระทำขึ้นแบบพิศดาร ตามกาลเวลาสมัยใหม่ คุกนรกก็แยกชั้นรับหน้าที่กัน ต่างคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ บรรดาที่ประพฤติชั่วทำบาป ในแดนมนุษย์ เมื่อตายลงแล้วเข้ามาจากประตูผีขึ้นบนหอกระจก (กรรม) วิเศษส่องร่างเดิมปรากฏออกมาหลักฐานที่ทำผิดพร้อมมูลแล้ว ต้องดูว่าโทษที่ทำไว้นั้นขึ้นกับการปกครองของขุมไหน ก็ส่งมอบให้แต่ละขุมรับไปจัดการ ขณะนี้ข้าพเจ้าจะชำระคดีเรื่องหนึ่ง เชิญท่านทั้งสองตามข้าพเจ้าขึ้นนั่งบัลลังก์สังเกตการณ์เถิด
หยางเซิง : ขอรับกระผม ยมบาลหัวควายหน้าม้าสองนายคุมวิญญาณโทษชายตนหนึ่งอยู่หน้าโต๊ะ ท่วงทีท่าทางคล้ายพวกผู้อำนวยการหรือประธานกรรมการ หน้าตาเปล่งปลั่งราศีดี หัวเถิกอยู่บ้างแล้ว มิทราบว่าทำผิดด้วยโทษอันใด มีอาการแสดงออกด้วยความหวาดกลัวสั่นเทา
โหงวกัวอ๊วง : วิญญาณโทษตนนี้สมองปราดเปรื่องตอนมีชีวิตอยู่ เป็นพ่อค้ายาแผนโบราณ ต่อมาคิดหาเงินโดยทางมิชอบ เพราะเหตุว่าตนเองมีความรู้ความชำนาญเรื่องยาพอสมควร เลยทำยาปลอมออกจำหน่ายปองร้ายให้โทษชาวบ้านมากมาย วันนี้หมดอายุขัยแล้ว โดนยมทูตคุมตัวมาพิจารณาโทษ
อรหันต์จี้กง : เนื่องจากหมดเวลาลงแล้ว ข้าฯ ว่าเจ้าหยางเซิงเตรียมกลับสำนักเถิด วันหน้าค่อยมาสัมภาษณ์ที่คุกนรกนี้กันใหม่ก็แล้วกัน ขอแสดงความเสียใจต่อท่านโหงวกัวอ๊วงเป็นอย่างมากโปรดให้อภัย
โหงวกัวอ๊วง : ที่ไหนได้ นายทหารและเทวทูตทั้งหลายตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์กลับ
หยางเซิง : ขอขอบคุณท่านยมบาลและเทวทูตที่ได้ให้เกียรติต้อนรับ ลาก่อนละครับ
อรหันต์จี้กง : เจ้ารีบขึ้นนั่งบนดอกบัวเร็ว เตรียมกลับสำนัก
หยางเซิง : ขอรับคำบัญชา กระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์ท่านเริ่มเดินทางได้ .....
อรหันต์จี้กง : ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม