collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น : คำนำพระอรหันต์จี้กง  (อ่าน 40154 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง

             ตอนที่ 5   จิตใจโหดร้ายพรหมลิขิตตกต่ำ  ความดีเพื่อความดีดีตลอด

ยมบาล  :  เรื่องของกฏแห่งกรรม ที่นำกรรมจากอดีตชาติมาสู่ปัจจุบันชาติ ชาวโลกมักไม่เห็นกรรมตามสนองทันตาเห็น จึงคิดว่ากรรมไม่มีการตอบสนอง สิ่งที่พูดกันว่า "จิตฟ้าบางก่อน" เป็นเรื่องที่ชาวโลกพูดยกย่องกัน ที่จริงควรพูดว่า "นำกรรมมาเกิด"

เฟยหลวน  :  ชื่ออันนี้ฟังแล้วดูเหมือนใหม่ ศิษย์เคยได้ยินมาว่า "นำกรรมไปเกิด" ณ สุขาวดีเพื่อบำเพ็ญต่อ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินว่า "นำกรรมมาเกิด" ในมนุษย์ภูมิ

ยมบาล  :  เจ้าเฟยหลวนเอย เจ้ายังไม่รู้อะไร อันที่จริงแล้วแต่ละคนต้องนำกรรมมาเกิดไม่มากก็น้อยบ้าง ดังนั้น "กรรม" ก็คือ เหตุแห่งบาปของอดีตชาติ ซึ่งเหตุแห่งบาปนี้มีทั้งใหญ่เล็กไม่เหมือนกัน เวลาแห่งการเจ็บป่วยก็ไม่เหมือนกัน  อย่างที่ชาวโลกยกย่องกันว่าโรคแห่ง "จิตฟ้าปางก่อน" ล้วนเป็นเกิดจากการก่อกรรมหนักของอดีตชาติ ถึงแม้จะมีบุญได้เกิดเป็นคนอีก แต่เพราะกรรมเก่าที่ก่อไว้หนักมาก ดังนั้นพอเกิดมาใหม่ก็เริ่มต้นรับกรรมตอบสนอง ด้วยเหตุแห่งกรรมนี้ก็อย่างที่เจ้าพูด เหตุแห่งการเจ็บป่วยของ "จิตฟ้าบางก่อน" นั่นไงเล่า

เฟยหลวน  :  ท่านยมบาลจะกรุณาให้รายละเอียดสักหน่อยได้ไหมคะว่า สาเหตุพวกโรคแห่งจิตฟ้าปางก่อนอย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคลมบ้าหมู โรคหัวใจต่าง ๆ เป็นต้น เกิดจากกรรมเก่าขนาดไหนไว้ จึงเป็นโรคนั้น ๆ

ยมบาล  :  ที่จริงในพระสูตรที่ว่าด้วย "กรรมแห่งสามภพ" ก็มีการอธิบายไว้แล้ว แต่เมื่อเจ้าเที่ยวดู "นรกคนเป็น" การรับโทษวิญญาณของคนเป็น ก็มีหลักแห่งเหตุผลเดียวกัน เพียงแต่เป็นเวรกรรมหนักที่แตกต่างกันเท่านั้น ตัวอย่างคนเป็นโรคหัวใจ ก็อย่างที่เจ้าเห็นมาแล้วมิใช่หรือ บางคนก็มีมีดปักอยู่ที่หัวใจ บางคนก็มีของหนักทับที่หน้าอก ก็ขึ้นอยู่กับว่าได้รับโทษจากสาเหตุอะไร ข้า ฯ ก็ได้อธิบายไปแล้ว เจ้าคงลืมไปแล้วกระมัง

เฟยหลวน  :  อ๋อ ! ใช่แล้ว ! แต่โรคเบาหวานกับโรคลมบ้าหมูซิ ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรคะ

ยมบาล :   มา ! ข้า ฯ จะพาเจ้าไปดู.............ถึงแล้ว

เฟยหลวน  :   โอ้ !  คนพวกนี้ที่หลบอยู่บนนั้น กำลังถูกผู้ควบคุมเอาเหมือนกระบอกเข็มฉีดยากำลังดูดเอาเลือดออกจากตัว

ยมบาล  :  นี่คือสาเหตุของโรคเบาหวาน เป็นเพราะชาตินี้หรือชาติที่แล้วโลภหาทรัพย์มาโดยไม่ถูกต้อง เช่น ใช้อำนาจในทางผิดกฏหมาย ขู่เข็ญเอาทรัพย์ผู้อื่น ดังนั้น วิญญาณคนเป็นจึงถูกนำมาดูดเอาเลือดออก เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดไม่สมดุล ทำให้เกิดโรคอย่างคนที่ขาดเลือด (โลหิตจาง) ต้องรีบไปเข้าเลือดหรือล้างไต เป็นเพราะชาติก่อนหรือชาตินี้หมกมุ่นในกามจนเกินเลย หรือลงมือปฏิบัติการที่ไม่ถูกไม่ควร หลอกลวงพร่าพรหมจรรย์ของหญิงสาวล้วนต้องได้รับผลกรรมอันนี้

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง

             ตอนที่ 5   จิตใจโหดร้ายพรหมลิขิตตกต่ำ  ความดีเพื่อความดีดีตลอด

เฟยหลวน  :  ดูแล้วไม่มีผิดพลาดแม้แต่น้อย เวรกรรมแต่ละอย่างก็มีการลงโทษ แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

ยมบาล  :  ผลกรรมที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดจากใจ ชาวโลกควรเข้าใจหากใจไม่ก่อกรรมโทษก็ไม่เกิด ดังนั้นทุกสิ่งเกิดจากใจเป็นผู้ก่อ นี่แหละคือสาเหตุ

เฟยหลวน  :  อย่างนี้ศิษย์ขอเรียนถามท่านยมบาลอีกว่า มีบางคนชาตินี้ไม่เคยก่อกรรมนี้เลย แต่ก็เป็นโรคชนิดนี้ จะเป็นสาเหตุจากชาติก่อนใช่หรือไม่

ยมบาล  :  แน่นอน (ทันใดนั้น "โอ้ย" เสียงร้องด้วยความทรมาน)

เฟยหลวน  :  โอ้ ! ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องด้วยความทรมานมาจากข้าง ๆ ทำให้ฉันตกใจจนกระโดด พอกลับไปแล้วคงต้องกราบไหว้เพื่อให้ท่านอาจารย์ช่วยวิญญาณของศิษย์สงบลงหน่อย เพราะได้เห็นผู้คุมท่านหนึ่งเอาเหมือนกระบอกเข็มฉีดยาดูดน้ำออกจากบริเวณศรีษะ โอ้ยโย ! มันน่ากลัวจริง ใจสั่นไปหมด ! เห็นวิญญาณตนนั้นอวก เอาน้ำขาว ๆ ออกมา น่ากลัวเสียกว่าอะไร ขอเรียนถามท่านยมบาล นี่เป็นเวรกรรมอะไรกัน สภาพของโรคทำไมเป็นอย่างนี้

ยมบาล  :  อย่างนี้เป็นการดูดเอาน้ำเลี้ยงสมองออกมา ทำให้บริเวณสมองเกิดความว่าง ก็อย่างที่ชาวโลกเรียกกันว่า "โรคลมบ้าหมู" อย่างคนที่รับทุกข์ทรมานเช่นนี้ เป็นเพราะอดีตชาติวางแผนลวงหญิงชาวบ้าน พอข่มขืนแล้วก็ทิ้งขว้าง หรืออย่างที่ล่อลวงคนหนึ่ง แล้วก็ยังคิดฉุดอีกคนหนึ่ง ดังนั้น การรับกรรมชาตินี้ จึงทำให้เขาเจ็บปวดไปตลอดชีวิต ดังนั้น ขอเตือนชาวโลก อย่าเห็นแก่ความสุขชั่วครู่ เป็นการปลูกรากแห่งเคราะห์กรรม มิฉะนั้นแล้วเมื่อเวลามาถึง รู้สำนึกผิดก็ไม่ทันเสียแล้ว

เฟยหลวน  : ค่ะ ! ขอบคุณท่านยมบาลที่อธิบาย

พระจี้กง  :  เวลาดึกมากแล้ว เฟยหลวนคืนนี้พอเพียงแค่นี้ก่อน รีบกราบลาท่านยมบาลเสีย เราจะได้กลับโรงเจกัน

เฟยหลวน  : ค่ะ!  ศิษย์ของกราบลาท่านยมบาลขอบคุณที่อธิบาย เชื่อแน่ว่าเมื่อชาวโลกได้อ่านแล้ว ก็คงหวาดกลัวคอยระมัดระวัง

ยมบาล  :  อย่าได้เกรงใจเลย ขอน้อมส่งเสด็จท่านพระอรหันต์จี้กง

พระจี้กง  :  ขอบคุณมาก เฟยหลวนรีบขึ้นบนปทุมมาสน์

เฟยหลวน  : ค่ะ ! ศิษย์นั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์ออกเดินทางได้

พระจี้กง  :  เอ้อไป........โรงเจจ๋วงเซินถังถึงแล้ว วิญญาณเฟยหลวนกลับเข้าร่าง อาตมาไปละ

เฟยหลวน  :  ขอน้อมส่งเสด็จท่านอาจารย์

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 6 : โรครุมเร้าจำกัดอยู่บนเตียงทุกข์แสนเข็ญ  บริจาคทรัพย์สร้างกุศลหยุดเคี่ยวกรรม

พระจี้กงเสด็จลงประทับทรง  กลอนนำเสด็จว่า

                              จี้งโปรดเวไนยไม่ถือฤดูกาล
                กงคือกลางลืมตนไร้ทุกข์เข็ญ
                พุทธรังสีส่องส่งสุขสราญเย็น
                เป็นเป็นในสังคมห้ามทำบาป
(ใช้คำว่า  จี้กงพุทธเป็นเป็น  เป็นโคลงในการแต่งกลอน)

พระจี้กง  :  คนทั่วไปมักพูดกันว่ากรรมเวรไม่มีใครเห็น ทั้งยังพูดอีกว่า เทพพุทธก็มองไม่เห็น ที่จริงแล้วเทพพุทธที่ศักดิ์สิทธิ์ก็อยู่ที่ขณะจิต นรกสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน ประกอบความดีอยู่เสมอ ชีวิตอยู่อย่างมีสุข กายของตนนี้ก็คือกายพุทธที่อวตาร ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ ถ้าหากธรรมจิตขุ่นมัวลุ่มหลงทำแต่เรื่องเลวร้าย ใจของเรานี้ก็เหมือนกับมีผีมารคอยสอดส่อง กายที่ประพฤติเลวก็เหมือนอยู่ในนรก เพราะฉะนั้นที่พูดกันว่า ในใจมีพุทธะก็จะเป็นดินแดนแห่งความบริสุทธิ์ ถ้าจิตใจเหี้ยมโหด เชื้อเมล็ดพันธุ์แห่งวัฎสงสารก็ก่อตัวขึ้นแล้ว

เฟยหลวน  :  ราตรีสวัสดิ์อาจารย์ ! กราบขอบพระคุณที่เสด็จมาแต่งหนังสือธรรมะเพื่อปลอบเตือนชาวโลก

พระจี้กง  :  อื้อ ! ดี หนังสือ "บันทึกปรากฏการนรกคนเป็น" ที่สามารถออกสู่สายตาชาวโลกได้ก็เป็นเพราะว่าในหลายปีที่ผ่านมานี้ ทางโรงเจของเจ้าภายใต้การนำของนายจ๋วงซิว ประกอบกับความสามัคคีด้วยใจอันบริสุทธิ์ ทำให้เบื้องบนมีความซาบซึ้งและปลื้มจิต ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสสัมพันธ์ได้แต่งหนังสือธรรมะ เพราะฉะนั้นหวังว่าศิษย์ในโรงเจเจ้าต้องรู้จักถนอมโอกาสสัมพันธ์อันเป็นแหล่งสั่งสมคุณธรรม ซึ่งหาได้ยากนี้ไว้

เฟยหลวน  :  กราบขอบคุณโอวาทของอาจารย์ ผู้ร่วมปฏิบัติธรรมในโรงเจก็มักปลื้มใจในโชคที่มีอาจารย์จ๋วงซิวแบบนี้ ท่านได้สละแรงกายนำพาพวกเรา โดยเฉพาะขณะที่ออกไปบำเพ็ญธรรมกิจภายนอกและได้พบการกระทำของผู้อื่นที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งทำให้พวกเราในโรงเจต่างรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก และเพิ่มความภูมิใจในโชคที่ได้ธรรมาจารย์ผู้ชี้นำที่ดียิ่ง ทำให้เรามีจุดมุ่งหมายที่ถูกต้องบนเส้นทางมหาสัทธรรมนี้ ไม่หลงทิศทาง ชื่อเสียงของโรงเจจ๋วงเซินมีเพียงแต่ประชาชนในไต้หวันจะสรรเสริญ และโรงเจที่เป็นเพื่อนกันจะยกย่องเท่านั้น ยังได้โด่งดังไปถึงต่างประเทศอีกด้วย เพื่อเป็นการปักดำต้นกล้าแห่งสัจธรรม เหล่านี้ล้วนเป็นความเหนื่อยยากของอาจารย์จ๋วงซิวทั้งสิ้น พวกเราผู้ร่วมบำเพ็ญต่างก็ได้รับบุญบารมีของอาจารย์จ๋วงซิวคุ้มครอง จึงมีมรรคาที่ราบเรียบและทิศทางที่ถูกต้องได้เดินเท่านั้น

พระจี้กง  :  นายจ๋วงซิวได้รับโองการ ให้แบกภาระอันหนักต่อไปภายหน้า เมื่อมีการแบ่งหน้าที่กันใหม่ ทุกคนต้องรับหน้าที่หนักขึ้น หวังว่าศิษย์ในโรงเจเจ้าจะยอมรับภาระอันเป็นอุดมการณ์แรก ร่วมแรงร่วมใจเบื้องบนไม่มีวันที่จะให้ศิษย์ต้องเสียแรงเปล่า ต้องรู้ว่าเมื่อมีธรรมาจารย์คอยชี้นำอยู่ข้าง ๆ  ต้องรู้จักรักถนอม อย่ารอให้คนไม่อยู่แล้วก็ค่อยโกรธแค้นตนเองที่ปล่อยโอกาสไป ถึงตอนนั้นรู้สึกสำนึกก็สายเสียแล้ว

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 6 : โรครุมเร้าจำกัดอยู่บนเตียงทุกข์แสนเข็ญ  บริจาคทรัพย์สร้างกุศลหยุดเคี่ยวกรรม

เฟยหลวน  :  ค่ะ ! ผู้ร่วมบำเพ็ญในโรงเจต้องปฏิบัติตามโอวาทของอาจารย์อย่างแน่นอน  เอ้อ !  คืนนี้รู้สึกว่าท่านอาจารย์จะไม่เร่งรัดให้วิญญาณออกไปท่องเที่ยวแต่งหนังสืออย่างนั้นแหละ กลับคุยกับศิษย์อย่างสบายอารมณ์เสียนาน โดยทั่วไปแล้วอาจารย์จะกล่าวเพีบงไม่กี่คำก็จะพูดว่า "เวลาดึกแล้ว" แล้วก็เร่งรัดให้ศิษย์ออกเดินทางกลัวว่าศิษย์จะเสียเวลาอย่างไงอย่างงั้นแหละ แล้วทำไม.....คืนนี้แปลกจริง........!

พระจี้กง  :  ไม่เออละเหยกับเจ้าแล้ว เจ้าหาว่าอาจารย์เร่งรัดเจ้านัก คืนนี้ถ้าไม่เออละเหยกับเจ้าแล้ว จะมีอะไรจะพูดล่ะ

เฟยหลวน  :  มิใช่ค่ะ !  ศิษย์เพียงแต่คิดว่าคืนนี้อาจารย์แปลกไป กลัวจะเสียเวลาแต่งหนังสือเท่านั้นแหละค่ะ

พระจี้กง  :  คืนนี้เราจะไม่ไปเที่ยว "นรกคนเป็น" แล้ว

เฟยหลวน  :  ไม่ไปแล้ว ! ทำไมคะ ! หรือว่าอาจารย์ไม่ค่อยสบาย ไม่สบายตรงไหนบ้างคะ หรือว่าอาจารย์จะถอยแล้วหรือคะ

พระจี้กง  :  เอ ! ยุ่งแล้ว !  ไม่ไปท่องนรกคนเป็น มิใช่หมายความว่าไม่แต่งหนังสือแล้ว แล้วนี่ก็แช่งอาตมาแล้วใช่ไหม น่าจะรู้ว่าเทพพุทธเป็นรูปลักษณะของดวงวิญญาณ ไม่ถูกครอบงำด้วยการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และทุกข์ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว อาตมาจะมีกายสังขารอะไรที่จะไม่สบายล่ะ

เฟยหลวน  :  เอ่อ ! ถูกค่ะ ขอประทานโทษค่ะ ! ก็เพียงแค่คิดเป็นห่วงอาจารย์เท่านั้นเองหรอกค่ะ  เลยทำให้ลืมไปว่าอาจารย์ก็คือพระ ไม่ใช่คน ไม่มีกายเนื้อ ดังนั้นก็ย่อมไม่เป็นอะไร ตามที่พูดกันว่าไม่สบาย กราบขอประทานอภัยค่ะ อาจารย์อย่าได้โกรธเลยนะคะ ให้อภัยแก่ศิษย์นะคะ  !

พระจี้กง  :  เอ่อดีแล้ว ไม่โกรธเจ้าหรอก มองดูสังขารเจ้าแล้วอาตมาจะโกรธไปไย

เฟยหลวน  :  ขอบพระคุณอาจารย์ แต่ว่าเราไม่ไปท่องนรกคนเป็นแล้ว จะแต่งหนังสืออย่างไรกันคะ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 6 : โรครุมเร้าจำกัดอยู่บนเตียงทุกข์แสนเข็ญ  บริจาคทรัพย์สร้างกุศลหยุดเคี่ยวกรรม

พระจี้กง  :  วันก่อนอาตมาได้พูดไว้แล้วใช่ไหมว่า ศิษย์ในโรงเจเจ้ามีคนที่ร่างกายไม่สบายอยู่หลายคน ได้ไปหาหมอเจียดยามารับประทานมั่ง ฉีดยามั่งก็ยังไม่หาย แต่ว่าเมื่อมาปฏิบัติธรรม ทำบุญสร้างกุศลเพื่อชดใช้หนี้กรรม แล้วไม่ต้องรับประทานยาก็หายได้มิใช่หรือ

เฟยหลวน  :  ใช่แล้วค่ะ !  มีเพียงแต่ผู้ร่วมปฏิบัติธรรมในโรงเจเท่านั้น ตลอดจนญาติธรรมหรือผู้มีใจกุศลจำนวนมากก้เช่นเดียวกัน พวกเขามาขอให้พระในโรงเจช่วยเหลือ โดยมีอาจารย์จ๋วงซิวช่วยแก้ไขให้ ทำให้ขจัดปัดเป่าเวรกรรมที่เป็นหนี้กับเจ้ากรรมนายเวรไว้ได้ลดน้อยหมดไป แต่ว่าอาจารย์จ๋วงซิวได้ช่วยเพียงผู้ปฏิบัติธรรมในโรงเจและญาติธรรมในสถานธรรมอื่นบ้างเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ก็ปฏิเสธการช่วยเหลือแบบนี้

พระจี้กง  :  ทำไมล่ะ !

เฟยหลวน  :  ก็อย่างที่ท่านอาจารย์ได้พูดไว้ว่า เรื่องเวรกรรมเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และแรงกรรมก็เป็นสิ่งที่ไร้รูปลักษณ์ เมื่อสอนพวกเขาให้ทำบุญสร้างกุศล พิมพ์หนังสือธรรมะ หรือปลดปล่อยชีวิตสัตว์ หรือช่วยบรรเทาสาธารณภัย เพื่อนำบุญกุศลนี้มาชดใช้หนี้กรรม ก็มักจะถูกคนเขาเข้าใจผิด โดยคิดว่าพวกเราอาศัยสิ่งเหล่านี้เพื่อหา  เงิน  จึงขัดขวาง เจตนารมณ์อันดีงามที่จะขจัดเคราะห์กรรมไป และที่ทำกันบ้างก็คือบุญกุศลยังไม่เพียงพอ หรือไม่ก็ศรัทธาไม่พอ ทำให้การเจ็บป่วยยังมิทันบรรลุผล ก็คิดว่า  ไม่มีผล  เลยเป็นการสร้างวจีกรรมขึ้น กล่าวหาว่าหลอกลวงเงินทองพวกเขา ...ต่าง ๆ เป็นต้น สภาพการณ์ต่าง ๆ ไม่อาจกล่าวได้หมด ยกตัวอย่างเช่น มีคนหนึ่งต้องทำบุญกุศล สมมุติว่าร้อยเหรียญ เพื่อเป็นการแก่ไขกรรมตอบสนองในการเจ็บป่วย แต่เขาใช้เงินไปเพียงแปดสิบเหรียญ ยังขาดไปอีกยี่สิบเหรียญ แม้กรรมที่ตอบสนองจะค่อย ๆ ลดน้อยลงโดยไม่อาจมองเห็นได้ แต่ว่ายังไม่เห็นผลทางร่างกาย ดังนั้นก็เลยพูดว่า สร้างบุญกุศลให้แล้วยังไม่หายเช่นนี้เป็นต้น กลายเป็นการสร้างวจีกรรม และเพราะเหตุนี้จึงทำให้เห็นผิด ไม่ว่าการทำกุศลอะไร  หรือการสร้างหนังสือ ล้วนแต่หลอกลวงทั้งสิ้นไม่จริง  กลายเป็นว่าต้องการให้คนออกทรัพย์เพื่อช่วยพิมพ์หนังสือเท่านั้นเอง ด้วยคำพูดต่าง ๆ นี้เองทำให้อาจารย์จ๋วงซิวเกิดอารมณ์ขึ้น เลยไม่ช่วยคนทำพิธีไกล่เกลี่ยเจ้ากรรมนายเวรให้ คงทำแต่งานเพื่อเผยแผ่ธรรมะเพียงอย่างเดียว ยกเว้นแต่ผู้ร่วมปฏิบัติธรรมในโรงเจด้วยกัน หรือกับผู้ที่เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม โดยได้รับการแนะนำจากคนคุ้นเคยรู้จัก ซึ่งอาจารย์จ๋วงซิวได้รู้ถึงความเข้าใจจริงของผู้ที่มาอย่างละเอียดเท่านั้นจึงจะบริการให้ด้วยความสบายใจ เพราะว่าขณะนี้มีภารกิจที่ยุ่งอยู่กับการเผยแพร่ธรรม อาจารย์จ๋วงซิวจึงไม่ค่อยมีเวลามากนักที่จะมาช่วยทำงาน "ไกล่เกลี่ยเจ้ากรรมนายเวร" ให้

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 6 : โรครุมเร้าจำกัดอยู่บนเตียงทุกข์แสนเข็ญ  บริจาคทรัพย์สร้างกุศลหยุดเคี่ยวกรรม

พระจี้กง  :  พูดก็ถูก !  ดวงชะตาของนายจ๋วงซิวตอนนี้ต้องแบกรับภาระของสำนักทรง ปรับปรุงสำนักธรรมและการเผยแพร่ธรรม ซึ่งจำเป็นต้องให้นายจ๋วงซิวออกสู่แนวหน้า เพราะฉะนั้น เมื่อใครก็ตามที่พบว่าตนเองเกิดการเจ็บป่วยขึ้น เมื่อได้รับประทานยา ฉีดยาแล้วไร้ผล หรือร่างกายฟื้นขึ้นมาอย่างช้า ๆ แล้วควรจะเข้าใจดีว่าเป็นเพราะผลแห่งกรรมตอบสนอง ควรจะทำบุญทำกุศลจนกระทั่งบุญกุศลเต็มเปี่ยม  แล้วเวรกรรมก็จะหมดไป ก็จะคืนกายสังขารที่สบายให้แก่เธอไป มันเป็นธรรมชาติที่ต้องมีจิตกุศล มีใจอดทนและศรัทธา คือทำด้ได้ดี โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญธรรม หากมีไข้เจ็บบ่อย ๆ เรายิ่งต้องศรัทธา สำนึกผิดในเวรกรรมที่ผ่านมา ยิ่งตอนนี้มีหนังสือ "บันทึกปรากฏการณ์นรกคนเป็น" คอยชี้แนะอยู่แล้ว ตนเองต้องรู้ว่า ตนได้ทำบาปชนิดไหนไว้จะได้ปรับปรุงแก้ไข ขยันหมั่นทำบุญทำกุศล กายมั่นบำเพ็ญ เชื่อว่าฟ้ายังคุ้มครองคนดีจนมีโอกาสบริสุทธิ์

เฟยหลวน  :  ค่ะ ! อาจารย์อธิบายได้ถูกต้อง ศิษย์อยากจะเรียนถามอาจารย์อีกเรื่องหนึ่ง คือที่พบเห็นได้บ่อยอย่างเช่นคนแก่ชราที่บำเพ็ญธรรม หรือคนธรรมดาที่เจ็บป่วยนอนไร้สติอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน ถูกโรครุมเร้าเป็นเวลายาวนาน ชาวบ้านมักพูดกันว่า กำลัง "รอเวลา"  "หาวันอยู่" หรืออะไรต่อมิอะไร คนที่เจ็บป่วยแบบนี้มีมากล้วนต้องถูกเคี่ยวกรรมเป็นระยะเวลาหลายเดือนหรือครึ่งค่อนปี บางรายต้องอยู่บนเตียงนานหลาย ๆ ปี ก็มี ทั้งที่รู้ว่าเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาหาย แต่ก็ไม่ถึงเวลาตายเสียที มีแต่นอนร้องครวญครางอยู่เตียงผู้ป่วย นอนรอวันตาย ทำให้เป็นที่น่าสงสารเวทนาที่ต้องทนรับกรรมอย่างนี้ แต่ว่าคนที่เป็นนายแพทย์ นอกจากจะฉีดยาระงับปวดแล้วก็ไม่มีหนทางอื่นอีก อย่างการเจ็บป่วยที่ทรมานนี้ ที่จริงแล้วมีสาเหตุมาจากอะไร

พระจี้กง  :  อันนี้เนื่องจากเจ้ากรรมนายเวรจากอดีตชาติมาทวงหนี้ เบื้องบนท่านเมตตาจึงให้เคี่ยวกรำด้วยการเจ็บป่วย เพื่อเป็นการชำระล้างหนี้กรรม

เฟยหลวน  :  ผู้ป่วยสภาพแบบนี้ศิษย์เห็นมาหลายคน อย่างคนในโรงเจนี้ก็เกิดล้มป่วยด้วยสภาพเช่นเดียวกันนี้ จากคำพูดของนายแพทย์บอกว่า ต้องเจ็บป่วยไปอีกนาน แต่ว่าอาจารย์จ๋วงซิวต้องการให้มหากุศลมาช่วยขจัดปัดเป่ากรรมเวรของผู้ป่วย โดยไม่คาดคิดเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ผู้ป่วยก็ถึงแก่วิญญาณละร่างไปอย่างนี้เป็นเพราะสาเหตุอะไร

พระจี้กง  :  อันนี้เป็นเพราะกุศลนั้นได้คลี่คลาย เวรกรรมที่ตอบสนองไปแล้ว ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องทรมานรับกรรมอีกต่อไป และก็เป็นความเมตตาของเบื้งบนอีกเช่นกันที่เปิดเผยให้อีกหนทางหนึ่ง โดยที่บุญกุศลที่ทำนั้น ได้ชดใช้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรไป อันเป็นหลักฐานที่ดี  เจ้าก็สามารถพูดถึงการเจ็บป่วยให้ชาวโลกได้เข้าใจได้

เฟยหลวน  :  ก็ได้ค่ะ ! แต่เอ จะเป็นการให้เขาเข้าใจผิดว่าอกตัญญูไหมนี่

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 6 : โรครุมเร้าจำกัดอยู่บนเตียงทุกข์แสนเข็ญ  บริจาคทรัพย์สร้างกุศลหยุดเคี่ยวกรรม

พระจี้กง  :  เป็นการปลอบเตือนชาวโลกจะมีอะไรไม่ได้ล่ะ พูดอีกอย่างหนึ่งคือ ชาวโลกเขาสมองใสเหลือเกิน การอธิบายเพิ่มเติมสามารถปรับความเข้าใจได้ นับประสาอะไรกับการช่วยปลดปล่อยให้กับผู้ป่วย หาใช่เป็นการต้องการให้เขาตายเร็ว ๆ เสียเมื่อไร เจ้าก็ยกตัวอย่างสักไม่กี่คนโดยไม่ต้องบอกชื่อแซ่เขาก็ได้ และตอนนี้ก็ยังเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ยืนยันให้ได้ โดยไม่ต้องกลัวคนอื่นเขาว่าเจ้าแต่งเรื่องเอง

เฟยหลวน  :  ค่ะ !  ศิษย์รับคำบัญชา !  งั้นก้เริ่มจากที่ใกล้ ๆ ในโรงเจก่อน ท่านประทานจางคือ คุณพ่อท่านประธาน ป่วยอยู่นานมาก ศิษย์และอาจารย์จ๋วงซิวรู้สึกละอายใจที่ไม่ว่างไปเยี่ยมเยือน ต่อมาได้ยินว่าส่งไปที่สถานพักฟื้น ท่านประธานของเราเป็นทั้งผู้ใจบุญและลูกกตัญญู ในแต่ละวันจะต้องไปเยี่ยมดูบิดาก่อนไปทำงาน จนกระทั่งมีวันหนึ่งก็คิดว่าขืนรักษาอยู่อย่างนี้ต่อไปรู้สึกจะไม่ถูกต้อง และก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะเชิญอาจารย์มาปรึกษาดูว่าจะจัดการกันอย่างไร ! เมื่อนึกได้ดั่งนี้แล้วจึงได้มาปรึกษากับอาจารย์จ๋วงซิว จึงได้เลือกวันเวลาแล้วพาบิดามาที่โรงเจเพื่อทำพิธี "ไกล่เกลี่ย" ท่านประธานจางได้ทำการปล่อยสัตว์ไปก่อนเป็นจำนวนเงินห้าพันเหรียญ เพื่อเป็นการชำระหนี้กรรมของบิดา จะได้บรรเทาอาการเจ็บป่วยของบิดาลงบ้าง โดยไม่คาดคิดว่าเมื่อทำบุญเสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้นบิดาก็ถึงแก่กรรมไป แม้แต่ทำพิธี "ไกล่เกลี่ย" ก็ไม่ค้องทำ

พระจี้กง  :  การปล่อยสัตว์แล้วอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เป็นการชำระล้างเวรกรรมอีกวิธีหนึ่ง อันที่จริงศิษย์จาง (บิดาของประธาน) เป็นผู้ใจบุญ เลี้ยงดูบุตรธิดาจนประสบความสำเร็จ เมืื่อถึงวัยชราจึงถูกโรคภัยคุกคาม เป็นเพราะกรรมจากอดีตชาติตอบสนอง ดังนั้นการเจ็บป่วยครั้งนี้เพราะแรงกรรมมาทวงหนี้ถึงแม้ชาติปัจจุบันนั้นจะมีกุศลเต็มเปี่ยม แต่กรรมที่สะสมกันมาหลายชาติยังมิได้ชดใช้ จึงอาศัยการเจ็บป่วยนี้เคี่ยวกรำ เป็นการลดกรรม เพื่อจะได้ไม่ต้องเวียนเกิดมาชดใช้กรรมอีก นี่เป็นเพราะเบื้องบนเมตตา ที่พูดกันว่า "กรรมเวรสามชาติ ชดใช้หมดในชาติเดียว" อันเป็นแบบที่ค่อนข้างจะเจ็บปวด จึงต้องมีจิตศรัทธาที่มั่นคงจึงสามารถลบล้างเวรกรรมจากอดีตที่สะสมกันมาได้ ดังนั้นอาตมาขอถือโอกาสนี้ตักเตือนผู้บำเพ็ญธรรม อย่าเป็นเพราะขณะเจ็บป่วยแล้วผ่านการรักษาอย่างไร้ผลแล้ว ก็หมดความศรัทธาต่อเทพพุทธแล้วก้พาลคิดว่า การสร้างบุญสร้างกุศลไม่มีอานิสงส์ บางครั้งก็เกิดความสงสัยใน "ธรรมะ" จนกระทั่งสงสัยการกระทำของตนเองไปด้วยว่า "ธรรมะ" ที่ปฏิบัติไปนั้นคงผิดกระมัง ทั้งหมดนี้ล้วนไม่ถูกต้อง ต้องรู้ว่าเรื่องกฏแห่งกรรมเป็นเรื่องซับซ้อนยิ่งนัก นับประสาอะไรกับ "กรรมเวรสามชาติชดใช้หมดในชาติเดียว"  นับเป็นความกรุณาของเบื้องบน ที่เปิดหนทางอันกว้างขวาง ชาวโลกควรรู้สำนึกบุญคุณ มิฉะนั้นต้องเวียนเกิดเวียนตายเพื่อชดใช้กรรมกัน โดยเฉพาะเกิดโชคไม่ดี เมื่อจิตเราหลงเสียแล้ว จะมิเป็นการเสียดายโอกาสหรอกหรือ ดังนั้นหวังว่าเมื่อชาวโลกเกิดเจ็บป่วยขณะกรรมเวรมาถึงต้องทนรับกรรมโดยดุษฏี และสำนึกผิดในกรรมเก่า และเพิ่มการทำความดีสร้างกุศล ย่อมจะได้รับการตอบรับแน่นอน เออดี ! เฟยหลวนเอ้ย ยกตัวอย่างอีกอันซิ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 6 : โรครุมเร้าจำกัดอยู่บนเตียงทุกข์แสนเข็ญ  บริจาคทรัพย์สร้างกุศลหยุดเคี่ยวกรรม

เฟยหลวน  :  ค่ะ! อีกคนหนึ่งเป็นอาจารย์ผู้พี่ (หญิง) ของโรงเจเธอมีคุณอา (ชาย) คนหนึ่งอยู่ที่ญี่ปุ่น ดูเหมือนจะเป็นโรคตับแข็ง ก้เจ็บป่วยอยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งอาการคับข้น แล้วจึงนำส่งเข้าโรงพยาบาล คุณหมอว่าคงต้องทรมานอีกหลายวัน เมื่อได้รับข่าวอันนี้อาจารย์ผู้พี่จึงรีบไปที่โรงเจ ช่วยทำบุญสร้างกุศล แล้วขอต่อเทพพุทธว่าให้ช่วยขจัดปัดเป่าภัยเคราะห์ให้ด้วย โดยไม่คาดคิดเช่นกัน พอคืนนี้ทำบุญเสร็จ วันรุ่งขึ้นก็มีข่าวมาว่าคุณอาได้เสียแล้ว ขอเรียนถามอาจารย์ว่า นี่เป็นเพราะอุทิศส่วนกุศลไปให้ใช่ไหมคะ จึงทำให้คุณอาไม่ต้องทรมานไปอีกนานใช่ไหมคะ

พระจี้กง  :  ใช่แล้ว ! ชาวโลกต้องรู้ไว้ทุกเรื่องต้องมีเหตุปางก่อน นี่เป็นเพียงสภาพการณ์หนึ่งของมนุษย์ ถึงแม้การตอบสนองของกฏแห่งกรรมจะซับซ้อน แต่การตอบสนองจะไม่สับสน ตนเองก่ออะไรไว้ต้องรับกรรมนั้นเอง กรรมเวรไม่มีใครรับแทนกันได้ ต้องถือโอกาสนี้สร้างกุศล โดยเฉพาะเมื่อ "บันทึกปรากฏการณ์นรกคนเป็น" พิมพ์ออกมา ชาวโลกหากสามารถออกแรงช่วยพิมพ์หนังสือ เชื่อแน่ว่าเบื้องบนต้องยืนดีต่อจิตกุศลนี้ โดยไม่ทำให้การทำบุญในครั้งนี้ไร้อานิสงส์

เฟยหลวน  :  ค่ะ ! ขอบคุณอาจารย์ที่สั่งสอน

พระจี้กง  :  ดีแล้ว ! คืนนี้เอาแค่นี้ คราวหน้าค่อยมาใหม่ อาตมาไปล่ะ

เฟยหลวน  :  ขอน้อมส่งเสด็จท่านอาจารย์

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 7  :  เคราะห์ภัยไข้เจ็บสิ้นสุดโดยกุศลส่ง  ศรัทธาสร้างบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

พระจี้กงเสด็จลงประทับทรง  กลอนนำเสด็จ

        จี้จิตคนทำบุญเซียนเลิศล้ำ
กง*ฝึกธรรมกงได้รับคุณย่าอด        (หมายเหตุ : กง* ภาษาจีนหมายถึง ปู่ กลาง ส่วนรวม ในที่นี้หมายถึง ปู่)
พระท่านสอนชีวิตถึงสร้างกุศล
พุทธตะวันตกเตรียมปทุมาสน์

(กลอนบทนี้เอาพระนาม พระพุทธะจี้กง เป็นโศลกในการแต่งกลอน)

พระจี้กง  :  ปรากฏการณ์ "นรกคนเป็น" เป็นเรื่องที่ต้องการให้ชาวโลกได้รับรู้และเข้าใจว่า เมื่อร่างกายมีการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม ถ้าได้รับการรักษาเป็นเวลานาน โรคไม่หายสักที พึงเข้าใจว่าเป็นผลพวงมาจากวิญญาณเป็น ๆ ของเขากำลังถูกลงโทษใน "นรกคนเป็น" หวังว่าชาวโลกควรพิจารณาอย่างลึกซึ้ง ทั้งยังต้องเข้าใจว่าตนเองได้กระทำผิดไว้ ยิ่งคล้องจองกับสภาพการณ์ของการรับโทษเหมือนกับในนรกคนเป็นด้วยแล้วยิ่งควรจะสำนึกผิด และมั่นสร้างกุศล
เพื่อเป็นการชดเชยความผิดหนหลัง การเอากุศลมาหักล้างโทษเช่นนี้แล้ว การบำเพ็ญธรรมก้กระทำได้ เนื่องจากในโลกนี้มีการเจ็บป่วยเป็นร้อย ๆ ชนิด ซึ่งไม่อาจอธิบายได้หมดทุก ๆ โรค เพียงแต่ยกตัวอย่างคนที่เป็นกันมาก นำมาอธิบายเพียงสังเขปเท่านั้น ได้แต่หวังว่าชาวโลกจะเข้าใจว่ากรรมเวรนั้นน่ากลัวนัก ยิ่งผู้ที่กำลังป่วยอยู่บนเตียงยิ่งต้องสำรวจและสำนึกความผิดที่ผ่านมา บางครั้งการเจ็บป่วยมิใช่เพราะเบื้องบนไม่เมตตา และก็มิใช่จะเป็นเคราะห์ภัยที่ร้ายแรงเสมอไปตรงกับคำกล่าวที่ว่า "ป่วยหนักก็ลดกรรมหนัก ป่วยเล็กน้อยก็ลดกรรมเล็กน้อย"  ถ้าหากเกิดป่วยหนักแล้วเข้าใจได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งมิใช่หรือ

เฟยหลวน  :  สวัสดีท่านอาจารย์ คืนนี้มิทราบว่าท่านจะพาไปท่องนรกคนเป็นอีกไหมคะ

พระจี้กง  :  เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าจะไม่ไปล่ะ

เฟยหลวน  :  เป็นความรู้สึกของศิษย์ค่ะ !  คือเห็นอาจารย์ไม่เร่ง ไม่ร้อน  เลยรู้ !

พระจี้กง  :  อ๋อ ! ศิษย์โง่อย่างเจ้าก็หัดดูลักษณะได้แล้วหรือ! อาตมาของแสดงความยินดีด้วย

เฟยหลวน  :  อันนี้ก็........เพราะท่านอาจารย์มีความสามารถในการสั่งสอนไงเล่า

พระจี้กง  :  เอ........ยกย่องอาตมาอีกแล้ว ดีนะที่ยี่ฮ้อที่อาตมาจดทะเบียนไว้คือ "เจ้าเก่าแน่วแน่" ไม่ถูกลมปากของเจ้าสองสามคำก็เอนเอียงแล้ว

เฟยหลวน  :  นี่เป็นเรื่องจริง ๆ นะ ! ผู้บำเพ็ญธรรมพูดจาโกหกไม่ได้

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 7  :  เคราะห์ภัยไข้เจ็บสิ้นสุดโดยกุศลส่ง  ศรัทธาสร้างบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

พระจี้กง   :  เอาล่ะ !  ก็ยอมตามที่เจ้าพูดก็แล้วกัน ! คืนนี้เราจะไม่ไปท่องนรกคนเป็นกันล่ะ เราจะมาพิจารณากันถึงเรื่อง การทำบุญ สร้างกุศล สามารถลดแรงกรรมลงได้กันดีกว่า

เฟยหลวน  :  ศิษย์ได้พูดไปแล้ว เมื่อคราวที่แล้วมิใช่หรือคะ ยังมีอะไรจะคุยอีกล่ะ

พระจี้กง  :  ครั้งก่อนที่เจ้าพูด เป็นเรื่องที่ชีวิตใกล้จะสิ้นสุดลง แล้วร่างกายถูกโรคคุกคามทรมาน เมื่อได้สร้างบุญอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรไปแล้ว ก็ไม่ต้องถูกคุกคามทรมานอีก เนื่องจากแรงกรรมหมดไปแล้ว แต่ผู้ปาวยก็ได้สิ้นชีวิตลง เจ้าไม่ต้องกลัวหรอกว่า คนเขาจะเข้าใจผิดว่าเมื่อได้อุทิศกุศลให้ไปแล้วคนก็ต้อง "ลาก่อน" ใช่ไหม

เฟยหลวน  :  เออ ! ใช่แล้ว ! ใช่แล้ว ! งั้นจะทำไงดีล่ะ

พระจี้กง  :  เพราะฉะนั้น เมื่อขึ้นต้นก็ต้องมีลงท้าย ! คืนเปลี่ยนรสชาติอีกอย่างมาพูดกันถึงว่า เมื่อทำบุญแล้วชำระล้างแรงกรรม ทำให้การเจ็บป่วยค่อยทุเลาลงหรือรู้สึกว่าได้ชำระล้างแล้ว อย่างนี้จึงจะลงท้ายได้สมบูรณ์

เฟยหลวน  :  ก็นับว่าอาจารย์คิดรอบคอบดี ศิษย์ไม่ได้คิดถึงเลบสักนิด คิดแล้วศิษย์นี่หัวขี้เท่อมาก แต่ว่า นี่จะเริ่มต้นกันอย่างไรดี

พระจี้กง  :  ไม่สนว่าจะเห็นแบบรูปลักษณ์หรือไม่เห็นรูปปลักษณ์ ขอเพียงสิ่งที่ผ่านมามีความรู้สึกว่าเมื่อทำบุญแล้วสามารถชำระล้างแรงกรรมไปได้

เฟยหลวน  :  อย่างนี้หรือ ! อืม !  ดี ! ถ้างั้นศิษย์จะยกตัวอย่าง อันหนึ่งก่อน เมื่อหลายปีก่อน มีหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ทางแถบตะวันออกของเมืองไถจง ไม่รู้ว่าเป็นโรคประหลาดอะไรคือ อาเจียนเป็นประจำ พอรับประทานอะไรลงไปเป็นต้องอาเจียนไม่หยุด ว่ากันง่าย ๆ คือมีอะไรลงท้องไม่ได้เลย แพทย์ก็ตรวจไม่พบเป็นโรคอะไร พูดเพียงอย่างเดียวว่าไม่เป็นอะไร  ขณะที่แพทย์ฝีมือดี ๆ ก็หมดทางแก้ไข ก็พอดีมีญาติธรรมผู้หนึ่ง แนะนำเธอให้มาหาอาจารย์จ๋วงซิว ในตอนนั้น สภาพร่างกายอ่อนระโหยโรยแรง แม้แต่เวลาเดินต้องมีคนคอยหามคอยพยุง เมื่ออาจารย์จ๋วงซิวเห็นเข้า ความเวทนาสงสารก็เกิดขึ้นทันที ตัดสินใจช่วยเหลือเธอจัดการเรื่องไกล่เกลี่ยทันที จ๋วงซิวบอกกับเธอว่า เป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรกำลังตามมาทวงหนี้ ขอให้เธอจงตั้งใจศรัทธา ตลอดเวลาสามวัน ที่ต้องทำพิธีอ้อนวอนขอคำช่วยเหลือในโรงเจนั้น คนในครอบครัวเธอต่างยินยอมพร้อมใจกัน ในวันแรก ภายหลังได้ทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลแล้ว ก็ให้คนที่บ้านพยุงเธอกลับไป แต่พอกลับถึงประตูหน้าบ้านเท่านั้น เธอก็เริ่มอาเจียนทันที ครั้งหนึ่ง ในตอนนั้น ศิษย์รู้สึกหนักใจ ไม่รู้ว่าสามวันแล้วเธอจะหายไหม หรือว่าเธอจะหายในสามวัน เธอจะมาไหมน้อ

พระจี้กง  :  ต่อมาเป็นอย่างไร เธอกลับมาหรือเปล่า

Tags: