บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น นำโดยพระอรหันต์จี้กง
ตอนที่ 6 : โรครุมเร้าจำกัดอยู่บนเตียงทุกข์แสนเข็ญ บริจาคทรัพย์สร้างกุศลหยุดเคี่ยวกรรม
พระจี้กงเสด็จลงประทับทรง กลอนนำเสด็จว่า
จี้งโปรดเวไนยไม่ถือฤดูกาล
กงคือกลางลืมตนไร้ทุกข์เข็ญ
พุทธรังสีส่องส่งสุขสราญเย็น
เป็นเป็นในสังคมห้ามทำบาป
(ใช้คำว่า จี้กงพุทธเป็นเป็น เป็นโคลงในการแต่งกลอน)
พระจี้กง : คนทั่วไปมักพูดกันว่ากรรมเวรไม่มีใครเห็น ทั้งยังพูดอีกว่า เทพพุทธก็มองไม่เห็น ที่จริงแล้วเทพพุทธที่ศักดิ์สิทธิ์ก็อยู่ที่ขณะจิต นรกสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน ประกอบความดีอยู่เสมอ ชีวิตอยู่อย่างมีสุข กายของตนนี้ก็คือกายพุทธที่อวตาร ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ ถ้าหากธรรมจิตขุ่นมัวลุ่มหลงทำแต่เรื่องเลวร้าย ใจของเรานี้ก็เหมือนกับมีผีมารคอยสอดส่อง กายที่ประพฤติเลวก็เหมือนอยู่ในนรก เพราะฉะนั้นที่พูดกันว่า ในใจมีพุทธะก็จะเป็นดินแดนแห่งความบริสุทธิ์ ถ้าจิตใจเหี้ยมโหด เชื้อเมล็ดพันธุ์แห่งวัฎสงสารก็ก่อตัวขึ้นแล้ว
เฟยหลวน : ราตรีสวัสดิ์อาจารย์ ! กราบขอบพระคุณที่เสด็จมาแต่งหนังสือธรรมะเพื่อปลอบเตือนชาวโลก
พระจี้กง : อื้อ ! ดี หนังสือ "บันทึกปรากฏการนรกคนเป็น" ที่สามารถออกสู่สายตาชาวโลกได้ก็เป็นเพราะว่าในหลายปีที่ผ่านมานี้ ทางโรงเจของเจ้าภายใต้การนำของนายจ๋วงซิว ประกอบกับความสามัคคีด้วยใจอันบริสุทธิ์ ทำให้เบื้องบนมีความซาบซึ้งและปลื้มจิต ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสสัมพันธ์ได้แต่งหนังสือธรรมะ เพราะฉะนั้นหวังว่าศิษย์ในโรงเจเจ้าต้องรู้จักถนอมโอกาสสัมพันธ์อันเป็นแหล่งสั่งสมคุณธรรม ซึ่งหาได้ยากนี้ไว้
เฟยหลวน : กราบขอบคุณโอวาทของอาจารย์ ผู้ร่วมปฏิบัติธรรมในโรงเจก็มักปลื้มใจในโชคที่มีอาจารย์จ๋วงซิวแบบนี้ ท่านได้สละแรงกายนำพาพวกเรา โดยเฉพาะขณะที่ออกไปบำเพ็ญธรรมกิจภายนอกและได้พบการกระทำของผู้อื่นที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งทำให้พวกเราในโรงเจต่างรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก และเพิ่มความภูมิใจในโชคที่ได้ธรรมาจารย์ผู้ชี้นำที่ดียิ่ง ทำให้เรามีจุดมุ่งหมายที่ถูกต้องบนเส้นทางมหาสัทธรรมนี้ ไม่หลงทิศทาง ชื่อเสียงของโรงเจจ๋วงเซินมีเพียงแต่ประชาชนในไต้หวันจะสรรเสริญ และโรงเจที่เป็นเพื่อนกันจะยกย่องเท่านั้น ยังได้โด่งดังไปถึงต่างประเทศอีกด้วย เพื่อเป็นการปักดำต้นกล้าแห่งสัจธรรม เหล่านี้ล้วนเป็นความเหนื่อยยากของอาจารย์จ๋วงซิวทั้งสิ้น พวกเราผู้ร่วมบำเพ็ญต่างก็ได้รับบุญบารมีของอาจารย์จ๋วงซิวคุ้มครอง จึงมีมรรคาที่ราบเรียบและทิศทางที่ถูกต้องได้เดินเท่านั้น
พระจี้กง : นายจ๋วงซิวได้รับโองการ ให้แบกภาระอันหนักต่อไปภายหน้า เมื่อมีการแบ่งหน้าที่กันใหม่ ทุกคนต้องรับหน้าที่หนักขึ้น หวังว่าศิษย์ในโรงเจเจ้าจะยอมรับภาระอันเป็นอุดมการณ์แรก ร่วมแรงร่วมใจเบื้องบนไม่มีวันที่จะให้ศิษย์ต้องเสียแรงเปล่า ต้องรู้ว่าเมื่อมีธรรมาจารย์คอยชี้นำอยู่ข้าง ๆ ต้องรู้จักรักถนอม อย่ารอให้คนไม่อยู่แล้วก็ค่อยโกรธแค้นตนเองที่ปล่อยโอกาสไป ถึงตอนนั้นรู้สึกสำนึกก็สายเสียแล้ว