collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น : คำนำพระอรหันต์จี้กง  (อ่าน 40120 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 7  :  เคราะห์ภัยไข้เจ็บสิ้นสุดโดยกุศลส่ง  ศรัทธาสร้างบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

เฟยหลวน  :  มาซิ !  เธอมีความศรัทธาดี ! วันที่สองเธอก็มาอีก แต่ครั้งนี้ไม่ต้องหาม แต่ก็ยังต้องมีคนคอยพยุง อาจารย์จ๋วงซิวได้ถามเธอว่า รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม เป็นเพราะเธอยังมีอาเจียนอยู่ จึงตอบกลับมาว่า "ยัง" อาจารย์จ๋วงซิวจึงทำพิธี "ไกล่เกลี่ย" ให้อีกครั้งหนึ่ง เธอก็เดินได้โดยไม่ต้องมีคนต้องคอยพยุง มิหนำซ้ำเธอยังสามารถเดินไปถึงหน้าพระพุทธรูป ไปกราบขอบพระคุณได้ด้วยตนเอง ท่านอาจารย์คะนี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออีกเรื่องหนึ่งใช่ไหมคะ

พระจี้กง  :  ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกประหลาดอะไร เป็นเพราะวิญญาณเธอถูกจับไปที่นรกคนเป็น ถูกลงโทษให้ " กรอกท้อง " ดังนั้น ไม่ว่าอาหารใด ๆ ก็รับประทานเข้าไปไม่ได้ พอเข้าท้องก็ให้อาเจียนออกมา ภายหลังได้ทำบุญทำกุศลเพื่อชดใช้กรรมเวรที่ผ่านมา ทำให้วิญญาณเป็น ๆ ของเธอไม่ถูกจับไปรับโทษในนรกคนเป็นอีก  สิ่งนี้เป็นหลักฐานใช้ยืนยันที่ดีว่า บุญกุศลใช้ชดเชยกรรมที่ผ่านมาได้ แต่ที่น่าสมเพชก็พวกที่หลงคิดว่า พอได้สร้างกุศลบ้าง ก้หวังขอให้ได้ผลในทันที แต่กลับไม่รู้ว่าผู้ที่มีกรรมเวรที่หนัก วิญญาณเป็น ๆ ถูกทำโทษนานวัน ไม่อาจฟื้นคืนสภาพได้ในทันที จำเป็นที่ค่อย ๆ เจริญกุศล ก็จะทำให้ค่อย ๆ ฟื้นคืนสภาพได้ ก็อย่างที่เจ้าพูดว่า ในวันแรกที่ได้ทำบุญแล้ว ก็ได้ลดแรงกรรมลงไปบ้างแล้ว แต่เนื่องจากยังมีอาการเจ็บไข้อยู่ จึงตอบว่า " ยังไม่ดีขึ้น " ดังนั้น จึงหวังว่าชาวโลกควรเข้าใจในจุดนี้้ให้ดี ต่อมาเป็นอย่างไร

เฟยหลวน  :  ผ่านไปได้ครึ่งปี ที่โรงเจมีงานพิธีปล่อยชีวิตสัตว์ ก็บังเอิญได้พบเธออีก โอ้ ! พวกเรารู้สึกตกใจกัน

พระจี้กง  :  ฮือ!  เป็นไรหรือ  เธอหายดีแล้วไม่ใช่หรือ

เฟยหลวน  :  ใช่ค่ะ ! เธอหายแล้ว !  แต่ตอนที่เธอมาครั้งแรกซิ รูปร่างผอมโซเหลือแต่กระดูกเหมือนไม้เสียบผี  สภาพความเจ็บป่วยทำให้ทุกคนอดเวทนาไม่ได้ แต่เมื่อได้เห็นเธอในงานพิธีปล่อยสัตว์นั้น หน้าตาเธอเปล่งปลั่งมีรัศมี มีร่างกายอ้วนท้วมอะไรอย่างนั้น ! ดูราวกับว่าเป็นคนละคนเลยทีเดียว ดังนั้น พวกเราจึงรู้สึกตกใจกันทั่ว จึงพากันอวยพรให้เธอ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดออกมาคำหนึ่ง จนทำให้อาจารย์จ๋วงซิวและคนทั้้งหลายต่างพากันสะอึกไปตามกัน และนี่ก็
เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้อาจารย์จ๋วงซิว ถึงกับไม่ยอมทำพิธีไกล่เกลี่ยให้ใครอีก

พระจี้กง  :  เอ๊ะ ! รุนแรงขนาดนั้นเชียวหรือ ! เธอพูดว่าอะไรบ้าง

เฟยหลวน  :  เธอพูดว่า " ร่างกายของฉันดีแล้ว มาทำบุญทำกุศลที่โรงเจท่านได้ผลดีหรอก แต่ว่าแพงเหลือเกิน........"

พระจี้กง  :  นี่เป็นโรคธรรมดาของชาวโลก ค่ารักษา ค่ายา ที่จ่ายทุกวันไม่บ่นว่าแพง ยาที่รับประทานเอย ยาฉีดเอย ล้วนเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ เป็นของที่ใช้มารักษาตน ถึงแพงก็ไม่พูด กลับไม่รู้ว่ายาเหล่านั้นกลับค่อย ๆ กัดกร่อนทำลายเนื้อเยื่ยของตนทีละน้อย หากแต่การทำบุญก็เป็นเพียงแต่ใบอนุโมทนาเพียงแผ่นเดียวที่นำไปเผาเท่านั้น ไม่เห็นมีอะไรแม้แต่น้อยที่ใช้รักษาเหมือนพวกหยุกยาเหล่านั้น น่าเวทนาที่ชาวโลกกลับไม่รู้ว่า  ด้วยบุญที่ทำนี้จึงไม่ทำลายเนื้อเยื่ยของกายเรา ในทางตรงข้ามกันเป็นผลดีต่อการซ่อมแซมของเนื้อเยื่ย เพราะฉะนั้นชาวโลกอย่างไง ๆ ก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า บุญกุศลนั้นมีอานิสงส์จริงหรือ ทำไมง่าย ๆ อย่างนี้หนา

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 7  :  เคราะห์ภัยไข้เจ็บสิ้นสุดโดยกุศลส่ง  ศรัทธาสร้างบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

เฟยหลวน  :  ก็เพราะง่าย ๆ อย่างนี้ จึงทำให้ผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติธรรม หรือ ไม่เชื่อในกฏแห่งกรรมเกิดความเคลือบแคลงสงสัย เพราะฉะนั้น ทางโรงเจจึงทำแต่พิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่ายเป็นวิทยาทานบ้าง อัดเทปบ้าง อัดวีดีโอบ้าง และก็บรรยายธรรมตามสถานีวิทยุ เป็นงานทางด้านกล่อมเกลาจิตใจ มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือฟื้นฟูจิตวิญญาณ และเลิกบริการทางด้านการเจ็บป่วยทางกาย พูดง่าย ๆ ไม่เน้นงานบริการเป็นหลัก ถ้าหากพบว่ามีผู้ที่ใจบุญ เมื่อมีเจ็บป่วยมาขอความช่วยเหลือ ก็เพียงแนะนำเขาให้ไปทำบุญทำกุศล เพื่อชดเชยเวรกรรม การเจ็บป่วยก็จะค่อย ๆ หายไปเอง ถ้าหากเชื่อก็ให้ไปทำกันเอง หากไม่เชื่อก็ตามแต่ธรรมชาติ ไม่คะยั้นคะยอให้ไปทำ

พระจี้กง  :  ถูกต้อง !  "วิถีธรรมคือธรรมชาติ" การแนะนำตามแต่กรรมสัมพันธ์ก็พอแล้ว

เฟยหลวน  :  หากแต่ไม่รู้สาเหตุที่ทำให้หญิงสาวผู้นี้ต้องอาเจียนว่าเป็นเพราะอะไร ขอท่านอาจารย์โปรดชี้แจงเพื่อให้ชาวโลกไว้เป็นอุทาหรณ์

พระจี้กง  :  เออดี ! เรื่องนี้มีสาเหตุทั้งปัจจุบันและอดีตชาติ โดยปกติมักมีใจอกุศล และไม่บำเพ็ญทางวจี (ปาก) ควรจะรู้ว่า การระมัดระวังวาจาเป็นกุศล อย่าสร้างวจีกรรม อย่าพูดจาพร่ำเพรื่อ คำพูดเสียดแทงคนอื่น หรือชอบพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เช่น พูดจาลามก หรือเป็นคนชอบอิจฉาริษยาคนอื่น ไม่เคยเห็นความดีของผู้อื่น เห็นความสำเร็จของผู้อื่นก็พูดจานินทา เหล่านี้ล้วนเป็นจิตอกุศลทั้งสิ้น พวกที่ก่อกรรมเช่นนี้ ทางนรกคนเป็นก็จะจับเอาวิญญาณเป็น ๆ ของเขามาทำการ"ล้างท้อง" เริ่มจากปากไปจนถึงกระเพาะ รสชาดช่างทรมานยิ่งนัก เพราะฉะนั้น อาตมาขอเตือนชาวโลก อย่ามีใจอกุศลเลย มิฉะนั้น ก็จะเชิญยมทูตจากนรกคนเป็นมาช่วยชำระล้างขยะในกระเพาะของเจ้าฟรี ๆ หวังว่าชาวโลกอย่าใช้ความสามารถของลิ้นให้มากนัก ที่พูดว่า " โจมตีคนอย่าเปิดโปงให้เกินเลยนัก " กับเรื่องราวต่าง ๆ ก็อย่ามีใจอกุศล ก็จะไม่ต้องถูก " ล้างท้อง " อย่างทุกข์ทรมานจากแรงกรรม

เฟยหลวน  :  ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชี้แจง เชื่อแน่ว่า ชาวโลกต้องเข้าใจได้บ้าง

พระจี้กง  :  ถ้างั้นเฟยหลวน เจ้าจงยกตัวอย่างอีกสักอันซิ เพื่อให้ผู้คนเพิ่มความเข้าใจ แม้แรงกรรมจะหนัก ขอเพียงได้ตั้งอกตั้งใจศรัทธาอ้อนวอนไกล่เกลี่ย ก็จะได้รับการตอบสนอง ก็จะได้รับความช่วยเหลือ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 7  :  เคราะห์ภัยไข้เจ็บสิ้นสุดโดยกุศลส่ง  ศรัทธาสร้างบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

เฟยหลวน  :  อึม ! เอาเรื่องเร็ว ๆ นี้ก็แล้วกัน มีญาติธรมผู้พี่โรงเจนี้ ที่ชั้นบนของบ้านเธอ มีครอบครัว ๆ หนึ่ง สองสามีภรรยามีบุตรหญิงสองคน ชายหนึ่งคน ลูกสาวคนโตปีนี้อายุยี่สิบปี เติบโตมามีรูปร่างหน้าตาดี แต่โชคไม่ดี เกิดโรคร้ายขึ้นกับเธอ ผ่านการตรวจร่างกายของแพทย์แล้วพบว่า เธอเป็นมะเร็งในเม็ดโลหิต และบอกว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก ข่าวคราวเหมือนฟ้าฝ่ากลางฤดูร้อน สองสามีภรยาถูกคลื่นชีวิตถาโถมอย่างหนักหน่วง คนทั้งครอบครัวตกลงสู่ทะเลเศร้า อย่างฉับพลัน คุณแม่ของเธอล้างหน้าด้วยน้ำตาทุกวัน ญาติธรรมผู้พี่ของเราเห็นสภาพเช่นนี้ ถึงแม้จะรู้ว่าอาจารย์จ๋วงซิวของเรา ไม่ยอมบริการแก่ผู้ศรัทธาผู้ใดอีกแล้ว แต่ทว่าด้วยจิตที่เวทนายิ่งก็ยังบอกพวกเขาว่า น่าจะไปหาอาจารย์ของเราที่โรงเจจ๋วงเซินถัง ว่าจะมีความหวังอะไรบ้างไหม แต่ว่าอาจารย์ของเราไม่รับบุคคลภายนอกแล้ว แต่ถ้าพวกทานมีใจศรัทธาเชื่อแน่ว่าเทพพุทธต้องช่วยเหลือเป็นแน่ เพราะว่าอาจารย์ของเรามีพื้นจิตที่เมตตา ท่านอาจารย์อาจยอมรับพวกท่านก็ได้ ไม่แน่นะ แต่ถ้าอาจารย์บอกพวกท่านทำอะไร ท่านต้องปฏิบัติตามทุกอย่าง โดยเฉพาะต้องเชื่อใจห้ามไม่ให้มีจิตเคลือบแคลงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้าหากทำได้เช่นนี้ ฉันก็จะพาพวกท่านไปอ้อนวอนอาจารย์ของเราให้สงสาร คุณแม่เธอเมื่อได้ฟังเช่นนั้นแล้ว ประดุจดั่งสายน้ำมนต์กลางทะเลทราย ประกอบกับความมีชื่อเสียงดีของโรงเจจ๋วงเซินถังซึ่่งหล่อนได้กิตติศัพท์มานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสไปไหว้เท่านั้น ตอนนี้ยิ่งได้ยินว่ามีโอกาสแห่งการอยู่รอดจึงมีความยินดี พร่ำแต่พูดว่า ได้ค่ะ ! ได้ค่ะ !

พระจี้กง  :  อืม ! ต่อไปเป็นอย่างไร

เฟยหลวน  :  จริงอย่างที่ว่า "ใต้หล้าใจของพ่อแม่" คุณแม่ผู้นั้นเมื่อไปถึงที่โรงเจแล้ว พอพบอาจารย์จ๋วงซิวเท่านั้นรีบคุกเข่าลงพื้น ร้องขอให้อาจารย์จ๋งซิวช่วยชีวิตลูกสาว อาจารย์จ๋วงซิวได้ฟังเรื่องราวของเขามาก่อนแล้วจากญาติธรรมผู้พี่ถึงเรื่องราวของการเจ็บป่วย ตอนนี้ ยิ่งเห็นสภาพเช่นนี้แล้วยิ่งน่าสงสาร และเมื่อได้รับความเห็นด้วยจากเทพพุทธแล้ว จึงจัดพวกเขาได้ปล่อยชีวิตสัตว์ก่อน  และทำบุญด้วยการซื้อเทปธรรมะ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ปะเหมาะกับทางโรงเจกำลังจัดงานประชุมธรรมะขึ้น จึงให้เขาได้จุดดวงประทีปมงคลดวงหนึ่งในงานประชุมธรรมะเป็น "ประทีปดวงประธาน" เพื่ออุทิศให้กับแรงกรรม ทั้งยังได้สั่งมาให้ถวายน้ำชาพระและขอวอนขอให้พระช่วย ทำแบบนี้ติดต่อกันมาครึ่งเดือน คุณแม่ที่น่านับถือเช่นนั้น  ปฏิบัติตามทุกประการ ได้มาวอนขอและถวายน้ำชา
ทุก ๆ วัน แต่ละครั้ง เมื่อพบอาจารย์จ๋วงซิว จะคุกเข่าลงไหว้ จนทำให้อาจารย์จ๋วงซิวไม่กล้าให้เธอได้พบหน้ากันจัง ๆ

พระจี้กง  :  ต่อมาเป็นอย่างไร

เฟยหลวน  :  เวลาผ่านไปประมาณสองเดือนเศษ เด็กสาวที่ถูกแพทย์ประกาศว่าหมดหนทางรักษาคนนั้น ก็ได้ออกจากโรงพยาบาล และในวันที่ออกจากโรงพยาบาลวันนั้น ก็ได้มายังโรงเจกับมารดาก่อน เพื่อขอบคุณเทพพุทธที่เมตตาช่วยเหลือ ตอนนี้ได้ข่าวว่าเธอสามารถขึ้นรถไปไหนมาไหนได้แล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังมาไหว้พระที่โรงเจด้วย  แต่ศิษย์ยังไม่ได้พบเห็นเลย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

             ตอนที่ 7  :  เคราะห์ภัยไข้เจ็บสิ้นสุดโดยกุศลส่ง  ศรัทธาสร้างบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

พระจี้กง  :  ยอดไปเลย นี่คืออิทธิฤทธิ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และนี่คืออานิสงส์แห่งแรงกุศลที่ไม่อาจคาดคิด ผนวกกับมารดาผู้ป่วยมีความเชื่อใจ มีความศรัทธาและจิตใจที่อดทนสะเทือนถึงเบื้องบน ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ก็สามารถเป็นไปได้ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันที่ดี

เฟยหลวน  :  แต่ไม่ทราบว่า "เจ้ามะเร็งเลือด" นี้มีแรงกรรมแบบไหนที่ทำให้เกิดขึ้น อยากให้ท่านอาจารย์ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ

พระจี้กง  :  สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ อาจเกิดจากชาติก่อนหรือชาติปัจจุบันที่ใช้ความสะดวกจากหน้าที่การงาน เบียดบังเอาเงินที่ผิดกฏหมาย คนที่มีความโลภไม่รู้เบื่อตลอดเวลา เอาแต่ละโมบโลภมากทุจริตถึงที่สุดแล้ว นรกคนเป็นก็จะให้คนมาจับไปอยู่ในบ่อเลือด เพื่อให้กายเนื้อของเขามีเลือดผิดปกติ จนกระทั่งถึงที่สุดแห่งชีวิต  จึงถูกยมทูตจับไปที่ยมโลกเพื่อพิจารณาความ

เฟยหลวน  :  แล้วที่พูดกันว่าคนที่เป็นโรคไม่มีทางรักษา แล้วนอนบนเตียงอยู่เป็นระยะเวลายาวนานจึง่อยสิ้นชีวิต ก็คงเป็นเพราะบุญกุศลไม่เพียงพอ หรือเพราะครอบครัวไม่มีคุณธรรมเป็นเหตุ

พระจี้กง  :  เช่นนั้นแหละ !  ถึงแม้นรกคนเป็นจะจับวิญญารเป็น ๆ ไปทำโทษ เพื่อให้ร่างกายเขาได้รับทุกข์ทรมาน แต่ยังมีอีกอย่างหนึ่งคือ "ด่าน" ที่คอยจับคนที่ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายเอาไว้ตอนถอดวิญญาณไปท่องเที่ยว อาตมาจะเชิญยมทูตพาเจ้าไปเยี่ยมชม เพราะฉะนั้น ถึงแม้นรกคนเป็นจะแบ่งเป็นหลายแผนกก็ตาม วันก่อน ๆ ที่เราไปเยี่ยมชมนรกคนเป็น ก็เพียงแต่จับวิญญาณเป็น ๆ มารับโทษเท่านั้น ยังไม่ถึงกับเอาชีวิต ยังมีอีกแผนกที่คอยทำโทษคนที่ได้ทำบาปหนัก ไม่ว่าจะเป็นปัจจุบันชาติหรืออดีตชาติ โดยต้องการให้ร่างกายของเขา ต้องทนทุกข์ทรมาน ได้รับความเจ็บปวดจนถึงที่สุดจนสิ้นชีวิตจึงหยุด เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะบาปที่ทำหนักมากจำเป็นต้องอาศัยกายสังขารขอใช้กรรม ซึ่งโทษคนอื่นไม่ได้  ดังนั้น บางคนที่พูดว่าเป็นโรคของชาติบางก่อน พอเกิดมาก็เป็นโรคต้องทุกข์ทรมานจนตาย ก็เป็นสาเหตุนี้แหละ แต่สำหรับหญิงสาวผู้นี้ที่มีกรรมหนัก ซึ่งอยู่ในวาระที่จวนเต็มที่อยู่แล้ว เพราะได้พึ่งบุญกุศลจนได้รับการขจัดปัดเป่าจนหายได้ แต่อาตมาอยากจะให้เฟยหลวน เจ้าจงไปบอกเธออีกทอดหนึ่งว่า กรรมตามสนองครั้งนี้ที่จริงต้องทุกข์ทรมานจนกระทั่งสิ้นชีวิต แต่เป็นเพราะมารดามีความศรัทธา เชื่อถือปฏิบัติคุณงามความดี จนกระทั่งได้รับการขจัดปัดเป่า เบื้องบนสงสารเห็นอกเห็นใจในความเอื้ออาทรของมารดา ดังนั้น จึงอภัยโทษให้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเป็นการผ่อนหนักเป็นเบา อีกอย่างชีวิตที่ได้คืนมาจากการทำบุญทำกุศล เพราะฉะนั้น บุญกุศลจึงทำอยู่ตลอดเวลาไม่หยุดหรือขาดตอน จึงสามารถปกป้องเธอไม่ต้องทุกข์ทรมานจาก "มะเร็งเลือด" อีก ที่ดีที่สุดคือช่วยให้เธอเข้าสู่ธรณีศักดิ์สิทธิ์ (บวช) จะได้ผลดีกว่า เพื่อให้กายได้ปฏิบัติ จะได้เพิ่มพูนกุศลที่มองไม่เห็นเป็นการเพิ่มการป้องกัน ถ้าได้เช่นนี้จึงจะดี เจ้าเข้าใจไหม

เฟยหลวน  :  ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชี้แนะ ศิษย์จะบอกให้เธอได้ทราบ

พระจี้กง  :  อาตมาอยากจะตักเตือนชาวโลกไว้ ณ ที่นี้ อย่าพูดว่าเบื้องบนไม่มีหูไม่มีตา ข่มเหงรังแกคน ในที่ลับก็มีพระมีเจ้า เหนือหัวสามฟุตมีพระเจ้า ไฉนเลยเบื้องบนจะปล่อยเจ้าไปล่ะ คืนนี้พอเท่านี้ เฟยหลวนจงเตรียมตัวให้ดี คราวหน้าจะพาวิญญาณเจ้าไปท่องนรกคนเป็น เพื่อเขียนหนังสือให้ยอดเยี่ยมเลย อาตมาไปล่ะ

เฟยหลวน  :  ค่ะ !  ขอบคุณท่านอาจารย์ ขอน้อมส่งท่านอาจารย์

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                    บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

               ตอนที่  8  :  นรกคนตายไม่มีคนมีชีวิตนอกจากบุญกุศล ทำให้เปลี่ยนแปลง

พระจี้กงเสด็จลงประทับทรง  กลอนนำเสด็จ

                         สถานธรรมจ๋วงเซินถังช่วยกล่อมเกลา
               ผู้บำเพ็ญจิตต้องเฝ้าตลอดกาล
               นรกคนเป็นฟ้ากำหนดปรากฏการณ์
               พุทธจิตเพลาพิลาสไม่มีสอง

พระจี้กง  :  พุทธมีแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์  แต่ก็ขึ้นอยู่กับบุญสัมพันธ์ที่ต่างกัน จึงให้เลือกผู้มีบุญสัมพันธ์แล้วบำเพ็ญ น่าเสียดาย ! สถานธรรมในปัจจุบันต่างก็มีกำแพงกั้นขอบเขต มีความเห็นที่ต่างกัน จึงเป็นเหตุให้การเผยแผ่มหาสัทธรรมไม่กว้างขวางเต็มที่ กลับกลายเป็น "ปู่พูดปู่มีเหตุผล ย่าพูดย่ามีเหตุผล"  หาใช่เป็นความต้องการของเบื้องบนไม่  ด้วยเหตุนี้ อาตมาหวังว่าผู้บำเพ็ญธรรมในโลกนี้ โดยเฉพาะ หัวหน้าสถานธรรม หรือ ผู้รับผิดชอบต่อพระเจ้า ต้องไม่มีความคิดว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น ควรรู้ว่าพุทธธรรมมีความเสมอภาค เพียงแต่ละคนมีกรรมสัมพันธ์ไม่เหมือนกัน การบำเพ็ญจึงต่างกัน การบำเพ็ญกับการเข้าถึงธรรม จะสำเร็จได้ช้าหรือเร็วต่างกันเท่านั้น  ปัจจุบัน ชะตาฟ้ากำหนดแปรผัน ขอเพียงมีใจจะทำงานด้านธรรมะ เบื้องบนก็จะส่งเทพศักดิ์สิทธิ์มาให้ความช่วยเหลือในการเผยแผ่ธรรมะ เพราะฉะนั้น ชาวโลกควรเข้าใจ ขอเพียงมีผู้จะขยายธรรมะโดยยอมปฏิบัติธรรมอย่างเท้าติดดินเท่านั้น ก็จะรู้สึกได้ว่ามีเทพบุตรมาช่วยเหลือ

เฟยหลวน  :  ราตรีสวัสดิ์อาจารย์ !  ทำให้ท่านอาจารย์ต้องลำบากลำบนอีกแล้ว อาจารย์พูดเมื่อตะกี้นี้ ศิษย์มีความรู้สึกเห็นด้วย ความเห็นผิดของคนในสถานธรรม ปัจจุบันนี้ก็ถูกท่านอาจารย์พูดออกมาแล้ว

พระจี้กง  :  ปัจจุบันท้องถิ่นภาคกลาง ความเจริญทางธรรมะของโรงเจจ๋วงเซินถังของเจ้านี้คงเส้นคงวามาตลอด ยึดมั่นในอุดมการณ์เพื่อการอบรม เบื้องบนรู้สึกอบอุ่น  ดังนั้น จึงมอบหน้าที่ให้เป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ขอให้บรดาศืษย์ของจ๋วงเซินถัง ควรพิจารณาอย่างลึกซึ้ง ถึงความประสงค์ของเบืองบนที่มอบภาระอันหนักนี้ แต่ละคนควรเตรียมตัวที่จะออกมารับใช้ได้ทันที เพื่อบูชาพลังจิตของตนเอง อย่ามัวแต่เฝ้าเป็นห่วงแต่บ้านช่อง ต้องรู้ไว้ว่าชะตาฟ้ากำลังแปรเปลี่ยน ได้ทำให้งานด้านธรรมะของโรงเจก้าวหน้าไป ไม่เพียงแต่ศิษย์ของจ๋วงเซินถังเท่านั้น แต่เป็นมวลชนของจ๋วงเซินถังด้วย มีเพียงทำงานให้โรงเจเท่านั้น แต่ทำงานให้กับมหาชนอีกด้วย อันภาระกิจเช่นนี้ก็เพื่อต้องการให้พวกเราได้มีโอกาสสร้างบุญเพื่อชำระล้างหนี้กรรม สำหรับนายจ๋วงซิว ห็หาใช่เป็นเพียงอาจาย์ของโรงเจจ๋วงเซินถังเท่านั้น หากแต่เป็นอาจารย์ของมหาชน ก็อย่างที่พูดจุดมุ่งหมายของจ๋วงซิวตั้งแต่นี้ไป ก็เพื่ออบรมกล่อมเกลาให้มาก ๆ โดยทั่ว ๆ ไป มิเพียงอบรมแต่ิศิษย์ของโรงเจเท่านั้น หวังว่าศิษย์ทั้งหลายคงเข้าใจ

เฟยหลวน  :  ที่จุดนี้ก็เหมือนอาจารย์จ๋วงซิว ซึ่งรู้พอสังเขป เพราะฉะนั้นในทุกวันนี้งานที่ทำก็ได้บอกให้ผู้บำเพ็ญในโรงเจรู้ว่า ทิศทางที่จะเดินไปทางไหน กับงานธรรมะที่จะเผยแผ่ ส่วนใหญ่ก็เพื่ออบรมกล่อมเกลาโดยทั่ว ๆ ไป

พระจี้กง  :  ที่ผ่านไปแล้วก็คือ.....เกิดในจีนได้ยาก มหาสัทธรรมได้ยินได้ยาก เกิดเป็นมนุษย์ได้ยาก ธรรมาจารย์พบได้ยาก  ตอนนี้อาตมาขอเพิ่มคำว่า "ทำกุศลได้ยาก" ขอให้ศิษย์หยั่งรู้ให้ล้ำลึก  เอาล่ะ ! คืนนี้เวลาก็ดึกแล้ว เฟยหลวนขึ้นบนปทุมาสน์ เราจะเดินทางกัน   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                    บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

               ตอนที่  8  :  นรกคนตายไม่มีคนมีชีวิตนอกจากบุญกุศล ทำให้เปลี่ยนแปลง

เฟยหลวน  :  จะไปทัศนศึกษานรกคนเป็นอีก โอ้ ! ศิษย์คิดถึงสภาพการณ์ของวิญญาณคนเป็นที่กำลังรับทุกข์เหล่านั้นแล้วรู้สึกใจคอไม่สงบ มือไม้หนาวเย็นไปหมดจิตใจก็ทนไม่ค่อยไหว แต่เพื่อการแต่งหนังสือปลอบเตือนชาวโลก ไม่อยากไปก็ต้องไป เห็นทีต้องทนฝืนไป

พระจี้กง  :  สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เวไนยสัตว์ได้ก่อกรรมเอาไว้เอง ก็จำเป็นต้องได้รับการตอบสนองจากผลกรรมอันนั้น มิใช่เบื้องบนไม่เมตตา และก็มิใช่อาตมาจะใจจืด มันเป็นกรรมที่ตนเองก่อมาเองจริง ๆ ก้จำเป็นต้องให้ตนเองไปชดใช้กรรมบ้าง การไปเที่ยวนรกคนเป็นก็เพื่อให้ชาวโลกได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว จะได้หวาดเกรงคอยระมัดระวังถึงการกระทำของตนเอง สำหรับจิตเมตตาของเฟยหลวน ก็ได้แผ่ให้วิญญาณคนเหล่านั้น ทำให้พวกเขาได้ลดการเจ็บปวดลงไปได้บ้าง เพราะฉะนั้นเจ้าไม่ต้องหวาดหวั่นกับวิญญาณคนเป็นเหล่านั้นจนใจคอไม่สงบ รู้ไหม

เฟยหลวน  :  ศิษย์รู้ค่ะ ขอบคุณอาจารย์ ศิษย์นั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์ออกเดินทางได้

พระจี้กง  :  เออดี !  หลับตาเสีย  ขึ้นได้..........ถึงแล้วยมบาลกำลังรอเราอยู่โน้นแล้ว รีบขึ้นไปคารวะเสีย

เฟยหลวน  :  ค่ะ !  ศิษย์เฟยหลวน ขอคารวะท่านยมทูตและท่านเทพทุกท่าน ศิษย์มารบกวนทานเทพอีกแล้ว

ยมบาล  :  มิต้องเกรงใจ ลุกขึ้นเถอะ ขอต้อนรับท่านพระอรหันต์จี้กงที่มาเยี่ยมอีก ขอเชิญน้ำชาข้างในขอรับ

พระจี้กง  :  คืนนี้อย่าดื่มน้ำชากันเลย อาตมาจะตามไปดูด้วย แต่วันนี้จะไปดุอีกแห่งหนึ่งของนรกคนเป็น หวังให้ท่านยมบาลรีบ ๆ นำไป

ยมบาล  :  ขอรับ !  กระผมได้รับสัญญาณมือเมื่อวันก่อน รู้ว่าวันนี้จะพาเฟยหลวนไปดูผู้รับทุกข์จากโรคที่ไม่มีทางรักษา คือนรกที่รับโทษหนัก ก็เป็นขุมนรกคนตายที่วิญญาณคนเป็นกำลังได้รับกรรมอยู่ขณะนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนรกคนเป็น เชิญขอรับ ! เชิญท่านทั้งสองตามกระผมมาทางนี้.....

เฟยหลวน  :  หูได้ยินเสียงร้องตะโกนเป็นช่วง ๆ  ฟังดูน่าสงสารนะ
 
ยมบาล  :  ถึงแล้ว !  ที่นี่เป็นนรกคนตายที่ผู้รับโทษอยู่ในนรกคนเป็น

เฟยหลวน  :  ทำไมจึงเรียก "นรกคนตาย" คะ

ยมบาล  :  ที่นี่เปรียบเหมือนคุกตะรางในโลกมนุษย์ มีโทษจำคุก 2 ปีก็มี 5 ปีก็มี ที่มีกำหนดต่าง ๆ กัน ซึ่งในนรกคนเป็นก็เหมือนกัน วิญญาณคนเป็นที่ถูกจับมาลงโทษจะมีกำหนดแน่นอน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับบาปของแต่ละคนที่ทำมาในชาติก่อน หรือชาติปัจจุบันว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่วิญญาณคนเป็นในนรกคนตาย ก็เปรียบเหมือนนักโทษประหารในโลกมนุษย์ ซึ่งต้องถูกทรมานจนถึงวันตายจึงจะจบสิ้นกัน กายเนื้อของคนนั้นได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้หนักมากในชาติก่อนหรือชาติปัจจุบันวิญญาณของเขาจะถูกจับมารับโทษที่นี่จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะฉะนั้น กายเนื้อจึงเป็นโรคที่ต้องตาย วิญญาณเป็น ๆ ของเขาก็จะถูกจับมาลงโทษที่นี่จนสิ้นชีวิตเป็นอย่างนี้ท่านเข้าใจไหม

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                    บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

               ตอนที่  8  :  นรกคนตายไม่มีคนมีชีวิตนอกจากบุญกุศล ทำให้เปลี่ยนแปลง

เฟยหลวน  :  อ๋อ !  เป็นแบบนี้เอง ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะ ทำไมวิญญาณเป็น ๆ แต่ละคนจึงถูกจับแช่อยู่ในบ่อรูปสี่เหลี่ยม (มองไปข้างหน้า.....) อุ๊ย.....ในบ่อมีหนอนเป็นเส้น ๆ เต็มไปหมด น่ากลัวจะตายแล้ว ศิษย์กลัวจะเห็นอย่างที่เห็นนี่แหละ ดูแล้วขนลุกซู่เลย ดูซอเหงื่อออกเต็มฝ่ามือเลย หนอนเหล่านั้นอยู่เต็มบ่อไปหมด แถมยังเกาะติดอยู่บนตัวอีกด้วย ดูเหมือนกำลังดูดเลือด เห็นแขนขาถูกดูดแน่นจนคนในนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ได้แต่รีองตะโกน โอย.....อาจารย์ขา ! น่ากลัวเหลือเกิน ที่จริงพวกนี้เขาเป็นโรคอะไรคะ

พระจี้กง  :  ดูเจ้ากลัวจนร้องเสียงหลง อย่ากลัว มีสติเอาไว้ ลองดูบางคนซิว่ามีสภาพอย่างไรในบ่อ แล้วค่อยอธิบายให้ชาวโลกได้รับรู้ว่า พวกเขา (เธอ) ว่าทำกรรมอะไรเอาไว้จึงได้รับการตอบสนองเหล่านี้

เฟยหลวน  :  ศิษย์จะเป็นลมอยู่แล้ว ไม่กล้าดูอีกต่อไป

ยมบาล  :  พวกนี้มีโทษที่ต้องรับ เฟยหลวนเจ้าอย่ากลัว สภาพคนในบ่ออีกหลาย ๆ คน ดู ๆ แล้วก็ไม่น่ากลัวอะไร

เฟยหลวน  :  ค่ะ.....(กลัว ๆ อยู่แต่ก็ดูต่อไป กลับไปคงไม่กล้ารับข้าว ทานอะไรเข้าไปคงอาเจียนออกมาหมด

พระจี้กง  :  เฟยหลวนเจ้าท่องกลอนอะไรหรือ พูดอะไรหรือ

เฟยหลวน  :  อ๋อ !  ไม่มี ไม่มีอะไร (ก็ยังกลัว ๆ อยู่) ออกไปดูหนอนในบ่ออีก  เห็นมันอยู่แถว ๆ คอหอย พวกวิญญาณเป็น ๆ เหล่านั้นร้องจนไม่มีเสียง บ้างก็มีหนอนเกาะอยู่แถว ๆ ตับ คนนั้นมีหนอนเกาะอยู่แถว ๆ จมูก ที่แท้พวกนี้เป็นอะไรกันนะ นอกจากที่เห็นครั้งแรกมีหนอนเกาะอยู่เต็มตัว ไม่มีที่ว่างเว้นเลย นอกนั้นก็มีหนอนเกาะอยู่เป็นแห่ง ๆไปแต่ดูเหมือนว่าไม่เหมือนพวกวิญญาณเป็น ๆในนรกคนเป็นเลยการเจ็บปวดจะมีระยะเวลา แต่ทางนี้จะเจ็บปวดติดต่อกันไปไม่มีหยุด

ยมบาล  :  วิญญาณคนเป็นในนรกคนเป็น การรับโทษจะมีเวลาการเจ็บปวด มิได้รับโทษตลอด 24 ช.ม. แต่ผู้รับโทษในขุมนี้้เป็นเพราะบาปที่ทำบาปที่สุด กรรมหนักมาก ดังนั้นตลอด 24 ช.ม. ก็จะได้รับโทษอยู่ตลอดเวลา สำหรับกายเนื้อในโลกมนุษย์ไม่มีผลการรักษาจากยาแก้ปวดหรือมอร์ฟืน ดังนั้นกายเนื้อของเขาจะเจ็บปวดทรมานจนกว่าจะตาย ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น การใช้ยารักษาจะค่อย ๆ ลดประสิทธิภาพลง จนในที่สุดก็ไร้ผล พูดอีกทีคือว่า แต่ละครั้งของการใช้ยา พอยาหมดฤทธิ์ลง กายเนื้อจะเพิ่มความเจ็บปวดรุนแรงขึ้น ทั้งนี้เพราะยาที่ใช้หรือยาชาจะมีผลชั่วระยะเวลาหนึ่งที่ทำให้กายเนื้อหมดความรู้สึก พอกายเนื้อเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้งก็เหมือนกับว่ามีหนอนกำลังดูดเลือด ซึ่งแน่นอนความเจ็บปวดจะเพิ่มทวีคูณ และนี่คือทำไมคนที่ฟื้นจากยาสลบจะเพิ่มความเจ็บปวดจนทนไม่ได้ ในที่สุดพอยาหมดฤทธิ์ก็จะร้องจนสิ้นใจตาย นอกเสียจากลูกหลานหรือญาติในครอบครัวที่มีความศรัทธาตั้งปณิธานมหากุศลทำมหากุศล หรือไม่ก็ต้องเป็นครอบครัวที่มีบุญกุศล มิฉะนั้นแล้วแล้วยากที่จะหลุดพ้นนรกคนตายไปได้

เฟยหลวน  :  ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะ อย่างนี้หมายความว่า มีคนที่เป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย หากคนในครอบครัวอธิษฐานขอสร้างมหากุศลแล้ว กลับหายจากโรคร้ายก็มาก อย่างนี้ใช่ไหมคะ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                    บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

               ตอนที่  8  :  นรกคนตายไม่มีคนมีชีวิตนอกจากบุญกุศล ทำให้เปลี่ยนแปลง

ยมบาล  :  ใช่แล้ว เบื้องบนจะดูกุศลจากบรรพชน ดูผลที่ถ่ายทอดสู่รุ่นหลัง ๆ แล้วดูปณิธานของคนในครอบครัว ดูบุญกุศลที่กระทำไปและความศรัทธา มีความเชื่อและอดทนแค่ไหน และก็ดูอายุขัยด้วย บางครั้งก็ได้รัยอภัยโทษครั้งใหญ่ แล้วก็อย่างที่เจ้าเห็นว่าหนอนมันเกาะอยู่ส่วนไหน เช่นเกาะอยู่ที่คอหอยก็เป็นมะเร็งที่คอเกาะอยู่ที่ปอดก็เป้นมะเร็งที่ปอด เกาะอยู่ที่กระเพาะก็เป็นมะเร็งที่กระเพาะ เกาะอยู่ที่ตับก็เป็นมะเร็งอยู่ที่ตับ คือ หนอนเกาะที่ไหนก็มีปัญหาที่นั่นแหละ

เฟยหลวน  :  แต่ไม่รู้ว่าพวกนี้ ได้รับโทษหนักตอบสนองเพราะเหตุอันใด

ยมบาล  :  ก่อนอื่น ต้องเข้าใจถึงสาเหตุที่วิญญาณเป็น ๆ ได้รับเสียก่อนเขา(เธอ) อาจก่อกรรมในชาติก่อนหรือปัจจุบันชาติซึ่งบาปที่ทำมากกว่าพวกวิญญาณเป็น ๆ ที่รับโทษอยู่ในนรกคนเป็นมาก ซึ่งความบากหนานี้มากจนสุดที่มนุษย์และฟ้าดินสุดจะทนได้ จึงได้ตกสู่ "นรกคนตาย" ในนรกคนเป็น เพื่อรับโทษทัณฑ์ ทำให้กายเนื้อเจ็บปวดทรมานจนตาย นี่แหล่ะคือคนเป็น ๆ ที่อยู่ในนรกบนดิน จุดมุ่งหมายต้องการให้คนได้รู้ได้เข้าใจ น่าเสียดายที่ชาวโลกไม่รู้ความแยบยลภายใน ดังนั้น ถึงการแพทย์จะก้าวหน้า แต่สำหรับความเจ็บป่วยไม่มีทางหายจนถึงปัจจุบัน บรรดานายแพทย์จนปัญญาหมดหนทางนอกเสียจากพบเห็นในระยะเริ่มแรกก็ไม่ต้องรับทุกข์นานทั้งนี้เพราะบุญกุศลของบรรพชนที่มีเหลือคุ้มครองมาถึงทำให้พ้นจากนรกคนตายไปได้

เฟยหลวน  :  อ๋อ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะ พูดเป็นว่าทุกอย่างมีกำหนดจากการที่มีสาเหตุปางก่อนจึงมีผลปางหลังใช่ไหมคะ

ยมบาล  :  ถูกที่สุด !  อย่างสาเหตุเป็นมะเร็งที่คอเป็นเพราะชาติก่อนหรือปัจจุบันเป็นคนที่มีบุญวาสนา แต่ไม่ถนอมรักษาบุญวาสนา กินดื่มอย่างฟุ่มเฟือย เป็นการล้างผลาญสมบัติของเบื้องบน ใช้อำนาจหน้าที่ข่มเหงคนดี ทั้งกิน ทั้งดื่ม ทั้งเล่นเสพสุขจนถึงที่สุด เบื้องบนจึงบันดาลให้ไม่ว่าอะไนก็ไม่มีทางเข้าปาก สำหรับคนเป็นมะเร็งที่ตับ สาเหตุมาจากฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไปมาก จิตใจดุร้ายเป็นเหตุ สำหรับมะเร็งของลำใส้ ก็พราะจิตใจคับแคบ เพราะเขามีส่วนหนึ่งที่ใจคอไม่ดี คิดวางแผนทำร้ายผู้อื่น จึงเกิดใจมุ่งร้าย ต่อไปก็คิดฆ่าเขา ตีชิงวิ่งราว เพราะเหตุนี้ชาตินี้จึงได้รับกรรมชนิดนี้ตอบสนอง

เฟยหลวน  :  ขอเรียนถามท่านยมบาล อย่างประวัติบุคคลสำคัญก็ดี หรือท่านผู้อาวุโสของสถานธรรม หรือเป็นธรรมาจารย์ พวกเขาทั้งชีวิตโอบอุ้มแต่ความเมตตาของสวรรค์ ช่วยเหลือคนอื่น ช่วยชาวโลก แต่บางคนกลับไม่ได้ตายดี  บ้างถึงกับเป็นโรคร้ายเจ็บปวดทรมานจนถึงสิ้นชีวิต อย่างนี้เป็นเพราะสาเหตุอะไร

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                    บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

               ตอนที่  8  :  นรกคนตายไม่มีคนมีชีวิตนอกจากบุญกุศล ทำให้เปลี่ยนแปลง

ยมบาล  :  อันนี้เป็นเพราะเบื้องบน ต้องการให้กายเนื้อของเราชำระล้างหนี้จากเจ้ากรรมชาติก่อน เพื่อรับอริยมรรค เป็นวิธีการที่จะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนเกิดตายอีกก้อย่างที่เจ้าพูด เมื่อครู่นี้ ท่านบุคคลสำคัญหรือผู้ทรงธรรม พวกเขาต่างจงรักภัคดีต่อชาติ เพื่อประชาชน หรือประกอบคุณงามความดีตลอดชีวิต แล้วทำไมจึงต้องได้รับทุกข์ทรมานเช่นนี้ ถึงแม้ปัจจุบันชาติจะสร้างมหากุศลแต่บาปกรรมที่สั่งสมมาแต่อดีตชาติยังมีอยู่ และเพราะเบื้องบนเมตตา ไม่อยากต้องให้เขารับทุกข์ในการเวียนเกิดอีก ด้วยเหตุนี้ความเจ็บปวดของโรคร้ายนี้จึงเป็นการชดใช้หนี้กรรม ทำให้หนี้ที่ตกค้างอยู่หมดไป เป้นการชำระล้างให้หมดหนี้ในชาตินี้แล้วแปรเปลี่ยนเป็น"อริยชน" ก็ตรงกับคำพูดที่ว่า "ผลบุญสำเร็จสมบูรณ์"

เฟยหลวน  :  ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณท่านยมบาลที่ชี้แจ้ง อี๊ด ! ทำไมเจ้าหนอนดูดเลือดคนนั้นจึงลดน้อยลงไป เมื่อครู่นี้ยังเห็นเกาะเต็มบริเวณท้อง ทำไมจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ เป็นเพราะอะไรกันคะ

ยมบาล  :  อ๋อ นี่ก็ยืนยันได้ว่า ญาติในครอบครัวต้องมีคนทำบุญกุศลเพื่อชำระล้างแรงกรรมจึงทำให้หนอนค่อย ๆ น้อยลง พอคนในโลกมนุษย์ทำบุญทำกุศลให้ทางนี้ก็มีผลตอบรับก็ทำให้โทษกรรมของวิญญาณคนเป็นลดน้อยลงไปโดบอัตโนมัติ นี่แหละคือแรงกุศลที่ไม่อาจคาดคิดได้เลย ชาวโลกได้ทำบุญกุศลไว้มากน้อยแค่ไหนก็จะลดแรงกรรมลงได้มากน้อยเท่านั้น ไม่เพียงแต่ "นรกคนเป็น" แม้ใน "นรกคนตาย" ก็ยังได้ผล แม้แต่ผู้ป่วยก็ยังรู้สึกได้ หากความรูสึกของผู้ป่วยช้าก้อย่าได้พร่ำบ่นจนก่อวจีกรรม มิฉะนั้นแล้ว บุญกุศลที่บรรพชนสร้างไว้ก้พลอยไม่ได้ผลไปด้วย ขอให้ชาวโลกจงเข้าใจจุดนี้ไว้ด้วย

เฟยหลวน  :  อ๋อ ! ที่แท้เป็นแบบนี้เอง ศิษย์ยังคงเป็นเพราะพวกหนอนแม้ดูดเลือดจนอิ่มแล้วพากันถอยหนีไปเสียอีกที่แท้มิใช่ ก็ตอนที่เข้ามาทีแรกเห็นมีหนอนดูดกินอยู่เต็มตัวทั่วไปหมด พวกนี้เป็นโรคอะไรกัน ทำไมจึงน่ากลัวอย่างนี้

ยมบาล  :  อ๋อ ! นั่นเป็นโรคที่ติดต่อ กำลังฮิตอยู่บนโลก นั่นคือ "โรคเอดส์" ล่ะ

เฟยหลวน  : โรคเอดส์ โรคที่ภาษาฝรั่งว่ากันว่า AIDS นั่นหรือ !  ศิษย์เองก็ไม่เข้าใจกับโรคเอดส์นี้นัก เพียงได้ยินเขาว่ากันว่า คนที่เป็นโรคนี้มักเกิดจากเที่ยวสำส่อน หรือลักเพศ ศิษย์เองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ท่านยมบาลจะช่วยอธิบายให้เขาใจหน่อยได้ไหมคะ

ยมบาล  :  ถ้าพูดแล้วเรื่องมันยาว

พระจี้กง  :  คืนนี้ดึกมากแล้ว คราวหน้าค่อยมาฟังยมบาลอธิบายให้ละเอียดดีกว่า เฟยหลวนกราบลาท่านยมบาลเสีย พวกเรากลับกันเถอะ

เฟยหลวน  :  ว้า !  กำลังเข้าเรื่อง ไม่รู้ว่าเวลาดึกไปเสียแล้ว ศิษย์ขอกราบลาท่านยมบาลที่ช่วยแถลงไขให้อย่างละเอียด ขอบคุณค่ะ !

ยมบาล  :  มิต้องเกรงใจ ขอน้อมส่งเสด็จท่านอรหันต์จี้กง

พระจี้กง  :  ขอบใจมาก เฟยหลวนขึ้นบนปทุมาสน์

เฟยหลวน  :  ค่ะ !  ศิษย์นั่งเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ เชิญอาจารย์ออกเดินทางได้

พระจี้กง  :  เออดี !  ปิดตาเสีย.....ขึ้น.....ถึงโรงเจจ๋วงเซินถังแล้ว เฟยหลวนลงจากปทุมาสน์ วิญญาณกลับเข้าร่าง อาตมากลับล่ะ

เฟยหลวน  :  ขอน้อมส่งเสด็จท่านอาจารย์

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                    บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง       

               ตอนที่  9  :  โรคเอดส์มาจากมนุษย์วิปริต โรคร้ายแรงเพราะกรรมหนักหนา

พระจี้กงเสด็จลงประทับทรง  กลอนนำเสด็จ

                           นรกคนเป็นฟ้ากำหนดยุคสาม
                   โอกาสงามจงอย่าฝืนจิตสวรรค์
                   งดบาปกอปรกุศลสร้างคุณธรรม
                   งานมหากัลปพฤกษ์แดนนิพพาน

พระจี้กง  :  บันทึกปรากฏการณ์นรกคนเป็นใกล้อวสานแล้ว เบื้องบนเมตตา เพราะมิอาจทนเห็นเวไนยสัตว์ที่มืดมัวในกฏแห่งกรรมจนไม่รู้เรื่อง จึงเปิดโอกาสเผยความลับแต่งตำราเพื่อชาวโลกจะได้รู้ได้เข้าใจ มิใช่ต้องรอให้ตายก่อนค่อย "ตัดสิน" หรือ "ตอบสนอง" ควรรู้ว่าการจับเอา "วิญญาณคนเป็น" ไปรับทุกข์ เป็นการบอกชาวโลกอย่างประจักษ์แจ้งว่า ความเจ็บปวดของกายเนื้อนั้น เป็นการลงโทษชนิดที่ไร้รูปลักษณ์ หากชาวโลกล่วงรู้ถึงความเมตตาของจิตฟ้า โดยไม่โทษฟ้าเบื้องบนที่ลำบากใจ และก็ไม่โทษอาตมาที่พาเฟยหลวนเที่ยวตะลอน ๆ เหน็ดเหนื่อยเพื่อแต่งหนังสือ

เฟยหลวน  :  ราตรีสวัสดิ์อาจารย์ ! ถึงเวลาแต่งหนังสืออีกแล้ว ฟังอาจารย์มาเมื่อครู่นี้ หนังสือบันทึกปรากฏการณ์นรกคนเป็นใกล้อวสานแล้ว ก็หมายความว่าคืนนี้หลังจากวิญญาณไปเที่ยวกลับมาแล้ว ก็จบอย่างบริบูรณ์ซินะ

พระจี้กง  :  วิญญาณเที่ยวนรกคนเป็นน่ะพอแล้ว เป้นไปตามกำหนดของเก้าสิบเก้าฟ้าดิน แต่กำหนดของเก้าสุริยะ ซึ่งโรงเจของเจ้าได้แต่งหนังสือท่องเที่ยวด่านเก้าสุริยะแล้ว เบื้องบนได้จัดให้เหมาะสม กับงานครบรอบ 10 ปี ของโรงเจเจ้า ดังนั้นพระแม่องค์ธรรมเหลาหมุ่จึงเมตตาเป็นพิเศษ มีพระโองการให้อาตมาพาเจ้าไปเข้าเฝ้าสมเด็จแม่องค์ธรรมในคราวหน้า ก็จะครบเป็นตอนที่ 10 พอดี

เฟยหลวน  :  หา.....พบท่านเหลาหมู่ จริงหรือเปล่า อาจารย์ ไม่ใช่โกหกหนูนะคะ เพราะนี่เป็นสิ่งที่ศิษย์ถวิลหาเชียวล่ะ !  (ดีใจจริงเลย)

พระจี้กง  :  อาตมาไม่พูดเล่น โกหกเจ้าได้หรือ ! เอาล่ะเวลาไม่มากนัก รีบ ๆ ขึ้นปทุมาสน์เถอะ

เฟยหลวน  :  ค่ะ ! ศิษย์พูดพล่อยไปค่ะ ไม่ใช่ท่านอาจารย์จะโกหกหนูหรอก แต่เพราะหนูดีใจจนเกินไปจึงพูดเผลยพล่อย ๆ เห็นทีจะต้องแก้นิสัยกันจริงจังเสียที วันหลังจะได้พูดสิ่งที่ไม่ตั้งใจอันกลายเป็นวจีกรรมไป อาจารย์ขา !  หนูขออภัยค่ะ !  ขอบคุณอาจารย์ที่บอก ศิษย์นั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญอาจารย์ออกเดินทางเถอะ 

Tags: