เที่ยวเมืองสวรรค์
ครั้งที่ 6
ชมพระอนุตตรวิสุทธิปราสาท (เซี่ยงเชงเก็ง) ฟังธรรมของ
พระญาณรัตนวิสุทธิเทพ (เล่งป้อเทียนจุง)
วันที่ 29 กรกฏาคม พ.ศ. 2522
อรหันต์จี้กง เสด็จลงประทับทรง กล่าวเป็นกลอนว่า
บุปผาสวรรค์บานบน ฝนทิพย์ปลุกผู้ล่มหลง
ผู้ใฝ่ธรรมสุขสมปอง แผ่นดินทองผ่องสดศรี
พุทธศักดิ์สิทธิ์ที่ ตะวันตกมีเสรี
วรปราสาทขับดนตรี กล่อมพระวิสุทธิเทพ
อรหันต์จี้กง : มนุษย์ทุกผู้ทุกนามล้วนรักชอบดอกไม้ ที่สวยสดงดงาม แต่ว่าดอกไม้นั้นไม่สามารถบานอยู่ได้ถึงร้อยวัน กลับมาดูนางฟ้าโปรยดอกไม้บนสรวงสวรรค์ จะไม่มีการร่วงโรยตลอดทั้งสี่ฤดู และไม่มีการหยุดในวันตรุษสารทด้วย โดยปราศจากความร่วงโรย คนเราต่างชอบอากาศบริสุทธิ์ แต่ฝุ่นละอองแห่งโลกีย์หนาแน่นขึ้นทุก ๆ วัน จึงต้องฝืนใจสูดมันเข้าไป เมื่อฝนทิพย์โปรยปราย แผ่นดินกลับชุ่มชื้น จิตใจสดใสอารมณ์ก็เย็นสบาย ปรากฏการณ์ 2 อย่าง มันแยกให้เห็นอย่างชัดเจนมาก คือ ธาตุที่เบาและสะอาดได้ลอยขึ้นเบื้องบน กลายเป็นฟ้า ส่วนธาตุที่หนักและขุ่นจะตกลงเบื้องล่างแข็งตัว กลายเป็นดิน หวังว่าผู้คนในโลกจงรักษาจิตญาณให้ผ่องใส แผ่วเบา สลัดทิ้งซึ่งสิ่งขุ่นข้องหมองใจ จึงจะสามารถลอยขึ้นสู่แดนนิพพานเพื่อที่จะไม่ต้องตกลงไปยังขุมนรก เจ้าหยางเซิง เตรียมตัวออกเดินทางได้ วันนี้จะต้องไปชมสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง
หยางเซิง : ขอรับกระผม กระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์ออกเดินทางได้ ขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า เมื่อกี้ท่านกล่าวคำว่า "ทัศนศึกษา" กระผมรู้สึกว่ามีความหมายมาก ท่านอาจารย์จะอธิบายความมุ่งหมาย ของอักษร 2 ตัวนี้ ได่ไหมครับ
อรหันต์จี้กง : ฮาฮ้า ! พอเจ้าพูดถึงคำว่า "ทัศนศึกษา" สองคำนี้ ไฟในสำนักเกิดดับลงกระทันหันเลยกลายเป็น "ทัศนมืด" มันมีความหมายจริง ๆ นะ
หยางเซิง : อันนี้เป็นเพราะเหตุใดมิทราบ
อรหันต์จี้กง : ข้าฯ รู้ก่อนที่ใจเจ้าจะเคลื่อนไหวแล้ว เพื่อที่จะสั่งสอนพวกศิษย์ในสำนักให้รู้สึกตัว จึงแสดงอภินิหารทำให้ไฟฟ้าดับ 15 วินาที อันนี้ ประกอบด้วยความหมายอันยิ่งใหญ่นัก ตอนที่ไฟฟ้าดับ ข้าฯเห็นศิษย์แต่ละคนเหลียวหน้าแลหลังกันเลิกลั่ก คิดจะหาแสงสว่าง จึงไปหยิบเอาเทียนมาวางไว้ข้างถาดทราย อยากจะดูให้ชัดเจนว่า ที่กำลังเขียนอยู่นั้นเป็นตัวอักษรอะไร นี่แหละว่า "ทัศนศึกษา" (เห็นชัดแจ้ง , เห็นความสว่าง) ดังนั้น คำว่า "ทัศนศึกษา" คือ มองไปข้างหน้าที่มีความสว่าง ทัศนาทิวทัศน์ธรรมชาติ ทุกวันนี้โลกมีวิทยาการก้าวหน้า ผู้คนทั้งหลายต่างถือโอกาสไปทัศนาจรยังที่ต่าง ๆ ที่ใกล้ก็ทัศนศึกษาในประเทศ ที่ไกลก็ไปต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าไปทัศนศึกษาจริง ๆ หรือเปล่า ฮา้ฮ้า บ้างก็ไปแหล่งเริงโลกีย์ เพื่อทัศนศึกษาในห้องมืด อาตมาว่าเขากำลังทำการ "ทัศนมืด" ชาวโลกทุกวันนี้ใฝ่หาแต่สีสัน รูปโฉมต่าง ๆ หารู้ไม่ว่า ทิวทัศน์บนสรวงสวรรค์นั้นงดงามกว่าทิวทัศน์ในโลกมนุษย์เป็นหมื่น ๆ เท่า แล้วเหตุไฉนจึงไม่คิดไปเยือนด้วยเล่า วันนี้ ข้าฯจะพาหยางเซิงไปยังปราสาททวิมานซึ่งไม่ใช่ "ไฟหิ่งห้อย" ส่องเพื่อ "ทัศนศึกษา" นะ
หยางเซิง : นั่นเป็นบุญของผม ที่กลายเป็นนักทัศนาจรไปแล้ว !
อรหันต์จี้กง : ใช่แล้ว ! คราวหน้า เจ้าจะได้นำมนุษยชาตินับหมื่น ๆ มาที่นี่ ดั่งค้นพบแผ่นดินใหม่
หยางเซิง : ขอบคุณท่านอาจารย์
อรหันต์จี้กง : เราต้องรีบรุดหน้าไป ภูเขาจิตทะลุถึงพุทธจิต จากมนุษยโลกทะลุถึงแดนสวรรค์ ขอเพียงมีจิตคิดฝึกธรรม ก็สามารถบรรลุสัทธรรมได้ ตอนนี้เรามาถึงวรวิสุทธิปราสาทสวรรค์ไร้เขต เพื่อเข้าพบท่านพระญาณรัตนวิสุทธิเทพ หยางเซิงเจ้าเตรียมตัวเข้านมัสการ