collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ท่องนรก  (อ่าน 72144 ครั้ง)

ออฟไลน์ nakdham

  • Admin
  • มิตรนักธรรม
Re: ท่องนรก
« ตอบกลับ #130 เมื่อ: 8/01/2019, 11:40 »
                        เที่ยวเมืองนรก

               ครั้งที่ 40  วันที่  19  พฤศจิกายน  พ.ศ. 2520

                 ตอน  ท่องแดนตาข่ายหนามตั๊กแตนเจาะนรกน้อย

        ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า  :

               อิงแอบกาย        ที่เมื่อยเปลี้ย        ในราตรี
ประสาทศรี                        ศักดิ์สิทธิ์            ใหม่ผ่องแผ้ว
กวาดล้างเสีย                     ฝุ่นละออง            ชะบาปแล้ว
คนไม่แคล้ว                       ต้องลำบาก          ทำไมหนอ 

อรหันต์จี้กง   :  ตัวปลิงมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า "หม่าม้อ" (ปลิงใหญ่ชนิดหนึ่ง)
มีชุมที่สุดในหนองน้ำร่องลึก พอมันเกาะอยู่กับตัวคนโลหิตจะถูดดูดกินจนหมดเกลี้ยง ชาวโลกหวาดกลัวยิ่งนัก ตัวตั๊กแตนเป็นพวกทำลายต้นข้าวเป็นแมลงที่ให้โทษ แมลงตั๊กแตนฝูงหนึ่งสามารถกัดกินต้นข้าวทั้งปวงให้เหลือแต่ซาก บัดนี้ตัวตั๊กแตนทั้งฝูงกำลังดูดกินมันสมองของวิญญาณโทษอยู่

พัศดี   :  เนื่องจากตัวตั๊กแตนเลือกกินแต่น้ำหล่อเลี้ยงใบต้นข้าวโดยเฉพาะ วันนี้มันมาแปลงกายเกิดอยู่ในนรก จึงดูดกินแต่มันสมองของคนซึ่งเป็นของเหลวสีขาวเช่นเดียวกัน

หยางเซิง   :  น่าสะพรึงกลัวเป็นที่ยิ่ง ข้าพเจ้าเห็นแล้วทำให้หัวใจชักอ่อนแรงลง หายใจครึดครากมือเท้าอ่อนนุ่มหมดเรี่ยวแรง

อรหันต์จี้กง   :  มิต้องหวั่นกลัว เราท่องนรกเพื่อแต่งหนังสือ ซึ่งมาตามพระราชโองการ มีข้าฯอยู่เป็นเพื่อนด้วยทำใจให้กล้าเถิด

พัศดี   :  ท่านทั้งสองโปรดรอสักครู่ ข้าพเจ้าจะให้วิญญาณโทษ 2- 3 ตนมาบอกเล่าหลักฐานในคดีที่มันก่อขึ้น

หยางเซิง   :  ขอบคุณท่านพัศดีมาก แต่ขอให้เร็วหน่อย และต้องเอาตัวปลิงเกาะวิญญาณโทษนั้นออกหมด ข้าพเจ้ากลัวสิ่งนี้เป็นที่สุด

พัศดี   :  ได้ครับ !  ท่านคอยสักครู่นะครับ...สิ่งร้ายสองสิ่งได้เอาออกหมดแล้ว ท่านหยางเซิงมิต้องตกใจ  สั่งให้วิญญาณโทษ 2 ตนนี้สารภาพเรื่องไม่ดีที่ทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่ ที่ต้องมารับโทษที่นี่ด้วยเหตุใด ๆ ท่านอาจารย์และท่านหยางเซิงแห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมืองมนุษย์ ได้มายังยมโลกเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานแห่งการทำชั่ว แกทั้งสองจงร่วมมือสารภาพออกมา เพื่อเอาไปปลอบเตือนชาวโลก

วิญญาณโทษ   :  ตอนอยู่ในแดนมนุษย์ผมเป็นตุลาการผู้พิพากษา ดำเนินการพิจารณาคดีความ เนื่องจากได้รับสินบนจากฝ่ายจำเลยเป็นเหตุให้คดีดำเนินและตัดสินไปโดยไม่ยุติธรรม จึงเกิดการทำให้คนติดคุกโดยปราศจากความชอบธรรมแห่งขบวนความ ตอนนั้นได้รับทรัพย์สินเงินทองที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายไม่น้อย แม้ว่าจะเคยได้ยินผู้คนพูดว่า "มันเป็นตุลาการแล้วไม่อยู่ในความยุติธรรม ละโมบทรัพย์ตัดสินไม่เที่ยงตรง เมื่อตายลงแล้วย่อมได้รับกรรมสนองตอบ" แต่บางครั้งใจก็คิดว่า ในชาตินี้ขอให้ร่ำรวยมียศศักดิ์ศรี มีอำนาจบาทใหญ่ชาติหน้าจะเป็นฉันใดก็ช่างหัวมัน เมื่อตายลงแล้วผ่านหอกระจก (กรรม) วิเศษฉายปรากฏออกซึ่งเหตุการณ์คอร์รัปชั่น หรือการตัดสินที่ผิดศีลธรรมไม่เที่ยงตรง ล้วนถ่ายออกมาเป็นฉาก ๆ ดังภาพยนตร์เห็นอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนต่อหน้าต่อตา นอกจากรับการลงโทษจาก "นรกอุจจาระ ปัสสาวะแล้วยังส่งขุมที่ 6 นี้อีก ท่านเปียงเซี้ยอ๊วง ตวาดว่าตัวผมเป็นผู้พิพากษาตุลาการ รู้กฏหมายถือกฏหมายทำผิดกฏหมายโทษฐานนั้นยิ่งใหญ่หนักหนา ตัดสินให้ตกเข้ามาอยู่ใน "นรกตาข่ายหนามตั๊กแตนเจาะ" รับความทรมานทุกวี่วัน ต้องคลานไปภายใต้ตาข่ายหนามทั่วทั้งร่างกายโดนตัวตั๊กแตน ตัวปลิงเจาะกิน เจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์กาย พลังกายพลังใจแทบจะสูญสิ้นทลายลง ทรมานเหลือที่จะกล่าว

พัศดี   :  รู้กฏหมายแล้วทำผิดเอง เป็นการกระทำที่ดูหมิ่นดูแคลนกฏบัตรแห่งสวรรค์เป็นที่ยิ่ง ขอเตือนผู้รักษากฏหมายในเมืองมนุษย์ ควรถือเป็นแบบอย่างของท่านเปาปุ้นจิ้น เคร่งครัดซื่อสัตย์ เที่ยงธรรม ทำชนิดลงโทษคนดีไม่ปล่อยคนชั่ว เพื่อแผ้วถางสิ่งชั่วร้ายกำจัดทุจริตในสังคม แผ่เมตตาธรรมแทนฟ้าสวรรค์ ท่านจะได้บุญกุศลมหาศาล หากไม่ทำตามกฏวินัย เห็นแต่ได้ เสียความเที่ยงธรรม โลภรับสินบนเมื่อตายลงต้องรับโทษอย่างหนักจากแดนนรกแล้วจะมีผลพลอยให้ลูกหลานแหลนไม่เจริญไปด้วย  ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมาแต่โบราณกาลแล้ว การตอบสนองนั้นล้วนจะไม่เข้าใครออกใคร วิญญาณโทษตนที่ 2 รีบเล่าความผิดที่สร้างไว้ในปางก่อน

วิญญาณโทษ   :  เนื่องจากผมมีร่างกายสูงใหญ่แข็งแรง ตอนอยู่เมืองมนุษย์เคยมีหน้าที่เป็นผู้คุ้มครองในบ่อนการพนันและสถานที่เริงรมย์ต่าง ๆ เรียกเก็บค่าที่คุ้มครองยังชีพไปวัน ๆ ก็ผ่านไปอย่างสุโขไม่น้อยจะกินจะดื่มมั่วกันสนุกสารพัด แต่หารู้ไม่ว่าตายลงแล้วท่านยมบาลตัดสินให้ตกเข้ามาอยู่ในคุกนี้ ความทรมานนั้นหาที่เปรียบมิได้จริง ๆ แสนที่จะอเน็จอนาถเหลือประมาณ

พัศดี   :  อย่าปิดบังความชั่วอื่น ๆ อีกนะ ให้พูดออกมาเร็ว มิเช่นนั้นจะลงโทษให้หนักกว่านี้อีก

วิญญาณโทษ   :  ครับผม ผมจะพูด เนื่องจากผมใหญ่พอในสังคมมืด จึงไม่คิดจะอาศัยกำลังกายไปหากิน หากเวลาเงินทองขาดมือ ก็มักจะไปรีดไถเอาจากร้านที่ค้าขาย ทำอย่างนี้ทั้งปีทั้งชาติจนชีวิตจะหาไม่

อรหันต์จี้กง   :  บรรดาผู้คนที่ไม่ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยงานการสุจริต เอาแต่รีดไถเงินทองผูั้อื่นที่หามาด้วยหยาดเหงื่อเลือดเนื้อนั้นล้วนต้องมาลงเอยกันอีแบบนี้ทั้งสิ้น ขอเตือนชาวโลกจงสำนึกตัวตื่นขึ้นและกลับตัวกลับใจเวลาดึกมากแล้ว เจ้าหยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนักได้

หยางเซิง   :  ขอบคุณท่านพัศดีและนายทหารทั้งหลายที่ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง เพราะเหตุว่าเวลาหมดลง เราขอลาก่อน

พัศดี   :  ให้นายทหารตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์

หยางเซิง   :  กระผมนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์เดินทางกลับสำนักเถิด...

อรหันต์จี้กง   :  ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม