เที่ยวเมืองนรก
ครั้งที่ 40 วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520
ตอน ท่องแดนตาข่ายหนามตั๊กแตนเจาะนรกน้อย
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏกาย ตรัสเป็นกลอนมีความว่า :
อิงแอบกาย ที่เมื่อยเปลี้ย ในราตรี
ประสาทศรี ศักดิ์สิทธิ์ ใหม่ผ่องแผ้ว
กวาดล้างเสีย ฝุ่นละออง ชะบาปแล้ว
คนไม่แคล้ว ต้องลำบาก ทำไมหนอ
อรหันต์จี้กง : ตัวปลิงมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า "หม่าม้อ" (ปลิงใหญ่ชนิดหนึ่ง)มีชุมที่สุดในหนองน้ำร่องลึก พอมันเกาะอยู่กับตัวคนโลหิตจะถูดดูดกินจนหมดเกลี้ยง ชาวโลกหวาดกลัวยิ่งนัก ตัวตั๊กแตนเป็นพวกทำลายต้นข้าวเป็นแมลงที่ให้โทษ แมลงตั๊กแตนฝูงหนึ่งสามารถกัดกินต้นข้าวทั้งปวงให้เหลือแต่ซาก บัดนี้ตัวตั๊กแตนทั้งฝูงกำลังดูดกินมันสมองของวิญญาณโทษอยู่
พัศดี : เนื่องจากตัวตั๊กแตนเลือกกินแต่น้ำหล่อเลี้ยงใบต้นข้าวโดยเฉพาะ วันนี้มันมาแปลงกายเกิดอยู่ในนรก จึงดูดกินแต่มันสมองของคนซึ่งเป็นของเหลวสีขาวเช่นเดียวกัน
หยางเซิง : น่าสะพรึงกลัวเป็นที่ยิ่ง ข้าพเจ้าเห็นแล้วทำให้หัวใจชักอ่อนแรงลง หายใจครึดครากมือเท้าอ่อนนุ่มหมดเรี่ยวแรง
อรหันต์จี้กง : มิต้องหวั่นกลัว เราท่องนรกเพื่อแต่งหนังสือ ซึ่งมาตามพระราชโองการ มีข้าฯอยู่เป็นเพื่อนด้วยทำใจให้กล้าเถิด
พัศดี : ท่านทั้งสองโปรดรอสักครู่ ข้าพเจ้าจะให้วิญญาณโทษ 2- 3 ตนมาบอกเล่าหลักฐานในคดีที่มันก่อขึ้น
หยางเซิง : ขอบคุณท่านพัศดีมาก แต่ขอให้เร็วหน่อย และต้องเอาตัวปลิงเกาะวิญญาณโทษนั้นออกหมด ข้าพเจ้ากลัวสิ่งนี้เป็นที่สุด
พัศดี : ได้ครับ ! ท่านคอยสักครู่นะครับ...สิ่งร้ายสองสิ่งได้เอาออกหมดแล้ว ท่านหยางเซิงมิต้องตกใจ สั่งให้วิญญาณโทษ 2 ตนนี้สารภาพเรื่องไม่ดีที่ทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่ ที่ต้องมารับโทษที่นี่ด้วยเหตุใด ๆ ท่านอาจารย์และท่านหยางเซิงแห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมืองมนุษย์ ได้มายังยมโลกเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานแห่งการทำชั่ว แกทั้งสองจงร่วมมือสารภาพออกมา เพื่อเอาไปปลอบเตือนชาวโลก
วิญญาณโทษ : ตอนอยู่ในแดนมนุษย์ผมเป็นตุลาการผู้พิพากษา ดำเนินการพิจารณาคดีความ เนื่องจากได้รับสินบนจากฝ่ายจำเลยเป็นเหตุให้คดีดำเนินและตัดสินไปโดยไม่ยุติธรรม จึงเกิดการทำให้คนติดคุกโดยปราศจากความชอบธรรมแห่งขบวนความ ตอนนั้นได้รับทรัพย์สินเงินทองที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายไม่น้อย แม้ว่าจะเคยได้ยินผู้คนพูดว่า "มันเป็นตุลาการแล้วไม่อยู่ในความยุติธรรม ละโมบทรัพย์ตัดสินไม่เที่ยงตรง เมื่อตายลงแล้วย่อมได้รับกรรมสนองตอบ" แต่บางครั้งใจก็คิดว่า ในชาตินี้ขอให้ร่ำรวยมียศศักดิ์ศรี มีอำนาจบาทใหญ่ชาติหน้าจะเป็นฉันใดก็ช่างหัวมัน เมื่อตายลงแล้วผ่านหอกระจก (กรรม) วิเศษฉายปรากฏออกซึ่งเหตุการณ์คอร์รัปชั่น หรือการตัดสินที่ผิดศีลธรรมไม่เที่ยงตรง ล้วนถ่ายออกมาเป็นฉาก ๆ ดังภาพยนตร์เห็นอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนต่อหน้าต่อตา นอกจากรับการลงโทษจาก "นรกอุจจาระ ปัสสาวะแล้วยังส่งขุมที่ 6 นี้อีก ท่านเปียงเซี้ยอ๊วง ตวาดว่าตัวผมเป็นผู้พิพากษาตุลาการ รู้กฏหมายถือกฏหมายทำผิดกฏหมายโทษฐานนั้นยิ่งใหญ่หนักหนา ตัดสินให้ตกเข้ามาอยู่ใน "นรกตาข่ายหนามตั๊กแตนเจาะ" รับความทรมานทุกวี่วัน ต้องคลานไปภายใต้ตาข่ายหนามทั่วทั้งร่างกายโดนตัวตั๊กแตน ตัวปลิงเจาะกิน เจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์กาย พลังกายพลังใจแทบจะสูญสิ้นทลายลง ทรมานเหลือที่จะกล่าว
พัศดี : รู้กฏหมายแล้วทำผิดเอง เป็นการกระทำที่ดูหมิ่นดูแคลนกฏบัตรแห่งสวรรค์เป็นที่ยิ่ง ขอเตือนผู้รักษากฏหมายในเมืองมนุษย์ ควรถือเป็นแบบอย่างของท่านเปาปุ้นจิ้น เคร่งครัดซื่อสัตย์ เที่ยงธรรม ทำชนิดลงโทษคนดีไม่ปล่อยคนชั่ว เพื่อแผ้วถางสิ่งชั่วร้ายกำจัดทุจริตในสังคม แผ่เมตตาธรรมแทนฟ้าสวรรค์ ท่านจะได้บุญกุศลมหาศาล หากไม่ทำตามกฏวินัย เห็นแต่ได้ เสียความเที่ยงธรรม โลภรับสินบนเมื่อตายลงต้องรับโทษอย่างหนักจากแดนนรกแล้วจะมีผลพลอยให้ลูกหลานแหลนไม่เจริญไปด้วย ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมาแต่โบราณกาลแล้ว การตอบสนองนั้นล้วนจะไม่เข้าใครออกใคร วิญญาณโทษตนที่ 2 รีบเล่าความผิดที่สร้างไว้ในปางก่อน
วิญญาณโทษ : เนื่องจากผมมีร่างกายสูงใหญ่แข็งแรง ตอนอยู่เมืองมนุษย์เคยมีหน้าที่เป็นผู้คุ้มครองในบ่อนการพนันและสถานที่เริงรมย์ต่าง ๆ เรียกเก็บค่าที่คุ้มครองยังชีพไปวัน ๆ ก็ผ่านไปอย่างสุโขไม่น้อยจะกินจะดื่มมั่วกันสนุกสารพัด แต่หารู้ไม่ว่าตายลงแล้วท่านยมบาลตัดสินให้ตกเข้ามาอยู่ในคุกนี้ ความทรมานนั้นหาที่เปรียบมิได้จริง ๆ แสนที่จะอเน็จอนาถเหลือประมาณ
พัศดี : อย่าปิดบังความชั่วอื่น ๆ อีกนะ ให้พูดออกมาเร็ว มิเช่นนั้นจะลงโทษให้หนักกว่านี้อีก
วิญญาณโทษ : ครับผม ผมจะพูด เนื่องจากผมใหญ่พอในสังคมมืด จึงไม่คิดจะอาศัยกำลังกายไปหากิน หากเวลาเงินทองขาดมือ ก็มักจะไปรีดไถเอาจากร้านที่ค้าขาย ทำอย่างนี้ทั้งปีทั้งชาติจนชีวิตจะหาไม่
อรหันต์จี้กง : บรรดาผู้คนที่ไม่ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยงานการสุจริต เอาแต่รีดไถเงินทองผูั้อื่นที่หามาด้วยหยาดเหงื่อเลือดเนื้อนั้นล้วนต้องมาลงเอยกันอีแบบนี้ทั้งสิ้น ขอเตือนชาวโลกจงสำนึกตัวตื่นขึ้นและกลับตัวกลับใจเวลาดึกมากแล้ว เจ้าหยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนักได้
หยางเซิง : ขอบคุณท่านพัศดีและนายทหารทั้งหลายที่ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง เพราะเหตุว่าเวลาหมดลง เราขอลาก่อน
พัศดี : ให้นายทหารตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์
หยางเซิง : กระผมนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์เดินทางกลับสำนักเถิด...
อรหันต์จี้กง : ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม