เที่ยวเมืองนรก
ครั้งที่ 6 วันพุธที่ 29 กัยนายน พ.ศ. 2519
ตอน ท่องหอกระจกวิเศษ
ชมวิญญาณบาปปรากฏร่างเดิม
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จลงตรัสเป็นกลอนมีความว่า :
หอกระจก ส่องวิญญาณ เห็นร่างเดิม
ลักแก้เติม ทอนอักษร สวดไม่พัก
ยมกฏ เที่ยงธรรม ลงทัณฑ์หนัก
โทษมหันต์ คนในโลก ที่ทำบาป
นายพลคุมหอ : ใช่แล้ว ที่นี้คือ "แหล่งโลกีย์" แห่งแดนมนุษย์ เจ้าจงสังเกตุให้รอบคอบและละเอียดถี่ถ้วนเถิด
หยางเซิง : แต่ละห้องมีแต่เสียงอ่อนหวานของสตรีเพศ เป็นสถานที่น่าหลงไหลยิ่งนัก กระผมมิกล้าดูชมมากนัก ท่านอาจารย์ครับ ! เรากลับกันเถิด!
อรหันต์จี้กง : เจ้ายังมีความรู้สึกว่าไม่สมควรจะเยี่ยมชม ก็ยังนับว่ามีความเหนียมอายมีมารยาท และศีลธรรมอยู่ในใจ ไม่ขายหน้าศิษย์โปรดของท่านกวงเฮง (เจ้าสำนักแห่งเซี่ยเฮี้ยงตึ้ง) ดังหญิงงามเมืองผู้นี้ขายทั้งร่างกายและวิญญาณ หลอกลวงฉ้อฉล ทรัพย์สินเงินทองของผู้อื่น พูดจาหยาบคายต่ำช้า มารยามคุณสมบัติประจำของสตรีเพศไม่มีเลยไว้ในตัวเลยแม้แต่น้อย โทษทัณฑ์ใหญ่หลวงเป็นยิ่งนัก ซ้ำยังเป็นกามโรคทำให้คนตายลงก่อนที่ควร เมื่อวิญญาณตกมาถึงยมโลกจึงยากที่จะรอดพ้น จากการลงทัณฑ์ที่ทรมานได้ ขอเตือนเพศหญิงแห่งมนุษยโลก ควรที่จะรักถนอมตัว ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะทำตัวเป็นหญิงงามเมืองขายตัว มืออันอ่อนนุ่มเป็นที่รองหนุนของผู้ชายนับเป็นพัน ๆ คน ให้ผู้คนเหยียบย่ำตามชอบใจ ไม่มีราคาแม้แต่สตางค์แดงเดียว และยังสร้างเวรกรรมอันหนักหนาด้วย ส่วนผู้ชายที่ชอบเที่ยวผู้หญิงก็ผิดในเรื่องลามกด้วย ขอให้กลับตัวโดยเร็ว เจ้าหยางเซิงเราเตรียมตัวกลับสำนักกันเถิด
นายพลคุมหอ : ท่านทั้งสองจะไม่รอสักครู่หรือขอรับ ?.
หยางเซิง : ต่อหน้ากระจกวิเศษ ทุกสิ่งทุกอย่างก็รู้เห็นปรุโปร่งตลอดแล้วไม่กล้าจะดูอีกต่อไป เมื่อวิญญาณบาปมากหลายเหล่านี้ แสดงออกถึงความชั่วร้ายต่าง ๆ ข้าพเจ้ายังเป็นมนุษย์ปุถุชน อยู่ต่อหน้ายิ่งทำให้พวกนั้นอับอายมากขึ้น สู้ขอลากลับไปก่อนดีกว่า
อรหันต์จี้กง : ขอบคุณมากท่านนายพลได้กรุณาชี้แจงอธิบาย เราจะเตรียมตัวกลับสำนักแล้ววันอื่นค่อนเยี่ยมชม "โรงซ่อมพระสูตร" รีบไปเถิดเจ้าอยางเซิง ขึ้นบนดอกบัวเร็ว เตรียมตัวกลับสำนัก
หยางเซิง : กระผมกลัวมาก !
อรหันต์จี้กง : เหตุใดจึงต้องกลัว ปฏิบัติตัวเองให้เป็นคนดีก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการอับอายขายหน้ามายังที่นี้... สำนักเซี่ยเฮี้ยงตึ้งถึงแล้ว หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างเดิม