ไขหลักจิตภาวะสัจธรรม
@ จิตของคนเราเหตุใดจึงชั่วดีต่างกัน
ความชั่วดีของคนกำหนดจาก จิตแท้ จิตภาวะ และจริต จิตแท้เป็นอนุตตรภาวะวิเศษใส บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งชั่วร้าย จิตภาวะขุ่นใสไม่แน่นอน ชั่วก็ได้ ดีก้ได้ แล้วแต่ภาวะการณ์ จริตเป็นความอยากปรารถนา เป็นตัณหา เป็นอารมณ์ ชั่วร้ายไม่มีดี ฉะนั้น เมื่อจิตแท้ใช้งาน เบญจธรรมจะปรากฏ การกระทำทุกอย่างจะตรงต่อความเป็นกลาง ใช้จิตภาวะทำงาน จะแยกไม่ออกในความขุ่นใส ใช้จริตทำงาน ตัณหาจะผลักดัน อารมณ์จะผันผวน ความดีมีน้อย ความชั่วจะมีมาก ปราชญ์เมิ่งจือกล่าวว่า "จิตเป็นธาตุดีงาม" นั้นท่านหมายถึงจิตที่เป็นธาตุแท้ ปราชญ์เก้าจื้อกล่าวว่า "จิตเป็นธาตุดีและชั่ว" นั้นท่านหมายถึงจิตที่ตกอยู่ในพลังบรรยายกาศของโลก อาจารย์สวินจื้อที่กล่าวว่า "จิตเป็นธาตุชั่ว" นั้นท่านหมายถึงจริตที่ติดรูปวัตถุ พูดถึงจิตแท้คือหนักในอนุตตรภาวะวิมุติ ไม่หนักในจิตภาวะทางโลก ท่านเมิ่งจื้อจึงได้ชื่อว่า ปราชญ์ พูดถึงภาวะทางโลก คือรู้ภาวะทางโลกไม่รู้อนุตตรภาวะ ท่านเก้าจื้อจึงได้ชื่อว่าเมธาจารย์ พูดถึงจริตคือรู้แต่ตัณหาฉันทาต่อสรรพสิ่ง ไม่เข้าใจความเป็นสูญญตา ไม่เข้าใจภาวะทางโลก ท่านสวินจื้อจึงมิได้เป็นปราชญ์เมธี รวมความว่า ที่ท่านทั้งสามจื้อให้ทัศนะเกี่ยวกับความชั่วดีของจิตนั้นแตกต่างกันด้วยความตื้นลึกของธรรมะ จึงได้กล่าวไว้ไม่เหมือนกัน
@ วิญญาณสาม อนุสัยญาณเจ็ด* กับวิญญาณของคนเราต่างกันอย่างไร
จิตที่แฝงอยู่ต่างกัน ความเป็นมาก็ต่างกัน วิญญาณแฝงอยู่ในตับ อนุสัยญาณแฝงอยู่ที่ปอด รวมเป็นพลังอินหยังของจิตญาณ เมื่อพลังยังอยู่ชีวิตก็ยังอยู่ เมื่อพลังกระจายชีวิตก็ตาย ที่กล่าวว่า "ไม่เพิ่มขึ้น ไม่ลดลง ตกน้ำไม่จม เผาไฟไม่ไหม้" เปลี่ยนที่อาศัยแต่ไม่เปลี่ยนเจ้าบ้าน (จิตวิญญาณเดิม กายสังขารใหม่) ที่เป็นเช่นนี้มีแต่ธาตุแท้ธรรมญาณเท่านั้น ฉะนั้น เราจะเห็นได้จากอักษรจีน คำว่า วิญญาณ ( หุน ) อนุสัยญาณ ( ผ้อ ) ตัวประกอบอักษรข้างหนึ่งคือคำว่า ผี ส่วนคำว่า จิตญาณ ตัวประกอบอักษรข้างหนึ่ง คือคำว่า หัวใจ ซึ่งเป็นหัวใจที่ตั้งตรงแฝงอยู่ในทวารวิเศษ ไม่เข้า ๆ ออก ๆ ไป ๆ มา ๆ ทำหน้าที่เป็นหลักของสังขารร่างกาย แต่ที่ทั่วไปเรียกว่าหัวใจนั้น หมายถึงรูปลักษณ์ของหัวใจอันเป็นอวัยวะ ฉะนั้น คำว่า เต๋า ( ธรรมะ )ส่วนประกอบแรกของอักษร จึงเป็นคำว่า ศรีษะ ( หัว ) เรื่องใหญ่หรือหัวเรื่อง ( เรื่องเกิดเรื่องตาย ) จึงต้องกำหนดสร้างบุญกุศล โดยเริ่มจากหัว ( จุดสถิตจิตญาณอยู่ที่หัว )
หมายเหตุ : อนุสัยญาณเจ็ด คือ ซือโก่ว ตะกละ - ฟู่ซือ ขี้โอ่ - เฉี่ยวอิน มักมาก - ทุนเจ๋ย ชอบพนัน - เฟยตู๋ต่อ สู้ท้าทาย - ฉูฮุ่ย โลภ - โซ่วซือจุกจิกสอดรู้