ไขหลักจิตภาวะสัจธรรม
@ รู้ได้อย่างไรว่าชั้นบรรยากาศ ชั้นสัญลักษณ์มีการเสื่อมสลาย
ชั้นบรรยากาศมีทวิภาวะอิน หยัง มีการเปลี่ยนแปลง ก็มีการเกิดตาย มีการเริ่มต้นก็มีการสิ้นสุด ท่านจอมปราชญ์ขงจื้อกล่าวไว้ว่า "สรรพสิ่งมีต้นมีปลายเรื่องทั้งหลายมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด" ฟ้าดินตะวันเดือน ผีสางเทวดามนุษย์ สัตว์อากาศ สัตว์บก สัตว์น้ำ ต้นไม้ ใบหญ้า ฯลฯ สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนมีต้นมีปลาย ฤดูกาลที่หมุนเวียนเปลี่ยนผัน หนาวร้อนสลับกัน ลมฝน ฟ้าใสมืดมัว เดือนเต็ม เดือนเสี้ยว ข้างขึ้น ข้างแรม การใด ๆ ล้วนมีจุดเริ่มและสิ้นสุด การสิ้นสุดจนถึงเริ่มต้นของชั้นบรรยากาศ เป็นเวลา หนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปี ( 129,600 ) กำหนดได้สิบสองบรรจบกาล ( ฮุ่ย ) โดยอาศัยลำดับชวดฉลูถึงกุน เป็นสัญญลักษณ์ในการนับ
หกบรรจบกาลแรก พัฒนาก่อเกิดสรรพชีวิต สรรพสิ่ง
หกบรรจบกาลสุดท้าย เก็บทำลายสรรพชีวิต สรรพสิ่ง ก็คือจากไม่มีมาสู่การมี
จากบรรจบกาลมะเมีย ไปบรรจบ บรรจบกาลชวด เป็นช่วงจากความมีไปสู่ไม่มี
เบิกฟ้าในบรรจบกาลชวด เก็บฟ้าในบรรจบกาลจอ
ผนึกแผ่นดินในบรรจบกาลฉลู เก็บแผ่นดินในบรรจบกาลระกา
กำหนดคนในบรรจบกาลขาล เก็บคนในบรรจบกาลวอก
บรรจบกาลกุน บรรยากาศคละเคล้าปะปน พอเริ่มบรรจบกาลชวดก็เบิกฟ้าใหม่ หมุนเวียนเช่นนี้เรื่อยไป
พงศาวดารสื่อจี้บันทึกไว้ว่า " เบิกฟ้าในบรรจบกาลชวด แผ่นดินผนึกในบรรจบกาลฉลู คนเกิดในบรรจบกาลขาล" คำกล่าวเหล่านี้ยืนยันได้ว่า ในชั้นบรรยากาศมีสิ้นสุดและเริ่มต้น เมื่อชั้นบรรยากาศมีสิ้นสุดและเริ่มต้น ในชั้นสัญญลักษณ์ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอีกเลย อีกประการหนึ่ง ความเปลี่ยนแปรของชั้นบรรยากาศก็อาจอาศัยเรื่องเล็ก ๆ มาเทียบเคียงได้เช่น หนึ่งรอบวันมีหนึ่งกลางวันกลางคืน เท่ากับสิบสองชั่วยาม ( 24 ชม ) กลางวันเป็นหยัง กลางคืนเป็นอิน หนึ่งรอบวันจึงมีทั้งเวลาเปิด ( สว่าง ) และเวลาปปิด ( มืด ) เป็นเช่นนี้ทุกวัน ปีหนึ่งมีสี่ฤดูเท่ากับสิบสองเดือน ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน เป็นหยัง ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว เป็นอิน ในเวลาหนึ่งปี จึงมีทั้งช่วงเปิด ( สว่าง ) และช่วงปิด ( มืด ) เป็นเช่นนี้ทุกปี เทียบเคียงได้เช่นกันกับหนึ่งธรรมกาลใหญ่ ( เอวี๋ยน ) ก็มีสิบสองบรรจบกาล
บรรจบกาลชวด ภาวะหยังก่อกำเนิด
บรรจบกาลมะเมีย อิน ดิ่งตกต่ำ
บรรจบกาลมะเมีย เปรียบได้ดังเที่ยงวัน
บรรจบกาลชวด เปรียบได้ดังเที่ยงคืน
ชวดเป็นเวลาก่อเกิดสรรพสิ่ง มะเมีย เป็นเวลาที่สรรพสิ่งเริ่มเก็บตัว ก่อนถึงมะเมียเป็นช่วงจากความไม่มี ไปสู่ความมี หลังบรรจบกาลมะเมีย เป็นช่วงจากความมี ไปสู่ความไม่มี ฉะนั้น บรรจบกาลมะเมีย จึงเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญยิ่งในหนึ่งธรรมกาล และการเปลี่ยนแปรของบรรจยกาลมะเมีย ก็เป็นภาวะวิเศษยิ่ง ฉะนั้น เมื่อคำนวนตามหลักแล้ว วันนี้จึงไล่เลียงไปถึงวันพรุ่งนี้ได้ ปีนี้จึงไล่เลียงไปถึงปีหน้าได้ ทุกอย่างทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่จึงไล่เลียงด้วยเรื่องหลักเดียวกัน จึงรู้ได้ว่า จากธรรมกาลนี้ไล่เลียงย้อนขึ้นไปถึงธรรมกาลที่แล้ว และธรรมกาลข้างหน้าต่อไป เป็นธรรมชาติที่สอดคล้องต้องกัน ไม่มีอะไรต้องสงสัย