อนุตตรวิถีใหญ่ถ่ายทอดสู่หล้า
หนึ่งนิ้วพาหมดทุกข์พลัน
ใบหน้าสรวลสันต์ ละตนเธอฉัน
เก็บญาณสมบูรณ์แต่เดิมมา
ตอนที่ 3
ปรากฏสว่าง ทางญาณประตู ได้รู้ขุ่นใส
ตื่นหรือหลงใหล ยองใยหรือโลกีย์ อยู่ที่คำนึง
วิญญาณหญิง : กราบพระบาทพระอาจารย์ กราบท่านเซียนผู้ปกครอง ฯ
ดิฉันเป็นเจ้าตำหนักพระขณะมีชีวิตอยู่ ได้ช่วยจิตผู้คนแพร่นำทางธรรมา
เพียงน้อยนิดผิดพลาดหมิ่นศาสนา ผิดกฏฟ้าจึงถูกขับจากอาสน์บัว
เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ดิฉันเป็นชาวอำเภอเฟิงเอวี๋ยน ฐานะร่ำรวยสุขสมบูรณ์ตั้งแต่น้อย พ่อแม่พี่น้องก็โปรดปราณมาก ส่งเสียให้ดิฉันเรียนจนจบมหาวิทยาลัยพอเรียนจบก็เข้าทำงานที่บริษัทอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง จึงได้รู้จักกับผู้จัดการอีกบริษัทหนึ่งด้วยเรื่องการค้า เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีและความประพฤติดี เราคบกันมานานและเข้าใจกันมาก เขาเป็นศิษย์ยุคขาวที่มีคุณสมบัติพร้อมทีเดียว ดิฉันได้รับการชี้แนะปรัชญาชีวิตจากเขาเสมอจนเข้าใจความหมายของชีวิต ครั้งหนึ่ง เขาพาดิฉันไปพุทธสถานกราบรับวิถีธรรมได้ไตรรัตน์ เนื่องจากดิฉันมีการศึกษาดี นักธรรมอาวุโสเห็นคุณค่า จึงนำพาให้ดิฉันเข้าร่วมชั้นศึกษาธรรมต่าง ๆทำให้ปัญญาธรรมแตกฉานไม่น้อย จากนั้น ดิฉันก็เข้าสุ่วงการธรรมไม่ถอย หลังจากแต่งงาน ดิฉันต้องลาออกจากบริษัทมาดูแลบ้านเลี้ยงลูก และต่อมาก็สร้างตำหนักพระในครัวเรือนตน ด้วยความเพียรดำเนินงานธรรม เรือธรรมะเล็ก ๆ ที่บ้านก็แพร่ธรรมเป็นการใหญ่ฉุดช่วยคนบุญมากมายให้ละชั่วกลับตัวเป็นคนดี เป็นเพราะดิฉันยังไม่เข้าใจถ่องแท้ถึงหัวใจในหมื่นพระธรรมขันธ์ จึงยึดถือผิด ๆ ว่า วิีธรรมของยุคขาวสูงส่งที่สุด เป็นสัจธรรมหนทางอันกว้างใหญ่แท้จริงพร้อมกับดูหมิ่นศาสนาอื่น ๆ "ฟ้ามีเมฆลมแปรปรวนเกินเดาคาด" "คนมีวาสนาเคราะห์กรรมค่ำเช้า" ชีวิตไม่กี่สิบปี ล่วงเลยไปชั่วพริบตา ในปีนั้น ดิฉันอายุสี่สิบเก้า อยู่ ๆ ก็ป่วยหนักเสียชีวิต ซึ่งคิดว่าวิญญาณจะมุ่งสู่เบื้องบนประจักษ์มรรคผลได้กราบพระแม่องค์ธรรม แต่ท่านเจ้าที่ใหญ่มารับวิญญาณของดิฉันบอกว่า "เมื่อมีชีวิต แม้เจ้าจะถึงพร้อมด้วยทรัพย์เป็นทาน วิทยาธรรมเป็นทาน แรงกายเป็นทาน บุญกุศลดังภูเขาสูง ความมุ่งมั่นต่อธรรมะไม่ถดถอย แต่เหตุที่ยังไม่อาจรู้แจ้งในจิตภาวะเดิมแห่งตน ไม่เข้าใจถึงถ่องแท้สัจธรรมเสมอภาคในหมื่นพระธรรมขันธ์ จิตพุทธะในตนจึงยังไม่กลมกลืน จึงได้แต่นำเจ้าไปส่งยัง "ห้องพักวิญญาณผู้รับวิถีธรรม" เพื่อรอการทดสอบในขั้น "เก้าเก้าด่านจื่อหยัง" ต่อไป ฉันจึงได้รู้สำนึกว่า แท้จริงใจฟ้าสูงส่งและเมตตาเป็นที่สุด ยุติธรรมที่สุด แต่กว่าจะสำนึกก็สายเสียแล้ว
พระอาจารย์ ฯ : ศิษย์เมธาอย่าโศกเศร้า ดูสามชาติที่แล้วที่เจ้าได้บำเพ็ญมา กุศลผลบุญมากมาย เชื่อว่าจะผ่านการทดสอบจาก "เก้าเก้าด่านจื่อหยัง" ไปสู่ "พุทธาลัย" เพือสดับพระโอวาทจากพระโพธิสัตว์ทั้งหลายได้
อู้เอวี๋ยน :
หนึ่งก้าวถลำ สำนึกเสียใจ สายไปไม่ทัน
อยากกลับหันหลัง โศกศัลย์อาดูร สูญสิ้นโอกาส
ชาวโลกทั้งหลาย ใคร่ย้ำหลักธรรม อย่าซ้ำผิดพลาด
ยืนตรงองอาจ หยัดดังเสาธง คงแบบอย่างงาม
พี่นักธรรมหญิง ญาติธรรมที่พากเพียรอย่างท่านมีไม่มาก คำพูดมีค่าดังหยกทองของท่าน แสดงว่าจิตใจของท่านรู้ซึ้งในมโนธรรมแล้ว ขอให้ได้ไปสู่ "พุทธาลัย" ได้รับการชำระจิตใจด้วยน้ำอมฤต แล้วบังเกิดปณิธานใหญ่ร่วมช่วยงานธรรมจักรวาลใหญ่ครั้งนี้เถิด
เซียนผู้ปกครอง ฯ : ชายหนุ่มที่ปิดหน้าอยู่หลังประตูรีบออกมาเล่ารายละเอียดของการบำเพ็ญเมื่อครั้งมีชีวิต เพื่อช่วยการบันทึกกล่อมเกลาชาวโลกด้วย
วิญญาณชาย : กราบพระบาทพระอาจารย์ ศิษย์คนบาปละอายใจเหลือเกิน ชั่วชีวิตไม่ได้เห็นความสำคัญของสัจธรรม ศิษย์ไม่มีหน้าจะกราบพระอาจารย์เลย
อู้เอวี๋ยน : บัดนี้ เบื้องบนทรงโปรดให้สร้างหนังสือ "บันทึกท่องพุทธาลัย" เพียงแต่ท่านเล่าความเป็นจริงทั้งหมดเพื่อเตือนใจคนรุ่นหลัง ก็จะเป็นมหากุศลได้