บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น
ตอนที่ 3 : รับโทษกรรมในนรกคนเป็นสุดทรมาน มีคุณธรรมกุศลเปลี่ยนแปลงได้
พระจี้กง : เฮ้อ ! กรรมสัมพันธ์ของแต่ละคนต่างกัน เพียงแต่กล่าวว่า "พุทธจิต" เสมอภาพกัน แต่เมื่อผ่านการหมุนเวียนไม่รู้กี่หมื่นปีมานี้ ความเสมอภาพแห่งพุทธจิตนี้ ก็ยังมีผู้ที่สามารถโปรดได้กับผู้ที่ไม่สามารถโปรดได้ ดังนั้นในศาสนาพุทธ จึงมีคำกล่าวว่า "แม้พุทธวิถีจะกว้างใหญ่ไพศาล ก็ยากที่จะโปรดคนไม่มีบุญสัมพันธ์" เป็นเพราะเบื้องบนทรงเมตตา เพื่อที่จะโปรดเวไนยสัตว์จึงประทานมหาสัทธรรมลงมาให้ ผู้มีบุญสัมพันธ์ก็สามารถขึ้นสู่เส้นทางมหาสัทธรรมนี้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพียงให้มีใจศรัทธาต่อธรรมะก็จะหลุดพ้นจากการเกิดดับ แต่ทว่าอาตมาก็อยากถือโอกาสนี้ตักเตือนจ๋วงซิวว่า บุญสัมพันธ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าเคร่งครัดจนเกินเลยไปนัก จนผู้ปฏิบัติธรรมหันหลังละก็ไม่ดี
เฟยหลวน : แต่ว่านี่เป็นความตั้งใจของอาจารย์จ๋วงซิว ที่อยากจะเอาความนึกคิดของคน จากความคิดชั่วร้าย ไม่มีสัมมาสติ (ระลึกชอบ) ไม่มีสัมมาทิฏฐิ (เห็นชอบ) ไม่มีสัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ) ไม่มีสัมมาวายามะ (เพียรชอบ) ไม่มีสัมมาสังกัปปะ (ทำการชอบ) ไม่มีสัมมาวาจา (เจรจาชอบ) ไม่มีสัมมากัมมันตะ (ทำการชอบ) ไม่มีสัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ) สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ดีเหล่านี้ออกไป พยายามชักจูงให้มีความเห็นที่ถูกต้อง เพื่อให้พวกเราจะได้ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกอยู่ห่างจากทุกข์ทั้งมวล
พระจี้กง : อันนี้ถึงแม้จะเป็นความหวังดีของนายจ๋วงซิวก็ตาม แต่ว่าไม่มีใครเข้าใจได้ถูกต้องและยอมรับเล่า อย่างไรก็ช่าง อาตมายังมีความรู้สึกว่าบรรดาสานุศิษย์ของโรงเจจ๋วงเซินถังนี้ โชคดีที่มีนายจ๋วงเซินถังเป็นผู้นำเพราะมีสัมมาทิฏฐิ บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายที่มีความสำเร็จในขณะนี้นั้น อาตมาขอถือโอกาสนี้บอกกล่าวแก่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายว่า การที่มีธรรมาจารย์ชี้แนะความถูกต้องนั้น ไม่รู้ว่าต้องมีบุญกุศลที่บำเพ็ญมาไม่รู้จักกี่ชาติ ถ้าหากลูกศิษย์ทั้งหลายบำเพ็ญจริง ก็ควรที่จะเข้าใจคำพูดของอาตมาที่กล่าวมาในวันนี้ จงรู้จักระมัดระวังตัว ไม่พูดจาที่เป็นการลบหลู่อาจารย์ มิฉะนั้นจะเป็นการสูญเสียความทนลำบากที่มีมาในครั้งแรกที่เข้ามาสู่โรงเจจ๋วงเซินถังนี้ไป
เฟยหลวน : อาจารย์เจ้าขา ! นี่เป็นการยกย่องของท่านหรือเปล่าเจ้าคะ
พระจี้กง : มิใช่เป็นการยกย่องที่เกินเลย มันเป็นความจริง ทั้งนี้ เพราะนายจ๋วงซิวได้รับน้อมโองกางลงมาเกิด ถึงแม้บางครั้งจะใช้อำจาจเด็ดขาดเกินเลยไปบ้าง เพราะนี่เป็นโองการเบื้องบนจึงต้องเด็ดขาด การใช้อำนาจเด็ดขาดแข็งแกร่งเกินไป บางครั้งก็ไม่เหมาะกับบางคน แต่ว่าอาตมาก็หวังว่าบรรดาสานุศิษย์ทั้งหลายควรจะเปลี่ยนทัศนคติบ้าง ลองมายืนอยู่ข้างนายจ๋วงซิว แล้วค่อย ๆ ตรึกตรองดูสักรอบหนึ่ง ก็จะเข้าใจถึงแรงกดดันที่จ๋วงซิวได้รับอยู่ พิจารณาลึก ๆ เข้าไปถึงภายในใจของจ๋วงซิวแล้วก็ปรับความเข้าใจของตนเองในส่วนที่ยังไม่เข้าใจก็ไม่ยากเลยที่จะรู้สึกถึงแรงสังหรณ์โดยตรงของนายจ๋วงซิวที่มีความคิดเพื่อมหาสัทธรรม เพื่อภาระกิจทางธรรมะของโรงเจจ๋วงเซินถังแห่งนี้
เฟยหลวน : ขอบคุณปิยวาจาของอาจารย์ ทำให้ช่องว่างระหว่างคนนับวันยิ่งเหินห่างกันมากขึ้น อาจเป็นเพราะเขาขาดการประสานและปรับปรุงความเข้าใจ และส่วนใหญ่ก็เห็นแก่ตนเอง โดยไม่ยอมไปรับเข้าใจผู้อื่น จึงทำให้สังคมยิ่งไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ ซึ่งนำไปสู่ความเน่าเสียของจิตใจคน