ประจักษ์หลักฐานสภาพความเป็นจริงในสามด่าน
จิตเดิมแท้ของตนไม่กระจ่างแจ้ง เมื่อเป็นวิญญาณจึงยากบำเพ็ญ (หวังกั๋วเปียว เจี่ยงซือ)
ขอบพระคุณพระมหากรุณาธิคุณเบื้องบน ขอบพระคุณพระอาจารย์ชาย และพระอาจารย์หญิงที่ให้โอกาสข้าพเจ้าได้แก้ไข ได้มีโอกาสเข้ามาสู่พุทธสถาน ซึ่งสะอาดสงบและโอ่อ่าสง่างามอีกครั้งหนึ่ง จะได้มาพูดเหตุที่ก่อขึ้นและผลที่ตามมา เพื่อตักเตือนชี้แนะผู้บำเพ็ญในโลก จะต้องเป็นเจี่ยงซือที่ดี
ข้าพเจ้ารับธรรมะในปีสาธารณรัฐ ( หมินกั๋ว ) ที่ ๓๘ ค.ศ ๑๙๔๙ เป็นศิษย์ธรรมกาลยุคขาวคนหนึ่ง ที่ข้าพเจ้าสามารถรับธรรมะได้เป็นเพราะคุณธรรมของบรรพชน และความเมตตาของเบื้องบน จึงได้มีโอกาสนี้ ยิ่งโชคดีที่ได้ติดตามนักธรรมอาวุโสไปผูกบุญสัมพันธ์ในทุก ๆ ที่ เพื่อเตือนสติชี้แนะศิษย์พี่น้องชายหญิงทั้งหลาย เนื่องจากครอบครัวยากจนข้นแค้นจึงได้จากบ้านเกิดเมืองนอน ไปใช้ชีวิตยังต่างถิ่นตั้งแต่ยังเล็ก เนื่องจากได้รับการชักนำพาของอาจารย์แนะนำและอาจารย์รับรองผูกบุญสัมพันธ์และได้บำเพ็ญธรรม
ตอนอายุ ๑๘ ปี ได้มีโอกาสติดตามเตี่ยนฉวนซือไปบรรยายธรรมทุกที่ เนื่องจากในสมัยนั้นบุคลากรยังมีน้อยมากโดยเฉพาะข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้ชาย นักธรรมอาวุโสจึงรักและทนุถนอม อบรมบ่มเพาะทำให้ข้าพเจ้าได้ถวายใบฏีกาต่อหน้าเบื้องพระแท่นแห่งพระแม่องค์ธรรม ให้ได้แบกรับภาระเป็นเจี่ยงซือ ได้ติดตามนักธรรมอาวุโสไปบุกเบิกงานธรรมทุก ๆ ที่ โดยไม่มีคำตัดพ้อต่อว่าเลยแม้แต่น้อย ลำบากมาก็หลายปี แต่เป็นเพราะความสับสนแค่ครั้งเดียว ตอนที่อายุ ๒๗ ปี ทางบ้านเขียนจดหมายส่งข่าวมาบอกว่าสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่ไม่สู้ดีนัก ทางบ้านหวังว่าก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะหมดลมหายใจ จะได้เห็นข้าพเจ้ามีชีวิตครอบครัวและหน้าที่การงานที่ดี คุณพ่อคุณแม่จึงจะสามารถวางใจจากโลกนี้ไปได้ จึงวอนขอด้วยความลำบาก น้ำตาที่หลั่งรินเหมือนน้ำค้างหยดไม่ขาดสาย เฉียนเหยิน และเตี่ยนฉวนซือ จึงมาเยี่ยมที่บ้านของข้าพเจ้า ทั้งคุณพ่อคุณแม่คุกเข่าลงวิงวอนขอนักธรรมอาวุโส นักธรรมอาวุโสก็เมตตาเป็นอย่างยิ่ง ไม่กล้าที่จะส่งเสริมให้บำเพ็ญพรหมจรรย์ เมื่อเห็นกิริยาอาการอย่างนี้ของทั้งสองท่านแล้ว เฉียนเหยิน และเตี่ยนฉวนซือ จึงรีบรับปาก และได้หาลูกสาวของถันจู่อีกท่านหนึ่งมาแต่งงานกับข้าพเจ้า
ใครจะรู้หลังจากแต่งงานแล้ว ยังไม่ทันครบสามเดือน ทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ตายจากไป ข้าพเจ้าเศร้าใจมาก ทอดถอนใจว่าตนเป็นลูกแต่ยังไม่ได้แสดงความกตัญญูตอบแทนพระคุณของคุณพ่อคุณแม่ให้การเลี้ยงดูฟูมฟัก ในเมื่อทั้งสองท่านจากโลกนี้ไปแล้ว เฉียนเหยินแสดงออกถึงความรักเมตตาอาทร ได้มาปลอบประโลมข้าพเจ้าและภรรยา ทำให้ข้าพเจ้าและภรรยามีกำลังใจมุมานะ จึงยิ่งบำเพ็ญปฏิบัติตามปณิธานเดิมที่ตั้งเอาไว้
ข้าพเจ้าเป็นลูกคนเล็กในบรรดาพี่น้องผู้ชาย ข้าพเจ้าไม่เคยแย่งชิงทรัพย์สมบัติกับพี่น้อง เพราะว่าเป็นผู้บำเพ็ญธรรมคนหนึ่ง ในตอนนั้นข้าพเจ้าปลงได้ตก คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ในชีวิตข้าพเจ้าจึงไม่ไขว่คว้าแย่งชิง ได้แต่บอกกับภรรยาว่าต้องใจกว้าง อย่าได้ทะเลาะแย่งชิงกัน ทรัพย์สมบัติให้กับพี่ชายคนโตไป ก็ไม่มีปัณหา พวกเราเองก็สามารถสร้างครอบครัวได้ด้วยมือเปล่า ๆ เชื่อว่าปฏิบัติธรรมเพื่อเบื้องบน ฉุดช่วยกล่อมเกลาเวไนยสัตว์ เบื้องบนคงไม่ให้พวกเราต้องลำบาก ยากเข็ญแน่ ๆ วันเวลาผ่านไป ๖ ปี ข้าพเจ้าจึงมีลูกชาย ๒ คน ความเป็นอยู่ก็ลำบากขึ้น เมื่อภรรยาเห็นว่าผู้อื่นมีความเป็นอยู่ดีกว่า สามีภรรยาสามารถอยู่พร้อมหน้ากันได้ ทำไมเมื่อข้าพเจ้าแต่งงานกับเธอแล้ว จึงต้องให้เธอลำบากด้วย อยู่กับข้าพเจ้าอาหารสามมื้อก็ไม่ได้กินอิ่มท้อง ความเป็นอยู่แต่ละวันไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ได้สวมใส่เสื้อผ้าดี ๆ สวย ๆ ทำไมพวกเราถึงสวมใส่แต่ผ้าเนื้อหยาบ ๆ ทั้งสามมื้อก็กินแต่ลูกเกด จะให้เธอทนกับทุกสิ่งทุกอย่างต่อไปไม่ได้แล้ว เธอจึงเกิดความแค้นเคืองขึ้นในใจ แค้นที่ข้าพเจ้าเป็นคนไม่เอาใหน เคืองที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ชายไม่รู้รักความก้าวหน้า พอโกรธขึ้นมาเธอจึงทิ้งลูกทั้งสองไว้และหนีออกจากบ้านไป ทิ้งลูกไว้ให้ข้าพเจ้าเลี้ยงดูแต่เพียงลำพัง นักธรรมอาวุโสเมตตามาก จึงได้มาเยี่ยมเยือนที่บ้านข้าพเจ้าอีกครั้ง ท่านบอกให้ข้าพเจ้ากล้าหาญ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเบื้องบนกำลังเสริมส่งอยู่
ตอนนั้นข้าพเจ้ามีความคิดที่ผิดพลาดไป คิดว่าครอบครัวกลายเป็นเช่นนี้ ลูกเล็ก ๆ ทั้งสองจำเป็นต้องเลี้ยงดูฟูมฟักแต่ภรรยาหนีออกจากบ้านไปแล้ว ทุกสิ่งจึงต้องอาศัยตนเองในใจคิดกลับอยู่ลึก ๆ ว่าหากวันใดมีญาติธรรมมาเห็นสภาพซึ่งตกต่ำเช่นนี้ของครอบครัวของข้าพเจ้า แล้วเกิดความเข้าใจผิดต่อนักธรรมอาวุโส หากจัดให้ข้าพเจ้าไปบรรยายธรรมอีก ข้าพเจ้าก็จะผลักภาระบอกปัดทุกครั้งไป แท้จริงแล้วเป็นเพราะไม่มีแก่ใจที่จะทำ เยื่อใยสัมพันธ์ทางโลกมันหน่วงหนักนัก ทำให้จิตใจของข้าพเจ้าไม่สงบผ่องแผ้ว พอที่จะเข้าใจธรรมะ ชีวิตยิ่งนานวันยิ่งผิดหวัง จึงตัดสินใจนำพาลูกทั้งสองหลีกห่างจากนักธรรมอาวุโส และหลีกห่างจากอาณาจักรธรรม ไปหาที่อยู่ใหม่ โดยไม่บอกให้ใครทราบแม้กระทั่งเฉียนเหยิน และเตี่ยนฉวนซือ
ข้าพเจ้าต้องเลี้ยงดูลูกทั้งสองด้วยความยากลำบาก แต่นักธรรมอาวุโสก็ยังคงเมตตาสงสารไปถึงไหน ๆ ก็ยังให้ญาติธรรมสืบหาข่าวคราวของข้าพเจ้า แต่ก็ไม่มีใครรู้ถึงที่อยู่ใหม่ของข้าพเจ้า พอเริ่มหลีกห่างจากอาณาจักรธรรม จึงเริ่มมีความคิดใหม่ ทุกความคิดทุ่มเทให้กับลูกทั้งสอง จึงมีชีวิตผ่านไปชาติหนึ่ง
เมื่อข้าพเจ้าอายุได้ ๔๘ ปี เป็นเพราะเหน็ดเหนื่อยตรากตรำร่างกายจึงไม่แข็งแรง มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร เลือดออกรุนแรงมากอยู่ครั้งหนึ่งจึงตายจากไป เบื้องบนยังระลึกถึงตอนที่ข้าพเจ้ายังอายุไม่มากนัก ที่ได้ทำเพื่ออาณาจักรธรรม แต่ครั้งหลังของชีวิต ถึงแม้จะไม่ได้สร้างกรรมปาก แต่ข้าพเจ้าก็ผิดต่อภาระหน้าที่ของเบื้องบน และปณิธานทั้งหลายที่ได้ตั้งไว้ต่อหน้าพระแม่องค์ธรรม ซึ่งถือว่าหลอกลวงเบื้องบน ดังนั้นจึงต้องมาสำนึกขอขมาอยู่ที่
"ด่านญาณสงบ" ในสามด่านเก้าทวาร
จนถึงบัดนี้เป็นการปกโปรดสามโลกอย่างกว้างขวาง นักธรรมอาวุโสมาเตือนสติตั้งแต่เริ่มแรก แต่เป็นเพราะข้าพเจ้าด้อยวาสนา จึงตัดขาดละทิ้งหนทางของตนเอง นักธรรมอาวุโสทุ่มเทใจอย่างหมดสิ้น แต่ข้าพเจ้าเองไม่ได้เข้าใจ คิดถึงตอนที่อายุยังไม่มาก ได้พากเพียรเพื่ออาณาจักรธรรม ทุกความคิดต้องการที่จะสงบผ่องแผ้ว แต่เมื่อนักธรรมอาวุโสได้รับการขอร้อง จากคุณพ่อคุณแม่ของข้าพเจ้า จึงได้ส่งเสริมให้ข้าพเจ้าแต่งงาน ข้าพเจ้ารู้ว่าที่พวกท่านทำเช่นนั้น ก็เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ของข้าพเจ้าวางใจและเป็นสุขทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ข้าพเจ้าสร้างขึ้นเอง ก่อขึ้นเองทั้งสิ้น รอจนถึงเวลาพิพากษาสามโลก ผู้ที่มีบุญจริงกุศลแท้จึงจะสงบผ่องแผ้ว แล้วกลับคืนสู่เบื้องบนไปได้
ขอเตือนเจี่ยงซือทั้งหลายว่าต้องเข้าใจธรรมะให้ชัดแจ้ง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการเสริมส่งจากเหตุและปัจจัย จะต้องนำปัญญาที่มีอยู่อย่างพร้อมมานำพาฝ่ายตรงข้าม อย่าได้เลอะเลือน แล้วต่างก็พากันล่วงหล่นเลย โอกาสที่ดีอย่างนี้ ต้องนำร่างกายนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ในการประกาศธรรมแทนฟ้า ไปผูกบุญสัมพันธ์ในทุก ๆที่จะได้เป็นทูตสวรรค์ของธรรมกาลยุคขาวจริง ๆ เป็นตัวแทนของเบื้องบนเผยแพร่กระจายข่าวอันประเสริฐ ( ธรรมะ ) ตั้งแต่ต้นจนถึงปลาย ต้องมีความเสมอต้นเสมอปลาย อย่าได้เหมือนกับข้าพเจ้า เป็นเพราะข้าพเจ้าได้ละหน้าที่ภาระไปในตอนอยู่บนสามโลก ดังนั้นจึงต้องสำนึกขมาอยู่ที่
"ด่านญานสงบ" ในวันนี้ได้อาศัยโอกาส มาบอกเตือนสติศิษย์พี่น้องชายหญิงทั้งหลาย พระนิพพานก็คือแดนสุขาวดีอันสะอาดบริสุทธิ์จึงต้องฉุดช่วยนำพาผู้บำเพ็ญที่วิสุทธิ์ผ่องแผ้วกลับคืนเบื้องบนไป ไม่ว่าบุญกุศลของเราจะมีมากขนาดไหน หากว่าจิตญาณไม่สว่างกระจ่างแจ้ง สุดท้ายก็ต้องโดนพาตัวมายังสามด่านเก้าทวารและไม่สามารถกลับคืนพระนิพพานได้ เมื่อสูญสิ้นร่างกายคนแล้ว จะบำเพ็ญร่างวิญญาณนั้น ทุกข์ยากลำบากมาก หวังว่าเมธีทั้งหลายจะได้รอบครอบระมัดระวังทุก ๆ ก้าวย่าง ทุก ๆคำพูดคำจา ในเมื่อนักธรรมอาวุโสเมตตา นำพาให้พวกเราได้ขึ้นสู่เรือธรรม จึงอย่าได้คืนตั๋ว ( ขึ้นเรือ ) ของตนเองเป็นอันขาด เรือธรรมของธรรมกาลยุคขาวกำลังเทียบท่าอยู่ เวลาก็มีเพียงแค่จำกัด หากว่าตัวเราเองได้มาพิจารณาวางแผนอนาคต ผลอะไรที่จะเกิดขึ้นก็ย่อมต้องรับด้วยตนเอง การจะช่วยงานอริยกิจ ธรรมกิจให้สำเร็จนั้น ก็ต้องอาศัยความพยายามของทุกคน อย่าได้ละทิ้งจิตเมตตากรุณาแต่จะต้องมีความใจกว้างอารีอารอบเป็นสำคัญ ปฏิบัติต่อศิษย์พี่น้องชายหญิงทั้งหลาย เหมือนกับที่ปฏิบัติต่อตนเอง ในสายตามีแต่ความเมตตามองทุกคนเป็นดั่งญาติมิตร
ผู้ที่เป็นนักธรรมอาวุโสก็จะต้องมีเป้าหมายแนวทางและทัศนคติความคิดความอ่านที่ชัดเจนถูกต้อง เพื่อนำพานักธรรมผู้น้อยทั้งหลายได้ ส่วนผู้ที่เป็นนักธรรมผู้น้อยก็ต้องเข้าใจถึงความลำบากเหนื่อยยากกายใจของนักธรรมอาวุโสตลอดเวลา จะต้องร่วมช่วยงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ อาณาจักรธรรมจึงจะเจริญรุดหน้าได้
เบื้องบนไม่หลอกลวงคนเรา มีแต่คนเราที่หลอกลวงเบื้องบน การขัดเกลาลงโทษทุก ๆ อย่าง ในสามด่านเก้าทวารนั้นเป็นสิ่งที่ทุกข์ทรมานจริง ๆ จึงหวังว่าศิษย์พี่น้องชายหญิงทั้งหลายจะได้รอบคอบระวังกัน และต้องปฏิบัติบำเพ็ญให้ดี ๆ ด้วย