ความรักคืออะไร (ตอนที่2 พลังแห่งรัก)
ทุกสิ่งทุกอย่างหรือไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่บนโลกนี้ มี2ด้านเสมอ ความรักก้เหมือนกัน ถ้าเราใช้พลังแห่งความรักไปในด้านลบ มันก็จะเกิดผลข้างเคียงดังตัวอย่างที่แล้ว แต่ถ้าเราใช้พลังแห่งรักไปในด้านบวก ผลลัพธ์ของมันย่อมดีเสมอ ผมขออนุญาตแชร์ประสบการณ์โดยตรงของผม ดังนี้
ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในขณะที่กระผมกำลังขับรถไปทำงานแต่เช้า โดยขับตามหลังรถเท็กซี่คันหนึ่ง ทันใดนั้น รถเท็กซี่ได้เบรกกะทันหัน เนื่องจากมีเด็กวิ่งตัดหน้ารถเท็กซี่ ทำให้รถผมไปชนท้ายรถเท็กซี่เข้า แต่ก็ไม่แรงมาก บังโคลนท้ายรถเท็กซี่ยุบไปพอสมควรและห้อยลงมา ช่วงนั้นผมก็รู้สึกว่าผมใจลอยในขณะขับขี่ ถ้าได้ใช้ความระมัดระวังมากกว่านี้ ก้คงไม่ชน ทำให้มีความรู้สึกว่าเราผิด
เมื่อจอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมเดินเข้าไปหาคนขับรถเท็กซี่ แล้วยกมือไหว้เขา พร้อมกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ ได้ขอโทษเขาว่าเป็นความผิดของผมเองที่ทำให้เขาเสียเวลาทำมาหากิน เนื่องจากผมใจลอยเองในขณะขับ ไม่ระมัดระวังเท่าที่ควร ทันใดนั้น คนขับรถเท็กซี่ก็ส่งยิ้มให้ผมด้วยสีหน้าที่เห็นได้ชัดว่ามีไมตรีจิตที่ดี พร้อมกับกล่าวว่า ไม่เป็นไร เขาเองก็มีส่วนผิดที่เบรกกะทันหัน ต่างคนต่างก้ยอมรับผิด พร้อมที่จะรับผิดชอบ(น่ารักอ่ะ) ผมได้บอกกับเขาว่า ที่ใกล้ๆตรงนี้ มีอู่รถที่ผมรู้จักอยู่หนึ่ง เป็นช่างประจำของผม เราขับรถไปให้ช่างดู ไม่ต้องเรียกประกัน ไม่ต้องเรียกตำรวจ มันเสียหายไม่มาก ผมขอรับผิดชอบเอง แล้วเราก็ขับรถตามกันไปที่อู่นั้น
ในระหว่างที่รอช่างซ่อมอยู่นั้น เราได้มีโอกาสได้คุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหลายเรื่อง ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง พี่คนขับเท็กซี่ก็เดินไปที่รถเขา และหยิบผ้ามาผืนหนึ่งพร้อมกับชุบน้ำมันที่ผ้านั้น และเดินไปเช็ดและขัดสีตรงกันชนรถผม ตรงบริเวณที่ผมไปชนรถเขา ซึ่งสีที่ติดมาก็เป็นสีของรถเขา เห็นเขาบรรจงขัด และ้ขัดไปที่จุดอื่นๆอีกหลายจุด
ณ.วินาทีนั้น ผมเกิดความรู้สึกที่ประทับใจมากๆๆ จนยากที่จะบรรยายออกมาเป้นตัวหนังสือได้ มันเป้นความรู้สึกที่ลึกล้ำ เรารู้ซึ้งได้ถึงพลังของจิตมนุษย์ที่ใช้ไปในทางบวก เป็นพลังแห่งความรักในมนุษย์ เคารพกัน ให้เกียติกัน ไม่มุ่งทำลายกัน มันคงประทับในใจผมไปตลอดกาล จากการที่เราขับรถไปชนเขา สุดท้ายแทนที่เท่าที่เห็นส่วนมากจะอารมณ์เสีย ทะเลาะกัน ต่อยกันก็เคยเห็นเป็นประจำ หรือแม้กระทั่งยิงกันจนตายก็เคยเห็นในข่าวกันบ่อยๆ แต่วันนี้ ผมได้นำเอาความรู้สึกว่าเรารักเพื่อนมนุษย์ มาใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สุดท้ายก็ได้มิตรภาพที่ดีและความประทับใจที่ดีกลับมา
ถึงแม้ว่า มันไม่ใช่เหตุการณ์อะไรที่ใหญ่โต แต่ในความรู้สึกของผมแล้ว มันประทับใจและยิ่งใหญ่มากๆ และคงประทับในความทรงจำของผมตลอดไป
"เมื่อมีใครเอาขี้หมามาขว้างใส่เรา เราจงหยิบเอาขี้หมาก้อนนั้นมาปั้นเป้นดอกกุหลาบสีแดงที่สวยงาม แล้วยื่นส่งคืนให้เขา"
ขอบคุณครับ
นพ.ไมตรี พิชญังกูร
http://youtu.be/9qzr6XnjfS4