collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ท่องพุทธาลัย 3  (อ่าน 22407 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                     ตอนที่ 10

                 สอบผ่านด่านตันหยางได้
                 ล้วนอาศัยเคร่งจริงศีลวัตร
                ใกล้เหวก็จะมิพึงหวั่นหวาด
                ไม่ขยาดก้าวบนน้ำแข็งบาง

@     ฝันโลกนี้        ทุกกรณี        มีนัยแฝง
ยึดหมายแข่ง           ชื่อลาภไว้     ใจหยาบหยาม
แต่โบราณ              งานกู้โลก      ปรกปราบปราม
กำหนดความ           คนประเสริฐ    เลิศรู้การ

(ซื่อซื่อหยูเมิ่งเจินหลี่ฉัง          จื๋อจั๋วหมิงลี่ไกว้จุ้ยอี๋
จื้อกู่จื้อล่วนเปิ่นติ้งซู่               เหยินเลี่ยซันไฉจวี้เหลียงจือ) 

พระบรรพจารย์   : 
ขอแสดงความยินดีที่ศิษย์แซ่หลินได้บำเพ็ญมาสามชาติ ชาตินี้ได้พบพระวิสุทธิอาจารย์โปรดประทานหนทางตรง ตรวจสอบแล้วท่านก็เป็นผู้บำเพ็ญจริงคนหนึ่ง แต่ด้วยใจไม่อาจยอมรับผู้บำเพ็ญตามบุญปัจจัยในศาสนาอื่น นี่คือ มิรู้แจ้งใจว่าธรรมปฏิบัติทั้งหลายเสมอภาค อยู่ที่การจริงใจนำพาเป็นความหมายแท้จริงด้วยอุบายอันชอบด้วยเมตตากรุณาธรรม ที่ผิดเพราะถือดี  ยึดมั่นในทางธรรมเฉพาะของตน แม้จะยังไม่ได้ก่อวจีีกรรม กายกรรม แต่จิตไม่บริสุทธิ์ จึงตัดสินให้เข้ารับการอบรมที่ "ห้องขัดฝนใจกลับตัวใหม่" ยี่สิบวัน หวังว่าคงจะสำนึกรู้ให้ดี ๆ อีกทั้งขจัดจิตใจยึดมั่นให้ได้ถึงที่สุด การประทับทรงของอดีตนักรบ และศาสนพิธีจากธรรมกาลยุคแดง แม้รูปแบบจะแตกต่างจากธรรมปฏิบัติของธรรมกาลยุคขาว แต่เป็นการอบรมตามจริตวิสัยของผู้คน คุณประโยชน์เพื่อการฉุดช่วยกล่อมเกลาตามเหตุปัจจัย ยังคงสำคัญเช่นเดียวกัน จะดูแคลนไม่ได้ เช่นนี้ เปรียบได้กับความแตกต่างของสถานศึกษาที่สอนระดับอนุบาล ประถม มัธยม เตรียมอุดม และมหาวิทยาลัย แต่ความหมายของการให้ศึกษา ล้วนเป็นเช่นเดียวกัน จะเอาความเป็นมหาวิทยาลัย มาดูถูกโรงเรียนระดับประถมศึกษาได้หรือ หวังผู้บำเพ็ญจะได้เข้าใจเหตุเป็นมานี้ อย่าทำผิดด้วยคิดว่า "ของข้าสูงส่งที่สุด" แล้วมีจิตใจดูถูกศาสนาอื่น

พระอาจารย์   : 
นัยน์ตาฟ้าเห็นกระจ่างสว่างชัด แม้ความคิดซ่อนเร้น จิตใต้สำนึกก็ทะลุปรุโปร่ง ไม่พ้นได้แม้เส้นใย

หวังว่าชาวโลกจะอาศัยหลักสัจธรรม
นานวันเข้้า จิตใจย่อมใสบริสุทธิ์ได้เอง
บำเพ็ญ สำคัญที่บำเพ็ญจริง
บำเพ็ญจริง อยู่ที่ทำตามหลักสัจธรรม
หลักสัจธรรมอยู่ที่การก่อเกิดความสมบูรณ์กลมกลืน  เสมอภาค ที่สุพดแห่งความดี  ความจริงแท้  ความงามแท้
ผู้บำเพ็ญทำใจให้ราบเรียบตามนี้ ก็จะอยู่ในโลกโลกีย์โดยไม่แปดเปื้อนโลกีย์ได้เอง

ธรรมราช   :  ศิษย์แซ่หลิน เชิญตามเทวมาตย์ผู้นำทางไปยัง "ห้องขัดฝนใจกลับตัวใหม่" เถิด ญาณเดิม ง. เชิญขึ้นมารับการตรวจสอบ

ญาณเดิม ง. ศิษย์ผู้น้อยแซ่หวง กราบคารวะพระบรรพจารย์ เมื่อครั้งมีชีวิต ผู้น้อยบำเพ็ญแห่งวิถีอนุตตรธรรมแห่งธรรมกาลยุคขาว สำนึกรู้ความเป็นจริงของชีวิต ประคองรักษาธรรมะไว้ไม่ถดถอย  อีกทั้งจัดตั้งสถานธรรมในครัวเรือน ฉุดช่วยนำพาผู้มีบุญสัมพันธ์เต็มที่ ใส่ใจความสง่างามเรียบร้อยของสถานธรรมมาก ทุกวันจะต้องกวาดถูให้หมดจด ข้างตำหนักพระ ผู้น้อยจัดห้องบรรยายไว้  กำหนดวัน เชิญอาจารย์มาเปิดชั้นเรียนบรรยาย จัดชั้นเรียนจริยระเบียบ และศึกษาไตรรัตน์เป็นประจำ ต่อการปฏิบัติบำเพ็ญของตนเอง ผู้น้อยเคร่งครัดต่อตนเองมาก อะลุ้มอล่วยต่อคนทั้งหลาย  เคารพนบนอบต่ออาวุโส อุ้มชูผู้น้อย  กินเจกันตลอดชีวิตทั้งครอบครัว  หมั่นให้ทานทั้งสามเป็นประจำ  ไม่โลภ  ไม่เอาของใคร  รักษาตนบริสุทธิ์  ตลอดชีวิตทำตามการอบรมสอนสั่งของอริยเมธา ไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย  ดังที่กล่าว คือความเป็นมาคร่าว ๆ ในการปฏิบัติบำเพ็ญเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่  กราบทูลพระบรรพจารย์ได้โปรดพิจารณา

พระบรรพจารย์   :  ธรรมราชผู้ตรวจสอบ ที่บันทึกไว้สอดคล้องกับที่ศิษย์แซ่หวงรายงานไหม?.

ธรรมราช   :  กราบทูลพระองค์เจ้าตำหนัก ทุกอย่างถูกต้องเป็นความจริง

พระบรรพจารย์   :  สาธุ  สาธุ  ศิษย์แซ่หวง รักษาระเบียบวินัย  รักษาศีล  เป็นแบบอย่างที่ดีของชาวโลก น่านับถือ ให้เทวมาตย์ผู้นำทางพาไปพักผ่อนที่"หอชูบุญ" แล้วจึงไปตรวจสอบอีกชั้นหนึ่งที่ตำหนัก จิ่งหยัง

ธรรมราช   : 
เชิญศิษย์แซ่หวงติดตามเทวมาตย์ผู้นำทางไป ญาณที่ห้า เชิญขึ้นมารับการตรวจสอบ 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                      ตอนที่ 10

                 สอบผ่านด่านตันหยางได้
                 ล้วนอาศัยเคร่งจริงศีลวัตร
                ใกล้เหวก็จะมิพึงหวั่นหวาด
                ไม่ขยาดก้าวบนน้ำแข็งบาง

@     ฝันโลกนี้        ทุกกรณี        มีนัยแฝง
ยึดหมายแข่ง           ชื่อลาภไว้     ใจหยาบหยาม
แต่โบราณ              งานกู้โลก      ปรกปราบปราม
กำหนดความ           คนประเสริฐ    เลิศรู้การ

(ซื่อซื่อหยูเมิ่งเจินหลี่ฉัง          จื๋อจั๋วหมิงลี่ไกว้จุ้ยอี๋
จื้อกู่จื้อล่วนเปิ่นติ้งซู่               เหยินเลี่ยซันไฉจวี้เหลียงจือ) 

ญาณเดิม จ.   : 
ศิษย์ผู้น้อยแซ่หลิว  กราบคารวะพระบรรพจารย์ เมื่อมีชีวิต ศิษย์ก็บำเพ็ญวิถีอนุตตรธรรมเช่นกัน ได้รับการจุดเบิกทางสว่างจากพระวิสุทธิอาจารย์ เนื่องด้วยศิษย์เรียนสูง ฝีปากดี ได้รับการส่งเสริมจากอาวุโสเข้าร่วมชั้นเรียนฝึกบรรยายธรรม อีกทั้งพยายามค้นคว้าคัมภีร์ธรรมห้าศาสนา สุดพท้ายเป๋นอรรถาจารย์ได้รับความสำเร็จคนหนึ่ง ชั่วชีวิตของศิืษย์ ออกเดินทางประกาศสัจธรรมไม่ว่าใกล้ไกล ลมฝนไม่อาจขวางกั้น อีกทั้งตนเองยิ่งทำตัวเป็นแบบอย่างส่งเสริมญาติธรรมให้เปลี่ยนร้ายกลายดีกันไม่น้อย ให้เห็นสัจธรรม จัดตั้งสถานธรรมมากมาย เนื่องด้วย ผู้น้อยมีสภาพเป็นอรรถาจารย์ (เจี่ยงซือ) ปกติจึงทำตนอยู่ในกรอบ ไม่กล้าละเลยศีลวัตร น้อมกราบทูลรายงานพอสังเขปดังกลา่าว

ธรรมราช   :  กราบทูลพระองค์เจ้าตำหนัก ที่ศิษย์แซ่หลิวกราบทูลมา ถูกต้องตรงต่อบันทึก เป็นบุคลากรปากเสียงแทนฟ้าที่หาได้ยากคนหนึ่ง แต่เห็นความสำคัญต่อหน้าที่เจี่ยงซือเท่านั้น เหตุนี้ ขณะถ่ายทอดวิถีธรรม หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดประทับทิพยญาณมา หรือโปรดประทานพระโอวาทในกระบะทราย เจี่ยงซื่อท่านนี้เข้าใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับตน จึงอยู่ว่าข้าง ๆ ตำหนักพูดคุยสนทนาธรรมกับญาติธรรมไป ไม่ใส่ใจในระเบียบนอกความรับผิดชอบ จุดนี้ ขอพระองค์โปรดพิจารณาตัดสิน

พระบรรพจารย์   :  สาธุ ฟ้าดินมิอาจเอ่ยวาจา อาศัยคนบอกกล่าว ศิษย์หลิวแพร่ธรรมแทนฟ้า ก่อเกิดคุณประโยชน์ ก่อเกิดสัจวาจา น่าเคารพแท้ ในหน้าที่อริยะแม้จะไม่บกพร้่อง แต่นอกหน้าที่บกพร่องต่อศีลวัตรโดยมิได้เจตนา เราจึงจะไม่ลงโทษ แต่ตจัดสินให้เข้า "ห้องขอขมากรรมสำนึก" ขอขมากรรมสำนึกอยู่ยี่สิบวันแล้วค่อยว่ากัน

ธรรมราช   :  ศิษย์แซ่หลิว เชิญตามเทวมาตย์ผู้นำทางไป

พระอาจารย์   :  คืนนี้ ได้รับความกรุณาจากตำหนักของท่านให้ศึกษาเพื่อการประพันธ์หนังสือท่องเที่ยว ตัวอย่างจริง ๆ ทุกข้อชี้ตรงจิตใจ เรียกได้ว่า "ทุกเข็มเห็นเลือด" (เจินเจินเจี้ยนเสี่ย) ทำให้ตื่นตระหนก บัดนี้ เวลามีไม่มากแล้ว ขอบรรพจารย์ท่านได้โปรดอนุญาตให้เราศิษย์อาจารย์อำลาไปก่อน เพื่อท่องเที่ยว "ตันหยางสถานกำราบโทษ" (ตันหยางเฉิงเจี้ยสั่ว)

พระบรรพจารย์   : 
เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้าก็จะมอบให้เทวมาตย์ผู้นำทาง นำพาท่านกับศิษย์ไป

เทวมาตย์   :  กราบทูลเชิญพระบรรพจารย์เทียนหยานกับอู้เอวี๋ยน ตามผู้น้อยออกจากตำหนักนี้  ทั้งสามมุ่งสู่ "สถานกำราบโทษ" อย่างรวดเร็ว ครู่เดียวก็มาถึงบ้านหลังใหญามหึมา หน้าบ้านมีเสาหินใหญ่ตั้งตรงตระหง่านอยู่สองข้าง จารึกอักษรว่า "ตันหยางสถานกำราบ" (ตันหยางเฉิงเจี้ยสั่ว) ทั้งสามพร้อมกันดำเนินเข้าห้องใน พลันได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาแว่วมาจากห้องด้านซ้ายดังกรอกหู

เทวมาตย์   :  เสียงร้องโอดโอยนี้คือเสียงทุกข์ทรมานจากนักโทษ ข้าพเจ้าจะนำท่านทั้งสองเข้าไปดูในห้องซ้ายมือนั้นแล้วจะเข้าใจ  ว่าแล้วทั้งสามก็ดำเนินเข้าห้องซ้ายมือ หน้าห้องมีแผ่นป้ายไม้ แสดงความว่า "หไ้องแมลงล้างจิตปุถุชน" (เฟยฉงเหลี่ยวฝันเสี่ยวกวนซื่อ) อู้เอวี๋ยนเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างห้องสอดส่องดู เห็นผู้คน (วิญญาณ) มากมายปนเป ส่วนใหญ่เสื้อผ้าขาดโทรม เปลือยเท้า ผมเผ้ารุงรัง บ้างเอามือปิดหน้าร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจนัก เห็นแล้วขนลุกขนชัน ห้องกว้างใหญ่มาก กั้นเป็นห้องกรงขังเล็กอีกหลายสิบห้อง ใช้ลวดตาข่ายขึงกั้น สัดส่วนแคบ ๆ มืดทึบ ไม่สะดวกที่จะนั่งหรือนอน นักโทษแต่ละคนจำกัดอยู่ในแต่ละกรงขังเล็ก ๆ นั้น ภายในกรงขัง มีแมลงผึ้งมีพิษต่อยกัดนักโทษอยู่ทั่วตัวทุกคนนักโทษบางคนบวมปูดทั่วตัวด้วยพิษของผึ้ง เสียงร้องโอดโอยทำให้น่าเวทนา น่าสงสารจับใจ

เทวมาตย์   :  วิญาณที่ถูกตัดสินให้มาที่นี้ ล้วนเป็นผู้ไม่รักษาศีลวัตร หรือแอบอ้างอาศัยงานบุญหาชื่อเสียง ใช้เงินการกุศลตามใจชอบ ไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตา ลบหลู่นักธรรมอาวุโส หลอกลวงลบล้างบรรพจารย์ ชอบนินทาว่าร้าย สอดเสริมเติมแต่ง ยโสโอหังถือดี เชิดหน้าเอาชนะ ชอบเถียง ผิดต่อทางธรรม ต่ำทรามขาดคุณธรรม เหล่านี้ จะถูกลงโทษตามความผิดหนัก - เบา  มาก - น้อย ด้วยการให้ผึ้งพิษจำนวนเท่านั้นรุมต่อย หากนักโทษสำนึกผิด จริงใจแก้ไข ผึ้งพิษก็จะลดน้อยลงหรือไม่ต่อยกัดอีก แต่หากดื้อรั้นไม่สำนึกแก้ไข ผึ้งพิษก็จะเพิ่มจำนวนยิ่งขึ้น

พระอาจารย์   : 

บรรลุเซียน        พุทธะได้        ไปจากคน
รับทุกข์ทน       ผลโทษตาม     ตนทำให้
ราวดินฟ้า         ต่างกันหนา      สาเหตุใด
ศีลวัตรไซร์       ให้ถือนำ          เคี่ยวกรำจริง

(เฉิงเซียนจั้วฝอเปิ่นอิ๋วเหยิน        ฟั่นกั้นโส่วฝาอี้อิ๋วเซิน
เทียนเอวียนจือเปี๋ยไจ้เหอซู่        จุนกุยโส่วเจี้ยซิวเลี่ยนเจิน)

ความผิดอันมิได้เจตนา ยังอาจขอขมาสำนึกแก้ไขให้ถูกต้องได้ แต่หากผิดทั้ง ๆ ที่รู้ กฏเกณฑ์ฟ้าน่าคร้ามเข้มงวด ยากนักจักพ้นการลงโทษไปได้  คืนนี้ท่อง ตำหนักตันหยาง เก็บข้อมูลล้ำค่าจากตัวอย่างจริงได้มากมาย หวังให้ผู้บำเพ็ญในโลกได้อ่านเป็นอุทาหรณ์ เตือนใจให้ระวังตัว บัดนี้ค่ำแล้ว ขอท่านเทวมาตย์ช่วยเป็นตัวแทน เราอาจารย์ศิษย์แสดงคารวะขอบพระคุณ เราขอลาไปเพียงนี้

อู้เอวี๋ยน   :  ศิษย์กราบลาท่านเทวมาตย์

เทวมาตย์   :  น้อมส่งพระบรรพจารย์และศิษย์

พระอาจารย์   :  อู้เอวี๋ยน รีบขึ้นฐานบัวไป ถึงพุทธตำหนักแล้ว ญาณอุ้เอวี๋ยนกลับเข้าร่างดังเดิม จอมทัพพิทักษ์ธรรมตามกลับเบื้องบนไป

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   ตอนที่ 11

                           ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย

@
ในเจดีย์        คีรีศักดิ์สิทธิ์        สถิตคนจริง
วิเศษยอดยิ่ง           แฝงจริงไว้         กายธรรมเห็น
สงเคราะห์ชน          คนหลงตื่น         ฟื้นใจเป็น
รูปล้อเล่น              เร้นพุทธะ           ณ ภายใน

(หลิงซันถ่าจงโหย่วเจินเหยิน   อิ่นเอว๋ยเมี่ยวเสวียนเซี่ยนฝ่าเซิน
จี้จ้งจื่อหมีเจียเจิ้งเจวี๋ย          เตียนเซี่ยงสือฉังหัวฝอเกิน)

                                                                     เราคือ

        สงฆ์วิปลาสจี้เตียนแห่งหนันผิง

            เทียนหยานพระอาจารย์เจ้า  รับสนอง

อนุตตรพระแม่บัญชา      มาสู่เกาะเซียน  (ไต้หวัน)


        ลอยจากเมฆา     น้อมสู่ตำหนักธรรม  กราบ
อนุตตรพระแม่แล้ว     ถามศิษย์รักทั้งหลายสบายดีกัน
        วันนี้มีงาน         อริยะสมาน        จึงร่วมประพันธ์
กล่าวขานบททอง       สามคุณร่วมใจ     อย่าได้เพื้อนว่า
เจตนาฟ้า                 วิเศษล้ำหนา       จะค่อยว่าไป
                                                                          ฮา  ฮา

@ มีบุญสัมพันธ์        อนุตตรธรรม        จึงได้น้อมรับ
เพียรแท้สูงสัจจ์        รู้ชัดหมั่นย้ำ         สัมผัสเป็นจริง
เข้าถึงแยบยล          วิเศษในตน          ฟ้าดินใหญ่ยิ่ง
อุ้มชูขวัญมิ่ง            หนึ่งกำเนิดจริง     ณ ธรรมญาณใน

(เอวี๋ยนเต๋ออู๋ซั่งฝ่า    ซิวเจินฉินอู้ซัน
เสวียนทงเทียนตี้กู่     ฉุนหย่างเป้าอี้เอวี๋ยน)

@ อย่าหลงทึกทัก     สี่รูปลักษณ์เขา-      เราและอื่นใด
ธรรมแท้เข้าใจ          ชี้หนึ่งจุดให้           วิสุทธิญาณ
จิตว่างสบาย            ไร้ซึ่งพันธะ             ณ ทุกสถาน
ทุกวันพ้นผ่าน           เป็นสุขสำราญ         ดั่งเซียนน้อยนา

(ซื่อเซี่ยงอู้ซือจื๋อ       หมิงเต้าอี้จื่อฉัน
ชิงเสียนเล่อจื้อไจ้      อี๋ยื่อเสี่ยวเสินเซียน)

@ จิตใสใจสว่าง       ทุกอย่างตรงเที่ยง     ไม่เอนเอียงหนา
ส่องทั่วโลกา           จนถึงปัจจัย             ในสิ่งเนื่องนับ
ละอองโลกีย์            มิแปดเปื้อนได้          กายเนื้อมิจับ
จิตญาณงามสรรพ      สดใสสวยงาม           กลมงามเลิศเรือง

(เจี้ยนซิ่งหมิงซินเจิ้ง   เจ้าเซ่อคงอวั้นเอวี๋ยน
เซียนเฉินเซินปู้หยั่น    สื่อเต๋อซิ่งหมิงเอวี๋ยน)         

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                          ตอนที่ 11

                           ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย


@ กุศลผลบุญ        พรั่งพร้อมล้อมไว้        ไม่อาจประมาณ
พ้นญาณทวาร        ผ่านจากหุบเขา          เจ้าแยบยลนัก
หมิงเต๋อบำเพ็ญ      เห็นชีพสว่าง             สำคัญเป็นหลัก
ชินหมินฐานราก      จื้อซั่นบรรลุ              วิสุทธิธรรม

(กงเต๋อจี้อู๋เลี่ยง       กู่เสินโท่วเพิ่นเสวียนง
ซิวเซินไจ้หมิงเต๋อ    ซินหมินต๋าจื้อซั่น)

@ วิสุทธิ์แล้วนั่น      หมื่นขวานบั่นทอน     ไม่คลอนหลุดร่วง
ฝึกฝนจิตดวง          หลอมจุดรัตนะ           สกาวสุกใส
จริงแท้วัชระ           ไม่เสื่อมแกร่งกล้า       ค่าเสียหายไป
รหัสได้ไว้              คาถากล่อมกลาย       เป็นดอกบัวบาน

(อวั้นฝู่จั๋วปู๋ซุ่ย        หมอเลี่ยนต้วนจินตัน
จินกังปู๋ไฮว่ถี่         โข่วเจวี๋ยฮว่าชิงเหลียน)

@ ทุกอิริยาบท       จะสงบนิ่ง               หรืออิงเคลื่อนไหว
ธรรมจักรได้            เวียนไปหลายรอบ    ไร้ขอบเขตถึง
หมื่นสายเผยแพร่      ล้วนแต่ดำเนิน          คือจุดหมายหนึ่ง
ร่วมช่วยคำนึง         ซึ่งผ่านพ้นด่าน          การสอบเคี่ยวกรำ

(อี๋ต้งอวี่อี๋จิ้ง          โจวจี๋หวนอู๋เปียน
อวั่นไม่อวิ้นเฉาอี      เซียซัวกั้วฉงกวน)

@ ตะวันจันทร์ฉาย    ฟ้าใสจิตญาณ        ปัญญาล้ำเลิศ
ช่วยการก่อเกิด        เส้นแวงเส้นรุ้ง        ร้อยจูงชายหญิง
ภายในแฝงเร้น         ความเป็นอริยะ       สัจจะแท้จริง
ใช้ได้ไม่สิ้น            ทุกชีวินทั่ว            ชั่วกาลนาน

(ยื่อเอวี้ยจิงอิงซุ่ย    จิงเอว่ยช่วนคุนเฉียน
ฉีจงอิ่นตี้ไจ้            อย้งจืออย่งเหมียนเหมียน)

@ ความวิเศษอยู่     ณ ประตูจิต          สถิตแยบยล
เรืองโรจน์เลิศล้น      ส่องยังหลิงซัน      ประตูญาณนั่น
เป็นบ้านเดิมฉัน        อันไม่มีเงา          เฝ้าอยู่สังขาร
สุดแสนสำราญ         เป็นนิรันดร์กาล     อิสระเรื่อยไป

(เมี่ยวไจ้เจินเสวียนกวน กวงเอี้ยวเจ้าหลิงซัน
หว่อเจียอู๋อิ่งตี้            เซียวเอี๋ยวเล่ออู๋เปียน)

@ โป๊ยก่วยเป็นหลัก    ประจักษ์ดินฟ้า    อยู่ ณ จุดนี้
รูปลักษณ์ทั้งสี่           มีอินมีหยาง        สมานคงให้
ต้นกำเนิดเิดิม            จากแรกเริ่มแปร   แผ่ขยายไป
วาระสุดท้าย              ให้คืนอนุตตรฯ     ธรรมะทั้งหมด

(ปา-กว้าฉังไจ้จือ       ซื่อเซี่ยงเหลี่ยงอี๋เหลียน
เอวี๋ยนไหลอี๋ชี่ฮว่า       เสียนกุยอู๋จี๋เอวี๋ยน)
                                                                  ไฮ  ไฮ

        ตั้งแต่โบราณกาลมา ผู้บำเพ็ญนั้นมีมากมาย แต่ผู้บรรลุได้นั้นมีน้อย ด้วยเหตุอันใด ล้วนเหตุเพราะยังมิได้ประสบวิถีธรรมจริง กุศลในการบำเพ็ญก็ยังไม่ถึงแก่นแท้นั่นเอง ผู้บำเพ็ญก่อนเก่า ล้วนจะต้องเคี่ยวกรำบำเพ็ญด้วยความทุกข์ยากลำบาก สละละทิ้งครอบครัวการงาน ตัดรัดสลัดเยื่อใยบำเพ็ญเอง ให้สำนึกรู้เอง หรือเดินทางหมื่นลี้พันลี้ แสวงหาอาจารย์ ใฝ่หาคาถาเคล็ดลับ ยากเย็นเข็ญใจทุกอย่าง อดทนจนกว่ากุศลผลบุญถึงพร้อม ศรัทธาจริงใจซาบซึ้งถึงเบื้องบน เบื้องบนจึงจะส่งเซียนพุทธะโปรดชี้จุดให้โดยไม่โจ่งแจ้ง จึงได้สมความปรารถนา               

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                             ตอนที่ 11

                            ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย


        บัดนี้ บุญวาระธรรมกาลยุคขาว เปิดประตูปรกโปรดครั้งใหญ่ มหาปณิธานของพระศรีอริยเมตไตรยถึงกาลโอบอุ้มสามโลก ช้อนชูเก็บงานสมบูรณ์ผล ให้พุทธบุตรล้วนได้ขึ้นทะเบียนฟ้า ดังคำกล่าวว่า "มาก่อนสู่มาพอดีไม่ได้" (ไหลเต๋อเจ๋าปู้หยูไหลเต๋อเฉี่ยว) ศิษย์ธรรมกาลยุคขาว สนองวาระคำกล่าวนี้พอดี เป็นบุญที่สร้างมาสามชาติโดยแท้จึงมาทันโอกาสนี้อย่างเหมาะเหม็ง แต่ทว่า คนทั่วไปมักจะพลาด "ได้รับง่ายดาย ไม่รู้คุณค่า" (เต๋อจือหยงอี้ ปู้จือเจินสี) เห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่ศึกษาค้นหาความเป็นที่อยู่ ณ ภายใน หลังจากรับธรรมะแล้ว เริ่มแรกแม้จะศรัทธา ศึกษาธรรมในพุทธสถาน แต่ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เพิ่งจะรู้บ้างไม่รู้บ้างก็สรุปเสียว่า "มันก็เท่านั้นเอง" จากนั้นก็ไม่ก้าวสู่ทางธรรมอีก บางคนทนการสอบกรำต่าง ๆ ไม่ได้ นานวันระอาท้อแท้ ร่อนหลุดไปนอกทางธรรมเองโดยไม่รู้ตัว การบำเพ็ญ แท้จริงแล้วจะต้องอยู่ที่ "บุญจริงกุศลแท้" (เจินกงสือซั่น) มิใช่อาศัยแต่นามรูปว่างเปล่าภายนอก การบำเพ็ญ แท้จริงจะต้องอยู่ที่การ "เท้าหยัดยืนบนพื้นจริง" (เจี่ยวท่าสือตี้) ไม่อยู่ที่โอ้อวดเสวนา ฉะนั้น นามรูปภายนอกจึงมิใช่สิ่งอันพึงยึดหมายสำหรับผู้บำเพ็ญจริง สัทธรรม (ธรรมะของคนดี) อันวิเศษของยานระดับสูงเป็นอสังขตะ ไม่ยึดหมาย จึงมิใช่สิ่งซึ่งแสวงหาได้ภายนอก แต่อยู่ที่จิต "ย้อนมองส่องตน" (หุงกวงฝั่นเจ้า) ให้สอดส่องสำรวจจิตตนให้มาก ว่าสิ่งที่ปรากฏจากจิตหรือแฝงเร้นในจิตนั้น ถูกต้องตามหลักธรรมหรือไม่ มีคำกล่าวว่า "เดินทางไกลเริ่มไปจากจุดใกล้ ขึ้นที่สูงพึงเริ่มจากน้อมตน" (สิงเอวี่ยนจื้อเสียเอ่อ  เติงเกาปี้จื้อเปย) เป็นสุภาษิตอันมีค่ายิ่งสำหรับผู้บำเพ็ญทีเดียว ความสำเร็จหรือล้มเหลวของผู้บำเพ็ญ ตั้งแต่ก่อนเก่าจนถึงปัจจุบัน เหตุผลมิได้ต่างกัน หากศรัทธาจริงใจตลอดไป  ไม่เปลี่ยนความมุ่งมั่น  ยอมเหนื่อย  ยอมรับการขับเคียว   เข้าถึงประจักษ์จริง  ก็จะไม่ยากต่อการบรรลุธรรมยังเบื้องบน หอมชื่อนิรันดร์ไว้ในโลก แต่หากเพียรธรรมไม่จริง คลุกอยู่กับใคร ๆ ไปวัน ๆ เกิดเหตุอะไรใจก็เป็นไปตามนั้น ไม่ตั้งใจศึกษาธรรม ถูกฟ้าลองใจ ถูกคนทดสอบเล็กน้อย ใจก็ขัดเคือง หน่ายหนีถดถอย สุดท้ายต้องเจ็บแค้นเสียดายตลอดไป ไม่พ้นว่ายเวียน ฉะนั้น จึงกล่าวว่า การบำเพ็ญหากไม่มี "ผลงาน (เฉิงจี) ที่เป็นจริง จะมี "ปริญญา" (เหวินผิง) ของฐานะแห่งผลได้หรือ ผู้บำเพ็ญจึงต้องเอาจริงต่อ "การบ้าน" (กงเค่อ) เป็นประจำ   ใฝ่ความก้าวหน้า ให้ทุกวิชาแตกฉานประมาณเสมอกัน ให้ทุกวิชาถึงขั้นสอบผ่าน มิฉะนั้น อาจบิดเบนได้ง่าย จนถึงกับพลาดผิด ทำลายตนเองไป ผลการเรียนที่สำคัญที่สุดของผู้บำเพ็ญคือ "คุณสมบัติ" ของความเป็นคน วิถีอนุตตรธรรมไร้รูปลักษณ์ อาศัยคนสำแดงให้ ผู้บำเพ็ญหาก"คุณสมบัติ" ความเป็นคน "สูงส่ง" ย่อมเป็นที่ยอมรับและเคารพยกย่องจากคนทั้งหลาย ผู้บำเพ็ญหากรู้จักตนเอง ก็จะเป็นตัวแทนของธรรมะ ความดีเลวของบุคคล จะเป็นผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อรูปลักษณ์ของธรรมะ หากทุกคนจะแก้ไขนิสัยความเคยชินที่ไม่ดีของตนได้อย่างแท้จริง  ลดละอารมณ์  อ่อนน้อมมีอัธยาศัยไมตรี  น้อมจิตน้อมใจ  กตัญญูต่อพ่อแม่ จงรักภักดีต่อบ้านเมือง ปรองดองน้องพี่ คบหาเพื่อนฝูงโดยมโนธรรมสัตย์จริง  ยากจนไม่สอพลอ  ร่ำรวยไม่อวดเบ่งข่มเหงเขา ปลูกฝังวิสัยคุณสมบัติความเป็นคนอันสูงส่ง ย่อมจะทำให้ใคร ๆ เคารพยอมรับเอาเป็นตัวอย่าง เช่นนี้แล้ว การจะฉุดช่วยผู้คนตักเตือนชาวโลก ก็ย่อมจะสมความปรารถนา กุศลยุญ คุณธรรม เป็นปัจจัยสำคัญของการบรรลุอริยะเมธา ดังมีคำกล่าวว่า "เบื้องบนไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปราศจากกุศลผลบุญ ในโลกปราศจากอริยบุคคลที่ขาดมโนธรรม ความจงรักภักดี" (เทียนชั่งอู๋ฝูกงเต๋อจือเสิน  เหยินเจียนอู๋ปู้จงเชี่ยวจือเซิ่ง) ตั้งแต่โบราณมาจนถึงบัดนี้ อริยเมธีล้วนแต่ทำเพื่อกุศลประโยชน์ ก่อเกิดคุณธรรมแก่ผู้คนเป็นที่ตั้ง คุณธรรมก่อเกิดแล้ว เวรกรรมย่อมมลายหายสูญได้ เวรกรรมไม่หยุดยั้ง จะนำมาซึ่งมารทดสอบ จึงมีคำกล่าวว่า "แม้ไม่มีที่สุดแห่งคุณธรรม ที่สุดแห่งภาวะธรรมจะไม่มั่นคง" (โก่วอู๋จื้อเต๋อ  จื้อเต้าปู้หนิงเอียน) ผู้บำเพ็ญจะหวังให้ได้ดีเฉพาะตนได้อย่างไร จะไม่เผื่อแผ่ความดีแก่ชาวโลกได้หรือ ฉะนั้น หมั่นให้ทานทั้งสาม สะสมทรายก่อให้เป็นเจดีย์ จะห่วงอะไรกับกุศลผลบุญไม่สมบูรณ์ แรงไฟสุขุม เป็นความปราณีตหลักในการกล่อมเกลี้ยงจิตญาณ หากแม้นคุณสมบัติของความเป็นคน ตั้งอยู่ในกรอบดีงามกุศลผลบุญมีมาก แต่ทว่าขาดแรงไฟสุขุม เจอเรื่องราวอะไร จะเลิกร้างกลางคันได้ง่าย เมื่อแรงไฟสุขุมไม่พอ ความหนักแน่นสุขุมก็จะไม่พอ จะทนต่อการทดสอบไปไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ถูกเขาใส่ไคล้ทำลายชื่อเสียง ก็จะเกิดโทสะ ถูกลาภสักการะยั่วใจ ก็จะเกิดความโลภ  ถูกภาระการงานทางโลกผูกพัน ก็จะเกิดความเบื่อหน่ายเหล่านี้เป็นต้น เมื่อประสบพบอยู่กับสภาพใด ก็จะเกิดภาวะจิตนั้น ๆ จะค่อย ๆ ถูกสิ่งแวดล้อมจูงไป จะออกห่างจากธรรมะวิถีทางตรง จนถึงกับกุศลผลบุญที่ทำไว้หมดสิ้นไป... สะท้อนใจ เสียดายนัก บัดนี้ วิถีอนุตตรธรรมปรกโปรดลงสู่ครัวเรือน สามัญชนล้วนได้สดับธรรม เป็นโอกาสดียิ่ง อาจารย์มิอาจทนเห็นผู้บำเพ็ญได้รับวิถีธรรมแล้ว ละทิ้งวิถีธรรม จึงเฝ้าย้ำเตือน ให้ฉุดช่วยตน ฉุดช่วยคน ฉุดช่วยผู้มีบุญสัมพันธ์ เข้าสู่วิถีธรรมทางตรงอีกทั้งภาวนา ขอพระอนุตตรฯฟ้าเบื้องบน โปรดคุ้มครองผู้บำเพ็ญ จงมีใจธรรมอันแข็งแกร่งสว่างมั่นคง เช่นนี้แล้ว การปรกโปรดทั่วโลกก็จะมีหวัง กำหนดการเก็บงานสมบูรณ์ผล ย่อมรอคอยความเป็นไปได้ เอาล่ะ เวลาที่ญาณจะไปท่องเที่ยวได้มาถึงแล้ว ขอรบกวนจอมทัพพิทักษ์ตำหนักธรรม ช่วยรักษาตำหนักธรรมเข้มงวด อู้เอวี๋ยนสงบใจ เตรียมติดตามอาจารย์ออกเดินทาง

อู้เอวี๋ยน    :  กราบเรียนถามพระอาจารย์ คืนนี้ไม่ทราบจะไปท่องเที่ยวต่อที่ไหนขอรับ

พระอาจารย์   :  คืนนี้จะไปท่องเที่ยว ตำหนักจิ่งหยาง กับ ตำหนักหวังหยาง ในสังกัด ด่านเหอหยาง เวลากระชั้น รับหลับตาใน ตามอาจารย์ขึ้นพาหนะเมฆไป ตำหนักจิ่งหยาง ถึงแล้ว อู้เอวี๋ยนเปิดนันย์ตาในได้

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                              ตอนที่ 11

                            ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย

อู้เอวี๋ยน   : 
เบื้องหน้ามีตำหนักหนึ่ง สูงตระหง่านหรูหราสง่างามเยี่ยงเดียวกับ ตำหนักตันหยาง ทีเดียว หน้าตำหนักแขวนป้ายจารึกอักษรสามตัวว่า ตำหนักจิ่งหยาง (จิ่งหยางเตี้ยน) ซ้ายขวามีกลอนคู่บทยาวความว่า

"ไต่สวนมิมีที่ไม่เที่ยงตรง
โทษหนักจับส่งลงให้แก้ไข
ตกต่ำโยนลงทะเลบาปเวรไป
ยากพ้นตาข่ายกำหนดกฏเกณฑ์
สอบถามความว่าละเมิดทางธรรม
ให้ถอนหนี้กรรมสำนึกรู้เห็น
คัดเลือกคนบุญบำเพ็ญดีเด่น
อย่าได้หลอกเล่นตัวบทกฏการ"

(เสิ่นอู๋ปู๋เจิ้งจ้งสิงตั้นไก่เปี่ยนติวเนี่ยไห่หนันเถาฝาอวั่ง
เวิ่นฉี่เอวี้ยกงป๋าชูหุยโถวลู่ฉวี่กงถิงซิวซวีลวี่กุย)

พระอาจารย์   : 
ทิพยมาตย์ประจำเวรรอคอยอยู่หน้าพระตำหนักแล้ว อู้เอวี๋ยนตามมาคารวะ

ทิพยมาตย์   :  กราบเฝ้าพุทธบรรพจารย์เทียนหยานทรงอริยสำราญ  ยินดีที่นำพาอู้เอวี๋ยนผู้บำเพ็ญในโลกสนองพระบัญชามา พระบรรพจารย์รอรับอยู่ข้างในแล้ว

อู้เอวี๋ยน   :  กราบคารวะท่านทิพยมาตย์

ทิพยมาตย์   :  มิต้องมากจริยา เชิญตามข้าพเจ้าเข้าสู่ตำหนักใน กล่าวจบ ทั้งสามพากันดำเนินผ่านประตูกลมสามชั้นจนถึงตำหนักในพระบรรพจารย์เทียนหลี (เทียนหลีจู่ซือ) ได้ออกมาต้อนรับถึงนอกตำหนัก

พระบรรพจารย์   : 
คืนนี้ยินดีที่ได้พบ พระบรรพจารย์ กับศิษย์ท่า่นฉายรัศมีมงคล มาถึงนี่ทำให้ข้างฝาหญ้าคา (อุปมาสถานที่ต่ำต้อย) เรืองรองโดยแท้ รีบเชิญเข้าข้างใน กล่าวจบ พร้อมกันดำเนินเข้าสู่ตำหนักใน ก้าวขึ้นบันไดหยกประทับนั่งตามควรแก่ตำแหน่ง จากนั้น โปรดบัญชาฝ่ายพิธีการ ทูนน้ำชาเซียนออกถวายการต้อนรับ

พระอาจารย์   :  ไมตรีจากพระบรรพจารย์ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณเป็นเบื้องต้น ณ ที่นี้ ที่มารบกวนก็เพื่อทำหนังสือบันทึกการท่องเที่ยว ซึ่งยังจะต้องขออภัย อู้เอวี๋ยน รีบเข้ามากราบพระบาท

อู้เอวี๋ยน   :  ศิษย์น้อมกราบพระบรรพจารย์ทรงอริยสำราญ หวังว่าพระบรรพจารย์จะโปรดชี้แนะ

พระบรรพจารย์   :  มิต้องจริยา มิต้องจริยา เชิญรีบลุกขึ้น โลกทุกวันนี้ ท่าทีหกหัวกลับ ใจคนเสียหายล้มเหลว ทิ้งคุณธรรม ตระบัดสัตย์ เลยละมโนธรรมสำนึก เหมือนกันไปหมด พระอนุตตรธรรมมารดา ทรงสะท้อนพระทัยในหญิงชายญาณเดิมที่หลงวัตถุลืมตน จึงโปรดบัญชาให้สร้างหนังสือท่องพุทธาลัยเป็นการเจาะจง แท้จริงแล้วคือ ให้เหมาะแก่วาระ  กำหนดกาล  สถานที่  และเหมาะแก่ผู้คน  มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการแก้ไข  พลิกผันมิจฉาบรรยากาศของธรรมจักรวาล ฟื้นฟูแก่นแท้ดีงามแต่โบราณ  กล่อมเกลาใจคน การประพันธ์หนังสือท่องเที่ยวนี้ ภาระหนักดั่งภูเขาไท่ซันมิใช่สร้างได้ง่าย ๆ เช่นหนังสืออื่น ๆ  โชคดีที่พระบรรพจารย์เทียนหยานท่าน สูงด้วยจักษุปัญญาเฉพาะ หนุนส่งศิษย์อู้เอวี๋ยนให้แบกรับหน้าที่นี้ เป็นบุคคลที่เลือกสรรได้เป็นอย่างดีที่สุดทีเดียว หนังสือนี้ เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของธรรมกาลยุคขาวอย่างยิ่งยวด หวังว่าอู้เอวี๋ยนจะทุ่มเทสุดกำลังกายใจ ติดตามพระอาจารย์ของท่าน สะสมข้อมูล สภาพความเป็นจริงของทั้งสามโลกอย่างกว้างขวาง พร้อมด้วยหลักสัจจอนุตตรธรรม เพื่อให้เป็นแสงแห่งปัญญาแก่ธรรมจักรวาล

อู้เอวี๋ยน   :  พระบรรพจารย์ได้โปรดประทานพระโอวาทล้ำค่า ทำให้ศิษย์สำนึกลึกซึ้ง ต่อไปจะยิ่งพยายาม มิให้พระบรรพจารย์ต้องผิดพระกรุณาหวังไว้

พระอาจารย์   :  เชิญพระบรรพจารย์โปรดชี้แนะสภาพตำหนักของท่านพอสมควร เพื่อการบันทึกในหนังสือท่องเที่ยวด้วย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                           ตอนที่ 11

                            ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย

พระบรรพจารย์   :  ตำหนักจิ่งหยาง แห่งนี้
ทำหน้าที่สอบถามลายละเอียดของกุศลกรรมภายนอกที่ญาณเดิมได้ปฏิบัติเมื่อมีชีวิตอยู่โดยเฉพาะ สถานตรวจสอบในสังกัดมี ด่านเล็กน้ำแข็งหนาว (หันปิงเสี่ยวกวน) เก้าห้อง ห้องขอขมากรรมสำนึก (ชั่นหุ่ยซื่อ) หนึ่งห้อง ยังมี หอแดงต่างหากอีกหนึ่งหอ ชื่อว่าหอรอบุญ (อิ๋งซั่นเกอ) เจาะจงจัดการต้อนรับญาณเดิมที่สร้างสมกุศลบุญคุณธรรมภายนอกไว้สมบูรณ์ให้ได้พักผ่อน ขณะมีชีวิต ผู้ที่ปิดบังธรรมะไว้ไม่ให้ปรากฏ  เคลือบแฝงเสแสร้ง  ไขว่คว้าชื่อเสียง  แย่งชิงบุญกุศล  ให้ทานโดยยึดหมาย  ไม่สร้างบุญทานภายนอก  ขัดขวางเขาสร้างบุญ เหล่านี้จะถูกตัดสินเข้ารับการอบรมในห้องขอขมากรรมสำนึก ตามความผิดมากน้อยที่ทำมา หรือตัดสินให้เข้ารับโทษในห้องด่านเล็กน้ำแข็งหนาว วิถีอนุตตรธรรม หากผู้ใดไร้คุณธรรมอันสูงส่ง ธรรมะจะมิอาจรวมตัวมั่นคงอยู่กับผู้นั้นได้  ผู้บำเพ็ญหากทำเพื่อให้เกิด "ความดีเฉพาะตน" (ตู๋ซั่นฉีเซิน)ไม่ก่อเกิดกุศลประโยชน์เพื่อผู้อื่นแม้แต่น้อย หรือหากหมั่นสร้างบุญทานทั้งสาม แต่คิดเล็กคิดน้อยถ้วนถี่  ยึดหมายในกุศลบุญคุณความดี ไม่เข้าใจความหมายของวิถีอนุตตรธรรมอันสว่างใส  การให้ทานโดยไม่มีอะไรต้องยึดหมาย ถ้าไม่เข้าใจ ก็ยากที่จะผ่านพ้นการสอบจากด่านนี้ไปได้  จะต้องให้การอบรมศึกษาอีกต่อไป

พระอาจารย์   : 
ขอบพระคุณพระบรรพจารย์ที่โปรดชี้แนะโดยละเอียด คืนนี้ เราสนองพระบัญชา มาเยือนตำหนักของท่านกับตำหนักหวังหยางเตี้ยน ด้วยเวลาไม่มาก ใคร่จะขอไปชมด่านเล็กน้ำแข็งหนาว ตามสภาพที่เป็นจริง ขอพระบรรพจารย์ได้โปรดให้ความสะดวก

พระบรรพจารย์   :  ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าจะมอบหมายให้เทวมาตย์นำไป ขอเชิญพระอาจารย์กับศิษย์ตามสบาย จากนั้น พระอาจารย์กับอู้เอวี๋ยน น้อมลาพระบรรพจารย์ติดตามเทวมาตย์ผู้นำทางออกจากตำหนักใน มุ่งไปทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ไกลนัก ก็เห็นกำแพงด่าน มีแสงไฟลอดออกมารำไร เสียงโอดโอยร้องไห้ได้ยินชัดเจน น่าเวทนา เหนือกำแพงมีป้ายแสดงว่า ด่านเล็กน้ำแข็งหนาว (หันปิงเสี่ยวกวน) สองข้างประตูมีกลอนคู่ความว่า
"ลงโทษแตกต่างบ้างเบาบ้างหนัก
กฏเกณฑ์เคร่งครัดทำเองบำเพ็ญเอง"

(สิงเฉิงโหย่วเปี๋ยฮั่วชิงฮั่วจัง เจี้ยลวี่เซินเอี๋ยนจื้อจั้วจื้อซิว)


ทั้งสามดำเนินเข้าภายในด่าน คารวะทักทายกับเทวกรผู้รักษาการณ์ด่านตามสมควร

พระอาจารย์   :  ขอท่านได้จัดญาณเดิมมารับการสัมภาษณ์เพื่อบันทึกเรื่องจริงไว้เตือนใจชาวโลกด้วย  ดังนั้นแล้ว เทวกรก็ได้นำญาณเดิมที่ถูกแช่จมอยู่ในน้ำแข็งขึ้นมาสามวิญญาณ ทุกคนซีดขาวไม่มีสีเลือดเลย เนื้อตัวแข็งทื่อ  เทวกรจัดการกรอกน้ำทิพย์ใส่ปากให้เพื่อละลายความเย็นแข็ง ทั้งสามวิญญาณสั่นสะท้านอย่างแรง แล้วจึงค่อย ๆ เป็นปกติ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                          ตอนที่ 11

                            ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย

เทวกร   : 
วิญญาณทั้งหมดโปรดฟัง พระพุทธบรรพจารย์เทียนหยานของพวกท่านกับอู้เอวี๋ยน ได้รับสนองอนุตตรพระบัญชามาจดบันทึกเหตุการณ์ เพื่อประพันธ์หนังสือ "ท่องพุทธาลัย" ท่านถามต้องตอบ อย่าได้ปิดบังอำพราง

เหล่าวิญญาณ   :  กราบคารวะพระอาจารย์ คารวะอู้เอวี๋ยนญาติธรรม

พระอาจารย์   :  ยืนขึ้นเถิด อู้เอวี๋ยนสัมภาษณ์ได้แล้ว

อู้เอวี๋ยน   :  เรียนถามญาติธรรมสูงอายุท่านนี้ หน้าตาท่านดูเป็นคนใจดี ได้บำเพ็ญมีอายุมาก แต่เหตุใดจึงต้องถถูกลงโทษอยู่ในด่านนี้

ผู้สูงอายุ   :  เฮ้อ ! ผู้น้อยโชคดี เมื่อมีชีวิตได้นรับโปรดชี้ทางสว่างจากพระอาจารย์ แต่วันนี้กลับต้องได้พบพระอาจารย์อีกครั้งในสภาพที่น่าสมเพชอย่างนี้ ทั้งดีใจ เสียใจ ละอายใจเหลือเกิน

พระอาจารย์   :  ศิษย์เมธาอย่าได้โศกเศร้าเลย เดิมทีเจ้าเป็นอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม ที่ได้รับพระโองการฟ้า เมื่อมีชีวิตอยู่ มิได้ละเลยต่อหน้าที่ ออกบุกเบิกแพร่ธรรมไปทั่ว ส่งเสริมพุทธบุตรนับไม่ถ้วนให้ได้ขึ้นธรรมนาวายุคขาว อบุญกุศลภายนอกเพียบพร้อม น่าจะผ่านการตรวจสอบจากตำหนักนี้ไปได้ แต่เหตุไฉนจึงต้องถูกตัดสินให้รับโทษอยู่ในด่านเล็กน้ำแข็งหนาว นี่ เจ้ารู้ตัวไหม?.

ผู้สูงอายุ   :  ศิษย์สำคัญว่าอาศัยการปฏิบัติที่ผ่านมาชั่วชีวิตเพื่อวิถีธรรมด้วยแก่นใจ จะต้องตรงขึ้นรับฐานะบนพุทธาลัยแน่นอน มิรู้เลยว่าพอละสังขาร เห็นแต่เจ้าที่มารอรับ อีกทั้งบอกว่า แม้ศิษย์จะบำเพ็ญจริง ปฏิบัติงานธรรม มีบุญกุศลจริง แต่ก็มีความผิด จึงถูกนำไปรับการตรวจสอบยืนยันยังด่านต่าง ๆ  เมื่อมาตรวจสอบยืนยันที่ตำหนักนี้ จึงรู้ว่าที่ศิษย์ปฏิบัติงานธรรมในโลกนั้น ดึงดันกำหนดจำนวนเงินทำบุญเมื่อรับธรรมะ ถ้าไม่ครบหรือไม่ได้มอบ ล้วนไม่ให้เข้าพิธี ทำให้พุทธบุตรมากมายพลาดจากการได้รับธรรมะ จึงถูกตัดสินจากพระบรรพจารย์ ให้เข้าห้องขอขมากรรม ไปสามสิบวัน แต่ศิษย์ยังคงถือว่าเป็นพุทธระเบียบที่กำหนดไว้ มิได้สำนึกผิดเลย ครบสามสิบวันแล้ว พระบรรพจารย์เห็นศิษย์ไม่สำนึก จึงตัดสินให้เข้ารับการกำราบในด่านนี้ ลงโทษให้หนาวเข้ากระดูกจนผิวเนื้อกล้ามเนื้อแตกแยก ให้เจ็บปวดถึงที่สุด

พระอาจารย์   :  การนี้ทำให้เห็นได้ว่า ศิษย์ยังไม่เข้าใจหลักเมตตากรุณาธรรม สนองรับบุญวาระเพื่อปรกโปรดชาวโลก แม้กุศลภายนอกของศิษย์จะเพียบพร้อม แต่ก็ผิดต่อหลักการปฏิบัติงานธรรมอย่างยิ่งโดยไม่รู้ตัว เหตุปัจจัยที่ส่งผลให้ได้รับวิถีธรรม คือ เหตุต้นผลกรรมดีจากอดีตชาติกับจิตศรัทธาขณะขอรับวิถีธรรม ส่วนเงินทำบุญจะมากน้อย มีหรือไม่นั้น ไม่ใช่เงื่อนไขตายตัว หวังว่าศิษย์ทั้งหลายจะไม่ยึดพุทธรุะเบียบตายตัว จนไม่รู้การตอบสนองอย่างเหมาะสม เบื้องบนโปรดประทานเวลานาทีอย่างเดียวกันแก่คนในโลกวันละยี่สิบสี่ชั่วโมง อากาศที่ใช้หายใจ แสงอาทิตย์ก็เช่นเดียวกัน ไม่ได้ให้อย่างแตกต่างเพราะผู้นั้นจน - รวย  บาป-บุญ  เหตุไฉนชาวโลก กลับไม่อาจเอาอย่างเมตตากรุณาธรรมเยี่ยงพระทัยฟ้า ให้เที่ยงตรงยุติธรรม สนองรับเหตุปัจจัยนั้น หวังศิษย์ทั้งหลายจะใช้ "ใจ" สัมผัสรู้

ผู้สูงอายุ   :  กราบขอบพระคุณพระอาจารย์โปรดชี้ให้เห็น บัดนี้ศิษย์ได้รู้ความผิดของตนแล้ว โทษสมควรตายจริง ๆ ด้วยความผิดพลาดของศิษย์ ทำให้ชาวโลกเข้าใจไขว้เขวกีดกันความเจริญก้าวหน้าของธรรมกิจเป็นที่สุด ต้องได้รับโทษสถานนี้ ก็เป็นการสมควรแล้ว

อู้เอวี๋ยน   : ท่านจอมปราชญ์ขงจื่อโปรดไว้ว่า "รู้ผิดต้องแก้ไข กุศลใหญ่ไม่มีใครเกิน" (จือกั้วปี้ไก่ ซั่นม่อต้าเอวี๋ยน) เตี่ยนฉวนซือท่านนี้มีปัญญาล้ำเลิศ ยินดีที่ได้รู้ผิดตัวอย่างจริงของท่าน จะปลุกคนดีที่ปฏิบัติงานธรรมให้ลบล้างทัศนคติผิด ๆได้ เพื่อคุณประโยชน์ในการปฏิรูปธรรมจักรวาล ญาติธรรมหญิงท่านนี้  ขอเชิญ  ท่านจะเล่าเหตุแห่งการต้องโทษสถานนี้ของท่านให้ฟังได้ไหม เพื่อบันทึกในบทท่องเที่ยวไว้เตือนใจคน

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                           ตอนที่ 11

                            ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย

ญาณเดิมหญิง   :  ผู้น้อยเป็นเจ้าตำหนักพระ
ขณะมีชีวิต รับผิดชอบต่องานธรรมเต็มที่ ยินดีอุทิศ เสียสละ สร้างกุศลบุญ สร้างคุณความดีไม่มีน้อยหน้าใคร นำพาใคร ๆ มากมาย สั่งสมบุญกุศลไว้ไม่น้อย การนี้ พระบรรพจารย์ก้ได้ชมเชยผู้น้อยต่อหน้ามาแล้ว แต่เนื่องด้วยผู้น้อยฟังบัญชาของท่านผู้ใหญ่ผิดไป ต่อผู้ที่มีสถานภาพไม่ขาวสะอาด  มีอาชีพชั้นต่ำ  ร่างกายไม่สมประกอบ  เคยถูกจองจำ  อาชีพฆ่าสัตว์  เหล่านี้ ไม่เพียงไม่ให้ความสงสารเห็นใจ หรือกระตุ้นเตือนนำพา เพื่อให้ละบาป บำเพ็ญบุญ ให้เขาหันมาหาสัมมาอาชีพ แต่กลับกีดกันผลักไส ไม่ยอมให้ได้รับวิถีธรรม ผิดต่อความเสมอภาค ผิดต่อจิตเมตตากรุณาดดยแท้ บุญกุศลของผู้น้อย จึงด่างพร้อยด้วยเหตุนี้ ฉะนั้น พระบรรพจารย์จึงตัดสินให้ผู้น้อยเข้าห้องขอขมากรรมสำนึก (ชั่นหุ่ยซื่อ) ขอขมากรรมสำนึกเสียสามสิบวัน แต่จะอย่างไร ผู้น้อยก็ยังเห็นว่า ทุกอย่างทำตามบัญชาของท่านผู้ใหญ่ ไม่ยอมรับผิด รับโทษครบสามสิบวันแล้ว พระบรรพจารย์เห็นผู้น้อยไม่มีท่าทีสำนึกแก้ไขเลย จึงตัดสินให้มารับโทษที่ด่านนี้ บัดนี้ครบสิบวัน ทุกวันเหน็บหนาวเข้ากระดูก ทุกข์ทรมานสุดขั้วหัวใจจนเกินกว่าจะบรรยาย ขณะนี้ศิษย์รู้สำนึกผิดแล้ว กราบขอพระอาจารย์ได้โปรดยกโทษ หาทางช่วยศิษย์ด้วย

พระอาจารย์   :  ศิษย์เมธีเจ้านี้ "ฉลาดชั่วชีวิต แต่สิ้นคิดชั่วขณะ" จริง ๆ (ชงหมิงอี๋ซื่อ หมงต่งอี้สือ) เป็นผู้ปฏิบัติบำเพ็ญ พึงมีจิตเมตตากรุณาเป็นที่ตั้ง มีวิธีที่ชอบด้วยอุบาย นำพาใคร ๆ ด้วยความเสมอภาค สอนให้ตามจริตวิสัยของผู้นั้น จะทิฐิยึดมั่นปะทะทางตันอย่างนี้ได้อย่างไร เรื่องราวของพรหมราชเจ้าเสวียนเทียนซั่งตี้ ที่วางมีดฆ่าหมู บรรลุเป็นพระพุทธะทันทีนั้น น่าจะเป็นข้ออธิบายได้เป็นอย่างดีที่สุด ไม่ว่าความประพฤติ  ชาติตระกูล หรืออาชีพ จะต่ำต้อยเพียงไร เพียงให้มีใจใฝ่ดีจะบำเพ็ญธรรม เบื้องบนมีหรือจะไม่ยินดี แต่กลับจะปฏิเสธ หลักสำคัญของการปฏิบัติงานธรรม คือการรู้จักใช้หลักสัจธรรมให้รายรอบไม่ตายตัว มิฉะนั้นจะเป็นทิฐิยึดมั่นตื้นตันไป ดัดไม้คดงอให้ตรงเกินพอดีไป จะเกิดผลเสียตามมา หลักสำคัญของการบำเพ็ญ คือทำตามหลักสัจธรรม ไม่ใช่อิงผู้ใด สถานที่ใด มิฉะนั้น จะเป็นที่เข้าใจผิดของใครได้โดยไม่รู้ตัว อาจารย์หวังว่า ตัวอย่างนี้จะเป็นจุดชี้ให้ชาวโลกรู้ตื่นได้ ปฏิบัติงานธรรม อย่าปฏิบัติธรรมะตายตัว (สื่อเต้า)ผู้อยู่ระดับบนจะหลงผิดและทำให้ผู้อื่นหลงผิดไปด้วยไม่ได้เป้นอันขาด ผู้อยู่ระดับล่าง ก้จะตาบอดทำตามไปไม่ได้ เป็นการเอาโทษผิดใส่ตัวโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ไม่ว่าเรื่องอะไร ล้วนจะต้องใช้สติปัญญาพิจารณาตัดสินใจ ถูกหลักจึงทำ ผิดหลักให้หยุด อย่าได้ทำตามกันไปอย่างลวกง่ายอีกเลย

ญาณเดิมหญิง   :  กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ ได้โปรดพร่ำสอนชี้ทาง ศิษย์เข้าใจความผิดที่ผ่านมาแล้ว

อู้เอวี๋ยน   :  ขอแสดงความยินดีต่อญาติธรรมเจ้าตำหนักพระท่านนี้ ที่ได้กวาดเมฆหมอกออกจากญาณทวาร เชื่อว่าภาวะจิตของท่านขณะนี้ จะทำให้ขึ้นสู่พุทธาลัย ได้ธรรมฐานะในเวลาอันใกล้เป็นแน่  ญาติธรรมท่านนี้ ขอเชิญ เหนือศรีษะของท่าน เห็นรัศมีธรรมงามจำรัส จะต้องได้เป็นผู้บำเพ็ญเป็นแน่ เหตุใดจึงต้องมารับโทษที่นี่

ญาติธรรม   :  เฮ้อ !พูดแล้วเรื่องยาว ถูกลงโทษอยู่ที่นี่มายี่สิบวันแล้ว วันนี้พระอาจารย์มาโปรดที่นี่ รู้สึกสำนึกเสียใจ อับอายเหลือเกิน เมื่อมีชีวิตผู้น้อยเป็น "เจี่ยงซือ" (อาจารย์บรรยายธรรม) ประกาศสัจธรรมกล่อมเกลาผู้คน ตักเตือนคนหลงมากมายให้รู้ตื่น ก้าวขึ้นทางธรรม ได้สร้า่งสมบุญกุศลไว้ไม่น้อย มีความไม่สมบูรณ์ก็คือ ในชีวิตผู้น้อย มีทัศนคติผิดคิดว่า วิถีแห่งธรรมกาลยุคขาวจึงจะเป็นทางธรรมสูงสุด ไม่มีอะไรเหนือกว่า เป็นนาวากอบกู้โลกตามบุญวาระ จึงวางพระพุทธะอริยเจ้าแห่งธรรมกาลยุคแดงไว้ในระดับรองว่าเป็นอดีตไปแล้ว เหตุนี้ ทุกครั้งที่ผู้น้อยบรรยายธรรม จึงถ่ายทอดความเข้าใจผิดนี้ให้ผู้ฟังโดยไม่ได้เจตนา เป็นผลต่อความคิดของญาติธรรมที่ไม่มีความรู้ ก่อเกิดการโต้แย้ง ดังคำกล่าวที่ว่า "แม้ฉันจะไม่ได้ฆ่าป๋อเหยิน แต่ป๋อเหยินต้องตายเพราะฉัน" (หว่อซุยปู้ซาป๋อเหยิน ป๋อเหยินอินหว่อเอ๋อสื่อ) ทั้งนี้ ล้วนเป็นเพราะจิตใจที่มีการแบ่งแยก มีทิฐิยึดมั่นถือมั่น ด้วยใจไม่เสมอภาคของฉัน เป็นอุปสรรคเจริญธรรมของญาติธรรม เป็นบาปมหันต์โดยแท้ ธรรมราชเจ้าตรวจสอบสมุดบันทึกหลักฐานแล้วว่า โชคดีที่ผู้น้อยสร้างกุศลกรรมภานนอกไว้มาก มิฉะนั้น คงต้องถูกจับส่งลงนรกไปนานแล้ว

อู้เอวี๋ยน   :  เจี่ยงซือที่ประกาศสัจธรรมในโลก ควรจะเอาตัวอย่างนี้เป็นกระจกเงาจริง ๆ ระวังจากการกระทำจึงจะไม่ให้ร้ายแก่ตนและคนอื่น

พระอาจารย์   :  ศิษย์เมธี บุญกุศลจากวิทยาธรรมเป็นทานของเจ้ายิ่งใหญ่มาก แต่ด้วยเหตุที่ไม่สอดคล้องต่อหลักสัจธรรมทั้งหมด วันนี้จึงต้องได้รับผลเช่นนี้  เนื่องด้วยหลักสัจธรรมนั้น เป็นเอกะนิรันดร์กาลอันมิเปลี่ยนผัน ไม่แบ่งชั้นแตกต่าง มิเปลี่ยนไปอันเนื่องด้วยการผันแปรแห่งกาลเวลาและห้วงเวหา และไม่สิ้นความคงอยู่อันเนื่องจากผู้คนดูแคลน หลักสัจธรรมที่พุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทรงประกาศ กับหลักสัจธรรมที่อาจารย์เรานี้ถ่ายทอดให้ ก็มิได้แตกต่างกันแม้แต่น้อย พุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้วนเป็นตัวแทนของหลักสัจธรรม ล้วนเป็นที่สุดแห่งความสูงส่งเลิศล้ำ ควรหรือที่จะปรามาสแบ่งแยก อีกทั้งองค์บูชาในสถานธรรมยุคขาวบัดนี้ ก็ล้วนแต่พุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากธรรมกาลยุคแดงหรือยุคเขียวทั้งนั้น หากคิดเช่นนั้น จะไม่ขัดแย้งในตนเองดอกหรือ อาจารย์เรานี้ ย้ำสอนมวลศิษย์ทุกแห่งหน ให้มุ่งหมายหลักสัจธรรมเป็นสรณะ อย่าได้ถูกเหตุผลผิดเพี้ยนที่เหมือนใช่แต่มิใช่มอมเมา บำเพ็ญธรรมบำเพ็ญใจ หวังให้มวลศิษย์ย้อนมองส่องตนทุกเวลา ใช้ปัญญาทำลายความโง่หลงให้สลาย ก็จะได้ความหลุดพ้นอย่างแท้จริง ยิ่งหวังว่า"เจี่ยงซือ"ผู้ประกาศสัจธรรมแทนฟ้า จะเติมเต็มความรู้ความเข้าใจ ศึกษาหลักสัจธรรม อย่าเอาความหลงไปนำทางใคร ซึ่งจะได้รับโทษตอบสนอง เสียใจก็สายเกินการ

ญาติธรรม   :  กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ โปรดอบรมชี้ทาง ศิษย์โง่กระจ่างแล้วขอรับ

พระอาจารย์   :  คืนนี้เวลามีจำกัด การสัมภาษณ์ดูงานในด่านเล็กน้ำแข็ง (หันปิงเสี่ยวกวน) จะยุติลงเพียงนี้ ขอบคุณเทวมาตย์ทุกท่านที่เอื้ออำนวย เราอาจารย์ศิษย์ จะท่องตำหนักหวังหยาง (หวังหยางเตี้ยน) ต่อไป ช่วยกราบทูลพระบรรพจารย์ อีกทั้งฝากขอบพระคุณ

อู้เอวี๋ยน   :  ศิษย์กราบลาเทวมาตย์ทุกพระองค์

เทวมาตย์   :  น้อมส่งพระบรรพพุทธา ขอส่งอู้เอวี๋ยนผู้บำเพ็ญ

พระอาจารย์   :  อู้เอวี๋ยนรีบหลับตาใน ติดตามอาจารย์ขึ้นพาหนะเมฆ ขึ้นได้...ตำหนักหวังหยาง (หวังหยางเตี้ยน) ถึงแล้ว อู้เอวี๋ยนเปิดนัยน์ตาในได้

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                            ตอนที่ 11

                            ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย

อู้เอวี๋ยน   : 
ตำหนักนี้ทัศนียภาพคล้ายกับตำหนักจิ่งหยางมีป้ายเหนือตำหนัก จารึกอักษรว่า "หวังหยางเตี้ยน"มีกลอนคู่ข้างประตูซ้ายขวาว่า
 "พลังเที่ยงธรรมตอกย้ำญาณใส
ขัดเกลาจนได้งดงามบำเพ็ญ
ลบรอยด่างพร้อยโลกีย์จิตเว้น
แกะสลักเคี่ยวเข็ญเกลากลมสมบูรณ์"

(เจิ้งชี่กงชงเอ๋อจู๋ฉุนหลิงชีเจิ่งปาซิงเฉิงเมี่ยวเหม่ย
ฝันฉือฝูจิ้นจี้อู๋สูอี้เชียนเตียวอวั้นจั้วฮว่ากวงเอวี๋ยน)


        พระตำหนักแห่งนี้สวยงามสงบ  ขื่อคาน  เพดาน  เสา สลักลวดลายมังกรหงส์ บรรยายกาศหอมกรุ่นละมุนมงคล บ่งบอกว่าเบิกม่านธรรมกาลยุคสามงามสดใส ขณะที่อู้เอวี๋ยนกำลังเพลินชมอยู่นั้น พลันได้ยินเสียงดนตรีสวรรค์บรรเลงรอบ พระบรรพจารย์เทียนซิน (เทียนซินจู่ซือ) เจ้าตำหนักกับผู้ติดตามเจ็ดแปดองค์ ทรงดำเนินออกมาต้อนรับจากตำหนักในด้วยความยินดี ทักทายกับพระอาจารย์แล้ว พากันเข้าสู่ตำหนักใน พระตำหนักใน สวยงามวิเศษยิ่งด้วยบรรยายกาศโบราณ เทวกร ต่างสาละวนอยู่กับงานบนโต๊ะเอกสาร  ภายในตำหนัก มีป้ายใหญ่แขวนสูงจารึกอีกษรว่า"วินัยใหญ่ยิ่ง" (ต้าไจเอว๋ยเจ๋อ)ซ้ายขวามีอักษรจารึกว่า

@ เทียนมิ่งยิ่งใหญ่ใดปาน        บุญบารเหนือเกล้าเกริกไกร
คำนึกบุตรน้อยทั้งหลาย            ผ่อนภันไพร่ฟ้าบริบาล

(เทียนมิ่งหวงหวง                  ตี้เต๋อตั้งตั้ง
เนี่ยนจูชื่อจื่อ                        เจ๋อจี๋เซี่ยหมิน)

@ จึงได้เบิกยามยุคขาว        นำเจ้าแพร่ธรรมรวมศูนย์
เก็บงานวิญญาสมบูรณ์         เกื้อกูลลูกหลานนานเนา

(อวิ้นฉี่ไป๋หยาง                  หงเจ้าเจินจง
เอวี๋ยนโซวเอวี๋ยนหลิง          ฮุ่ยสีเสวียนเสวียน)

@ สามโลกร่วมได้ไตรรัตน์        ห้าศาสน์กลับคืนรากเหง้า
ทุกศาสน์กลับร่วมรวมเหล่า        สามโลกกรอบเข้าตรงทาง

(ซันซันเหออี                        อู่เจี้ยวกุยเกิน
ผิงโซวถถ่งเซ่อ                     ซันเฉาติ้งเก๋อ)

@ หลงฮว๋างานฟ้าสมโภช        อริยะสามหกร้อยพัน
เมธีสี่หมื่นแปดนั้น                  หมื่นแปดยาวนานยืนยง

(หลงฮว๋าน่าซิ่ง                     ซันลิ่วซื่อปา
อย่งเตี้ยนหวงเต้า                   อวั้นปาอู๋เจียง)

อริยพจน์อีกบทหนึ่งจารึกว่า

@ ยุคสามบำเพ็ญสัจจะ        อมตะจิตญาณใสส่ง
ปรับเปลี่ยนก่อเกิดเดิมคง      ผลบุญจรรโลงชาวธรรม

(ซันฉีซิวเจิน                     กู้ซื่อหมิงมิ่ง
จั้นฮว่าเถียวเอวี๋ยน              กงไจ้ฉวินหลุน)

@ ซันกัง อู่ฉัง ทางธรรม        วิถีฉุดนำคนแท้
อนุตตรธรรมนำแน่                 เกื้อกุลบุญแผ่ให้ทำ

(ซันกังอู่ฉัง                        เค่อจิ้นเหยินเต้า
เทียนเต้าสุยเฉิง                  เจวี๋ยกงจิ่นเชา)

@ สงเคราะห์เหมาะหมายให้คุณ        ประชาได้หนุนอุ่นหนำ
ฟูฟื้นคินวัฒน์ใสงาม                        ฟ้าโปรดฤกษ์ยามวิชญาฯ

(จี้ซื่อโหย่วหมิน                           เจ้าซิ่งเสียนเฮิง
ฟู่กู่ฉุนเฟิง                                   เฉิงเทียนเหวินอวิ้น)

หมายเหตุ  :

ซันกัง  หมายถึง
การปกครองในสามระดับ ได้แก่
1. การปกครองระหว่างผู้ใหญ่กับผู้น้อย (จวิน - เฉิน)
2. การปกครองระหว่างพ่อกับลูก (ฟู่ - จื่อ)
3. การปกครองระหว่างสามีกับภรรยา (ฟู - ฟู่)

อู่ฉัง หมายถึงเบญจธรรมสามัญในจิตใจของคนทั่วไป ได้แก่
1. เมตตาธรรม   (เหยิน)
2. มโนธรรมสำนึก   (อี้)
3. จริยธรรม   (หลี่)
4. ปัญญาธรรม   (จื้อ)
5. สัตยธรรม   ซิ่น)

@ คุมใจใสด้วยคุณธรรม        จริยงดงามเอื้อหนา
หมั่นสู้กุศลแผ่พา                 กลมใสวิญญาเรืองรอง

(เค่อหมิงจวิ้นเต๋อ                ฝูตู๋ฉีเซิน
ฉินไจ้เจวี๋ยซั่น                    ซิ่งกวงเอวี๋ยนหมิง)

พระบรรพจารย์   :  ขอเชิญบรรพพุทธาอาจารย์ - ศิษย์  ประทับและเชิญนั่ง  ฝ่ายจริยพิธีถวายผลไม้  ถวายน้ำชา  คืนนี้ มิใช่ง่ายที่ท่านได้มาเยือน ข้าพเจ้าตั้งใจเต็มที่ ช่วยงานบันทึกแม้เพียงน้อยนิด     

Tags: