collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ร้อยขันติ : คำนำ  (อ่าน 57701 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   ร้อยขันติ 

           สามสิบเจ็ดขันติ  :  กตัญญูบำเพ็ญกุศลชื่อก้องกังวาน

       มีอยู่วันหนึ่ง  กงอี้กลับมาจากข้างนอกเห็นสีหน้ามารดาอมทุกข์  กงอี้รีบคุกเข่าลงแล้วกราบเรียนถามว่า มารดาสีหน้าหม่นมองด้วยเหตุอันใดหรือ มารดากล่าวว่า ข้าเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ ลำบากหาเงินทอง ตอนนี้เจ้าก็ฟุ่มเฟือยทำกุศล เกรงว่าภายหน้าเจ้าจะยากจน กงอี้กราบเรียนถามว่า มารดาสั่งสอนลูกให้รักถนอมเงินทองเป็นการสั่งสอนที่ดี แต่มารดาสอนลูกให้ทำการกุศลเป็นวิถีทางที่ดีงาม ลูกทำไมจะไม่รู้จักมารดาว่าเมื่อก่อนสะสมเงินลำบาก มาบัดนี้ลูกนำเงินที่มารดาสู้สั่งสมด้วยน้ำพักน้ำแรงมาสร้างกุศล   ด้วยเกรงว่าเมื่อมารดาเมื่ออายุมาก ใช้จ่ายก็ไม่หมด การที่วุ่นอยู่กับใช้เงินสร้างกุศล  ก็ เพื่อที่จะเพิ่มอายุมารดาเพื่อไม่ให้แก่เฒ่า ลูกยอมที่จะยากจนโดยไม่ขอกล่าวโทษ  ขอมารดาโปรดวางใจอย่าได้ทุกข์เลย ฟ้าหรือจะไม่ปกป้องลูกที่ดี กลับจำทำให้ยากจนมีไฉน เมื่อมารดาเห็นลูกจริงใจสร้างกุศล จึงกล่าวว่า การต่อว่ากงอี้เพื่อทดสอบว่ากงอี้ได้เปลี่ยนใจหรือไม่ กงอี้มักจะหลั่งน้ำตาเตือนมารดาว่า ถึงแม้ลูกตายก็ไม่เปลี่ยนใจทำกุศล ต่อมาความเป็นผู้ยอมมารดาของกงอี้ระบือไปไกล ความกตัญญูของกงอี้มีชื่อก้องกังวานไกล นี่คือการถูกทัดทานสร้างกุศลก็ไม่ถือโกรธ เป็นขันติที่ 37  ต่อมามีผู้แต่งกลอนให้

พระคุณมารดายิ่งใหญ่สุดพรรณา        ดุจมหาสมุทรบุตรตอบแทน
ด้วยการสร้างกุศลตามแบบแผน          ไม่ผันแปรแสนซาบซึ้งถ้วนสมบูรณ์   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                  ร้อยขันติ 

           สามสิบแปดขันติ  :  ตักเตือนให้พี่น้องปรองดองกัน

        วันหนึ่งกงอี้อยู่บ้านไม่มีธุระ ก็ให้มีนายเอี้ยชิงง้วน เพื่อนบ้านทางทิศตะวันตก มาหากงอี้บอกว่าจะไปฟ้องร้องที่อำเภอ กล่าวคือ บิดาของชิงง้วนได้เสียไปแล้ว เขามีพี่น้องทั้งหมด 6 คน  ชิงง้วนเป็นคนโต นิสัยแบบซื่อสัตย์สมถะ หนังสือศัพท์รู้บ้าง พวกน้อง ๆ ต้องการแบ่งมรดกด้วยบังคับขู่เข็ญชิงง้วน ซึ่งก็มีสมบัติเพียงเล็กน้อย น้องคนรองถึงกับลงไม้ลงมือตีพี่ชาย จึงมาบอกกับกงอี้จะฟ้องร้องเอาความ  กงอี้ก็ตักเตือนไม่ให้ฟ้องร้องเอาความา ว่ากับชิงง้วนว่า เธอก็เป็นคนเคยร่ำเรียนหนังสือมาเป็นผู้เข้าหลักธรรมดี หากฟ้องร้องแย่งมรดกกัน นายอำเภอก็จะกล่าวหาว่าพี่ไม่เป็นพี่ น้องไม่เป็นน้อง วิวาทขาดจริยธรรม ถึงแม้จะเสมอตัวก็ได้ชื่อไม่ดี  สู้อดทนอดกลั้นเป็นดีที่สุด คุณธรรมซาบซึ้งบรรพชน ยอมเป็นผู้มีความเจริญรุ่งเรือง ชิงง้วนกล่าวว่ามันอดกลั้นได้ยากจริง ๆ  กงอี้ก็ว่า ถ้างั้นก็เอาแอกกรรมใส่เสีย ที่จะให้เป็นเพลงอดกลั้นบทหนึ่งจะมอบให้ เพื่อเอาไปท่องจำว่า  เพลงอดกลั้น ๆ อดทน ๆ จึงจะไม่เกิดคลื่นลม อดทนสักครู่ เคราะห์ภัยไม่มากราย ไม่อดทนความโกรธเล็กน้อยเกิดหลุมบ่อ พ่อลูกไม่อดกลั้นบ้านแตกสาแหรกขาด พี่น้องไม่อดกลั้นยุยงใส่ร้ายกัน ผัวเมียไม่อดกลั้นบ้านรุ่งเรืองยาก เพื่อนฝูงไม่อดกลั้นทะเลาะออกอาวุธ ระบายอารมณ์ไม่ต้องแตกแยก เพียงแต่สงบปากใจให้อภัย เจอะเรื่องถกเถียงขว้างลงหม้อ ไว้ต้มให้ย่อยสลายห้ามสุา โรคทั้งหมดขจัดได้เริ่มจากอดทน ภัยทั้งหลายต้องไม่โกรธ เพลงอดกลั้น จำให้มั่น เอาอักษรอดทนมาเป็นอนุมาน  อักษรอดทนมีมีดบนอักษรใจบนใจมีมีดเป็นอาวุธ ใจฟุ้งซ่านเคลื่อนไหวไม่ระวัง มึดตัดลงขาดสองท่อน เจ็บปานไหน เพิ่มอักษรอดทนบนฐานใจ อดทนไว้ภายหลังเสวยตำแหน่งสูง ดับยากไร้ให้ชื่อเพิ่มน้ำ ดับหมดไร้ควัน หมดคลื่นลมขอเตือนผู้คนต้องอดกลั้น บุญวาสนามาเองมารถอยหนี เจริญรุ่งเรืองอดกลั้น เหล่าปราชญ์อริยเทพ พุทธรับได้หมด หนึ่งใจหนึ่งบุญชีวิตสงบสุข ไฉนต้องออกบวชสวดพุทโธ อยากหลุดพ้นโลกีย์เสวยสุข ให้ร้องเพลงอดกลั้นของข้าเอย  พูดจบชิงง้วนก็ไหว้กงอี้แล้วกล่าวว่า ได้ยินคำปิยะวาจา ทำให้ปัญญาเปิด ข้าจะไม่ถือสาเอาความกับน้อง แล้วก็จดเอาเพลงกลับบ้านไป ว่างอยู่กับบ้านก็เอามาร้อง ต่อมาก็กลายเป็นผู้ร่ำรวย มีบุตรคนหนึ่งรับราชการมียศสูง นี่เพราะกงอี้ทำให้พี่น้องปรองดองกัน เป็นขันติที่ 38 ต่อมามีผู้แต่งกลอนให้ว่า

เก็บงำอารมณ์คุณสมบัติรวมใจฟ้า             เหมือนหลงฟ้าตะวันช่วยชี้ทางส่อง
กระดาษเขียนเพลงกลายเป็นเพื่อนพ้อง      บ้านปรองดองเหมือนดนตรีเสนาะ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                    ร้อยขันติ   

              สามสิบเก้าขันติ : คิดใส่ร้ายกงอี้กลับทำร้ายตนเอง

        กล่าวคือกงอี้กับพระสงฆ์ที่วัดเล้งซัวรู้จักกันดี กงอี้มีเพื่อนคนหนึ่งคือนายเอี้ยอึง ปกติเขาก็รู้ดีว่ากงอี้เป็นผู้ผ่อนปรน จึงอยากให้กงอี้กับพระรูปนี้มีเรื่องกัน  นายเอี้ยอึงจึงไปขโมยรองเท้าข้างหนึ่งของพระมาวางไว้ที่หน้าบ้านของกงอี้  เพื่อหาสาเหตุเพศสัมพันธ์ใส่ร้ายกงอี้ พอดีกงอี้มาเห็นรองเท้าพระเข้า จึงเรียกฮูหยินมาถามว่า รองเท้านี้มาจากที่ไหน ฮูหยินตอบว่า ไม่รู้จักรองเท้านี้เลย อันธพาลที่ไหนคิดใส่ร้ายบ้านเรา กงอี้นั่งคิดอยู่นานจึงกล่าวว่า บ้านเราเรียบร้อยสะอาดจะมีเรื่องพรรณอย่างนี้ได้อย่างไร ข้าจำได้แล้วรองเท้านี้เป็นของพระสงฆ์ นี่คงเป็นคนอื่นที่ต้องการใส่ร้าย ต้องการให้ข้าสงสัยจนเกืดภัยขึ้น ข้าคบกับพระสงฆ์ให้เป็นเพื่อน และพระรูปนี้ก็ไม่ใช่ผู้มักมากในกาม จึงให้เรารองเท้าไปเผาทิ้งเสีย เพื่อปกปิดไม่ให้คนอื่นเห็น แล้วก็สอนคนในบ้านว่า ต่อจากนี้ไปอย่าได้คบกับพระสงฆ์พรือนักพรต ยิ่งเป็นชาวบ้านที่ดี จากนี้ไปให้ตัดสิ้นแน่นอน จะไม่คบกับพระสงฆ์เด็ดขาด เวลาผ่านไปหลายวัน นายเอี้ยอึงไม่ได้ข่าวคราวเลย จึงคิดจะไปขโมยจีวรพระสงฆ์เพื่อมาใส่ความให้กงอี้ แต่ฟ้าไม่เป็นใจเขาถูกพระจับได้จนกลายเป็นเรื่อง พระสงฆ์นำนายเอี้ยอึงไปส่งทางการสอบสวน เขาถูกจับขังคุก ต่อมาบ้านก็แตกสลายคนล้มตายไป นี่ก็เพราะนายเอี้ยอึงจิตใจไม่ดีงามคิดใสร้ายผู้อื่น การณ์กลับทำร้ายตนเอง นี่เพราะกงอี้รับความอัปยศไม่สนใจ เป็นขันติที่ 39 ต่อมาภายหลังคนจึงแต่งกลอนให้

คบเพื่อนรู้ว่าเป็นผู้ดีรอบ             ควรเตรียมพร้อมถูกแอบใส่ร้าย
กงอี้มีญาณวางแผนมากหลาย      น่าเลื่อมใสกงอี้แยบคายผ่อนปรนสูง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                ร้อยขันติ   

               สี่สิบขันติ  :  ได้บุตรงดอาหารสัตว์

         กล่าวคือกงอี้ได้บุตรคนหนึ่ง พวกบ่าวไพร่ก้ร้องบอกว่า นายหญิงได้กำเนิดคุณชายคนหนึ่ง ตามหลักต้องจัดงานเลี้ยงแขกเป็นการแสดงความยินดี กงอี้กล่าวว่า ไม่ได้ ชาวโลกเพิ่มมงคลด้วยการยินดี แต่ข้าเพิ่มมงคลด้วยความกังวล  กงอี้จึงว่า ลูกทรพีในโลกนี้มีมาก ลูกกตัญญูมีน้อย ข้าเองก็มีบุญน้อยนิด มีลูกก็ยังไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี จะไม่ให้กังวลหรือ บ่าวก็ว่าจะแก้ไขอย่างไร กงอี้ว่าพวกเธอเชื่อฟังคำโอวาทของข้า  ลูกที่เกิดให้ตั้งชื่อว่า ตงหยิ้ง (กลางการุณย์) แล้วอย่าทำโต๊ะเลี้ยงแขกเฉลิมฉลอง ไม่ให้ฆ่าสัตว์ ให้ใช้ไข่ไก่  หมายถึงไข่ที่ฟักไม่ได้ การอยู่เดือนของนายหญิงเจ้าไม่ให้เข้าห้องครัว หรือห้องโถง น้ำสกปรกที่ซักล้างเสื้อผ้า ให้เทลงในบ่ออุจจาระ เสื้อผ้านายหญิงไม่ให้ตากกลางแดด และก็ไม่ให้ใส่สีฉุดฉาด ไม่ให้ใส่รองเท้าลวดลายปักเลื่อมทองเลื่อมเงิน ของฟุ้งเฟ้อให้งดหมด เพราะกลัวเด็กน้อยจะถูกตัดบุญ พวกเธอจงทำตาม ในห้องมีคนงานที่อยู่มานานแซ่ฉินก็พูดแบบนี้เหมือนกัน พลางถอนใจพูดกับกงอี้ว่า นี่คือโอวาทที่ดีของนายท่าน คิดถึงบ้านของฉันเมื่อก่อนโน้น มีเงินทองนับหมื่นแสน เพราะกลัวเสียหน้าจึงสูญสิ้นไป เป็นเพราะให้กำเนิดพวกเราพี่น้องเรา 7 คน  ต้องจัดงานเลี้ยง 7 ครั้งสิ้นเปลืองสุราอาหาร ชีวิตสัตว์นับพันชีวิต แต่งงาน 7 คนก็ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นหมื่น ๆ ชีวิต ตั้งแต่เล็กจนโต ก็แต่งเสื้อผ้าสีฉูดฉาด สวมหมวกปักดิ้นลายทอง มือก็ยังถือผ้าพันคออย่างดี  สับเปลี่ยนทุก ๆ 4 ฤดู เพาะเห็นแก่หน้าตา ทุกคนต่างพูดกันว่าเป็นคุณชาย บ้านฉันไม่รู้จักบุญกุศลจึงใช้กันหมด พอเกิดภัยแล้ง 3 ปี  เก็บเกี่ยวไม่ได้ต้องนำเอาเสื้อผ้าของใช้ไปจำนำหมด กินใช้จนถล่มทลาย หนี้สินพะรุงพะรัง ในที่สุดสมบัติก็หมดไป คิดถึงตอนนี้ สำนึกผิดว่าเมื่อก่อนไม่รู้จักถนอมบุญ กินห่มเกินตัวทำลายจนบุญหมดสิ้น ยังมีเวรกรรมมากมาย วันนี้เมื่อมามองนายท่านปกครองบ้านมีวิธีการ มองทะลุความสุรุ่ยสุร่าย งดการฆ่าสัตว์ สร้างกุศล เป็นการปลูกบุญกุศล ถ้าตอนนั้นบิดาของข้าเป็นเช่นท่าน ไหนเลยพวกเราต้องออกมาหากินข้างนอก กงอี้พยักหน้าแล้วร้องคลอว่า เรื่องไม่เคยไม่รู้สึก  ข้ายังไม่ลำบากเตรียมไว้ก่อนปลอดภัย งดฆ่าสัตว์ งดงานเลี้ยงด้วยมีเมตตา ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยไม่ฉูดฉาด นายฉินก็ร้องเมตตาว่า เรื่องมาไม่ถึงก็ไม่รู้ลำบาก ด้วยข้าไม่รู้ลำบากจึงเอาแต่สุข งานเลี้ยงรักษาหน้า วันนี้จึงต้องกินน้อย ห่มน้อย กงอี้ฟังคำพูดของเธอและของข้าตอนนี้ก็คือรู้จักพอ เจ้าจงระมัดระวังทำงานให้ข้า ขอเพิ่มเงินเดือนให้เจ้า 2 พันอีแปะ ต่อมาเขาก็ฟื้นฟูจนสำเร็จ นี่คือกงอี้ปกครองบ้านช่วยเหลือผู้ยากไร้ เป็นขันติที่ 40 ต่อมาคนแต่งกลอนให้

ความการุณย์ซื่อสัตย์คนเขารู้             มิสู้รู้วิธีปลูกบุญไว้
ชักจูงดีร่วมก้าวถอยรู้ได้                   รักษาได้สำเร็จฟื้นฟูใหม่   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
             ร้อยขันติ   

        สี่สิบเอ็ดขันติ  :  เตือนลูกชาวนาให้มุ่งทางตรง

        มีอยู่วันหนึ่งกงอี้เดินทางไปที่หมู่บ้านข้างเคียงเพื่อทวงหนึ้ พบเห็นนักศึกษาคนหนึ่งหน้าตาดี กำลังเดินเล่นอยู่ในสำนักนางโลม กงอี้กวักมือเรียกเขามาหา แลเวถามชื่อแซ่ นักศึกษาตอบว่า กระผลแซ่เอี้ย ชื่อเพ็ก ฉายาเชี่ยวเซง กงอี้ถามว่าอาจารย์ของท่าน นักศึกษาตอบว่า ท่านแซ่ลี้ ชื่อกวงหยู  กงอี้ว่าทุกวันเรียนอะไรบ้าง นักศึกษาว่าสอนท่องโคลงกลอนบ้าง คัดอักษรบ้าง กงอี้ว่าสอนกตัญญูสูตรบ้างไหม เขาตอบว่ายังเลย  กงอี้ว่าถ้ายังไม่สอนจะรู้จักความดีความชั่วทางสองแพร่งได้อย่างไร นักศึกษาว่า ขอให้อาจารย์สั่งสอนด้วย อะไรคือความดีความชั่ว กงอี้ก็ร่ายยาวให้ฟังว่า อันความชั่วทั้งหลายเสพกามเป็นอันดับหนึ่งส่วนความดีทั้งมวลกตัญญูอยู่หน้า พลาดท่าเสพหญิงชาวบ้าน มีโทษกรรมท่วมฟ้า ร่ำรวยก็กลับกลายยากจนฟุ้งซ่านครอบงำจิตใจ โอวาทของพระเจ้าบุ้นเซียง เริ่มฝึกหัดควรอบคอบ ยังไม่ปฏิบัติระวังพลาด เมื่อปฏิบัติแล้วจิตต้องเคลื่อนเร็ว ชาวโลกควรพยายาม ให้หลีกห่างจากรูปมารผจญ มันลำบากตอนแรกต่อไปก้ดีเอง บนหัวมีฟ้าสีคราม ชาวบ้านคนไหนไม่ทำชั่ว แก้ไขได้เป็นปราชญ์อริยะ พบเห็นหญิงนึกว่าหญิงตาย มีหนอนซอนไชทั้งตัว หน้านวลเหมือนพี่สาวน้องสาว หน้าหยกตนให้หญิงมองเหมือนดอกไม้พิษควรระวังรูปน่ากลัวทำให้ฟั่นเฟือน รักษาตัวมีบูญใหญ่ตั้งมั่นเหมือนหินผา ใจสดใสเยือกเย็นฝึกเทพเซียนนอกพิภพ พูดจบนักศึกษาก็ยกมือไหว้ขอบคุณ แล้วสาบานว่าจะไม่เดินทางชั่วอีก ก็ออกจากบ้านนางโลมพร้อมกัน ไม่ทันคาดนางโลมก็ชี้หน้าด่ากงอี้ กงอี้ทำเป็นไม่ได้ยิน ต่อมานายเอี้ยเพ็กก็ปฏิบัติตัวเรียนหนังสือ แล้วเข้าไปสอบในเมืองหลวง สอบได้ เมื่อกลับมาบ้านก็รีบมาที่บ้านกงอี้ก่อนเพื่อขอบคุณที่ชี้แนะเมื่อครั้งก่อนโน้น จึงได้ดีในวันนี้ นี่คือกงอี้สงสารลูกชาวบ้าน เป็นขันติที่ 41 ต่อมาภายหลังคนแต่งกลอนให้ว่า

สงสารบุตรชาวนาไม่ให้ผิด        พร่ำสอนเหมือนจิตยายชี้ทางไป
ยอมรับการสอบกลับตัวใหม่       ชื่อติดกระดานไว้ระลึกคุณคน

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
              ร้อยขันติ   

        สี่สิบสองขันติ  :  ช่วยเหลือฉุกเฉิน เตือนให้เดินถูกทาง

        บ้านใกล้เรือนเคียงของกงอี้ มีบ้านหนึ่งแซ่ฮง ยากจนจนหมดที่พึ่งทั้งครอบครัวมีอยู่ ๕ ชีวิต   นายฮงมาหากงอี้ให้ไปที่บ้าน เมื่อกงอี้มาถึงที่บ้านนายฮงมีแต่ภรรยาออกมาต้อนรับ กงอี้จึงพูดว่า สามีเจ้าเชิญข้ามาแล้วทำไมไม่อยู่พบหน้า ภรรยานายฮงตอบว่า สามีหยิบขวดเหล้าแล้วเดินออกไป กงอี้ได้ฟังเช่นนั้นก็จะหันหลังกลับ ภรรยานายฮงรั้งมือให้อยุ่ แล้วพูดด้วยความพอใจว่า ทางบ้านต้องการให้อิฉันกับท่านพบปะกันตามลำพัง กงอี้โกรธมากจึงพูดว่า ต่ำทรามไร้มารยาท ภรรยานายฮงเห็นท่าไม่เหมาะ จึงคุกเข่าต่อหน้ากงอี้แล้วกล่าวว่า เพราะว่าบ้านอีฉันมีกันห้าปากไม่พอใช้จ่าย สามีก็ปรึกษาว่าจะเชิญท่านให้มาที่บ้านเพื่อให้อิฉันพลีกายรับใช้ แล้วขอยืมเงินสักสิบพันอีแปะเพื่อประทังชีวิต กงอี้จึงว่า เจ้าไม่ควรสร้างเรื่องเลวร้ายมาให้คนอื่น คนจนก็ต้องมีศักดิ์ศรี ถ้าไม่มีหิริโอตัปปะ คุณธรรมเสื่อมสูญ ขัดขืนหลักมนุษยธรรม ยามมีชีวิตอยู่ไม่เพียงต้องยากจนตลอดชีวิตแล้ว เมื่อตายไปยังมีบาปกรรมติดตัวอีกด้วย ถ้าเรื่องพูดออกไปก็ไม่ดี ลูกชายลูกสาวก็จะถูกเปรอะเปรื้อนไปทั้งชีวิต ทั้งเป็นการทำร้ายคนอื่นด้วย และย้อนกลับมาทำร้ายตนเอง ภรรยานายฮงกล่าวว่าท่านพูดมีเหตุผล จะทำอย่างไรในเมื่อสามีอิฉันยากจนไม่มีที่พึ่ง กงอี้ว่า สามีภรรยาต้องเป็นคนตรง อดออมดูแลครอบครัว อย่าได้มีใจข่มเหงคิดล่อลวงคนอื่นต้องเปลี่ยนแปลงความประพฤติใหม่ก็ยังมีโอกาสเจริญได้ ให้บอกสามีของเจ้าให้ไปหาข้าที่บ้าน ข้าจะเตรียมเงินสิบพันอีแปะให้หยิบยืมและให้ข้าวสารอีกหนึ่งกระสอบ ตอนนี้ราคาโคก็สูง เรียกสามีเจ้าให้เอาเงินไปซื้อโคจากที่ห่างไกลราคาถูก นำมาขายในเมืองก็จะมีกำไร ภรรยานายฮงก้มลงกราบแล้วพูดว่า ท่านผู้มีพระคุณใจมหากุศล ชั่วชีวิตนี้จะไม่ขอลืม ว่าแล้วกงอี้ก็กลับบ้าน คล้อยหลังนายฮงก็ตามมาถึงบ้านกงอี้ เมื่อพบหน้ากงอี้ก็ยอมรับว่าตนเองทำไม่ถูก เสร็จแล้วกงอี้ก้เอาเงินสิบพันอีแปะกับข้าวหนึ่งกระสอบมอบให้ไปทำมาหากิน บอกให้ไปหาซื้อโคมาขายจำได้กำไรงาม นายฮงดีใจมาก นำเงินและข้าวกลับไป และเตรียมตัวออกไปหาซื้อโคมาขาย เขาซื้อขายอยู่เดือนกว่า ได้กำไรมาถึงแปดพันกว่าอีแปะ จึงรีบนำเงินมาชดใช้หนี้คืนกงอี้จนหมด ขอบคุณกงอี้ผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ ชาตินี้จะไม่มีวันลืม แล้วก็ลากลับไป ด้วยมีเงินทุนมาค้าขายต่อมาก็ร่ำรวยขึ้น ลูกหลานสำนึกคุณไม่สิ้น นี่ก็คือการช่วยเหลือของกงอี้ เป็นขันติที่ ๔๒ ต่อมาคนก็แต่งกลอนให้

ช่วยเหลือคนคับขันเนื้อนาบุญ             ถูกหลอกฉุนพูดเหตุผลขาดธรรม
สร้างธรรมชีวิตตามชะตากรรม            เสียงทองนำส่องบุญทะลุฟ้า

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
              ร้อยขันติ   

        สี่สิบสามขันติ  :  ถูกใส่ความ  โทษกล่าวหาถึงตัว

        ที่วัดใกล้ ๆบ้านกงอี้ พระเจ้าศักดิ์สิทธิ์มาก ทุกปีจะเซ่นไหว้กันตรุษศาทรเป็นประจำ ยามแล้งขอฝนยามน้ำมากก็ขอให้หยุด ขอทีไรก็สมหวังทุกที กงอี้เป็นมรรคกทายกดูแลอยู่ในกรรมการวัดมีคนหนึ่งแซ่จิว แต่ละครั้งที่มีงานวัดก็มักคอยระแวงว่าจะมีรั่วไหล จึงใส่ความกับชาวบ้าน ตนอยากได้อำนาจมรรคทายก กงอี้ก็ได้ข่าวนี้มาเหมือนกัน ก็คิดจะยกตำแหน่งนี้ให้ แต่พอตกกลางคืนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มาเข้าฝันพูดว่า การที่ข้าสามารถเสวยสุขได้ยืนยาวเช่นปัจจุบันนี้ ก็เป็นเพราะความซื่อตรงของเจ้า เพราะว่าเจ้าควบคุมดูแลด้วยความตั้งใจศรัทธา ถ้าหากว่าคนอื่นจะมาแย่งตำแหน่งมรรคทายก ก็เพื่อต้องการอาศัยความศักดิ์สิทธิ์ของข้าเพื่อที่จะแอบเบียดบังเงินทอง ขอให้เจ้าจงอดทนเอาไว้ ผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างข้าจะมีอิทธิฤทธิ์ให้เห็น ขอให้คอยดู พอกงอี้ตื่นขึ้นมาก็ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีความขลัง ด้วยใจที่มีญาณทัศนะดี ศรัทธาไม่หลอกลวง จึงนำเหตุผลมาถกกับนายจิวรอบหนึ่ง แล้วสาบานต่อหน้าประชาชนว่าจะรับใช้เป็นมรรคทายกต่อไป หลังจากเกิดเรื่องนี้มา 3 เดือน เป็นวันที่ 20 เดือนห้า นายจิวก็จมน้ำตายขณะที่จะข้ามฝั่ง ต้นธารของสายนั้นก็เริ่มต้นมาจากวัด กงอี้ก็เลยพูดกับชาวบ้านว่า การทำลายความสำเร็จของคนอื่นนั้นไม่ได้กล่วหาใส่ความเขาโทษนั้นจะมาถึงตัว นี่เป็นเพราะกงอี้เป็นคนซื่อตรง เป็นขันติที่ 43  ต่อมาคนก็แต่งกลอนให้

เจ้ากับคนร่วมกันพิสูจน์             บริสุทธิ์ใจสิงศักดิ์สิทธิ์ก็ขลัง
ใส่ร้ายเขาไม่มีอะไรสมหวัง        ให้คนเชื่อฟังเห็นกรรมสนอง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
              ร้อยขันติ 

          สี่สิบห้าขันติ  :  เตือนพี่น้องปรองดองไม่ให้แบ่งแยก

        กงอี้มีเพื่อนสนิทแซ่เฮ้ง สองคนพี่น้องต้องแบ่งแยกครอบครัว ทั้งสองเห็นพ้องที่จะให้กงอี้เป็นประจักษ์พยาน กงอี้ก็เตือนพี่น้องทั้งสองว่า ใต้ฟ้านี้ไม่มีพ่อแม่ที่ไม่ดี สิ่งที่มียากยิ่งคือพี่น้อง การแยกครอบครัวแม้เป็นเรื่องปกติ แต่ก็สูญเสียความคาดหวังของพ่อแม่ สิ่งที่ชาวโลกอยากได้ก็คือความร่ำรวยและความเป็นผู้ดี  แต่ก็ไม่รู้หลักธรรมของความมั่งมีและศักดิ์ศรีว่า  ยิ่งใหญ่ทำไมหรือ มิใช่ว่าธรรมแห่งฟ้าจะไม่สามารถถึงความมั่งมี มิใช่ว่าธรรมแห่งฟ้าจะไม่สามารถถึงความมีศักดิ์ศรี ผู้ที่คล้อยตามหลักธรรมแห่งฟ้า ต้องเป็นผู้ละความเห็นแก่ตัว ให้มีความสมบูรณ์ในความดี การมอง การฟัง การพูดและการกระทำ ล้วนให้อยู่ในความดี การปฏิบัติหลักธรรมฟ้าก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากต้องการสบายคิดแยกครอบครัวไม่สนใจทำความดี ไม่มีหลักธรรมแห่งฟ้า ใจหลงคิดฟุ้งซ่าน ไม่เพียงไม่ร่ำรวยแล้วก็ยังร่วงสู่ความยากจนอีกด้วย ถึงตอนนั้นเสียใจก็สาย ขอให้เธอพี่น้องอยู่ด้วยกันนาน ๆ อย่างน้อยก็ทำให้พ่อแม่สบายใจ และก็ไม่เป็นที่โจษขานของชาวบ้าน จักได้ชื่อว่าพี่น้องมีไมตรี ทั้งยังใช้สอนประชาชนได้อีกด้วย พี่น้องตระกูลเฮ้ง ฟังแล้วก็คิดได้จึงกราบขอบคุณกงอี้ไม่กล้าที่จะพูดแบ่งแยกอีก นี่คือกงอี้สอนคนให้ปรองดองกัน เป็นขันติที่ 45 ต่อมาคนแต่งกลอนให้

คำสอนสมบูรณ์ด้วยหลักธรรมฟ้า             ฟ้าหรรษาให้ร่ำรวยมีศักดิ์ศรี
ตักเตือนคนกตัญญูผูกไมตรี                  รักอารีย์เกียรติยศเลื่องระบือ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                ร้อยขันติ   

             สี่สิบหกขันติ   :  เตือนผู้มีการศึกษาเลิกเล่นการพนัน

        กล่าวคือนางช้า ภรรยาของนายกังเซงได้มาหากงอี้ บอกว่าสามีชอบเล่นการพนัน เมื่อวานกลับจากบ่อนเสียพนัน บอกว่าจะเอาเสื้อผ้าไปจำนำ ดิฉันไม่ยอมก็จะเอามีดมาไล่ฟัน ดิฉันทนไม่ได้จึงมาหาท่านให้ช่วยสั่งสอนสามีให้เชื่อฟังด้วยเถอะ จะได้กลับตัวเป็นคนดี ดิฉันจะไม่ลืมพระคุณเลยตลอดชีวิต กงอี้ว่า สามีเธอเป็นผู้มีการศึกษา ทำไมจึงไม่เข้าใจเหตุผล นางช้าตอบว่า ดิฉันเตือนเขาก็ถูกทุบตี ไม่รู้จะไปหาใคร กงอี้ถามว่า คราวนี้ก็ไม่รู้หมดไปเท่าไร นางช้าตอบว่า หนึ่งพันเก้าร้อยอีแปะ กงอี้ว่าข้ามีงานรัดตัว ยังไม่มีเวลาไปเตือนสามีเจ้า ข้าจะให้เธอยืมเงินไปสองพันอีแปะและจดหมายฉบับหนึ่ง ให้เอาจดหมายพร้อมเงินให้กับสามีเธอ ก็คิดว่าจะรู้สำนึกและแก้ไขได้  นางช้ากล่าวว่า ดิฉันจะไม่เอาเงินเพราะกลัวจะไม่มีใช้ให้ ท่านใจกว้างเหลือเกิน กงอี้ว่า เธอเอาไปก็แล้วกัน ถ้าหากสามีเธอไม่ยอมแก้ไขเอาเงินนี้ไปใช้ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องใส่ใจ นางช้ากราบขอบคุณแล้วกลับไป เห็นสามียังไม่หายโกรธ จึงเข้าไปพูดว่า ได้ไปที่บ้านของกงอี้ขอยืมเงินสองพันอีแปะ กงอี้ได้ถามถึงสาเหตุของการยืมเงิน ฉันจึงบอกว่ายืมไปใช้หนี้การพนัน กงอี้ยังใจกว้างเขียนจดหมายฝากมาหนึ่งฉบับ บอกให้ฉันเอาให้คุณ ว่าแล้วก็ส่งจดหมายให้ เปิดออกอ่านว่า

บริบทเรื่องผิดทางทำร้ายแรง             สอนคนสัมมามรรคไม่เฉเอียง
เที่ยวแตร่การพนันสองทางต่ำ            ขอคุณรีบหันเหความคิด
ชีวิตในโลกให้รู้จักเดินและหยุด          กราตอบสนองตามครรลอง
เสพลูกเมียเขาที่สุดทำร้ายตน           ลวงเขาเล่นพนันภัยถามหา
ฟ้าประทานโทษเสพกามและพนัน       เห็นชัดบุตรอกตัญญูเกี่ยวกัน
สูญสลายเงินทองอีกลูกเมีย              ชีวิตวอดวายถูกต้มตุ๋น
เลือกทางดีสู่สัจจะผู้มงคล                จัดระเบียบบ้านอุดมเป็นปราชญ์
ประสพเคราะห์แล้วรีบคิดกลับใจ         สู่ความดีไม่ต้องเกรงเบื้องบน
อ่านหนังสือปราชญ์เข้าใจหลักการ       ทำเหลวไหลเป็นหนี้คำครู
พ่อแม่เลี้ยงลูกลำบากเหลือหลาย        เพียงหวังให้เจริญรุ่งเรืองไกล
คนรุ่นหลังหากเสพและพนัน              เสียแรงสองผู้เฒ่าหมดจิตใจ
เตือนเธอรีบกลับใจเร็วไว                  สามารถคุ้มลูกหลานบุญกุศล

        เมื่อนายกังเซงอ่านจบ หน้าแดงกร่ำพูดกับภรรยาว่า ข้าขอสาบานว่าจะไม่เที่ยวและเล่นพนันอีก รอพรุ่งนี้เช้าจะเอาเงินไปคืนท่านจางกงอี้ขอบคุณที่ชี้แนะพระคุณใหญ่ จะทำความดีแก้ไขความไม่ดี ปรากฏว่าเขามีความเจริญประสพความสำเร็จ เป็นด้วยกงอี้เอาความสัจมาดัดคน เป็นขันติที่ 46 ต่อมาคนแต่งกลอนให้

เหมือนถูกกระบองตีคนตื่น        งดเที่ยวกลางคืนเหมือนเซียนให้โอสถ
ยิ่งงดเล่นการพนันชีวิตชื่นสด     แม้ผู้อ่านก็อดเป็นสุขไปด้วย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                   ร้อยขันติ   

               สี่สิบเจ็ดขันติ  :  เตือนให้ปล่อยสัตว์บุญตอบสนอง

        กงอี้แลเห็นลูกของลี้ควงจับลูกนกพิราบมา 5 ตัว   กงอี้จึงจึงบอกให้เด็กน้อยปล่อยลูกนกเสีย ลูกนกถูกปล่อยไปแต่แม่นกยังถูกจับอยู่ ด้วยนายลี้ควงเป็นคนชอบกินเนื้อนกพิราบ พอได้ยินลูกน้อยเล่าเรื่องกงอี้ให้ปล่อยนกไป หลังจากนายลี้ควงดื่มสุราเมาแล้วก็มาที่บ้านกงอี้ กงอี้กำลังดูลูกนกกินอาหารอยู่จึงตะโกนด่าว่ากงอี้ เขาต้องการให้กงอี้ชดใช้ลูกนกคืน ถ้าไม่ได้ก็จะตีกงอี้ กงอี้อดทนไม่ได้ก็เลยเข้าไปปลอบโยนลี้ควงว่า ลูกนกถูกคนอื่นเอาไปแล้วจะเอาคืนได้อย่างไร นายลี้ควงเพิ่มความโกรธไม่ยอม กงอี้จึงเอาเงินหนึ่งร้อยอีแปะให้ไปจึงยอมหยุด พอลี้ควงกลับถึงบ้านก็เอากระบองตีลูกน้อยใหญ่ จนลูกน้อยถลันออกไปข้างนอกหกล้มจนขาขวาหัก ต้องหามเข้ามาในบ้าน หลังจากหายเมาแล้วเขาเสียใจมาก ลูกน้อยเจ็บหนักไข้ขึ้นสูงจนเสียชีวิต  เรื่องผ่านไปตั้งนาน วันหนึ่งนายลี้ควงก็บังเอิญพบกับกงอี้จึงถามว่า ปล่อยนกมีดีอย่างไร กงอี้ว่าฟ้าดินมีมหาบุญให้ชีวิต ในบทสนองคุณว่าไม่ทำร้ายชีวิตสี่กำเนิด ในบทมหากุศลว่า อย่าเข้าป่าดักสัตว์นก เป็นคำตรัสของพระเจ้าบุ่นตี้ มนุษย์ควรน้อมรับก็จะไม่อายุสั้น นายลี้ควงว่า ตั้งแต่แรกถ้ารู้เช่นนี้ก็ไม่กล้าที่จะทำ ก็คงไม่ถูกกรรมตามสนอง ทำให้เจ็บปวดถึงตวามผิดครั้งก่อน ต่อไปก็ปล่อยสัตว์เพื่อหวังให้บุญตอบสนอง กงอี้ถูกลบหลู่ซาบซึ้งคน แก้ผิดทำถูก เป็นขันติที่ 47 ต่อมาเขาแต่งกลอนให้

ชีวิตแม้เล็กก็ควรปล่อย             คนรู้น้อยว่าฟ้าสำคัญต่อบุญ
กรรมตามสนองชัดฟ้าไม่กุด        ไม่สดุดเพียงเร็วหรือช้าเท่านั้น     

Tags: