อย่างเช่นที่ฝูซัน อาวุโสจำนวนหลายท่านที่ไปอาจจะมิได้สังเกตุเห็นคือ ใต้อ่างล้างมือที่อยู่หน้าทางเข้าจะต้องมีถังรองน้ำอยู่ทุกแห่ง น้ำล้างมือทั้งหมดที่ไหลรวมลงไปในถังนั้น ท่านเหล่าเฉียนเหรินจะนำไปรดต้นไม้ แปลงผัก หรือชำระสิ่งสกปรกในที่ต่าง ๆ โดยท่านจะไม่ยอมให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำแม้แต่หยดเดียว หรือแม้แต่สมุดเซ็นเยี่ยมท่านก็ต้องตัดเย็บจากกระดาษโฆษณาหรือกระดาเหลือทั้งสิ้นและไม่เพียงแค่นี้เท่านั้นเพราะที่ฝูซันแห่งนี้ อาวุโสและสามคุณ จะเดินเก็บหาฟืนไฟในสวนมาใช้สำหรับหุงต้มโดยไม่มีใครสั่ง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเพราะบารมีของท่านเหล่าเฉียนเหรินที่ได้ซึมซาบเข้าไปในจิตใจของอนุชนรุ่นหลังนั่นเอง ท่านเหล่าเฉียนเหรินเคยกล่าวว่า "ในอดีต ครั้นท่านซือจุนเห็นผักที่ลอยทิ้งในคูน้ำครำ ขอเพียงแต่ยังสามารถทำได้ ท่านจะต้องเก็บขึ้นมาทุกครั้ง ที่ทำเช่นนี้มิใช่ว่าจะถนอมสิ่งของ หากเป็นการถนอมบุญ อันเป็นใจจริงที่ไม่อยากให้เกิดการสิ้นเปลืองนั่นเอง"
ในพุทธวิหารเทียนฝอเยวี่ยนก็เช่นกัน ทุกครั้งที่ท่านมาถึงท่านจะต้องเข้าตรวจห้องครัว เพื่อสำรวจดูว่ามีการสื้นเปลืองข้างของเครื่องใช้หรือไม่ ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบงานครัวจะต้องระมัดระวังเรื่องนี้เสมอ ทั้งนี้เพราะไม่ต้องการให้ท่านกังวลใจนั่นเอง มีบางครั้ง เนื่องจากท่านเห็นว่าใช้น้ำมันสิ้นเปลืองจนเกินไป ท่านจึงลงมือผัดกับข้าวให้พวกเราชิมด้วยตัวท่านเอง ซึ่งแม้จะเป็นเพียงกับข้าวง่าย ๆ แต่ท่านก็สามารถปรุงเป็นอาหารเลิศรสและประหยัดได้โดยไม่ยาก พวกเราทุกคนต่างได้ประจักษ์แก่สายตา และก็ได้ชิมฝีมือการทำอาหารของท่านมาแล้ว ซึ่งทุกคนต่างรู้สึกยกย่องท่านเป็นอย่างยิ่งเพราะท่านไม่เพียงแต่มีความสามารถอันรอบด้านเท่านั้นหากท่านยังมีความละเอียดรอบคอบในทุกสิ่งอีกด้วย ดังนั้นตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะอยู่ที่ฝูซันก็ดีหรือที่เทียนเอวี๋ยนฝอเยวี่ยนก็ดี ขอเพียงเป็นสถานที่ที่ท่านอยู่ เราก็จะหาถังทิ้งเศษอาหารสักใบก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย และในโลกใบนี้ ณ กาลปัจจุบัน การที่เราจะพบคนปฏิบัติตนด้วยความประหยัดอย่างเคร่งครัด ไม่ละโมบในความสุขความสบาย มีความสมถะเรียบง่ายในการกินอยู่เยี่ยงท่านเหล่าเฉียนเหรินนั้น ก็หาใช่เรื่องง่ายดายไม่ ไม่เพียงด้านการกินการใช้เท่านั้น ในเรื่องของการสวมใส่ ท่านก็ยังมีความประหยัดไม่แพ้กัน