collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อควรรู้และเข้าใจการกินเจอย่างถูกต้อง  (อ่าน 16255 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                        พระโอวาทท่านมหาเทพหลันไฉ่เหอ  เมตตา        

อันว่าเภทภัยนั้นเกิดขึ้นจากมนุษย์                     และโรคภัยนั้นก็เข้าทางปาก
เหมือนกับสิ่งที่ท่านกินเข้าไป                          เป็นสิ่งที่สร้างโรคภัยให้
พวกผู้ชายก็อาจจะสูบบุหรี่เอาควันเข้าไป             กินเหล้าเข้าไป เป็นสิ่งดีหรือไม่ ( ไม่ดี )
อาหารที่กินเข้าไปท่านเคยสังเกตุหรือไม่ ( ไม่ )    กินตามความเคยชินและคุ้นเคย
แต่เวลาเรียกให้ท่านกินเจ                              ท่านบอกว่าต้องดูสารอาหารเสียก่อนใช่หรือเปล่า ( ใช่ )
ทุกวันนี้เคยดูไหมว่าสิ่งที่ตนเองกินเข้าไปมีสารอาหารหรือเปล่า  มิหนำซ้ำสิ่งที่พวกท่านกินเข้าไป
ยังสร้างสิ่งที่ไม่ดีอยู่ในร่างกายอีกมากมายด้วย       มนุษย์สมัยนี้จึงต้องคิดวิธีการล้างพิษขึ้นมา
                                      กินพิษเข้าไป จึงต้องคิดวิธีล้างพิษ

                            พระธรรมเทศนา ดร.โลกนาถภิกขุ

            ในเรื่องอาหารนี้ ภิกษุเลือกอะไรไม่ได้ แต่อุบาสกอุบาสิกาเลือกได้ทุกประการ    ถ้าภิกษุบริโภคเนื้อสัตว์ ก็เป็นกรรมที่ไม่ได้เจตนา ภิกษุเลือกชนิดอาหารที่รับประทานไม่ได้ เมื่อภิกษุบริโภคเนื้อสัตว์บ้าง ก็บริโภคด้วยความไม่เต็มใจยิ่ง แต่ถ้าอุบาสกอุบาสิกาเสพเนื้อสัตว์ โดยมากเป็นกรรมที่มีเจตนา เพราะอุบาสกอุบาสิกาเลือกชนิดอาหารได้ และมีเงินจะซื้ออาหาร อย่างไรก็ได้ตามใจชอบ ผัก หรือเนื้อสัตว์
            เพราะฉะนั้น เรื่องของภิกษุจึงต่างกับอุบาสกอุบาสิกา ภิกษุที่แท้จริงนั้นหวังจะบริโภคแต่ผัก เพราะฉะนั้น ฆราวาสผู้ประสงค์ที่จะได้บุญมาก ต้องถวายผักแก่ภิกษุ อย่าถวายเนื้อสัตว์เลย """ ผู้ที่ถวายเนื้อสัตว์แก่ภิกษุนั้น ได้บุญน้อยหรือไม่ได้เลยฆราวาสผู้ถวายอาหารที่เป็นผัก แก่ภิกษุจะได้บุญมากมายและบุคคลในชาตินี้ต้องทนทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ เพราะชาติก่อนถวายเนื้อสัตว์และสุราแก่พระเณร """
           การรับประทานเนื้อสัตว์นั้น ทำให้มีความสงสัย แม้เราจะไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ว่าเนื้อนั้นไม่ได้ทำสำหรับเราโดยเฉพาะก็ดีแต่เราก็สงสัยอยู่เสมอเนื้อสัตว์จะต้องทำเพื่อบริโภคเสมอไป ฉะนั้น """ การรับประทานเนื้อสัตว์ก็ต้องผิดศีล """ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้นทรงสั่งสอนให้รับประทานผักโดยทางอ้อม ทำไมไม่สอนโดยตรงเล่า ก็เพราะว่าหลักทุกหลักต้องมีข้อยกเว้น สมเด็จพระศาสดาทรงเป็นบรมมหาปราชญ์แห่งปราชญ์ทั้งหลาย
           ทำไมจึงมีชีวิตอยู่ในความสงสัยตลอดไปเล่า ?. """ เป็นผู้เสพแต่ผักเสียเถิด แล้วความสงสัยก็จะหมดสิ้นไป จะได้อยู่ในทางที่ปราศจากภัยจะได้มีชีวิตอยู่โดยจิตใจบริสุทธิ์ """
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16/09/2010, 06:31 โดย jariya1204 »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
         การงดเว้นเนื้อสัตว์ ซึ่งหมายถึง การไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ตรงกับคำในภาษษอังกฤษว่า เวเจแทเรี่ยมนิซึม ( Vegetarianism ) มีรากศัพท์มาจากภาษาลาติน คือ เวเจตัส ( Vegetus ) แปลว่า สมบูรณ์ดีพร้อมสดชื่นเบิกบาน หรือมีความหมายว่า ผู้ซึ่งละเว้นจากการนำสัตว์ทุกชนิดมาเป็นอาหาร ทั้งนี้อาจรวมหรือไม่รวมถึง ไข่ และผลิตภัณฑ์นม
     :) เพื่อนบางคนบอกว่า ถ้าคนเรากินเจจะอยู่ในสังคมลำบาก เพราะร้านขายอาหารเจมีน้อย ยากต่อการหากิน และเวลาออกสังคมก็ล้วนเป็นอาหารคาวทั้งนั้น ถ้าเช่นนั้น นักธุรกิจ ข้าราชการ พ่อครัว แม่ค้า เสมือน ครูบาร์อาจารย์  ตลอดจนนักเรียนก็สามารถกินได้เช่นคนปกติเหมือนกัน ขอเพียงปฏิญาณตนว่าเราจะไม่เบียดเบียนสัตว์ เราจะไม่กินเนื้อสัตว์ เวลาเข้าร้านอาหาร เราก็สั่งอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ก็ได้ ขอให้คนขายใส่ผัก ถั่วงอก เต้าหู้ แทนก็ได้ และใช้น้ำมันพืชเท่านั้น เวลาออกสังคม พวกเรากินเฉพาะผักหรือชาวบ้านมักเรียกกันว่า "" เจเขี่ย ๆ เนื้อออก "" ทำแบบนี้ก็ไม่มีปัญหาเรื่องอาหารกินนอกบ้าน
        นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งได้พบว่า ถ้าคนเรากินพืชผักจะมีอายุยืนยาวกว่า แข็งแรงกว่าคนที่กินเนื้อสัตว์ ทั้งนี้เพราะลำใส้ของคนมีความยาว 20 กว่าเมตร ซึ่งยาวกว่าลำใส้ของสัตว์กินเนื้อ เช่น สิงโต  ลำใส้ยาวจะทำให้เนื้อสัตว์ที่ตกค้างนาน ๆ เข้าจะเกิดการบูดและเกิดปฏฺกิริยาและเป็นเหตุที่เกิดโรคภัยไข้เจ็บ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16/09/2010, 06:32 โดย jariya1204 »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม

         อาหารธัญพืชผัก และผลไม้ เป็นอาหารธรรมชาติแท้จริงของมนุษย์ จากการศึกษาลักษณะทางกายวิภาค พฤติกรรมจิตสำนึกพื้นฐาน บ่งบอกว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทที่ต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารธัญพืช ผัก ผลไม้
        การบริโภคอาหารพืชผักจากธรรมชาติ ไม่เป็นการทำลายล้างผลาญ ตรงกันข้ามจะเป็นการช่วยส่งเสริมธรรมชาติ ให้แพร่ขยายทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ผักบางชนิด ยิ่งเก็บ ยิ่งเด็ด มารับประทานก็จะยิ่งแตกยอดอ่อนออกมาใหม่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ผลไม้ที่กินเนื้อแล้วยังคงมีเมล็ดให้นำไปปลูกต่อไป พืชบางอย่าง เช่น ฝรั่ง มะเขือ และแตงโม ในผลหนึ่ง ๆ จะมีเมล็ดอยู่มากมาย เมื่อมนุษย์และสัตว์ยิ่งกินมาก ก็ยิ่งแพร่พันธุ์ขยายออกไปมาก
                                                        :)  คุณค่าอาหารตามหลักโภชนาการ
        ในด้านโภชนาการได้รับการยืนยัยจากนักโภชนาการแล้วว่า อาหารธรรมชาติ หรืออาหารที่ปรุงโดยปราศจากเนื้อสัตว์ใด ๆ สามารถให้คุณประโยชน์ได้ครบทั้ง 4 หมู่  ตามหลักโภชนาการ
   :)   หมู่ที่ 1 .แป้ง และ น้ำตาล  ( คาร์โบไฮเดรท ) ได้จากข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลี เผือก มัน พืชเป็นหัวทุกชนิด อาหารแป้งและน้ำตาล จะให้พลังงานและความร้อน ทำให้มีพละกำลังในการปฏิบัติงานในชีวิตประจำวัน ถ้ารู้สึกอ่อนเพลีย ให้รับประทานผลไม้สด หรือน้ำผลไม้ น้ำอ้อย จะทำให้สดชื่น ควรรับประทานข้าวที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ  น้ำตาลที่ไม่ฟอกสี เช่นน้ำตาลทรายแดง น้ำตาลปีบ น้ำตาลมะพร้าว จะให้ประโยชน์ยิ่งกว่า
   :) หมู่ที่ 2 . โปรตีน  ได้จากถั่วต่าง ๆ  เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง พบว่าเป็นพืชที่มีโปรตีนสมบูรณ์ ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองอื่น ๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้) ฟองเต้าหู้ เต้าเจี้ยว ซีอิ้ว ฯลฯ เหล่านี้ล้วนให้คุณค่าทางอาหารเทียบเท่าเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ โปรตีนในอาหารธรรมช่ติยังได้จาก ข้าวกล้อง งา เห็ด เมล็ดในของพืช เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ลูกเกาลัด เป็นต้น
       โปรตีนช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่เจ็บป่วยง่าย อาหารเจ สามารถให้โปรตีนที่ร่างกายต้องการครบถ้วน โดยการนำพืชผัก 2-3 ชนิด มารับประทานรวมกันในแต่ละมื้อ เช่น ข้าว ถั่ว และผัก หรือ ข้าวและเต้าหู้ หรือข้าวโพดและถั่ว หรือนมขนมปัง ผัก เนยร่วมกับรับประทานงาเสริม ก็เป็นการเพียงพออย่างยิ่งแล้ว โปรตีนที่ได้จากพืชผักไม่เสี่ยงต่อพิษภัยและโรคต่าง ๆ อันจะเกิดจากการกินเนื้อสัตว์
   :) หมู่ที่ 3 . ไขมัน  ได้จากน้ำมันพืช นม เนย เมล็ดผลไม้ ถั่ว งา ผู้ที่ปรุงอาหารควรใช้น้ำมันพืชที่ทำจากถั่วเหลือง รำข้าว เพราะมีคุณประโยชน์สูง ไขมันนอกจากจะให้พลังงาน และความร้อนแก่ร่างกาย เช่นเดียวกับหมู่แป้งและน้ำตาลแล้วยังมีกรดต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ
  :) หมู่ที่ 4 . วิตามินและเกลือแร่ ได้จากผลไม้ ข้าว ถั่ว งา ผักสด ๆ แต่ละชนิด ให้วิตามินและเกลือแร่ไม่เหมือนกัน วิตามินและเกลือแร่สำคัญมาก เพราะช่วยในการสงเคราะห์สารเคมีต่าง ๆ ในร่างกายให้เป็นไปอย่างปกติ
  :) ประการสุดท้ายที่สำคัญ คือ น้ำ  ควรดื่มน้ำสะอาดที่บริสุทธิ์ อย่างน้อยให้ได้วันละ 8-10 แก้ว จะทำให้เซลล์ของร่างกายสดชื่น ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียได้ดี
  :) ที่สำคัญคือต้องมีผักทุกมื้อ ยิ่งเราใช้ชีวิตอยู่ในรถยนต์ อยู่ในห้องแอร์ ต้องกินผัดสลัดทุกมื้อ เพราะเราจะได้คลอโรฟิล ซึ่งจะให้เม็ดเลือดแดงใหญ่ขึ้น จะทำให้แบกออกซิเจนได้มากกว่าเดิม พอเราได้อ๊อกซี่ฮีโมโกลบินเยอะการกำจัดไขมันหลงเหลือต่าง ๆ เปลี่ยนรูปเป็นพลังงาน เราจะได้เยอะขึ้น ฉะนั้น คนเมืองตื่นเช้ามา ถ้าเราไม่กินผักสลัด ก็คือเอาผักมาปั่นแล้วดื่มไปเลย เร็วที่สุด


ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม

           :)  ใยอาหาร ไม่ใช่ สารอาหาร   แต่ก็มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของคนเรา  ใยอาหาร หมายถึง สารจากพืชที่เมื่อคนรับประทานแล้วน้ำย่อยไม่สามารถย่อยได้ สารที่จัดอยู่ในใยอาหาร ได้แก่ เซลลูโลส เพกติน และ ลิกนิน สารทั้ง 4 ชนิด ที่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของผนังเซลล์พืชทุกชนิด เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่ว ผัก และผลไม้ต่าง ๆ
           :)  หน้าที่ของใยอาหาร
1 .  ใยอาหารจะเพิ่มน้ำหนักอุจจาระและจำนวนครั้งของการถ่ายอุจจาระที่เป็นเช่นนี้เพราะ น้ำย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กย่อยใยอาหารไม่ได้ ใยอาหารจะผ่านต่อไปถึงลำไส้ใหญ่  ใยอาหารสามารถอมน้ำในลำไส้ได้ ทำให้น้ำหนักของใยอาหารเพิ่มได้ถึง4 ถึง 6 เท่า มีผลทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวบ่อยขึ้นและน้ำหนักอุจจาระเพิ่มขึ้น
2 .  เนื่องจากใยอาหารมีผลทำให้อาหารผ่านจากปากถึงทวารหนักในอัตราเร็วขึ้น ดังนั้นเวลาของการสัมผัสระหว่างสารพิษ รวมทั้งสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งที่มีอยู่ในอาหารกับเยื่อบุลำไส้จะน้อยลง โอกาสที่สารพิษจะทำลายเยื่อบุลำไส้เป็นไปได้น้อย ด้วยเหตุนี้การับประทานใยอาหารช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งของลำไส้ใหญ่ได้ 
3 .  ใยอาหารสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้  โดยใยอาหารจับเอาคอเลสเตอรอลไว้ ทำให้ปริมาณของคอเลสเตอรอลที่จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายน้อยลง
4 .  นอกจากนี้ใยอาหารยังจับเอากรดน้ำดีไว้ด้วย ในภาวะปกติของร่างกายสร้างคลอเลสเตอรอลได้ และเผาผลาญคอเลสเตอรอลให้อยู่ในสภาพของกรดน้ำดี ( BILE  SALT ) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการย่อยและดูดซึมไขมันภายในลำไส้ เมื่อทำหน้าที่แล้วกรดน้ำดีจะถูกดูดซึมที่ส่วนปลายของลำไส้เล็กกลับเข้าสู่ร่างกาย ตับจะเผาผลาญคอเลสเตอรอลเป็นน้ำดีไว้แล้วขับถ่ายออกไปกับอุจจาระ จึงทำให้เกิดการเผาผลาญคอเลสเตอรอลมากขึ้น เพื่อรักษาระดับเกลือน้ำดีในลำไส้ที่จำเป็นต่อการย่อยและดูดซึมไขมัน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ มีผลระดับคอเลสเตอรอลได้ ดังนั้นการรับประทานใยอาหารจึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งเท่ากับเป็นการป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด และเส้นเลือดแข็งตัว
                :)  ประโยชน์ของใยอาหาร
1 . ทำให้ลำไส้บีบตัวแรงขึ้น ลดระยะเวลาที่อาหารและของเสียถูกเก็บกักในลำไส้ใหญ่ลง เป็นการลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
2 .  ลดความแข้มข้นของสารพิษในอาหาร
3 .  ช่วยลดแบคทีเรียในลำไส้ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผนังลำไส้
4 .  ไขมันในลำไส้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายน้อยลง
5 .   ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด
6 .  ช่วยจับสารโลหะหนัก แล้วขับออกไปกับอุจจาระ
7 .  ช่วยดูดซับสารพิษจากยาและสารปนเปื้อนในอาหาร
8 .  ช่วยทำให้อิ่มท้องเร็วขึ้น ช่วยควบคุมน้ำหนักได้

Lotus_white
  • บุคคลทั่วไป
 :Dน่ายินดี ...... น่ายินดี.... ;D

:Dน่ายินดี ...... น่ายินดี.... ;D

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม

        ธรรมชาติได้สร้างพืชพันธุ์หลากหลายชนิดให้เราได้นำไปใช้ประโยชน์ อย่างผักที่มีอยู้แต่ในละภาคนั้น เราสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้นานาชนิด และนอกจากเราจะได้รับความอิ่มอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่เราอีกด้วย  เป็นการดีให้เราได้รู้จักกับผักต่าง ๆ  การเลือกกินอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายแล้วละ่ก็ จะช่วยให้ได้รับคุณค่าในการรักษาโรค  ผักแต่ละชนิดให้คุณค่าต่อร่างกาย เพราะผักนั้นมีส่วนที่ช่วยบำรุงร่างกายทั้งภายในและภายนอก อย่างเช่น มะกรูด ที่เรานำมาทำเป็นยาสระผม เป็นยาช่วยขับลม แก้ไอ โหระพา ใช้พอกบริเวณที่ถูกแมลงเป็นพิษกัดต่อย ช่วยแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ  หรือถั่งงอก ที่ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน หากกินเป็นประจำจะทำให้ดูอ่อนเยาว์  อย่าลืมบอกต่อให้คนใกล้ชิดคุณ หรือคนรอบข้างคุณหันมากินผัก และทานเจ เช่นเดียวกับคุณ

Tags: