พระโอวาทพระนาจา เมตตา
เวลาเห็นสัตว์ร้องทนได้ไหม ทนได้ เพราะอร่อยใช่หรือเปล่า
แล้วพอป่วยก็ว่าทำไม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่รักษา ไม่คุ้มครอง
ตัวเราหาโรคมาเองทั้งนั้นเลย ทำบุญแล้วจะบุญไม่รั่วก็คือไม่เบียดเบียน
ไม่ทำร้ายเขา พอเราไม่ทำร้ายสัตว์ ไม่ทำร้ายคน แล้วจะมีทุกข์อะไรมาทำร้ายเราอีกไหม
งดกินเนื้อสัตว์ คือการแผ่เมตตาที่สูงสุดอยู่ทุกขณะจิต ศาสนาทั้งหลาย แม้จะต่างกันด้วยขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีและพิธีกรรม แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ทุกศาสนาสอน ให้ยึดถือความเมตตาเป็นหลัก ไม่เบียดเบียน ไม่ทำร้ายกัน ให้มนุษย์และสรรพสัตว์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติ คุณธรรมข้อนี้เป็นหลักใหญ่ที่สำคัญที่สุด อันจะค้ำจุนโลกให้บังเกิดสันติสุข ไม่ว่าชนชาติใด ภาษาใด ไม่ว่าจะอยู่ที่ใหนในโลก จะนับถือศาสนาหรือไม่ก็ตาม ล้วนไม่ชอบให้ถูกเบียดเบียน ไม่ชอบให้ถูกฆ่า
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นจงเป็นสุข ๆ เถิดอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงมีความสุขกาย สุขใจ ปราศจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด เป็นคำที่เราแผ่ความรักความเมตตา เขาจะไม่มีเวรกับเราได้อย่างไร ? เขาจะมีความสุขอย่างไร ? เมื่อเรายังกินเนื้อเขา ย่อมจะผูกเวรมีหนี้กรรมที่ต้องชดใช้กันต่อไปไม่สิ้นสุด ผู้ที่ต้องการหมดหนี้กรรมเวรควรเลิกกินเนื้อสัตว์เถิด
สัตว์เกิดกายมาใช้กรรมที่ทำไว้ เป็นเป็ด ไก่ กุ้ง ปู เป็นหมู หมา
ตามเหตุต้นผลกรรมที่ทำมา มิใช่ฟ้าประทานมาให้คนกิน
ตามกฏแห่งกรรม ผู้ที่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ชอบเสพเลือดเนื้อของสัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปวิญญาณจะต้องร่วงลงสู่อบายภูมิทั้ง 3 ได้แก่ 1. นรกภูมิ 10 ขุม 2. เปรตภูมิ 3. เดรัจฉานภูมิ
อีกไม่นานสากลโลก จะบังเกิดสันติสุข หลังจากที่ความสะอาดและความสกปรก แบ่งแยกออกจากกัน คนดีและคนชั่วถูกคัดออกจากกันแล้ว คนกินเจและคนกินเนื้อ จักรวาลฟ้าดินจะจัดให้เหมาะสม
คนดีทำแต่ความดี ""ฟ้า"" จะใช้""พลังของฟ้า"" ดึงดูดขึ้นสู่เบื้องบน ใสสะอาด บริสุทธิ์ จะเบาวิวล่องลอยขึ้นเป็นพุทธะ เทพ เซียน อริยะทั้งหลาย
คนที่กินเนื้อ ในจิตวิญญาณขุ่นมัว มีสิ่งไม่สะอาดย่อมต้องถูก""แรงของนรก"" ดึงลงสู่เบื้องล่าง กลายเป็นภูตผีและสัตว์เดรัจฉานเท่านั้น ในเรื่องนี้ ทุกคนควรคิดใคร่ครวญดูให้ดี

การปลดปล่อยชีวิตสัตว์ ให้รอดตายอย่างนิรันดร์ คือการปลดปล่อยชีวิตสัตว์ที่จะกินเข้าไปทุกวัน เป็นมหากุศลและเมตตาธรรมสูงสุด ซึ่งช่วยให้สรรพสัตว์รอดตายมากมาย
พระโอวาทท่านมหาเทพหันเซียงจื่อ เมตตา
ปราชญ์โบราณกล่าวไว้ว่า เมื่อเราเห็นสรรพสัตว์ที่มีชีวิต เราทนไม่ได้ที่เห็นเขาต้องตาย เมื่อเขาร้อง เราทนเห็นเขาเจ็บปวดไม่ได้ แล้วเราทนไม่ได้ที่เราจะไปกินเนื้อเขา การกระทำเช่นนี้ ย่อมสื่อให้เห็นว่า โดยพื้นฐานแห่งจิตใจของมนุษย์เป็นจิตใจที่เมตตา ใช่หรือไม่ หรือเทียบกับคนใกล้ตัว เมื่อเราเห็นเขายังอยู่ เราก็ทนไม่ได้ที่จะพรัดพรากจากเขา เมื่อเห็นเขายังมีความสุข เดินทางไปในทางที่ถูก เราก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาเดินผิดทาง หรือหลงทาง ใช่หรือเปล่า
จิตเมตตานี้แม้จะมีแต่ก็ต้องกระทำให้ได้ อย่าเป็นคนที่พูดได้ แต่กระทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เป็นเมตตาแค่เพียงวาจา ฉะนั้นหากโดยปกติเมื่อเราได้ยินเสียงสัตว์ร้องคร่ำครวญ เราทนได้ไหม (ไม่ได้ ) ทนไม่ได้แล้วทำไมถึงกินเขาลงได้ แม้แต่เพื่อนเราหรือญาติเราเอง เวลาเราเห็นเขามีชีวิตเราก็มีความสุข แต่ถ้าเมื่อไรเราต้องพลัดพรากจากเขา เราก็ทนไม่ได้ ที่เห็นเขาต้องตายไปหรือเดินทางผิดไป
ฉะนั้นถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็ต้องทำให้ได้ด้วย ดีหรือไม่ ( ดี ) ไม่ใช่พูดว่า ไม่เห็นเขา ไม่ได้ยินเสียงเขา ก็กินเขา อย่างนั้นถูกไหม ( ไม่ถูก ) ให้คนอื่นได้ยินเสียง เห็นชีวิตเขาแทน เรียกว่ายืมมือเขาฆ่าถูกไหม ใจร้ายยิ่งกว่าใช่หรือไม่ (ใช่ )ท่านคงไม่เป็นคนยืมมีดฆ่าคนอื่น