[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา จงรู้อาการ..สำรวมในตน..ณ.ไท่ห่าว จ.ศรีสะเกษ 6/04/51

จงรู้อาการ...สำรวมในตน...ยามลำพังเป็นหลักธรรม
ให้เอาจิตรู้แท้ต่อหลักสัจธรรมฟ้าเป็นสำคัญ
ให้เอาคุณสัมพันธ์ต่อกันในชีวิตประจำวันเป็นหลักปฏิบัติ
ใจจริงแท้...เจ้าต้องรู้
จิตเดิมแท้...เจ้าต้องเข้าถึง
บำเพ็ญธรรม...เป็นเพียงขั้นตอนสำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าถึง

        เมื่อไรที่ขจัดการ "ต้องระวังตนยามลำพังได้" เมื่อนั้น
ไม่จำเป็นที่ศิษย์ต้องบำเพ็ญ นั่นก็คือ...ศิษย์เจ้าได้เข้าสู่ธรรมแท้ธรรมชาติแห่งพุทธาได้แท้จริง 

        การบำเพ็ญยากหรือไม่ หลากหลายคำตอบ ด้วยหลาย
จิตใจ บำเพ็ญธรรมยากหรือง่าย อยู่ที่ใจเจ้ามุ่งมั่น ผู้คนมักพ่าย
แพ้ต่อใจตน จึงพูดว่าบำเพ็ญธรรมเป็นเรื่องยาก หากศิษย์รักเข้าใจ ขจัดแล้วซึ่งใจคน เจ้าจะรู้จิตใจพระพุทธา เรียบง่ายสงบนิ่งกว่า

        "มองย้อนตน"
       ในชีวิตแต่ละวัน
ล้วนแล้วแต่คละเคล้าไปด้วยสุขทุกข์โศกเศร้า ยินดี
    ใจมนุษย์ร่ำร้อง เรียกหา ไขว่ขว้า มิสิ้นสุด
      จึงมิอาจหยุดใจที่สุขทุกข์ลงไปได้
      สมหวังก็สุขใจ ผิดหวังก็ทุกข์ใจ

        "เมื่อไรหนาเจ้าจะหยุด...
      "เมื่อเจ้าหยุด...เจ้ารู้พอ...
เจ้าจะรู้ว่าความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร"

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา แม้อากาศภายนอกรุ่มร้อนเพียงใด ณ.ไท่จิ่น จ.สมุทรสาคร 13/4/51

        แม้อากาศภายนอกรุ่มร้อนเพีบงใด
        แต่จิตภายในสงบไว้เยือกเย็นแท้

        แม้สังคมภายนอกวุ่นวายสับสนเพียงใด
แต่จิตเจ้ามีความมั่นใจ มุ่งทางธรรมแท้มิเอนเอียง
แม้ชีวิตภายนอกเหนื่อยยากดิ้นรนเลี้ยงชีพเพียงใด
แต่จิตใจภายในรู้สั่งสมบุญกุศลไว้มิให้ขาดพร่อง
แม้ภายนอกจะเปรียบวัดความสูงต่ำ ติดในรูปลักษณ์เพียงใด
        แต่ในใจเจ้าให้ยึดมั่นไว้ซึ่งคุณธรรมหนา

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทพระโพธิสัตว์แห่งทะเลทักษิณ เมตตา พึงสำนึกรู้แก้ไขภายในตน ณ.หมิงชาง จ.ยโสธร 27/4/51

        พึงสำนึกรู้แก้ไขภายในตน  สิ่งที่ไม่ดีรู้เปลี่ยนแปลง
                 สิ่งที่ดียิ่งรักษาให้งดงาม สำนึกย้อน.....

        เรียกร้องตน ก่อนที่จะเรียกร้องจากผู้อื่น
เปลี่ยนแปลงตน ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงผู้อื่นหนา

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา ชีวิตเกิดมามีใครบ้างไม่รักตน ณ. ไท่เต๋อ จ.อุบลราชธานี 04/5/51

        ชีวิตเกิดมามีใครบ้างไม่รักตน  ศิษย์รักตนเองบ้างไหม รัก
ตนเอง ไฉนเจ้าปล่อยให้ตนเองถูกคุกคาม ปล่อยให้ตนเองจนว้าวุ่น

                        รักตนเองคือ
        รู้รักษาความบริสุทธิ์แห่งตน ใจเดิมแท้บริสุทธิ์
        เกิดกายมา ไยปล่อยให้รัก โลภ หลง คุกคามเข้าทำลายใจ
มนุษย์มากมายนั้น ...สามใจ   สี่รูปลักษณ์...มิอาจขจัด  อารมณ์
นิสัยไม่อาจเปลี่ยนแปลง จึงเป็นการไม่รักตน หากศิษย์รักตน ต้องปกป้องตน
ต้องดูแลตน กาย ใจ ต้องให้บริสุทธิ์อย่างจริงแท้ เช่นนี้จึงถือว่าเป็นผู้ที่รักตัวเอง

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา เพียรบำเพ็ญ ณ.ไท่เต๋อ จ.อุบลราชธานี 04/5 /51

เพียรบำเพ็ญ...เห็นจิตตน...จึงเข้าใจในผู้อื่น ใจตนชอบสิ่งใด ไม่
ชอบสิ่งใด ย่อมเข้าใจได้ชัดเจน รู้ตนได้ จึงสามารถรู้ถึงจิตใจ
คนอื่นได้  ฉะนั้น คนต่อคน อย่าได้มัวแต่วิจารณ์ ต้องรู้ใจเขาใจ
เรา มัวแต่วิจารณ์มิก่อเกิดผลดี ใจแห่งพุทธาย่อมที่จะไม่ตำหนิ
ผู้อื่น แต่รู้เรียกร้องจากตนเอง

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา จะบำเพ็ญอย่างไร ณ.ไท่อวิ้น กรุงเทพฯ 11/05/51

     จะบำเพ็ญอย่างไร  ให้เข้าถึงสภาวะอันบริสุทธิ์ที่ไร้
รูปลักษณ์จับต้องได้

     เจ้าจงสงบจิต ย้อนมองเข้าสู่หนึ่งจุดชี้แห่งพระวิสุทธิ
อาจารย์ แล้วปล่อยวาง และปลดเปลื้องกายใจที่ฟุ้งซ่านขุ่น
มัว เพื่อจะยกระดับจิตเดิมแท้ที่ได้หลงลืม เข้าสู่หนทางประตูจิต

     ฉุดช่วยคนที่หลงอยู่ และฉุดช่วยตนเองเพื่อที่จะข้ามพ้น
ฝั่งทะเลทุกข์ สู่ดินแดนนิรพาณนั่นเอง

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา อยู่ร่วมในโลกที่วุ่นวาย ณ.ไท่จั้น จ.เพชรบูรณ์ 11/5/51

     อยู่ร่วมในโลกที่วุ่นวาย แต่ให้สงบได้ จึงอยู่เหนือโลก
อยู่เหนืออารมณ์ปุถุชน จึงไร้ความฟุ้งซ่านสับสนได้แท้จริง
บำเพ็ญธรรม บำเพ็ญจิต คืนสู่ความบริสุทิ์เดิมแท้

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา เพียงตั้งใจบำเพ็ญธรรมมิใช่ยาก ณ.ไท่ซิว กรุงเทพฯ 25/5/51

     เพียงตั้งใจบำเพ็ญธรรมมิใช่เรื่องยาก
แท้จริงแล้วะณณมะไม่ต้องบำเพ็ญ
เพราะธรรมะแท้จริงสอาด สงบ ผ่องใสอยู่แล้ว
ฉะนั้น ธรรมะแท้มิต้องบำเพ็ญ แต่มิให้แปดเปื้อน
     เช่นนี้เจ้าก็จะเข้าถึงธรรมะอย่างแท้จริง

           มิแปดเปื้อน ทำเช่นไร
นั่นคือใจให้ตรง วาจาให้เที่ยง การแสดงให้งดงาม
       ใจไม่เป็นสอง ไม่เอนเอียง ใจให้นิ่ง
ใจไร้ซึ่งสามใจ สี่รูปลักษณ์

หมายเหตุ : สามใจ ใจอดีต ใจปัจจุบัน ละใจอนาคต
สี่รูปลักษณ์ ได้แก่ อาตมะ บุคคละ สัตวะ และชีวะลักษณะ

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา ใจคนดุจดั่งลิง มิหยุดนิ่งแม้เสี้ยวนาที ณ.ไท่หลินฝอเอวี้ยน จ.มุกดาหาร 19/6/51

     ใจคนดุจดั่งลิง มิหยุดนิ่งแม้เสี้ยวนาที
บางครั้งดั่งเทพเทวา บางครั้งดั่งผีนรก
จิตใจมนุษย์ยากแท้เข้าถึง แต่อย่างไรในวันนี้ศิษย์คนดีได้รู้ธรรม

                      หวังพวกเจ้าทั้งหลาย
           สำรวมกาย สงบใจ เพื่อนำสู่พัฒนาชีวิต

[หนึ่งเดียว หลุดพ้น]

แก่นธรรมในพระโอวาท : พระโอวาทสงฆ์จี้กงวิปลาส เมตตา บำเพญต้องทำจริง ณ. ไท่ห่าว จ.ศรีสะเกษ 21/6/51

        บำเพ็ญต้องทำจริง
       ปฏิบัติต้องดำเนินจริง
  มิใช่ สามปี สิบปี ก็ยังเหมือนเดิม
จิตใจดื้อรั้น อวดดี หยิ่งผยอง เท่าไรก็ยังอยูุ่เท่านั้น

        บำเพ็ญจริง  ปฏิบัติจริงเริ่มที่ตน
         อย่าได้สนใจคนอื่นให้มากหนา
      ย้อนมองส่องใจตน บำเพ็ญจึงก้าวหน้า
         กระทำออกมาปฏิบัติจึงงดงาม