นิทาน สามัคคีสยบสิงห์
สิงห์โตวัยหนุ่มตัวหนึ่งเป็นสิงห์โตที่เกเรมาก มันมีเพื่อนคู่ใจที่มีนิสัยพอๆ กัน คือ เจ้านกกาทั้งสองจะไปไหนด้วยกันเสมอ ส่วนเจ้านกกานั้นก็ชอบยุแหย่เจ้าสิงโตให้ระรานไปทั่ว ฝ่ายเจ้าสิงโตพอโดนเจ้านกกายกย่องยุ
แหย่ก็บ้าลูกยอ ฮึกเหิมลำพองใจ
“ นี่เจ้าสิงห์ ในป่านี้ หรือในโลกนี้ก็ว่าได้ เจ้านะทั้งเก่ง ทั้งเท่ห์ ที่สุดเลยสมกับเป็นเจ้าป่าจริงๆ ข้านะคิดถูกแล้วที่มาคบกับเจ้าเนี่ย!..” เจ้ากาพูด
“อะ ฮ้า..แน่น๊อน แม้แต่ช้างตัวโตที่สุดบนผืนแผ่นดินนี้ ยังไม่กล้ามายุ่งกะข้าเลยหรือว่าไม่จริง ฮ่าๆๆ..ๆๆ..เอิ๊ก”
เจ้าสิงห์คุยซะใหญ่โตด้วยความที่ไม่มีใครมายุ่งและไม่กลัวใคร ก็เลยระรานเขาไปทั่ว ทั้งสองเดินเที่ยวกันอย่างเพลิดเพลิน จนไปเจอเข้ากับมดแดงรังหนึ่ง เจ้ากาพูดยุแหย่
“เอ้ย..ดูนั่นสิเจ้าสิงห์ เจ้าเห็นรังมดแดงนั่นไหม ช่างใหญ่น่าเตะเสียนี่กระไร ขยี้มันเลยดีกว่า เจ้าพวกตัวกระจ้อยร่อยหมั่นไส้ ดูสิทำเป็นขยัน มันทำอะไรเจ้าไม่ได้หรอกเจ้าสิงห์ ตัวมันเล็กนิดเดียวเอง ขนาดช้างยังกลัวเจ้าเลย เอาเลย”
ว่าแล้วเจ้าสิงโตผู้ทระนงก็เข้าไปลุยเตะรังมด กะว่าให้บ้านมดพังกระจุยไปเลย พลางบ่นว่า
“ แก้เซ็งดีกว่าอยู่เฉยๆ เน๊าะ” ฝ่ายเจ้ามดแดงเมื่อรู้ว่าโดนทำร้าย ก็เฮโลเรียกพวกมาช่วยกันต่อต้านเจ้าสิงห์ด้วยการกัดไปตามจุดอ่อน เช่น เข้าไปกัดในรูหู กัดตา กัดในรู จมูก เจ้าสิงห์ถึงกับวิ่งหนีแบบไม่มีทิศทาง ช่างเจ็บปวดยิ่งนัก ฝ่ายเจ้ามดก็พากันดีใจที่สามารถเอาชนะปราบปรามเจ้าสิงห์ได้
หัวหน้ามดจึงพูดว่า
“ นี่คือผลจากความสามัคคีของพวกเราพี่น้องทุกคน สามารถทำให้เจ้าสิงโต
เกเรตัวใหญ่หนีไปได้ แม้ว่าเราตัวเล็กแต่ถ้าเราร่วมมือสามัคคีกัน ศัตรูก็ทำอะไรเราได้ยาก
ฝ่ายเจ้าสิงห์จอมเกเรต้องมานั่งช้ำใจ ต้องเจ็บตัว และเกิดความสำนึกที่มองข้าม ดูถูกสัตว์ตัวเล็กๆ นึกว่าจะรังแกได้ง่าย ยิ่งปวดใจเข้าไปอีก เมื่อเจ้า
นกกาจอมยุแหย่บินหนีไปไม่ช่วย สิงห์โตคอตกคิดได้ และคงต้องเลิกเกเรอีกต่อไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ สามัคคีคือพลัง ร่วมด้วยช่วยกันกระทำการใดก็สำเร็จไปด้วยดี "
ที่มา :
http://blog.rmutp.ac.th/sukumal.w/2012/02/01/ ขอบคุณค่ะ