collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ความรักคืออะไร ตอนที่ 2 - ตอนที่ 1  (อ่าน 17407 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
๐ทุกข์เหมือนผงเข้าตาหาทางเขี่ย
ทุกข์จนเปลี้ยเพลียใจไม่สร่างหาย
บ้างถูกทุกข์ทับถมตรมไม่วาย
ทุกข์ทั้งหลายล้วนเกิดจากผลกรรม

๐ใช้ธรรมมะเขี่ยผงตรงดวงจิต
คอยสะกิดเตือนใจไม่ถลำ
บ่งเสี้ยนทุกข์ออกไปไม่เจ็บจำ
ให้ดวงตาเห็นธรรมที่ฉ่ำเย็น

๐แม้ทำใจไม่ได้ในช่วงแรก
เพราะใจแหลกด้วยกรรมนำทุกข์เข็ญ
หาผู้รู้ชี้ชัดขจัดเป็น
ก็จะเห็นหนทางสว่างใจ
 
๐ทุกคนล้วนมีทุกข์ให้ฉุกคิด
แล้วใครจะสะกิดเตือนใครได้
หากมีทุกข์ขึ้นมาอย่าช้าไย
จดจำไว้ใช้หลักธรรมชี้นำทาง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ความรักคืออะไร ตอนที่ 22 : มีแต่คิดถึง
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: 4/08/2013, 21:20 »
4 สิงหาคม 2556

...ความรักคืออะไร (ตอนที่ 22: มีแต่คิดถึง)

เธอถามผมว่า "หายคิดถึงมั้ย?"

หลังจากที่เรา เจอกัน(วันนั้น)

เวลาอยู่ใกล้เธอ ก็คิดถึงเธอ

เวลาอยู่ไกลเธอ ก็คิดถึงเธอ

จะอยู่ใกล้ หรืออยู่ไกล ก็คิดถึงเธอ

เมื่อเจอเธอแล้ว ไม่หายคิดถึงเธอ

แต่กลับคิดถึงเธอ มากขึ้น มากขึ้น

พบเธอ หัวใจอยู่ที่เธอ

ไม่พบเธอ หัวใจก็อยู่ที่เธอ

ที่รัก มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง...

นพ.ไมตรี พิชญังกูร

http://youtu.be/e4eysNo3a2g

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
5 สิงหาคม 2556

ความรักคืออะไร: (ตอนที่ 23:ความรัก10มิติ: มิติที่ 5:ชาตินิยม)

.....ในบทก่อนๆ เราได้นิยามว่า ความรักคืออาการทางจิต หรือสภาวะทางจิตที่มี "อาการชอบใจผสมความยินดี ที่พร้อมกับมีความปรารถนาดีอย่างสัมมาทิฎฐิ" เราได้เรียนรู้ผ่านไป 4มิติแล้ว...

.....มิติที่ 5 คือ ชาตินิยม: เป็นความรักที่เป็นอุดมการณ์เพื่อชาติเพื่อประเทศ หากผู้ใดมีความรู้สึกนึกคิดหรือมีอุดมการณ์ต้องการช่วยเหลือเกื้อกูลกว้างออกไปกว่าความรักแค่ "มิติที่4" เป็นความรักความปรารถนาถึงขั้นหมายใจจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้คนทั่วไปในประเทศชาติจริง...

.....ความรักในมิตินี้ ไม่แคบอยู่แค่เพื่อนรัก เผื่อแผ่เพื่อคนใกล้ตัวเราเท่านั้น หรือไม่เล็กอยู่แค่หมู่กลุ่ม ชุมชน อำเภอ จังหวัด ซึ่งเป็นสัดส่วนในประเทศเท่านั้น แต่เป็นความเกื้อกว้างที่มีน้ำใจ คิดเห็นแก่คนทั้งชาติ ทั้งประเทศจริงๆ...

.....สภาวะของจิตของความรักในมิตินี้ ไม่ใช่เพียงแค่รู้ว่า มันเป็นอุดมการณ์ที่ดีอยู่แค่นั้น หรือไม่ใช่เพียงเป็นคารมโก้ๆลีลาเก๋ๆ ของคนหาเสียงให้แก่ตนเท่านั้นด้วย แต่ต้องเป้น "ความจริงของจิตที่เกิดความรู้สึกรัก และปรารถนาตามอุดมการณ์นี้แท้ๆ" ยิ่งมีน้ำหนักเข้มข้นของน้ำใจและความเป็นไปได้จริงมากยิ่งเท่าไหร่ ก็ยิ่งประเสริฐยิ่งๆเท่านั้นๆ...

.....ความรักระดับมิติ 5นี้ เรียกว่า "ชาตินิยม" หรือ "รัฐนิยม"...

.....และจะจริงยิ่ง หากคนผู้นี้มีพฤติกรรมพากเพียรพยายามกระทำ เพื่อให้เกิดผลตามอุดมการณ์ ที่สุดจะจริงสมบูรณ์ทีเดียว ถ้าแม้นผู้มี "ความรัก"นั้นบริสุทธิ์จากความแฝงเพื่อประโยชน์ให้เกิด ลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข แก่ตน...

.....ซึ่งเป็นความเจริญของความรัก ความปรารถนาดีอย่างเห็นได้ชัดขึ้นไปอีก ว่า เป็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์แน่แท้ หากใครสามารถเผื่อแผ่เกื้อกว้่างออกไปได้มากเท่าใดๆ ก็ยิ่งเป็นคุณงามความดีมากเท่านั้นๆ...

.....ด้วยสามัญสำนึก ความเข้าใจแค่นี้ ใครๆก็คงรู้กันได้อยู่แล้ว เพราะไม่ใช่ความลึกล้ำอะไรนักหนา แต่มันก็เป็น "ความจริง" ของคน ที่ "จิตจริง"อันจะพึง "เป็น" จริง...

.....อาจจะกล่าวได้ว่า สมรรถนะของใครจะมี "ประสิทธิภาพแห่งความรัก" กว้างเกื้อได้มากน้อยแค่ไหน ก็ย่อม "เป็น" ได้ตามสมรรถนะของผู้นั้นๆ ถ้าจะเอาแค่ "ความคิดฝัน" ทุกคนที่มีปัญญาเข้าใจได้ ก็คิดได้ พูดได้ แต่ "ความจริงของความเป็นไปได้" ตามที่ตนคิดได้ ตนพูดได้นั้น มันเป็นจริงไปได้ตามความคิดตามคำพูดนั้นไหม?...

....."ความรัก" ในที่นี้ต้องเป็น "ความจริง" โดยเฉพาะเป็น "ความจริง" ที่เกิดในจิตของคนผู้นั้นจริง ที่ต้องเป็น "ความรู้สึกในจิตของตนเองเกิดอารมณ์นั้นๆแท้ๆ" ไม่ใช่แค่ "คิด" หรือแค่ "รู้"...

.....ที่เรากำลังเรียกว่า "ความรัก" นี้ มันต้องมีภาวะเป็น "อารมณ์ความรู้สึกเกิดขึ้นจริงในจิตของผู้นั้น" และมีสมรรถนะถึงขั้น "เป็นไปได้" (possible) หรือ "สามารถทำได้" (practicable) จริง มิใช่แค่ "รู้" แค่ "พูด" แต่ปากอยู่เท่านั้นด้วย...

.....เช่น "ความรัก" ของนาย ก.มี "ความจริงของความเป็นไปได้" แค่ มิติที่ 4 "ชุมชนนิยม" เท่านั้น หรือบางทีอาจจะแย่กว่านั้น คือ มี "ความจริงของความเป็นไปได้" แค่ มิติที่ 3 แค่นั้น ดีไม่ดี อาจจะแค่ มิติที่ 2 ด้วยซ้ำ ก็เป็นได้แต่นาย ก.นึกว่าตนมีสมรรถนะถึงมิติที่ 5 คุยฟุ้ง ตามที่ตนหลงว่า ตนเป็น หาเสียงใ้ห้แก่ตนเองไปทั่ว ว่าตนมีความรักระดับ "ชาตินิยม" หรือ "รัฐนิยม" ซึ่่งเป็นสมรรถนะที่กว้างเผื่อแผ่ออกไปถึงขั้น "ความรักชาติ รักประเทศ" ทีเดียว...

.....แต่ความเป็นจริงนั้น นาย ก. ทำได้หรือเป็นได้แค่ "ความรัก" มิติที่ 4 หรือแค่ 3 แค่ 2 เท่านั้น ถ้าอย่างนี้ "ความรัก" ของนาย ก. ก็ยังไม่ใช่ระดับ มิติที่ 5จริง "ความรัก" ของคนผู้นี้ ยังไม่ถึงขั้นมีความจริงเข้าข่ายที่ชื่อว่า ผู้มีความรักระดับมิติที่ 5 "ชาตินิยม" หรือ "รัฐนิยม" เพราำะ "ความเป็นจริง" หรือ "ภาวะสัจจะ" ยังไม่ถึงขีดถึงขั้น...

.....ใครจะสามารถรู้ความจริง หรือรู้สัจจะของ "ความรัก" ได้ถูกต้องถ่องแท้ ก็ยากอยู่ จะต้องศึกษาฝึกฝนจนรู้แจ้งหยั่งถึงสัจธรรมของความเป็น "คุณค่าประโยชน์" (อัตถะ)...

.....ทั้งในสภาพที่เป็น "ประโยชน์ตน" (อัตตัตถะ) "ประโยชน์ผู้อื่น" (ปรัตถะ) "ประโยชน์สองฝ่าย" (อุภยัตถะ) หรือ "ประโยชน์สามัญที่ต่างก็รู้ๆกันได้ในระดับของโลกียะทั่วไป ที่เรียกว่าโลกนี้" (ทิฎฐธัมมิกัตถะ) และ "ประโยชน์ขั้นสูงขึ้นสู่โลกหน้าหรือโลกอื่น ซึ่งเป็นโลกที่ก้าวหน้าขึ้นไปถึงระดับโลกุตระ" (สัมปรายิกกัตถะ)...

.....ที่สำคัญก็คือ ประโยชน์ที่เป็นความเจริญถึงจิตถึงเจตสิก อันเป็นขั้น "บรมประโยชน์ขั้นสูงถึงความเป็นอริยสัจธรรม" (ปรมัตถะ) โน่นแหละ จึงจะพอรู้ "ความจริงตามความเป็นจริงมีจริง" ดังที่ได้สาธยายมา...

ขอบคุณครับ

นพ.ไมตรี พิชญังกูร               ขอบคุณค่ะพี่หมอ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
7 สิงหาคม 2556

ความรักคืออะไร: (ตอนที่ 24:ความรัก10มิติ: มิติที่ 6:สากลนิยม)

.....ในบทก่อนๆ เราได้นิยามว่า ความรักคืออาการทางจิต หรือสภาวะทางจิตที่มี "อาการชอบใจผสมความยินดี ที่พร้อมกับมีความปรารถนาดีอย่างสัมมาทิฎฐิ" เราได้เรียนรู้ผ่านไป 5มิติแล้ว...

.....ความรักมิติที่ 6 คือ ความรักมวลมนุษยชาติทุกภาษา ที่เป็นมนุษย์ในโลก ไม่จำกัดเฉพาะในชาติของตนเท่านั้น ยิ่งเห็นได้ชัดว่า เป็นความรักความปรารถนาที่แผ่กว้างเกื้อกูลออกไป อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ในด้านรูปธรรมแห่งมวลมนุษย์...

.....ความรักในมิตินี้ จะเผื่อแผ่ต่อมนุษยชาติไปทั้งโลกไม่จำกัดผิวพรรณ เพศ วัย เชื้อชาติ ชั้นวรรณะกันแล้ว เป็นความรักระดับโลกาภิบาลทีเดียว คือ รักปรารถนาจะให้แก่ทุกคน เป็นอุดมการณ์ที่สูงส่งยิ่งแล้ว สำหรับมนุษย์ที่พึงกระทำพึงแสดงออกทางรูปธรรม...

.....หากผู้ใดมีจิตใจที่มีความรู้สึกนึกคิด และได้พากเพียรประพฤติตามอุดมการณ์ดังกล่าวนี้จริง ทำได้เป็นได้จริง ก็นับเป็นผู้มีความรักที่มีคุณค่าสูงส่งขึ้นไปกว่ามิติที่ 5 แน่นอน...

.....และไม่ใช่เพียงความรู้ว่ามันเป็นอุดมการณ์ที่ดีอยู่แค่นั้น หรือไม่ใช่เพียงเป็นคารมโก้ๆ ลีลาเก๋ๆ ของคนหาเสียงให้ตนเท่านั้นด้วย แต่ต้องเป็น "ความจริงของจิตที่เกิดความรู้สึกรักและปรารถนาตามอุดมการณ์นี้แท้ๆ และต้องมีสมรรถนะสมคล้อยสอดคล้องด้วย" ...

.....และยิ่งมีน้ำหนักหรือความเข้มข้นของน้ำใจและประสิทธิภาพมากยิ่งเท่าใดๆ ก็ยิ่งประเสริฐสูงส่งเลอเลิศยิ่งๆเท่านั้นๆ...

.....และจะจริง หากคนผู้นี้ มีพฤติกรรมพากเพียรพยายามกระทำเพื่อให้เกิดผลตามอุดมการณ์ได้จริง ที่สุดจะจริงสมบูรณ์ทีเดียว ถ้าแม้นผู้มีความรักนั้นบริสุทธิ์จากความแฝง เพื่อผลประโยชน์ให้เกิดลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข แก่ตน...

.....ซึ่งเป็นความเจริญของความรักความปรารถนาดีอย่างเห็นได้ชัดขึ้นไปอีก ว่าเป็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์แน่แท้...

.....ความรัก ระดับมิติที่ 6 นี้ เรียกว่า "สากลนิยม" หรือ "จักรวาลนิยม"...

.....ก็เป็น "ความรักที่มีคุณค่าประเสริฐสูงส่งขึ้นไปยิ่งๆขึ้น ที่ผู้มีปัญญาสามัญก็พอเข้าใจได้ ทว่า "ความจริง" ที่คนจะเป็นได้จริง มีสมรรถนะถึงขั้นจริงนั้น ก็หายากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนมากก็มีแต่ "อุดมการณ์" แต่เป็นจริงก็ยังไม่ได้ และพูดคุยโวโอ้อวดจนกลายเป็นคนหลอกลวงชาวโลกไปก็มีมากมาย...

ขอบคุณครับ

นพ.ไมตรี พิชญังกูร            ขอบคุณค่ะพี่หมอ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ความรักคืออะไร ตอนที่ 25 : งงง้งงง!!!
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: 9/08/2013, 15:26 »
9 สิงหาคม 2556

ความรักคืออะไร (ตอนที่ 25: งงง้งงง!!! )

.....ตัวเอง ตัวเอง งงมั้ย? ว่าทำไม...

.....เวลาเราเรียก ตัวเอง ว่า "เค้า"...

.....แต่เวลาเราเรียก เค้า ว่า "ตัวเอง"...

.....เมื่อวาน ตัวเอง ก็เรียกเค้าว่า "ตัวเอง"

.....แต่ ตัวเอง เรียก ตัวเอง ว่า "เค้า"

.....เค้าก็เรียก ตัวเอง ว่า "ตัวเอง"

.....และก็เรียก เค้า เองว่า "เค้า"

.....สรุปแล้ว ตัวเอง เป็นเค้า เค้า เป็นตัวเอง...

.....อ้าว แล้วทำไม ตัวเอง ไม่เป็น ตัวเอง...

.....และทำไม เค้า ไม่เป็น เค้า...

.....ทำไม ตัวเอง เป็นเค้า...

.....และทำไม เค้า เป็นตัวเอง

.....เค้านี้ งงง้งงง...

.....งงเน๊าะ งงอ่ะ งงงงงง...

.....ตัวเอง งงป่ะ!!!...

ขอบคุณครับ

นพ.ไมตรี พิชญังกูร           ขอบคุณค่ะพี่หมอ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ความรักคืออะไร ตอนที่ 26 : ไร้ความหมาย
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: 21/08/2013, 19:36 »
21 สิงหาคม 2556

ความรักคืออะไร (ตอนที่ 26: ไร้ความหมาย )

.....ที่รัก...

.....ถ้าเธอรักฉันจริง...

.....สุขอื่นยิ่งสรวงสวรรค์ก็ไร้ความหมาย...

.....ถ้าเธอไม่รักฉันจริง...

.....สุขอื่นยิ่งสรวงสวรรค์ก็ไร้ความหมาย...

ขอบคุณครับ

นพ.ไมตรี พิชญังกูร         ขอบคุณค่ะพี่หมอ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
22 สิงหาคม 2556

ความรักคืออะไร: (ตอนที่ 27:ความรัก10มิติ: มิติที่ 7เทวนิยม 1)

.....ในบทก่อนๆ เราได้นิยามว่า ความรักคืออาการทางจิต หรือสภาวะทางจิตที่มี "อาการชอบใจผสมความยินดี ที่พร้อมกับมี ความปรารถนาดีอย่างสัมมาทิฎฐิ" เราได้เรียนรู้ผ่านไป 6มิติแล้ว...

.....ความรักในมิติที่ 7 นั้น คือความรักที่แผ่กว้างไปสุดมหาเอกภพทีเดียว ซึ่งหมายถึงนามธรรมอันยิ่งใหญ่ ที่รักทุกสรรพสิ่ง ซึ่งเป็นความรักระดับ "พระเจ้า"...

.....เป็นความรักที่่ไม่มีขีดขั้น รักแม้กระทั่งศัตรู ไม่มีการแบ่งมิตร แยกศัตรูกันอีกแล้ว ถึงขนาดใครจะ "ตบแก้มซ้าย" ก็ยังต้องยื่นแก้มขวาให้เขาตบซ้ำอีกด้วย...

.....เป็นการมุ่งหมายเข้าหาความดีงามทางนามธรรมมากขึ้น โดยนับถือว่า มี "พระเจ้า" เป็นอำนาจหลักแห่งคุณงามความดี และเป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกว่าสิ่งใดๆทั้งปวง...

.....ทุกคนมุ่งสร้างแต่ความดีงาม หากใครทำแต่ความดี ไม่ทำความชั่วแล้ว จะได้ไปอยู่กับพระเจ้า ดังนั้น ทุกคนจึงต้องมีความรักในพระเจ้า และทำตนให้มีความรักดุจเดียวกับพระเจ้า ผู้ทรงรักทุกสิ่งทุกอย่าง...

.....เป็นการฝึกตนให้เป็นคนดี ตั้งหน้าตั้งตากระทำแต่ความดีงาม ตนจะต้องทิ้งความไม่ดีทั้งมวล หยุดความไม่ดีทั้งปวงให้หมด พยายามไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ขี้เกียจ อดทน บุกบั่น มีเมตตามหาศาลแผ่ไปทุกทิศ ต้องเป็นคนเสียสละเพื่อมวลมนุษย์ทั้งโลกให้ถ้วนทั่ว...

.....เป็นการมุ่งฝึกฝนตนให้ดีเป็นที่ตั้ง อะไรไม่ดีไม่ทำ ละทิ้งความไม่ดีแบบไม่ต้องใส่ใจเลย มีแต่มุ่งมั่นเข้าหาความดีเท่าที่จะสามารถ ส่วนเรื่องความชั่ว ก็เพียงละเว้นความชั่วความไม่ดีไม่งามทั้งมวล ให้ได้ด้วยความอดกลั้น ด้วยการทิ้งมันไปดื้อๆ หรือจงละลืมไปให้สนิท ไม่รับรู้เป็นการดี่สุด...

.....ให้เอาจริงเอาจังอยู่กับการอุตสาหะวิริยะ ทำแต่คุณงามความดีอย่างทุ่มโถมทีเดียว ส่วน "ความไม่ดี" นั้น ผู้มีลัทธิ "พระเจ้า" จะไม่ค่อยสนใจ ไม่ใส่ใจเรียนรู้ให้ทะลุปรุโปร่งเหมือนพุทธศาสนา ไม่มีการเจาะลึกเข้าไปหา "หัวใจ" ความไม่ดี นั้นๆให้ดับสูญเด็ดขาด แบบศาสนาพุทธ...

.....จะภาคภูมิดีใจ อิ่มเอมใจที่ได้ทำดี โดยมีคติแน่วแน่ว่า "ทำดีแล้วจะได้ไปอยู่กับพระเจ้าในสรวงสวรรค์นิรันดร...

.....ความเป็น "พระเจ้าก็ดี" ความมี "สรวงสวรรค์นิรันดร" ก็ดี เหล่านี้เป็นสภาพที่ยังเป็นภพเป็นชาติ เป็น "อัตตา" หรือ "อาตมัน" สำหรับ "พระเจ้า" ก็เรียกว่า "ปรมาตมัน" สรวงสวรรค์ ก็คือ "ภพ" คือ "ดินแดนแห่งพระเจ้า"...

.....เป็นความรักที่นับว่ามีคุณค่ามหาศาล เพราะรักมวลชนทุกคน ใครทุกข์พยายามช่วยให้ได้ทั้งหมด แม้ที่สุดตัวเองจะตาย ก็ยอม อย่างเช่น พระศาสดาของศาสนาที่นับถือพระเจ้ามากมาย เช่น พระเยซูแห่งคริสต์ศาสนา พระโซโรเอสเตอร์แห่งสาสนาโซโลเอสเตอร์ พระบาฮาอุลลาห์แห่งศาสนาบาไฮ แม้แต่คุรุนานักแห่งศาสนาซิกส์ ล้วนแต่นักเสียสละชั้นยอด เสียสละกระทั่งชีวิตกันแทบทั้งนั้น...

.....ซึ่งล้วนเป็นศาสนาที่บูชายึดถือ "พระเจ้า" ยึดถือ "God" เป็นความรักที่จัดอยู่ในลักษณะ "เทวนิยม" ซึ่งเป็นลัทธิบูชา "ปรมาตมัน" หรือ "พระวิญญาณยิ่งใหญ่" และไม่ได้ศึกษาเจาะลึกเข้าไปในความเป็น "อัตตา" หรือ "ปรมาตมัน" กันอย่างละเอียด เฉพาะอย่างยิ่ง จะไม่รู้เรื่องของ "อนัตตา"เลย...

.....แต่ก็เป็นศาสนาที่เต็มไปด้วย "พลังสร้างสรรค์" ช่วยมนุษยชาติไว้ได้อย่างมากมาย เพียงแต่ว่า ไม่มีทางสิ้น "อัตตา" เพราะไม่ได้ศึกษาความเป็น "อัตตา" ทั้งของ "กิเลส" และของ "พระเจ้า"...

.....เป็นศาสนาที่ทั้งมุ่งทั้งมั่นไปสู่ "ภพชาติ" แห่งความเป็น "พระเจ้า" ซึ่งเน้นสอนเน้นทำกันแต่ในฝ่าย "คุณงามความดี" เพื่อมวลมนุษยชาติอย่างเอาจริงเอาจัง ทุกพลังแห่งจิตวิญญาณจึงล้วนผนึกแน่นเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับ "พระเจ้า" ความเป็น "พระเจ้า" ของศาสนาแบบ "เทวนิยม" จึงเป็น "อัตตา" ที่ใหญ่ยิ่ง ที่เรียกว่า "ปรมาตมัน" ก็ถูกต้องที่สุด "พระเจ้า" คือ "ปรมาตมัน" ที่นิรันตร์อมตะ เป็น "อัตตา" หรือ "อาตมัน" ที่ไม่มีวันสูญสลาย...

.....ซึ่งตรงกันข้ามกับศาสนาพุทธ ที่รู้แจ้งแทงทะลุ "อัตตา" และสามารถปฎิบัติเพื่อสู่ความเป็น "อนัตตา" ได้สำเร็จเป็นที่สุด...

.....( ยังมีต่อ)...

ขอบคุณครับ

นพ.ไมตรี พิชญังกูร           ขอบคุณค่ะพี่หมอ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ความรักคืออะไร ตอนที่ 28 : นอนไม่หลับ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: 23/08/2013, 10:19 »
23 สิงหาคม 2556

ความรักคืออะไร: (ตอนที่ 28: นอนไม่หลับ)

.....นอนกอดเธอทั้งคืน แต่ไม่กล้าหลับ...

.....พรุ่งนี้แล้วนะที่เราจะต้องจากกัน...

.....ขอมองหน้าเธอทั้งคืนให้ตราตรึงไว้ในความทรงจำ...

.....ยามที่เราอยู่ไกลกัน เธอจะได้อยู่ในใจฉันตลอดเวลา...

..................................................................

.....คืนนี้นอนเปล่าเปลี่ยว ไม่มีเธอ...

.....แต่ในสมองและหัวใจฉัน มีแต่เธอ...

.....เธอคงเหนื่อย ที่ต้องเข้ามาวิ่งในใจฉัน ตลอดเวลา...

.....หนึ่งเดือนเต็มๆ ที่ฉันไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนเลย...

.....ไม่กินยานอนหลับ กลัวว่าถ้าหลับไป จะไม่ได้คิดถึงเธอ...

.....ที่รัก คิดถึง ห่วงใย และรักที่สุด...

ขอบคุณครับ

นพ.ไมตรี พิชญังกูร                    ขอบคุณค่ะพี่หมอ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ความรักคืออะไร ตอนที่ 29 : น้ำตา3
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: 24/08/2013, 18:31 »

24 สิงหาคม 2556

ความรักคืออะไร (ตอนที่ 29: น้ำตา3)

.....ที่รัก...

.....ผมไม่รู้หรอกนะว่า การที่เรา2คน รักกัน บางที บางสิ่งบางอย่าง มันอาจจะถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ช้าบ้าง เร็วบ้าง รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง...

..... แต่สำหรับผมแล้ว ผมถือว่าดีหมด เพราะว่า ผมรักคุณ ผมไม่ต้องมาหาเหตุผลมากแล้ว ผมรักคุณแล้ว เวลาคุณตัดสินใจกระทำอะไรบางสิ่งบางอย่างไปแล้ว จะช้า จะเร็ว จะถูก จะผิด ผมไม่ถามคุณแล้ว ผมจะถือว่า คุณเจตนาดี หวังดี และผมก็จะเชื่อใจคุณ 100% ผมมีแต่จะปกป้องคุณ จะยืนข้างคุณตลอดไป จะอดทน นำพาความรักเราไปสู่เป้าหมายให้ได้...

..... ต่อให้วันนี้ มีใครเอาปืนมาจ่อที่ขมับผม แล้วบอกให้ผมเลิกรักคุณ ผมยอมตายดีกว่า...

.....บางอย่าง ถ้าผมทำให้คุณผิดหวัง ผมได้แต่เสียใจมากๆ และจะต้องขอความกรุณาให้คุณสงสารและเมตตาผม ในความตั้งใจรักของผม ที่มีเจตนารักจากใจบริสุทธิ์ แต่อาจจะไม่ถูกใจอารมณ์คุณ หรือไม่เป็นไปตามกรอบความคิดของคุณ ได้แต่ขอร้องว่า ผมไม่มีเจตนาที่ไม่ดี เป็นเพียงวิธีคิดของเราต่างกัน เท่านั้นเอง...

..... ผมคงไม่สามารถมีความรู้สึกรักใคร ที่ลึกซึ้งแบบที่รักคุณ ได้อีก ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติไหนๆ...

.....ณ วินาที นี้ ผมก็สงสารคุณมากๆ ที่ทำให้คุณเสียใจ ในขณะนี้ น้ำตาผมก็ไหลไม่หยุดเหมือนกัน...

ขอบคุณครับ

นพ.ไมตรี พิชญังกูร         ขอบคุณค่ะพี่หมอ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม

5 กันยายน 2556

ความรักคืออะไร: (ตอนที่ 28: วาสนา 2 :ปณิธาน)

.....ขอบคุณทุกๆวาสนา ที่สรรค์สร้างส่วนประกอบในตัวตนผม ทั้งในมิติของร่างกาย ความคิด จิตใจและจิตวิญญาณ จนเป็นผมในทุกวันนี้...

.....ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงสุด คุณพ่อ คุณแม่ ที่ให้กำเนิด เลี้ยงดู และให้ได้รับการศึกษาอย่างดีที่สุด...

.....ขอกราบขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกๆท่าน ที่พร่ำสั่งสอนศิษย์ที่่ไม่เอาไหนคนนี้ รวมทั้งครูพักลักจำของผม ทุกๆท่าน...

.....ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน เพื่อนฝูง ทุกๆท่าน รวมทั้งเพื่อนที่น่ารักของผมบน Facebook ทุกๆคน ที่รักและเอ็นดูผมมาตลอด...

.....ในมิติของชีวิตและงาน ผมก็เหมือนกับมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ซึ่งมีทั้งความสุข ความทุกข์ ความสำเร็จและความล้มเหลว...

.....ปณิธาน จากนี้ไป จนสิ้นลมหายใจผม ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ที่ผมสามารถเพิ่มคุณค่าให้เพื่อนมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้ ผมจะทำทันที โดยไม่ลังเลเลย...

.....คุณสมบัติสุดยอด 2 อย่างของมนุษย์ คือ การสร้างและการทำลาย...

.....จากนี้ไป ผมเลือกที่จะทำงานสร้างสรรค์ และถือเป็นภารกิจของชีวิต ที่จะทำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แบ่งปันพรสวรรค์ที่ผมมี เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...

.....มีความรู้สึกว่า พรสวรรค์ที่ผมมี เป็นของขวัญจากพระเจ้า จากธรรมชาติ และถูกบ่มเพาะมาจากทุกๆวาสนา จึงอยากแบ่งปันกลับคืน

.....เป้าหมายคือ เพิ่มคุณค่าให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยมี "ความรัก" เป็นแรงบันดาลใจ โดยความรักในมิติที่ 1 นั้น ขอสงวนสิทธิ์ไว้ แต่จะพัฒนา "ความรัก" ในมิติที่สูงยิ่งๆขึ้นไป (ความรัก 10มิติ)...

.....ขอกราบขอบพระคุณวาสนา และทุกๆวาสนา อีกครั้งหนึ่งครับ...

ขอบคุณครับ

น.พ.ไมตรี พิชญังกูร           ขอบคุณค่ะพี่หมอ

Tags: