collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ระฆังทอง เกราะไม้ ให้สัญญาณ (บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรมจากท่านเหล่าเฉียนเหยิน)  (อ่าน 8837 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                              ระฆังทอง   เกราะไม้   

                                 ให้สัญญาณ

                (บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรมจากท่านเหล่าเฉียนเหยิน)

                                ศุภนิมิต  -  แปลและเรียบเรียง

                                          คณะผู้จัดทำ

                                             ศุภนิมิต

                                    ชีวิตความเป็นอยู่   ใคร ๆ ก็รู้

                           ฟืน  ข้าวสาร  น้ำมัน  เกลือ  อาหารของบ้าน...   

                            แต่ญาณภาวะ    หัวใจธรรมะ    ใครเลยจะรู้

                                  เกิดมาเพื่ออะไร    ใครได้สำเหนียก 

                                 ดำรงชีวิต   พร้อมกับดำรงอายุนั้นง่าย

                          ดำรงอายุ  อีกทั้งดำรงชีวิตพระโองการฟ้าสิยาก   
       
                                เกี่ยวกับปฏิปทา  จริยวัตรผู้เฒ่าท่าน 

                                        ค่อย ๆ พิจารณาอ่าน

                                   ท่ามกลางความธรรมดาเรียบง่าย

                              เราจะพบความโดดเด่นเป็นที่สุดของท่าน

                                  ท่ามกลางความเป็นธรรมชาติสมถะ

                                เราจะเห็นความแยบยลสูงส่งของท่าน

                                   ซึ่ง...โดยมิทันกำหนดหมาย

                                ...เราก็จะได้เข้าถึงซึ่งภาวะนั้น...

                                   ดังได้รับฟังคำสอนตรงหน้า

                                   หากแม้มิใช่วิสุทธิบารมีคุณ

                    จะอย่างไรท่านจึงนำหนุนปรับแปรคนได้ถึงเพียงนี้                                       

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                          ระฆังทอง   เกราะไม้   

                                 ให้สัญญาณ

                (บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรมจากท่านเหล่าเฉียนเหยิน)

                                สำนึกพระคุณ

                           แบบอย่างธรรมจริยวัตร

                                 ผู้เฒ่าน้ำใส

        ธรรมจริยวัตรผู้เฒ่าน้ำใส คือเรียบง่าย สมถะ  ประหยัด  มัธยัสถ์  เมตตากรุณา  โอบอ้อมอารีย์  พร้อมพลี  พร้อมให้  ว่องไว  ขยัน  ท่านไม่เคยให้ใครเลยผ่านไปโดยมิได้แสดงธรรมพร่ำสอนกล่อมเกลาตักเตือน  ท่านไม่ดูดายความทุกข์ใคร ไม่ดูดายการงานน้อยใหญ่ อันพึงช่วยเหลือสงเคราะห์  ไม่ละเลยหละหลวมจริยระเบียบพิธีแม้แต่น้อย  ไม่ละเลยจริยมารยาทประณีตที่ผู้ปฏิบัติบำเพ็ญพึงมีต่อใคร ๆ   ท่านรักษาคุณค่าทุกเวลานาที  เพื่อสร้างประโยชน์สุขแก่ปวงชน  ท่านรักษาคุณค่าทุกเวลานาที เพื่อการศึกษาพระธรรมคัมภีร์อดีตอริยปราชญ์  ท่านโปรดถ่ายทอดอรรถาปรัชญาสัจธรรมทุกโอกาสไม่พลาดผ่าน  ท่านรำลึกพระมหากรุณาธิคุณเบื้องบนพระคุณพระบรรพจารย์ทุกขณะจิต  ท่านรำลึกพระคุณบิดามารดาตราบชั้วชีวิต แม้เมื่อท่านจะสูงวัยแล้วถึงเก้าสิบห้าธรรมชันษา  ท่านพร้อมด้วยจิตใจมุ่งมั่นแกร่งกล้า  ยืนหยัด  ฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามที่ปิดกั้นหนทางแพร่ธรรม  เบิกทางไปสู่มรรคผลนิพพาน ดุจดวงประทีปสืบส่งแสงสว่างแก่มวลเวไนย ฯ  ท่านมีบุตรหลานในสายเลือดมากมาย  แต่ท่านไม่เคยสร้างวงกำจัดสิทธิครอบครองเฉพาะของท่านเอง  ท่านมีความรักแผ่ไพศาลดุจอากาศกว้างที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด  ท่านมีมหาปณิธานกอบกู้  อุ้มชู  รับใช้ชาวโลก  และมุ่งหมายจะเป็นเช่นนี้เรื่อยไปในทุกชาติภพมิรู้จบแห่งการเวลา  โลกมิอาจขาดน้ำ  ผู้อยู่ในภาวะเหือดแห้งกระหาย ต้องการน้ำชุ่มชื่นดื่มกิน  ผู้อยู่ในสภาพกิเลสเกรอะกรังน่ารังเกียจ ต้องการน้ำชำระล้าง... ท่านจึงยินดีเป็น ผู้เฒ่าน้ำใส   ท่านจึงได้ชื่อว่า  ผู้เฒ่าน้ำใส  แม้จะบรรลุพระอริยฐานะระดับสูงคือ  " องค์สมเด็จพระกตาธิการบรมอริยธรรมราชเจ้า "  แล้วก็ตาม... แต่  เบื้องหลังยังโปรดให้ท่านคงไว้ซึ่งธรรมฉายา " ผู้เฒ่าน้ำใส "  นั่นคือการคงไว้ซึ่งมหาปณิธานเดิม ที่ยินดีจะกอบกู้อุ้มชู ชุ่มฉ่ำ ชำระล้างกิเลสชาวโลกต่อไปทุกชาติภพ  เราทั้งหลายโชคดีที่ได้ดำเนินธรรมตามท่าน ได้สัมผัสรับรู้ธรรมจริยวัตรสูงส่งงดงามยิ่ง  กว่าหกสิบปีที่ผ่านมาของท่าน อันเป็นจริงทุกขณะ  วันนี้  ท่ามกลางโลกโลกีย์ที่ต่ำทราม ความบริสุทธิ์ยิ่งใหญ่ในความเป็นท่าน ยิ่งทำให้เราเข้าใจซาบซึ้งต่อคำสดุดีที่ทั่วโลกมีต่อท่านได้อย่างสุดซึ้ง เมื่อเข้าถึง เราจึงมุ่งมั่น เทิดทูนโอวาทท่านทุกถ้อยคำที่ย้ำเตือน...                     

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                          ระฆังทอง   เกราะไม้   

                                 ให้สัญญาณ

                       บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                        จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                     ๑

                           ซื่อตรงปฏิบัติบำเพ็ญ

                   รักษาปณิธาน   รักษาความสำเร็จ

               ขวัญวิญญาณ   สติปัญญาของคน  ยิ่งใช้ยิ่งเกิดมี  จะต้องเสริมส่งด้วยตน  (ยิ่งดำรง เจริญไกล)

        ตั้งพุทธตำหนักเป็นนามสมมุติ "บ้านฉันจะตั้งฝอถังแล้ว"  ปีหนึ่งได้ฉุดนำใครสักสองคนก็เปล่า  เธอก็ไม่ได้ปั้นเต้า มีฝอถังไว้แค่ถวายธูปแด่เหลาหมู่อย่างนั้นนับไม่ได้หนอ !  เป็นเจี่ยงซือ จะต้องหาวิธีส่งเสริมใครเขาให้เข้าใจธรรมะ ไม่ต้องฟังไม่ต้องถามอื่นใด  (จะอย่างไรก็ต้องทำหน้าที่ของเจี่ยงซือ
ให้เต็มที่)  ศึกษาระดับ "ลี่เต๋อ ก่อเกิดคุณธรรม"  ก่อเกิดหรือยัง ไม่มีลี่เต๋อเลยสักคน เข้าศึกษาเสียเปล่าใชไหม อย่างไรเรียกว่า "ลี่เต๋อ"  ประกาศกล่อม
เกลาแทนฟ้าปรกนำเวไนย ฯ นี่ก็คือลี่เต๋อ  แท้จริงแล้ว (ภาวะจิตสำนึก)  ไม่จำเป็นต้อง (ใช้เวลา)  วิเคราะห์ศึกษา ไปปฏิบัติการทันทีนั่นแหละ ใช่เลย                               
ที่ผ่านไปอย่าไปคิด ยังมาไม่ถึงไม่ต้องคิด ที่เป็นอยู่ขณะนี้ ทุกอย่างว่างเปล่า พวกเธอปฏิบัติบำเพ็ญธรรม อย่าแบ่งใจ (ฟุ้งกระจาย) ให้ใจมั่งไว้ใน (เอกะ
ธรรม) หนึ่งเดียว เรื่องมากมายรู้ได้ในบัดดล (เกิดฌาน)  เราทำงานธรรม จะต้องเคารพรักษาจุดหมายของการแพร่ธรรมอย่างแท้จริงให้ได้ ตนเที่ยงตรง                         
ส่งเสริมคน ปรกนำเวไนย ฯ ไม่ใช่ไหลตามบุคคลหมู่คณะ จะต้องรู้หนอ แต่โบราณกาลมา ผู้บำเพ็ญล้วนเงียบงำคราดไถ บำเพ็ญจริงเคี่ยวกรำแท้ ไม่ยึดรูป
ลักษณ์เปลือกภายนอก เอาแต่ทำภาพลักษณ์ให้ดูดี พระอาจารย์ โปรดเสมอว่า "เธอพูดได้ดี ไม่แน่ว่าเธอจะบรรลุได้ แต่เขาฟังเธอพูดประโยคนี้ เขาอาจบรรลุ ก็เพราะเธอพูดแล้ว ตัวเองไม่ได้ทำ จึงบรรลุไม่ได้ เขาทำได้  เขาบรรลุแล้ว"  สงบนิ่งพิจารณาทุกวัน  ตื่นนอนถามตัวเองเสียก่อน วันนี้งานที่ฉันควรทำคืออะไร จะเสริมสร้างทางธรรม ผูกบุญสัมพันธ์กว้างใหญ่อย่างไร เราจะช่วยเหลือผู้ตกอับรอบ ๆ ตัวเราได้อย่างไร ก่อนนอนคิดพิจารณาสักครู่ วันนี้ ฉันควบคุมตน ตั้งใจปฏิบัติดี วิริยะก้าวหน้า รักษาการบำเพ็ญหรือไม่ หรือฉันปล่อยเวลาว่างเปล่าเสียคุณค่าไป หรือฉันแอบหาความสบาย ปล่อยตัวปล่อยใจแต่โบราณมา ผู้กล้า ชายชาตรี ถูกทำลายด้วย "ลาภ กับ รูป"  มากมายเหลือเกิน เราผู้ปฏิบัติบำเพ็ญ จะต้องใส่ใจ พลาดเท้าไป แค้นใจชั่วกาล หมดสิ้นกุศลกรรมที่ทำมา จะไม่เสียดายหรือ ทุกคนจะต้องเตือนภัยให้แก่กัน  ระวังวาจา รอบคอบการกระทำ ประมาทไม่ได้ หากถูกสงสัย เปื้อนไปนิดเดียวจะหมดทางล้างให้สะอาดได้ จึงต้องสำรวมระวังทุกขณะ                               

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                           ระฆังทอง   เกราะไม้   

                                 ให้สัญญาณ

                       บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                        จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                     ๑

                           ซื่อตรงปฏิบัติบำเพ็ญ

                   รักษาปณิธาน   รักษาความสำเร็จ

               ขวัญวิญญาณ   สติปัญญาของคน  ยิ่งใช้ยิ่งเกิดมี  จะต้องเสริมส่งด้วยตน  (ยิ่งดำรง เจริญไกล)

        บัดนี้ เป็นเวลา "รักษาผล"  หละหลวมเพียงเล็กน้อย จะว่างเปล่าเช่นตะกร้าไม้ไผ่ตักน้ำ (บุญกุศลรั่วไหล) สำนึกได้ก็สายไป เราพึงรู้ โลกีย์วิสัยไม่คงที่ มีรุ่งมีเสื่อม เราจะต้องระวังกาย วาจา อย่าย่ามใจ ไม่หวังเกียรติคุณ ขออย่ามีผิดพลาดเป็นพอ เขาบำเพ็ญธรรมมายี่สิบปีไม่ละเมิดผิดแม้แต่น้อยนิด เธอก็บำเพ็ญมายี่สิบปี เธอมักจะลวก ๆ  เธอเทียบกับเขา ก็จะไม่เหมือนกัน บัดนี้ (ถึงวาระ)  ท้ายที่สุดแล้ว บำเพ็ญคุณงามภายในของเธอให้ดี ฉากหน้าจะเป็นมหาอาราม พุทธสถานกินข้าว อาหารเต็มโต๊ะ ตำหนักพระอลังการ... นั่นคือหน้ากาก นั่นไม่ใช่ธรรมะ  พระอาจารย์ของเรามีมหาตำหนักเสียที่ไหน พระอาจารย์ดปรดว่า "บำเพ็ญไม่มีอื่นใด ไม่ใช่คุณก็คือโทษ"  สงเคราะห์โลก ฉุดช่วยคน  สอบเขาตกไป เธอมีผิด ฉะนั้น เราบำเพ็ญธรรม "มีได้แต่คุณ ไม่ให้มีโทษ"  เราจะต้องเหยียบยืนบนพื้นจริงแท้ พิชิตจิตเกียจคร้านกับตัณหาของตน เธอไม่ชัดเจนสิ่งนี้ ไม่มีใจแกร่ง เธอไม่อาจแข็งขันต่อไป ทำ (แพร่ธรรม)ได้ก็ทำ  ทำไม่ได้ให้รักษา (ธรรมปณิธาน) ไว้ ท้ายสุดจะรวบเก็บแล้ว บำเพ็ญคุณธรรมภายในของตนให้ดี ๆ  เราหาวิธีช่วยเขา (ให้รับวิถีธรรม) ได้แล้ว หาวิธีให้เขาเข้าใจธรรมะต่อไป หาวิถีให้เขาเข้าใจมาดำเนินธรรมแทนฟ้า นี้คืองานฐานหลักของเรา (ส่งเสริมนำพาให้เจริญธรรม)  ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม พูดไม่ได้ว่าได้สร้างผลบุญ ใช้หนี้ยังจะไม่ทันเลย เรียกได้ไหนเชียนว่าเป็นคุณบารมี ชีวิตคนในโลก เป็นหนี้บุญคุณมากมายนัก โดยเฉพาะเป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากที่สุด คิดให้ดีหนอ กินเจไม่ใช่บำเพ็ญธรรม เธอกินเจอยู่นี้ไม่มีผลบุญ เธอสำรวมอยู่ในร่องในรอย ไม่ล่วงละเมิด เป็นส่วนอันควรของเธอเอง  เธอฉุดนำเขา กล่อมเกลาเขา เขากลับตัวเป็นคนดีเธอจึงจะมีผลบุญ  เราบำเพ็ญธรรม ตั้งปณิธาน เจริญปณิธาน ยอมรับความเหนื่อยยากขัดเคือง มีคุณ มีโทษ  เบื้องบนมีสมุดบัญชีอยู่เอง หากสำคัญตนว่ามีคุณ ปิดทองบนใบหน้าแก่ตน นั่นคือหลอกตน เราบำเพ็ญธรรมไม่หวังคุณ หวังเพียงไม่มีโทษ หวังเจริญปณิธานตอบแทนพระคุณเท่านั้น  ทุกอย่างที่เราทำ เพียงแต่เงียบงำร่วมพระประสงค์กับเบื้องบน ทำเสร็จแล้วภายหน้าก็กลับคืนฟ้า ถวายส่งพระบัญชาที่ได้รับมอบหมายมา ถ้าเธอ (หลี่เฉียนเหยิน ซึ่งบรรลุโพธิสัตว์เป็น เอวิ๋นฉือผูซ่า) ใคร่จะได้ลูกหลานเต็มบ้าน (ไมเสียสละ) ก็จะไม่มีวันนี้ ฉะนั้น เราบำเพ็ญธรรมน่ะ อย่าเข้าใจว่า ภาวะแวดล้อมไม่ดี นั่นคือเบื้องบนฝึกฝนเธอ ถ้าจะเอาภาวะแวดล้อมดี เธอ (หลี่เฉียนเหยิน) ก้จะไม่มา (ที่มาบุกเบิกแพร่ธรรมที่ไต้หวัน ก้ด้วยยินดีเคี่ยวกรำฝ่าฟัน)  ฉะนั้น เราบำเพ็ญธรรม จะต้องบำเพ็ญยากเข็ญ ฝึกฝนยากเย็น... นี่ จะต้องรู้ไว้  บำเพ็ญ ถึงอย่างไรก็จะต้องลำบาก ไม่เป็นไร ลำบากก็อดทนเอา อดทนจนถึงที่สุด อดทนจนถึงสุดท้าย โอบอ้อมมันไว้แล้ว ละลายสลายไปก็สิ้นเรื่อง (สิ้นความลำบาก) กัน  วิถีธรรมมีแฝง มีแจ้งชัด เป็นเจตนาฟ้า  บำเพ็ญธรรมแน่นอนจะต้องมีมารทดสอบ เกิดจากที่ผู้คน บุคคล  ทำไม่ดีงาม  เธอเช็ดโต๊ะ  ก่อไฟ  หุงข้าว  ส่งเสริมฉุดนำใคร ๆ หรือขับรถให้ เพียงแต่ทำเพื่ออาณาจักรธรรม เธอเหนื่อยยากลำบากมาก  คุณบารมีก็จะสูง  หากเราแสดงความมีแก่ใจรับผิดชอบให้มาก  ตรีเทพพิทักษ์มหาราชเจ้าลงทะเบียนเซียนพุทธะทั่วทุกสากลโลกก็ลงทะเบียนให้ ช่วยฟ้าทำงานธรรมะ เซียนพุทธะจะช่วยเราแน่นอน

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                             จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                          ๒

                                    กาลเวลาคับขัน

                                  ฉุดช่วยคนจะต้องเร็ว

        อมตะพุทธะพระอาจารย์โปรดว่า  "รอประชุมธรรม ก็จะชักช้าพลาดโอกาสแก่เขา" รับธรรมะแล้ว ให้เขารอสองเดือนแล้วจึงจะเข้าประชุมอบรมธรรม (จึงจะเข้าใจ)  ถ้ามีชีวิตอยู่ไม่ถึงสองเดือนล่ะ เธอไม่ได้ตายจากเขาอาจตายไป เบื้องบนจะไม่คอยใคร วันนี้รับธรรมะ ก็จะต้องพูดให้เขาเข้าใจวันนี้ทีเดียว เข้าใจแล้วก็จะต้องไปทำ พรุ่งนี้ยังจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ รับรองไม่ได้  ตั้งแต่โบราณกาลมา บำเพ็ญธรรมไหนเลยให้รอไปก่อนสามปีจึงจะปฏิบัติ ยุคสามปลายกัปผ่านไป สรรพสิ่งถูกทำลายสิ้น  คนสิบส่วนจะต้องตายเสียเจ็ดส่วน หกหมื่นปีเพิ่งจะครั้งนี้ที่ปรกโปรดครั้งใหญ่ ผ่านไปเลยก็จะไม่มีแล้ว อย่าดูเบาเรื่องนี้  พวกเธอล้วนมีพุทธะสัมพันธ์ บรรพบุรุษมีคุณธรรม หากบรรพบุรุษไม่มีคุณธรรม ชาติก่อนไม่มีกุศลมูล แม้เธอจะได้รับวิถีธรรม เธอก็จะไม่เชื่อ (ไม่ศรัทธา)  บัดนี้ บุญบาปจะแบ่งแยก (ประเภทคน)  ผ่านไปเลยจะไม่มีโอกาสนี้อีก  ตั้งแต่เบิกฟ้าผนึกแผ่นดินจนถึงปัจจุับัน หกหมื่นกว่าปีก็เพิ่งจะมีครั้งนี้เท่านั้น ที่ให้เราตามมาทัน (การปรกโปรด)  เธอเดินตามไปก้จะหลุดพ้นทะเลทุกข์เวียนว่าย เธอไม่เดินตามไป ได้แต่บวกลบคูณหารเพื่อเนื้อกายตน สร้างบาปล้นท้นตัว ผ่านเลยไป เห็นใคร ไ เขาบำเพ็ญได้ดี คิดอยากจะตามไปอีกทีก็ไม่มีเสียแล้ว   เซียนพุทธะมีพระโอวาทวจนะว่า  "โอกาสพลาดผ่าน พบพานใหม่ได้ยาก"

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                             จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                         ๓

                          อาศัยกายสมมุติบำเพ็ญธรรมจริง

                           บำเพ็ญจิตญาณ  ยุติการเกิดตาย   

         ตรงหน้าเธอล้วนจะต้องเห็นเป็นสมมุติ  เธอไม่ละวางลง เธอกลับคืนสวรรค์ไปไม่ได้  เธอละวางได้แล้วก็คือสวรรค์ "ภรรยาแสนดี"  แต่พอลงนรกภรรยาไม่ไปด้วย อะไรล่ะที่ว่าดี ลูกหรือ  โตแล้วเขาก็ต่างกันต่างไป เธอเจ็บป่วยต้องรับทุกข์ก็รับไปเอง ไม่เกี่ยวกับเขา (แทนกันไม่ได้)  ปลงเห็นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสมมุติ ใจที่แย่งชิงลาภสักการะก็จะไม่มี  เมื่อไม่มีใจแย่งชิงลาภสักการะ ก็จะไม่มีกิเลส ไม่ต้องกังวลขุ่นข้องหมองใจ  ไม่ต้องขึ้นศาลพิพาทบาดหมาง  อย่างนี้ ทุกวันคือสววรค์  เธอไม่มีลูก ไม่มีทายาท ตายไป ไม่มีใครกราบไหว้บูชาป้ายชื่อบรรพชน  แต่สมัยนี้ เธอมีลูก เขาก็ไม่บูชากราบไหว้ เขาไปอยู่อเมริกา เขาไม่เอาเธอแล้ว  ขณะเธอมีชีวิตอยู่ เขายังไม่เอาเธอเลย สภาพการณ์อย่างนี้มีทั่วไปในไต้หวัน เธอเลี้ยงเขาเสียเปล่า นั่นคือเธอเป็นหนี้เขา  เธอเลี้ยงเขาเติบใหญ่ เขาจากไป ไม่ใยดี เมื่อต้องลงนรก เธอลงไปเอง เขาไม่เกี่ยว  เซียนพุทธะโปรดว่า "หนี้เวรกรรมหกหมื่นปีมา"  อย่าดูถูกตัวเองบัดนี้เรา  "บวชอยู่บ้าน"  เราอยู่บ้านจะต้องบวชจิต อยู่บ้านอย่าพลาดผิดต่อวิสัยปุถุชน อยู่บ้านแต่เธอจะต้องมีใจสงเคราะห์โลก ฉุดช่วยคน จะต้องไปทำงานธรรม  อยู่แต่บ้านล้อมวงลูกเมียกินข้าว หาเงินให้ร่ำรวย อย่างนี้จะเรียกว่า "บวชอยู่บ้าน"  ได้อย่างไร  เราสละโลกีย์วิสัยสักหน่อย หาเงินน้อยลงสักหน่อย ชีวิตต้องผิดทางไปเป็นเรื่องสำคัญ ชีวิตของเราสำคัญ   ความล้ำค่าของการได้รับวิถีธรรมอยู่ที่ไหน  อยู่ที่ชีวิตของเราล้ำค่าที่สุด  ทุกสิ่งอย่างทางโลกล้วนสมมุติ  ชีวิตเท่านั้นเป็นสิ่งจริงแท้   จิตญาณกับสังขารของตนแบ่งแยกไม่ชัดเจน ( รู้แท้ )  แต่งหน้าแต่งตัว  สนใจแต่บำรุงรักษาร่างกาย รักษาเสียแทบแย่ มันก็ตายกลายเป็นท่อนเนื้อเน่าเหม็น หาหมอทุกวัน  หมอเองก้รักษาตัวเองไว้ไม่อยู่  เธอดู  หมอมีอายุยืนยาวนั้นน้อยนัก  หมอเองรักษาตัวเองได้ไม่ใช่หรือ แต่พอป่วยเข้าจริง ๆ หมอก็รักษาตัวเองไม่ได้  เพียงแต่ปลงตกต่อเหตุปัจจัยสายสัมพันธ์  สิ่งทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าก็ล้วนเป็นมายาว่างเปล่า วางลงได้ เชื่อมั่นได้จริง  บังเกิดปณิธานใหญ่  เสียสละได้ทุกอย่าง ก็จะสำเร็จผลได้ง่าย  หากยึดหมาย หวังความฟุ้งเฟ้อลวงตาเฉพาะหน้า อีกทั้งกลัวจะเหนื่อยยาก นั่นก็จะยากต่อความสำเร็จ  เราสร้างการงานอย่างหนึ่งในโลก ยังจะต้องผ่านความยากลำบากมากมายจึงจะสำเร็จได้  สำคัญกว่านั้นคือเราจะเจริญรอยตามเซียนพุทธะอริยเมธา จะสำเร็จได้ง่าย ๆ อย่างนั้นได้ที่ไหน  คนมีชีวิตอยู่ก็รับทุกข์  โดยเฉพาะเมื่อวัยชรา เข่า ขาปวดเมื่อย นัยน์ตาพร่ามัว หูฟังไม่ชัด ไม่กล้ากินข้าวมาก อีกทั้งนอนไม่หลับ อยู่จนแก่เฒ่า คืออยู่รับสภาพทุกข์   เคยมีเรื่องที่คนแก่ฆ่าตัวตายมิใช่หรือ   ความทุกข์จากการ เกิด แก่  เจ็บ  ตาย  ใกล้ตาย  ใครก็แทนที่กันไม่ได้  ลูก  ภรรยาเขาต้องปล่อย เธอไปนรกภรรยาไม่ไปด้วย  ฉะนั้น  คนจะต้องปลงเห็นความเป็นจริงของทะเลทุกข์ที่เกิดตาย       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11/11/2011, 14:21 โดย jariya1204 »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                     ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                             จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                       ๔

                                    บำเพ็ญธรรมบำเพ็ญใจ

                            สำรวมกำราบตนยามอยู่ลำพัง   

         เธอบำเพ็ญธรรมประจันต่อใคร ประจันต่อฟ้าเบื้องบน เธอประจันต่อคนก็จะมีถูกผิด มีตอบโต้ เขาด่าว่าเธอ เธอไม่พอใจ พระแม่องค์ธรรมของเราโปรดไว้ เห็นแก่พระแม่องค์ธรรม น้อมใจเชื่อฟัง ยอมเสียเปรียบ ยอมขดตัว ถูกว่ากล่าวปรักปรำ เรื่องใหญ่กลายเล็ก เรื่องเล็กสลายไปหมดเรื่องใช่ไหมล่ะ  ฟ้าเบื้องบนไม่ผิดต่อคน บำเพ็ญธรรมต้องบำเพ็ญใจ  จะต้องทำลายอัตตาตัวตนเขา - เรา   ถามตนเอง อัตตาตัวตนเขา - เรา  เราทำลายลงแล้วหรือยัง เขาว่าเธอไม่ดี เธอก็จะไม่พอใจ โลภ โกรธ หลง เป็นสามพิษร้าย โทสะเกิดก็เข้ากับนรกทันที  ฉะนั้น บำเพ็ญธรรม ถ้าอัตตาเขา - เรา คิดเห็นเอนเอียง เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ ไม่กำจัดไปจากตน มันจะเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการบรรลุธรรมของเรา   เราจะต้องย้อนสำรวมตน ถามตนเอง งานธรรมะ ที่เธอทำนั้นอยู่ที่ไหน ธรรมะของเธออยู่ที่ไหน โลภ โกรธ หลง ไม่ขจัดไป เธอบำเพ็ญธรรมอะไร  ความดีสักนิดก็ไม่ได้ทำ เห็นคนเลวเธอยังเกลียดเขา ยังเรียกร้องเซียนพุทธะโปรดเมตตา กรุณาเธอ เรียกใคร ๆ ให้เมตตาเธอ เธอดูซิ พอพบหน้ากัน "เฉียนเหยินฉือเปย..."ล้วนแต่เรียกร้องให้โปรดแก่เธอ เธอเองได้เมตตากรุณาต่อใครแล้วหรือ ทุกวันยังเรียกร้องบรรพบุรุษได้โปรดแก่เธอ เรียกร้องเซียนพุทธะโปรดแก่เธอ เธอได้โปรดเมตตากรุณาใครแล้ว ไม่มีสักนิดเลย  คนที่เรียนวิทยายุทธ  เจอใครสบประมาทจะคิดถึงคำของอาจารย์ที่ห้ามไว้ ไม่กล้าลงมือทำร้ายเขา ปัญญาชนคนร่ำเรียน  เจอความลำบากขัดข้องหากลืมคำของอาจารย์ในตำรา เอาแต่ตีโพยตีพายระบายอารมณ์ความเห็นผิดของตน นั่นก็เท่ากับไม่ได้ร่ำเรียน  เซียนพุทธะมีเกลียดใครที่ไหน เห็นคนที่ไม่ดี จะต้องกล่อมเกลาเขา  ฉุดนำแปรเปลี่ยนเขาช่วยเขาให้ออกจากทะเลทุกข์ เราคนธรรมดาเห็นคนเลว ก็จะรังเกียจเดียดฉันท์  เซียนพุทธะมีรังเกียจเดียดฉันท์ที่ไหน เห็นคนเลวเราจะต้องมีใจสงสาร  ถ่วงอยู่ด้วยกายเนื้อ แน่นอนจะต้องมีข้อเสียจุกจิกหยุมหยิม จะต้องอดกลั้น อดทนต่อกันช่วยเหลือกัน  อริยเจ้าโปรดว่า  "ต่ำถึงที่สุดคือสูง" ยิ่งทำงานธรรมะ ยิ่งจะต้องลดตัวลดอารมณ์ให้ต่ำสุด หากไม่ประมาณตน ยโสโอหัง วันข้างหน้าไม่แน่ว่าจะบรรลุธรรมได้  ใจเราทั้งหมดล้วนไม่เที่ยงตรง  เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ เห็นผิดคิดแต่ส่วนตน เอาแต่คำนวนการเพื่อตน ไม่สนใจใครเขา อย่างนี้เรียกว่า "ใจไม่เที่ยงตรง"  เธอดู เด็กเล็กเขาไม่คำนวนการเพื่อตน ฉะนั้น อริยเจ้าจึงโปรดว่า "รั้งใจบริสุทธิ์ดุจทารกคืนมา" ให้เธอรั้งใจนั้นกลับคืนมา "คน เป็น ยาก  ยากเป็นคน" หนอ !  การเป็นคนนั้นยากหนอ ขจัดความเป็นคนออกไปได้ ไม่ธรรมดานะ เรานี้มาทันโอกาศดี เบื้องบนเปิดทวารวิเศษให้แก่เราแล้ว แต่ทำยากหนอ  ฉันทำได้หน่อยหนึ่ง ก็คือได้หน่อยหนึ่ง เราจะต้องทำ ฟังเข้าใจไหม ทำไปถึงไหนก็ถึงนั่น ที่สุดของความตั้งใจก็เสร็จสิ้นกัน  สำนึกผิดขอขมา ให้อภัยเข้าใจเขา สำนึกพระคุณ... ฟังเข้าใจไหม     

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                 ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                      ๕

                         เจริญเรียนอย่างอริยา

                           คุณค่าอยู่ที่ทำตามจริง

     เราได้รับวธีธรรม ได้ศึกษาจะต้องเจริญเรียนอย่างบรรพอริยเมธา ไม่เหมือนอย่างคนปุถุชนคนทั่วไป ทำไมจึงเรียกว่าปุถุชนคนทั่วไปก็เพราะไม่อาจดำเนินธรรมแทนฟ้า ไม่อาจอุทิศตนเพื่อคนอื่นได้  ปัจจุบัน พวกเธอได้ล้วนได้รับการศึกษาระดับสูง สำคัญตนเหนือชั้น นั่นต่างกับการบำเพ้ญธรรม อย่าสำคัญว่าอ่านมามาก เรียนมามาก แต่จะต้องบำเพ็ญคุณประโยชน์แท้จริง สงเคราะห์โลกฉุดช่วยคน อยากเป็นอริยะ จะต้องทำงานอริยเมธาทุกวัน  ผ่านไป  ไม่ได้ทำ ภายหน้าจะเป็นอริยเมธาไม่ได้  มีคุณธรรม มีปรีชาญาณ จึงจะเป็นอริยชน  มึคุณธรรมขาดปรีชาญาณ เป็นเมธาชน ขาดคุณธรรม มีปรีชาญาณ คือจัณฑชนคนใจแคบ ขาดคุณธรรมขาดปรีชาญาณ คือปุถุชนคนโง่หลง  ยอมคบเพื่อนมีคุณธรรมที่ขาดปรีชาญาณ แต่ไม่ยอมคบเพื่อนที่ปรีชาญาณแต่ขาดคุณธรรม ขณะนี้ เราปฏิบัติงานธรรม ปฏิบัติงานธรรมก็คือ บำเพ็ญธรรม อย่างเช่น เธอฉุดนำคนมารับธรรมะที่พุทธสถาน ระหว่างสองชั่วโมงนั้น เธอยินดีปรีดิ์เปรม หวังให้เขาได้รับวิถีธรรม เรื่องอื่น ๆ ลืมสิ้น สองชั่วโมงระหว่างนั้น เธอก็คือเซียนพุทธา ไม่มีใจเห็นผิด ไม่คิดเห็นแก่ตัว  คนที่เคยพาคนมารับธรรมะ จะรับรู้ความรู้สึกนี้ได้ดี  ไหว้พระคือการเรียนรู้ทำตามขวัญวิญญาณมหาเมตตากรุณาของเซียนพุทธะโพธิสัตว์ อีกขั้นหนึ่งคือ ย้อนมองส่องตน สำรวจตน  อย่างนี้จึงจะเป็นความหมายแท้จริงของการกราบไหว้พระพุทธะโพธิสัตว์ ผู้มีหมาคุณธรรมแท้จริงนั้น ภายนอกดูไม่ออกดูอย่างกับคนทึ่ม กัลยาณชนสูงส่งด้วยคุณธรรม ดูอย่างกับคนโง่ กลัยาณชนผู้มีคุณธรรม ดูอย่างกับคนธรรมดาที่เจียมตัวเกรงใจ ทำไมฉันจึงพูดคำนี้ เราศึกษาปฏิบัติธรรม จะต้องเอาอย่างอริยเมธาเซียนพุทธะ ไม่ยึดถือว่าฉันเป็นเจี่ยงซือ  ฉันเป็นเตี่ยนฉวนซือ เหล่านี้เป็นนามสมมุติไม่เที่ยงแท้  ผู้มีคุณธรรมแท้จริง ภายนอกดูไม่ออก นี่จะต้องเข้าใจ  ถ้าเธอไม่มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ ไม่มีคุณธรรม ไม่มีความประพฤติสูงส่งดีงาม อีกทั้งเธอยังไม่อาจสละตนฉุดช่วยเวไนยฯ เธอยังไม่อาจเจริญรอยตามอริยเมธา เธอได้แต่รับธรรมะ ก็จะไม่เกิดประโยชน์อันใด ความมุ่งมั่นจะเปลี่ยนไปไม่ได้  คุณสมบัติของความเป็นคนจะรวนไปไม่ได้ หัวขาดได้ เลือดหลั่งได้ ความมุ่งมั่นจะจำนนไม่ได้ แผ่นดินร้างได้ ฟ้าเก่าแก่ได้ แต่คุณสมบัติความเป็นคน จะตกต่ำไม่ได้ คนปราศจากความมุ่งมั่น จะโง่หลงมืดมัว เป็นปุถุชน คนปราศจากคุณสมบัติความเป็นคน ก็จะลวงโลก เท่ากับโจรกรรมนามรูปของความเป็นคน ดั่งนี้ จะมิต่างปักษาเดรัจฉานหรือ ตากหน้าว่าเป็นคน สู้ตายเสียจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องละอายแก่ใจ  อ่านหนังสืออริยเมธา เรียนรู้นั้นประการใด... เราเล่าเรียน สำคัญที่สุดคือ จะต้องเข้าใจหลักธรรม นั่นก็คือ หลักธรรมของความเป็นคน ของความเป็นงาน เมื่อเข้าใจหลักธรรมนี้แล้ว ยังจะต้องนำเอาไปปฏิบัติ อย่างนี้แล้วจะเรียนกันไปได้ประโยชน์อะไร ไม่หวังได้ชื่อความเป็นอริยเมธา แต่จะต้องมีคุณธรรมเยี่ยงอริยเมธา น้อมตนทำจริง ทุกคำพูด ทุกการกระทำ จะต้องหวังคุณประโยชน์แก่สังคม แก่มนุษยชาติ จึงจะไม่ผิดต่อชีวิตนี้  พวกเธอล้วนคิดจะกลับฟ้าเบื้องบนในวันข้างหน้า ส่วนฉันกลับคิดแต่ยังจะมาอีกทุกชาติไป เพื่อจะได้ฉุดนำกล่อมเกลาเวไนยฯ จนหมดสิ้นคนสุดท้าย เวไนยฯ ได้ล่วงพ้น ฉันจึงจะกลับสู่ฟ้า         

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                       ๖

                            หลักสำคัญการบรรลุธรรม

                             อยู่ที่ผู้ปฏิบัติงานธรรม

        วันนี้เธอทำงาน  เขาเรียกเธอว่าทำงาน
เธอค้าขาย   เขาเรียกเธอว่าคนค้าขาย
เธอทำความดี   เขาเรียกเธอว่าคนดี
เธอทำความชั่ว   เขาเรียกว่าเธอเป็นคนชั่วทันที
เธอสงเคราะห์โลกฉุดช่วยคน    เธอก็เป็นพุทธะเดินดินเดี๋ยวนี้ทันที

        หมายใจฉุดช่วยโลก แม่ยังคงเจริญกรรมฐาน ก็ยังเป็นยานระดับสูง  เธอไม่ได้ไปทำเรื่องของสวรรค์ จะขึ้นสวรรค์ไปได้อย่างไรกัน เธอเอาดีเฉพาะตน บำเพ็ญตนเอง เธอบรรลุพุทธะไม่ได้ จะมีเซียนพุทธะที่ขาดผลบุญได้ที่ไหน  จะมีอริยเจ้าไม่กตัญญูได้ที่ไหน  เธอจะต้องทำงานของพุทธะ  ปรกนำฉุดช่วยเวไนยฯ เธอจึงจะเป็นพุทธะ ถ้าเธอทำงานของพุทธะ เธอก็เป็นพุทธะ ณ บัดนี้ ตั้งแต่โบราณกาลมา บรรพพุทธาล้วนอาศัยการดำเนินธรรม จึงสำเร็จได้ หาไม่แล้ว พระแม่องค์ธรรมเหตุใดจะโปรดประทานวิถีธรรม  พวกเธอต่างคนต่างไปนั่งนิ่ง ก็จะบรรลุได้แล้วใช่ไหม หรือจะต้องอาศัยให้ได้ดำเนินปฏิบัติ เธอปฏิบัติบำเพ็ญธรรม สละตนฉุดช่วยผู้อื่นแล้วหรือยัง ขณะนี้เธอสละแล้วหรือยัง แรกเริ่ม เราทูนสนองพระโองการจากเหลาหมู่มาสู่โลกนี้  ภาระศักดิ์สิทธิ์อยู่บนตัวเรา เธอจะดูแคลนตัวเองไม่ได้ บัดนี้ วิถีอนุตตรธรรมปรกแผ่ไปทั่วโลกแล้ว หากเราเพื่องานธรรมฉุดช่วยคน พรุ่งนี้ตายไป  ตายก็คือบรรลุปณิธาน  แต่บัดนี้ไม่เต็มใจต่อธรรมะแล้ว เคยพูดไว้ลืมไปแล้ว ภาระศักดิ์สิทธิ์ก็ลืมไปแล้ว พรุ่งนี้ตายไปก็สำเร็จไม่ได้เสียแล้ว  ซือหมู่โปรดไว้ว่า "โดยเฉลี่ยเธอทำงานธรรมะสองชั่วโมงในหนึ่งวัน รับรองเธอบรรละธรรม"  เธอลองว่าไปซิ ตัวเองทำงานธรรมะอะไร เขาหุงข้าวเสร็จเรากิน เธอได้แต่กินข้าว จะยังได้บุญหรือ คนหุงข้าวเขาสร้างบุญ คนกินข้าวจะบอกว่าได้บุญไม่ได้  เขาทำนาจึงได้บุญ  อย่างนี้นั่นเอง ในโลกจึงมีผู้บำเพ็ญมาก มีผู้บรรลุน้อยเหลือเกิน  อะไรเรียกว่า กุศลบุญ  คุณธรรมบารมี  นั่นก็คือ คนเขาไม่รักดี ไม่อยู่ในร่องในรอย เราฉุดนำกล่อมเกลาเขา ตักเตือนแปรเปลี่ยนเขา ซึ้งซาบปรับใจเขา เขารับธรรมะแล้ว ยังพูดให้เขาเข้าใจ ไปบ้านเขายิ่งพูดเขายิ่งปิติ ทำให้เขาแปรร้ายกลายดี พูดประโยชน์การกินเจ เขาก็กินเจด้วย ช่วยเขาทั้งบ้านให้พ้นจากทะเลทุกข์อย่างนี้จึงจะเรียกว่ากุศลบุญ คุณธรรมบารมี  ได้รับวิถีธรรมล่วงพ้นเกิดตาย กลับคืนฟ้า แต่บาปหนาติดตัวไป ไม่มีกุศลผลบุญแม้แต่น้อย อย่างนี้เีรียกว่า "มีเหตุปัจจัย ไม่มีส่วนได้"  ไม่มีฐานบัวเก้าระดับรองรับเธอแล้ว เราเป็นศิษย์ของอมตะพุทธะจี้กง  เป็นศิษย์ของอมตะพุทธะจี้กงตราบนานเท่านานตลอดไปแต่หากฝักใฝ่ไปนอกลู่นอกธรรม ชื่อของเธอจะถูกคัดออกจากบัญชีธรรมจักรวาล เธอไม่อาจนับได้อีกว่าเป็นศิษย์ของอมตะพุทธะจี้กง  หวังว่าทุกคนจะกล่าวขานแก่ญาติธรรมที่ศรัทธาตามที่ต่าง ๆ เสมอ ให้เขาเข้าใจ รักษาปณิธานตนเป็นสำคัญ "พลาดพลั้งไปเสียใจชั่วกาลนาน  กลับหลังหันชีพกายวัยร้อยปี "  อี้ซือจู๋เฉิงเซียนกู่เฮิ่น   ไจ้หุยโถวอี่ซื่อไป่เหนียนเซิน   จากบรรพกาลเบิกฟ้าจนถึงเก็บฟ้าก็เพียงครั้งนี้พลาดผ่านไป ยังจะต้องคอยอีกหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปี น่าสงสารเพียงไร         

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                 ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                       ๗

                             มนุษยธรรมนำหน้า

                        กตัญญูปรองดองทำให้ดี

        ใต้หล้าปราศจากพ่อแม่ที่ลูกจะปฏิเสธ ( ไม่เคารพ )  ในโลก สิ่งที่ได้มาไม่ง่ายคือพี่น้อง ลูกกตัญญูคนหนึ่ง คุณธรรมความดีของเขา ควรจะกอปรด้วยคุณสัมพันธ์ห้าคุณธรรมแปด หากขาดสิ้นสุจริตละอาย ได้แต่ซื้ออาหารเลี้ยงพ่อแม่ อย่างนั้นจะนับว่ากตัญญูหรือ มันไม่ต่างกับเลี้ยงหมูหรืออย่างไร พูดกล่าวคัมภีร์มิสู้ทำตามคัมภีร์  วิถีอนุตตรธรรมหนทางสู่ฟ้าจะต้องเดินย้อน ผันกลับจากทางโลก ก็ใช่เลย แต่ก่อนแม่หุงหาให้เรากิน ทีนี้ผันกลับ เราซักเสื้อผ้าหุงหาอาหารให้ท่านกินก็ใช่แล้ว เธอได้รับวิถีธรรมแล้ว ได้หนึ่งจุดเบิกหลุดพ้นจากทะเลทุกข์ แต่พ่อ แม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอา  ล้วนยังไม่ได้รับเธอคนนี้แย่มากถ้าหากพรุ่งนี้พ่อเธอตาย ไปทางนรกล่ะ เธอได้รับวิถีธรรมแล้ว มีประโชน์อันใด  บังเกิดจิตจะทำงานธรรมะ จะต้องพร้อมพรักรับธรรมะทั้งครอบครัวเสียก่อน ถ้าไม่พร้อมพรัก จะฉุดนำใครเขาได้ จะพูดกับเขาได้อย่างไร  บัดนี้เราจะต้องเริ่มทำจากฐานราก ด้วยใจเที่ยงตรง บำเพ็ญตนโดยเริ่มจากครอบครัว ชาวจีนเราสืบสายธรรมตามคำสอนของปราชญ์ ให้กตัญญู ให้พี่น้องปรองดอง  ครอบครัวเธอไม่ดี บำเพ็ญธรรมอะไรกัน  โอ ! ฉันได้ล้างบาปแล้ว ฉันท่องอมิตาภะพุทะเจ้า  แม้แต่กับพ่อแม่ก็ไม่รู้จักกตัญญู เธอท่องอมิตาภะพุทธเจ้า จะมีประโยชน์อันใด  มนุษยธรรมไม่ได้ทำให้ดี ไม่ซื่อตรงจงรัก ไม่กตัญญู ไม่มีกรุณามโนธรรม เธอไหว้พระก็ไร้ประโยชน์ อมตะพุทธะโปรดว่า "คนสมัยนี้ล้วนเป็น  " กตัญญูลูก "  ( ไม่ใช่ต่อพ่อแม่ )  โดยฉพาะที่อเมริกา เป็นสวรรค์ของลูก ๆ เป็นสุสานของผู้สูงวัย ให้ลูกเป็นดวงแก้ว ลูกโตแล้วก็ทิ้งพ่อแม่ไป  คนทั่วไปล้วนกตัญญูต่อลูก ไม่มีสักคนที่กตัญญูต่อพ่อแม่  อะไรเรียกว่าความเป็นปกติสุขของบ้าน เช่น เธอเป็นแม่บ้าน ประหยัดกินประหยัดใช้จ่าย อาหารการกินไม่ฟุ่มเฟือย เงินทองไม่สุรุ่ยสุร่าย กตัญญูพ่อแม่ พี่น้องปรองดอง ล้อมรักลูก ๆ จัดการทำครอบครัวให้มีระเบียบ ไม่ต้องปราม ลูกก็ปลุกฝังนิสัยไว้แล้ว  เธอเป็นแบบอย่างที่ดี นี่ก็คือธรรมะ เป็นธรรมะ เมื่อพ่อทำหลักธรรมของพ่อให้ดี ลูกทำหลักธรรมของลูกให้ดี  สมัยนี้ เรียกร้องสิทธิหญิงชายให้เท่าเทียมกัน มีอิสรเสมอภาค ลูก หลาน ปู่ ตา พ่อ  สิทธิเท่าเทียมกัน อย่างนี้มัน "ก่อกวน" มิใช่หรือ  สมัยนี้ที่อเมริกา ครอบครัวเป็นอย่างนี้ไปหมด ไม่สักการะบูชาบรรพบุรุษ พ่อลูกเล่นหัวกัน เสมอกัน ไม่มีสูงต่ำ ไม่มีสูงอายุหรือผู้เยาว์ ไม่มีคุณสัมพันธ์ เราผู้ปฏิบัติบำเพ็ญ จะต้องปรับแปรค่านิยมผิดนี้ ฉุดยั้งกล่อมเกลาใจคน  จะร่วมรวมกระแสน้ำเน่าไปไม่ได้  พระอาจารย์ของเราเคยโปรดว่า "กตัญญู ปรองดอง ซื่อสัตย์จงรัก"  ให้ทำตามนี้ดีไหม (ทุกคนตอบ) "ดี"  "ดีก็ไปทำตามนั้น"  รู้ว่าดี เธอไม่ไปปทำตาม  มันจะมีประโยชน์อันใด  ฉันหวังว่าวัยรุ่นจะมีใจสำนึกต่อความผิดพลาดได้ทุกวัน  ที่ผ่านมาีมีเรื่องผิดพลาด รีบกลับใจคิดสักหน่อย เอาใจเที่ยงตรงบำเพ็ญตนเป็นบทต้น มีความเคยชินไม่ดีรีบแก้ไข อบายมุขมีไม่ได้ อบายมุขไม่มีประโยชน์แก่ตัวเอง ยิ่งไม่มีประโยชน์ต่อสังคม ฉะนั้น หวังให้ครอบครัวดี จะต้องเริ่มจากตัวเธอเอง ถ้าตัวเธอเองนอกลู่นอกรอย อบายมุขเต็มตัว เด็ก ๆ ที่บ้านของเธอน่ากลัวว่า ยากที่จะได้ดี   

Tags: