collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ระฆังทอง เกราะไม้ ให้สัญญาณ (บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรมจากท่านเหล่าเฉียนเหยิน)  (อ่าน 9079 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                       ๖

                            หลักสำคัญการบรรลุธรรม

                             อยู่ที่ผู้ปฏิบัติงานธรรม

        วันนี้เธอทำงาน  เขาเรียกเธอว่าทำงาน
เธอค้าขาย   เขาเรียกเธอว่าคนค้าขาย
เธอทำความดี   เขาเรียกเธอว่าคนดี
เธอทำความชั่ว   เขาเรียกว่าเธอเป็นคนชั่วทันที
เธอสงเคราะห์โลกฉุดช่วยคน    เธอก็เป็นพุทธะเดินดินเดี๋ยวนี้ทันที

        หมายใจฉุดช่วยโลก แม่ยังคงเจริญกรรมฐาน ก็ยังเป็นยานระดับสูง  เธอไม่ได้ไปทำเรื่องของสวรรค์ จะขึ้นสวรรค์ไปได้อย่างไรกัน เธอเอาดีเฉพาะตน บำเพ็ญตนเอง เธอบรรลุพุทธะไม่ได้ จะมีเซียนพุทธะที่ขาดผลบุญได้ที่ไหน  จะมีอริยเจ้าไม่กตัญญูได้ที่ไหน  เธอจะต้องทำงานของพุทธะ  ปรกนำฉุดช่วยเวไนยฯ เธอจึงจะเป็นพุทธะ ถ้าเธอทำงานของพุทธะ เธอก็เป็นพุทธะ ณ บัดนี้ ตั้งแต่โบราณกาลมา บรรพพุทธาล้วนอาศัยการดำเนินธรรม จึงสำเร็จได้ หาไม่แล้ว พระแม่องค์ธรรมเหตุใดจะโปรดประทานวิถีธรรม  พวกเธอต่างคนต่างไปนั่งนิ่ง ก็จะบรรลุได้แล้วใช่ไหม หรือจะต้องอาศัยให้ได้ดำเนินปฏิบัติ เธอปฏิบัติบำเพ็ญธรรม สละตนฉุดช่วยผู้อื่นแล้วหรือยัง ขณะนี้เธอสละแล้วหรือยัง แรกเริ่ม เราทูนสนองพระโองการจากเหลาหมู่มาสู่โลกนี้  ภาระศักดิ์สิทธิ์อยู่บนตัวเรา เธอจะดูแคลนตัวเองไม่ได้ บัดนี้ วิถีอนุตตรธรรมปรกแผ่ไปทั่วโลกแล้ว หากเราเพื่องานธรรมฉุดช่วยคน พรุ่งนี้ตายไป  ตายก็คือบรรลุปณิธาน  แต่บัดนี้ไม่เต็มใจต่อธรรมะแล้ว เคยพูดไว้ลืมไปแล้ว ภาระศักดิ์สิทธิ์ก็ลืมไปแล้ว พรุ่งนี้ตายไปก็สำเร็จไม่ได้เสียแล้ว  ซือหมู่โปรดไว้ว่า "โดยเฉลี่ยเธอทำงานธรรมะสองชั่วโมงในหนึ่งวัน รับรองเธอบรรละธรรม"  เธอลองว่าไปซิ ตัวเองทำงานธรรมะอะไร เขาหุงข้าวเสร็จเรากิน เธอได้แต่กินข้าว จะยังได้บุญหรือ คนหุงข้าวเขาสร้างบุญ คนกินข้าวจะบอกว่าได้บุญไม่ได้  เขาทำนาจึงได้บุญ  อย่างนี้นั่นเอง ในโลกจึงมีผู้บำเพ็ญมาก มีผู้บรรลุน้อยเหลือเกิน  อะไรเรียกว่า กุศลบุญ  คุณธรรมบารมี  นั่นก็คือ คนเขาไม่รักดี ไม่อยู่ในร่องในรอย เราฉุดนำกล่อมเกลาเขา ตักเตือนแปรเปลี่ยนเขา ซึ้งซาบปรับใจเขา เขารับธรรมะแล้ว ยังพูดให้เขาเข้าใจ ไปบ้านเขายิ่งพูดเขายิ่งปิติ ทำให้เขาแปรร้ายกลายดี พูดประโยชน์การกินเจ เขาก็กินเจด้วย ช่วยเขาทั้งบ้านให้พ้นจากทะเลทุกข์อย่างนี้จึงจะเรียกว่ากุศลบุญ คุณธรรมบารมี  ได้รับวิถีธรรมล่วงพ้นเกิดตาย กลับคืนฟ้า แต่บาปหนาติดตัวไป ไม่มีกุศลผลบุญแม้แต่น้อย อย่างนี้เีรียกว่า "มีเหตุปัจจัย ไม่มีส่วนได้"  ไม่มีฐานบัวเก้าระดับรองรับเธอแล้ว เราเป็นศิษย์ของอมตะพุทธะจี้กง  เป็นศิษย์ของอมตะพุทธะจี้กงตราบนานเท่านานตลอดไปแต่หากฝักใฝ่ไปนอกลู่นอกธรรม ชื่อของเธอจะถูกคัดออกจากบัญชีธรรมจักรวาล เธอไม่อาจนับได้อีกว่าเป็นศิษย์ของอมตะพุทธะจี้กง  หวังว่าทุกคนจะกล่าวขานแก่ญาติธรรมที่ศรัทธาตามที่ต่าง ๆ เสมอ ให้เขาเข้าใจ รักษาปณิธานตนเป็นสำคัญ "พลาดพลั้งไปเสียใจชั่วกาลนาน  กลับหลังหันชีพกายวัยร้อยปี "  อี้ซือจู๋เฉิงเซียนกู่เฮิ่น   ไจ้หุยโถวอี่ซื่อไป่เหนียนเซิน   จากบรรพกาลเบิกฟ้าจนถึงเก็บฟ้าก็เพียงครั้งนี้พลาดผ่านไป ยังจะต้องคอยอีกหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปี น่าสงสารเพียงไร         

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                 ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                       ๗

                             มนุษยธรรมนำหน้า

                        กตัญญูปรองดองทำให้ดี

        ใต้หล้าปราศจากพ่อแม่ที่ลูกจะปฏิเสธ ( ไม่เคารพ )  ในโลก สิ่งที่ได้มาไม่ง่ายคือพี่น้อง ลูกกตัญญูคนหนึ่ง คุณธรรมความดีของเขา ควรจะกอปรด้วยคุณสัมพันธ์ห้าคุณธรรมแปด หากขาดสิ้นสุจริตละอาย ได้แต่ซื้ออาหารเลี้ยงพ่อแม่ อย่างนั้นจะนับว่ากตัญญูหรือ มันไม่ต่างกับเลี้ยงหมูหรืออย่างไร พูดกล่าวคัมภีร์มิสู้ทำตามคัมภีร์  วิถีอนุตตรธรรมหนทางสู่ฟ้าจะต้องเดินย้อน ผันกลับจากทางโลก ก็ใช่เลย แต่ก่อนแม่หุงหาให้เรากิน ทีนี้ผันกลับ เราซักเสื้อผ้าหุงหาอาหารให้ท่านกินก็ใช่แล้ว เธอได้รับวิถีธรรมแล้ว ได้หนึ่งจุดเบิกหลุดพ้นจากทะเลทุกข์ แต่พ่อ แม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอา  ล้วนยังไม่ได้รับเธอคนนี้แย่มากถ้าหากพรุ่งนี้พ่อเธอตาย ไปทางนรกล่ะ เธอได้รับวิถีธรรมแล้ว มีประโชน์อันใด  บังเกิดจิตจะทำงานธรรมะ จะต้องพร้อมพรักรับธรรมะทั้งครอบครัวเสียก่อน ถ้าไม่พร้อมพรัก จะฉุดนำใครเขาได้ จะพูดกับเขาได้อย่างไร  บัดนี้เราจะต้องเริ่มทำจากฐานราก ด้วยใจเที่ยงตรง บำเพ็ญตนโดยเริ่มจากครอบครัว ชาวจีนเราสืบสายธรรมตามคำสอนของปราชญ์ ให้กตัญญู ให้พี่น้องปรองดอง  ครอบครัวเธอไม่ดี บำเพ็ญธรรมอะไรกัน  โอ ! ฉันได้ล้างบาปแล้ว ฉันท่องอมิตาภะพุทะเจ้า  แม้แต่กับพ่อแม่ก็ไม่รู้จักกตัญญู เธอท่องอมิตาภะพุทธเจ้า จะมีประโยชน์อันใด  มนุษยธรรมไม่ได้ทำให้ดี ไม่ซื่อตรงจงรัก ไม่กตัญญู ไม่มีกรุณามโนธรรม เธอไหว้พระก็ไร้ประโยชน์ อมตะพุทธะโปรดว่า "คนสมัยนี้ล้วนเป็น  " กตัญญูลูก "  ( ไม่ใช่ต่อพ่อแม่ )  โดยฉพาะที่อเมริกา เป็นสวรรค์ของลูก ๆ เป็นสุสานของผู้สูงวัย ให้ลูกเป็นดวงแก้ว ลูกโตแล้วก็ทิ้งพ่อแม่ไป  คนทั่วไปล้วนกตัญญูต่อลูก ไม่มีสักคนที่กตัญญูต่อพ่อแม่  อะไรเรียกว่าความเป็นปกติสุขของบ้าน เช่น เธอเป็นแม่บ้าน ประหยัดกินประหยัดใช้จ่าย อาหารการกินไม่ฟุ่มเฟือย เงินทองไม่สุรุ่ยสุร่าย กตัญญูพ่อแม่ พี่น้องปรองดอง ล้อมรักลูก ๆ จัดการทำครอบครัวให้มีระเบียบ ไม่ต้องปราม ลูกก็ปลุกฝังนิสัยไว้แล้ว  เธอเป็นแบบอย่างที่ดี นี่ก็คือธรรมะ เป็นธรรมะ เมื่อพ่อทำหลักธรรมของพ่อให้ดี ลูกทำหลักธรรมของลูกให้ดี  สมัยนี้ เรียกร้องสิทธิหญิงชายให้เท่าเทียมกัน มีอิสรเสมอภาค ลูก หลาน ปู่ ตา พ่อ  สิทธิเท่าเทียมกัน อย่างนี้มัน "ก่อกวน" มิใช่หรือ  สมัยนี้ที่อเมริกา ครอบครัวเป็นอย่างนี้ไปหมด ไม่สักการะบูชาบรรพบุรุษ พ่อลูกเล่นหัวกัน เสมอกัน ไม่มีสูงต่ำ ไม่มีสูงอายุหรือผู้เยาว์ ไม่มีคุณสัมพันธ์ เราผู้ปฏิบัติบำเพ็ญ จะต้องปรับแปรค่านิยมผิดนี้ ฉุดยั้งกล่อมเกลาใจคน  จะร่วมรวมกระแสน้ำเน่าไปไม่ได้  พระอาจารย์ของเราเคยโปรดว่า "กตัญญู ปรองดอง ซื่อสัตย์จงรัก"  ให้ทำตามนี้ดีไหม (ทุกคนตอบ) "ดี"  "ดีก็ไปทำตามนั้น"  รู้ว่าดี เธอไม่ไปปทำตาม  มันจะมีประโยชน์อันใด  ฉันหวังว่าวัยรุ่นจะมีใจสำนึกต่อความผิดพลาดได้ทุกวัน  ที่ผ่านมาีมีเรื่องผิดพลาด รีบกลับใจคิดสักหน่อย เอาใจเที่ยงตรงบำเพ็ญตนเป็นบทต้น มีความเคยชินไม่ดีรีบแก้ไข อบายมุขมีไม่ได้ อบายมุขไม่มีประโยชน์แก่ตัวเอง ยิ่งไม่มีประโยชน์ต่อสังคม ฉะนั้น หวังให้ครอบครัวดี จะต้องเริ่มจากตัวเธอเอง ถ้าตัวเธอเองนอกลู่นอกรอย อบายมุขเต็มตัว เด็ก ๆ ที่บ้านของเธอน่ากลัวว่า ยากที่จะได้ดี   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                         ๘

                           ธรรมะอยู่กับชีวิตความเป็นอยู่

                 หลักธรรมฟ้ากับมนุษย์สัมพันธ์  จะต้องเห็นกันชัดเจน 

        วิถีธรรมอันยิ่งใหญ่ไม่ไกลไปจากมนุษยสัมพันธ์ วิถีธรรมอยู่ท่ามกลางความเป็นอยู่ปกติประจำวัน พ้นหากจากความเป็นอยู่ปกติประจำวันแล้ว อื่นใดไม่มีธรรมะหนอ จะหาสิ่งพิเศษ ล้วนเป็นนอกทางนอกธรรม   ธรรมะอยู่ท่ามกลางความเป็นอยู่ประจำวัน ก็คือ การกิน การนอน ควรนอนก็นอน ควรกินก็กิน ควรกินมากน้อยเท่าไรก็เท่านั้น ไม่ควรกินมาก กินมากไปกลายเป็นฟุ่มเฟือย  อะไรเรียกว่า  " อริยธรรมความก้าวหน้า "  กับข้าว กินเหลือเข้าตู้เย็น ทิ้งไว้สามวันเป็นพิษ ของแช่อยู่ตู้เย็นคร่งปียังกิน เปิดไฟจ้า ดูทีวี นันย์ตาเสียหายหมด วัยรุ่นสมัยนี้ ร้อยละแปดสิบคนสวมแว่นตา สูบบุหรี่ กินหมาก (ผู้ชายไต้หวัน)  ตื่นเช้าขึ้นมาไม่กวาดหน้าประตูบ้าน  ไม่ให้เด็กทำการงาน  ยิ่งเลี้ยงยิ่งกลายเป็นของเสีย ไม่เลี้ยงให้นิสัยดี บ้านตรงข้าม  อพาร์ตเมนท์ข้าง ๆ ไม่ไปมาหาสู่กัน นี่เรียกว่า อารยธรรมความก้าวหน้าหรือ จะบำเพ็ญธรรม แม้แต่หุงหาอาหารก็ยังไม่เป็นเลย อย่างนี้บำเพ็ญธรรมอะไรกัน เธอดู เธอรับธรรมะ เธอได้รับอะไรแล้วหรือ ธรรมะอยู่ที่ไหนหนอ  ธรรมะอยู่แต่ละตัวตน นั่นจึงเรียกว่าธรรมะ เหมือนที่ฉันเพิ่งพูดว่า "คนอาจแพร่ธรรม มิใช่ธรรมแพร่คน"  อีกอย่างหนึ่ง ชีวิตปกติประจำวันอยู่ที่ไหนหรือยังจะต้องแสดงออกไหม เริ่มต้นจากหนึ่งวัน ฉันถามพวกเธอ ตอนเช้า ลุกจากที่นอนกี่โมง มีบางคนนอนจนถึงสิบเอ็ดสิบสองโมง (เพล - เที่ยง)  จึงจะลุกขึ้น ตอนเช้าพวกเธอลุกขึ้นมาทำอะไร  ( คนตื่นเช้ากราบเรียนว่า จุดธูปไหว้พระ )  จุดธูปไหว้พระเท่านั้นนะ อย่างนี้พวกเธอก็ไม่กตัญญู ไม่มีใครตื่นแต่เช้า สวัสดียามเช้าต่อพ่อแม่ ไม่มีใครถามพ่อแม่ว่าเมื่อคืนท่านหลับสบายดีไหม  อย่างนี้ พวกเธอยังจะบอกตัวเองมีธรรมะ  ธรรมะบนตัวเธอมันสูญหายไปแล้ว  ตอนเช้าพวกเธอกินกับข้าวกันกี่อย่าง สามมื้อรวมกันเป็นกับข้าวกี่อย่าง  ผู้บำเพ็ญจะต้องสมถะหน่อย ผัดสอง น้ำแกงหนึ่ง ก็มากเกินไปแล้ว  นี่พวกเธอกินกันกี่อย่าง ( มีผู้กราบเรียนว่า สามสี่อย่าง ) อย่างนี้มากไป พวกเธอลองคิดดู เธอทำงานธรรม กินมากมายอย่างนี้แต่เช้า ไปถึงสถานธรรม ถันจู่เขาก็หุงหาอีก พวกเธอก็กินอีก โลภไม่รู้จักพอ  ผู้บำเพ็ญทำไมโลภกันอย่างนี้ได้ ได้กินแล้วก็พอ แล้วท้องนี่มันเป็นตัวปลอมกินเข้าไปหลอก ๆ มันหน่อยเท่านั้นเอง ( แค่พออิ่มพออยู่ได้ )  วันนี้ผู้บำเพ็ญก็คือ จะต้องสำรวม วาจา การกระทำ  จะต้องระมัดระวัง วันนี้ที่ทำไป ไม่ใช่คุณก็คือโทษ จึงต้องระวัง ถ้าเธอไม่ระวัง การบำเพ็ญนี้ เธอจะรู้สึกว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ สุดท้ายสูญเสียยิ่งกว่าก็คือตัวของเธอเอง ไม่ใช่ใคร ปั้นเต้าเสร็จ กลับไปบ้านเปิดทีวีทันที  นั่งยกขาขึ้นพาดตามสบาย รู้สึกว่าวันนี้ได้ทำก็ดีแล้ว  จากนั้นก็เริ่มเสพสุข เธอไม่คิดว่า เสพสุข เสพสุข เสพจนสุดท้ายมันจะไม่ได้สุขแต่เธอจะต้องรับสภาพทุกอย่างหลังเสพจนสุขหมดไป  หาดบัดนี้เธอเสียสละสิ่งนี้เสีย ภายหน้าเสวยสุขหนึ่งหมื่นแปดร้อยปียังเบื้องบน จะไม่ดีกว่าหรือ ทำไมจะต้องยึดมั่นการเสพสุขของกายเนื้อเช่นนี้  วันนี้ พวกเธอล้วนได้รับธรรมแล้ว และรู้ว่ากายเนื้อนี้สมมุติ ถ้าเช่นนั้น หลอก ๆ มันหน่อยก้พอแล้ว ( ไม่ต้องปรนเปรอแก่กายเนื้อให้จริงจังนัก )     

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                 ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                         ๙

                                  ขยันประหยัด

                                    รักวาสนา

        "ถนอมรักเสื้อผ้าอาหารมิใช่  ( เพียงเพื่อ ) ถนอมรักเงินทอง แต่เป็นถนอมรักวาสนา"  "หวังชื่อ หวังลาภ แต่จะต้องหวังเรียกร้องจากตนเอง อย่าได้เรียกร้องจากใคร"  ธรรมะอยู่ในชีวิตประจำวัน ขยันประหยัดคือ ปลูกฝังคุณงาม จะต้องสำแดงคุณทุกขณะ เริ่มทำโดยตน จึงจะให้คุณงานนั้นสยบใจใคร ๆ ได้  ชีวิตด้านวัตถุจะต้องเรียบง่าย  ชีวิตจิตใจจะต้องอิ่มเอิบ ต่อคนต่อการงานล้วนจะต้องซื่อสัตย์จริงใจ เป็นคนสมบูรณ์มีประโยชน์คนหนึ่งในโลก  ที่เราเป็นอย่างนี้ได้ในวันนี้ เป็นวาสนาที่เราสั่งสมมาจากอดีตชาติ บวกกับพระมหากรุณาธิคุณเบื้องบน  บารมีคุณบรรพจารย์  จึงได้เสพสุขเช่นวันนี้ หากเราไม่ควบคุมประหยัด สุรั่ยสุร่ายไป อีกทั้งยังไม่รู้จักสร้างสมวาสนาก็จะหมดไปเร็ว  สรรพสิ่งล้วนเหลาหมู่โปรดฟูมฟักปรับแปรสรรพสิ่งล้วนเหลาหมู่ประทานมา

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                     ๑๐

                              รักสรรพสิ่งคือรักฟ้า

                        เคารพฟ้าย่อมถนอมรักสรรพสิ่ง

        ฉันรักวาสนานะ ภายหน้าวาสนาทั้งหมดนี้ จะเก็บไว้ให้พวกเธอทุกคนทั้งหมดเลย เงินทองใช้เหมาะควรหรือไม่นะ เวลาโอกาสบัดนี้ ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว เงินที่เวไนยฯ ให้มา  จะต้องใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างดี ที่ไม่จำเป็นก็อย่าใช้ ประหยัดส่วนนี้ เอาไปใช้ส่วนอื่นที่จำเป็นกว่า ไม่อย่างนั้นเธอลองคิดดู ที่ควรใช้ไม่ใช้ ที่ไม่ควรใช้กลับใช้เอาใช้เอา สิ้นเปลืองเงินของเวไนย ฯ อย่างนี้จะมีโทษบาป คนสมัยนี้ค่อนข้างฟุ่มเฟือย รู้สึกว่าอะไรก็ล้วนจะต้องใช้ อีกทั้งยังใช้ไปในทางที่ไม่ดี และไม่ใช้ไปในทางที่ดี เงินทองของเวไนยฯจึงเสียเปล่า สมัยบางคนก็ต่อนข้างสละได้ ไม่เหมือนพวกเราเมื่อแรกนั้น หนึ่งเหรียญสองเหรียญก็ประหยัด สมัยนี้ พวกเธอแม้ไม่ขัดสน แต่ต้องประหยัดด้วย ทำไมจึงต้องประหยัด สะสมจากน้อยให้มากขึ้นไงล่ะ  ญาติธรรมสร้างบุญ  ถ้าเธอใช้เงินหนึ่งเหรียญของเขาให้สูงค่าเป็นสองเหรียญได้ อีกมากเท่าไร เธอก็รับเอาไว้ได้  แต่ถ้าหากเธอเอาเงินสองเหรียญของเขา ใช้ค่าได้ไม่ถึงหนึ่งเหรียญ ทางที่ดีที่สุดคือ เธออย่ารับเอาไว้ รู้จักประหยัด ประมาณการใช้ สร้างบุญวาสนาแก่เวไนยฯ ให้สุดกำลังใจ จึงจะเป็นบุญกุศลแท้จริง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                  ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                    ๑๑

                                 เป็นคนดี

                               คือหน้าที่ตน

        เธอว่าเขาไม่ดี ไม่เห็นว่าจะไม่ดีเป็นจริง  ฟ้าว่าเธอไม่ดี คือไม่ดีจริง ๆ เธอจะต้องสำรวมตน พวกเธอบำเพ็ญธรรมกันมานานเพียงนี้ มีคนว่าเธอเป็นคนดีไหม ( ไม่มี )  ไม่มีนะ ถ้าอย่างนั้น อย่างไรจึงจะเป็นคนดี  เราเป็นคน คนเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่กรอบคุณสมบัติของความเป็นคนไม่มี ได้แต่ศรัทธาในพุทธะ จะมีประโยชน์อันใด  ฟ้าเบื้องบนไม่มีเซียนพุทธะที่ไม่ซื่อสัตย์จงรักกตัญญู  บัดนี้ เราได้รับวิถีอนุตตรธรรมแล้ว หลักมนุษยธรรมจะต้องไปทำ ต่อไป พบหน้ากันอีก สิ่งที่จะพูดก็ยังคงเป็นสิ่งนี้  ( ธรรมะคือธรรมะ พบกันกี่ครั้งยังคงเป็นธรรมะนี้ )  ธรรมะจะหาเรื่องใหม่สดใสไม่มีหรอก  หลักธรรมไหนจะมีเรื่องใหม่ใสสด อย่างเช่นที่เรา อยู่กับครอบครัว มีความกตัญญู  ปรองดอง ซื่อสัตย์จงรัก ศรัทธาน่าเชื่อถือ  ( เป็นหลักแต่เดิมที )   ธรรมะ ไหนเลยจะมีเรื่องใหม่สดใส เมื่อห้าพันปีก่อนพูดเรื่องนี้ บัดนี้ก็ยังพูดถึงสิ่งนี้ เธอไม่พูด ( ไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งนี้ ) เธอก็ไม่มีกรอบคุณสมบัติความเป็นคน  เป็นคนจะบำเพ็ญให้สมบูรณ์พูนพร้อมทุกอย่างได้ไม่ใช่ง่าย   ก่อนหน้านี้ พวกเธอได้พบฉัน มีไหมที่ฉันไม่พูดคุยกับพวกเธอ ทำไมล่ะ เพราะวันที่พวกเรารับธรรมะวันนั้นเราได้ตั้งปณิธานกันแล้วว่า  จะมีจิตใจดี จะพูดดี ทำดี จะนำพาคนให้ดี  ( พบใครจึงต้องมีปฏิสันถาร ท่านเหล่าเฉียนเหยินไม่เคยละเลยต่อการ "เห็นธรรม ( คน )ส่งเสริมธรรมทุกโอกาส ")  วันนี้เธอสงเคราะห์โลกฉุดช่วยผู้คน  วันนี้สละได้ วันนี้ก็จะบรรลุพุทธะ  เธอทำความดีก็เป็นคนดีทันที เข้าใจไหม  อายุยืนถึงสองร้อยปี คุณธรรมพูนพร้อม แรงไฟสุขุมพูนพร้อม  อย่างนี้ เธอจึงจะนับได้ว่าเป็นแบบอย่างผู้บำเพ็ญ  เราอาศัยอยู่แถบถิ่นที่นั่น  แม้แต่จะได้ชื่อว่าเป็นคนดีก็ไม่มี ผู้คนที่นั่นก็ไม่มีใครว่าเธอมีธรรมะ ก็เพราะเธอไม่มีความดีต่อใคร เราจะต้องพิจารณาตัวเอง สิ่งที่ผิดต่อฟ้าเบื้องบน สักอย่างเดียวก็ไม่ทำ  คำพูดที่ผิดต่อคน คำเดียวก็ไม่พูด ยอมให้เขาผิดต่อฉัน ฉันไม่กล้าผิดต่อใคร  คุณธรรมใจปลูกฝังให้ดี เบื้องบนสื่อซึ้งถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์  เบื้องล่างประทับใจผู้คน สิ่งศักดิ์สิทธิ์กับผู้คนยินดี ย่อมไม่นำมาซึ่งมารทดสอบ  สร้างบุญกุศล  บำเพ็ญมรรคผล  ย่อมสำเร็จได้  ถ้ามีเงิน มีอิทธิพลแล้ว  เธอทำการใดไม่ห่างจากเดรัจฉาน  ไม่มีจิคญาณความเป็นคน บอกได้เลยว่า เธอเป็นแค่ " ซากศพเดินได้ เดรัจฉานสวมใส่เสื้อผ้า "  เท่านั้น  สมัยนี้ เธอดูนักเรียนนอก นั่งรถยนต์คันหรู ไปเป็นขโมยในภัตตาคารใหญ่  ( ข่าวตีพิมพ์ )  อย่างนี้เธอมีค่าอะไร  ฉะนั้น เราตั้งความมุ่งมั่น จะต้องตั้งคุณสมบัติ ความประพฤติด้วย บัดนี้เราได้รับธรรมะแล้ว เราเข้าใจแล้ว ความมุ่งมั่นจะต้องสูง  กำหนดเป้าหมายแน่วแน่ คุณธรรมความประพฤติจะต้องสูง เอาโลกหล้าเป็นภาระตน อย่างนี้ก็เรียกว่า ตั้งความมุ่งมั่น 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                                  ระฆังทอง เกราะไม้

                                     ให้สัญญาณ

                           บันทึกพระวจนะกระจ่างธรรม

                            จากท่านเหล่าเฉียนเหยิน

                                      ๑๒

                            ต่างใจต่างทำดีให้ถึงที่สุด

                          ตั้งปณิธานต่างเจริญปณิธาน

        ตนตั้งปณิธาน  ตนสร้างบุญกุศล ตนเจริญบรรลุปณิธาน ใครก็แทนกันไม่ได้  เธออยากบรรลุพุทธะอริยปราชญ์ นั่นเป็นเรื่องของเธอเอง เธอทำเองเธอจึงจะสำเร็จ เธอได้แต่ศรัทธาต่อธรรมะ อย่างนั้นบรรลุธรรมไม่ได้หรอก  ทุกคนบำเพ็ญธรรม จะต้องเข้าใจตรงต่อวิถีธรรมของตน มีกุศลผลบุญ ภายหน้าย่อมมีส่วนของตนยังเบื้องบนแน่นอน  ไม่ใช่ติดตามบำเพ็ญกับใครจึงจะบรรลุธรรม  ซือจุนโปรดว่า  " เธอติดตามซือจุนอยู่ทุกวัน ก็ไม่แน่ว่าเธอจะบรรลุธรรม "  ฉันเป็นถันจู่ เตี่ยนฉวนซือ  นั่นเป็นนามสมมุติ เธอไม่รักษาพุทธระเบียบ ไม่สร้างกุศลบุญคุณธรรม แม้แต่เฉียนเหยินก็ตกนรกเหมือนกัน พระอาจารย์ของเราก็มีเฉียนเหยิน ทำไมเฉียนเหยินของพระอาจารย์จึงไม่บรรลุธรรม เหตุเพราะท่านไม่ปฏิบัติงานธรรม   บัดนี้คือ ใครทำใครก็ได้  ใครบำเพ็ญใครก็บรรลุเรารับธรรมะ จะต้องเข้าใจธรรมะ เมื่อเข้าใจแล้วยังจะต้องบำเพ็ญธรรมะ นั่นคือบำเพ็ญตนเอง ชีวิตของเธอจะต้องฉุดช่วยเอง วอนขอเซียนพุทธะ เซียนพุทธะจะช่วยเธอได้อย่างไร  เหมือนท้องหิวเธอจะต้องกินข้าวเอง เซียนพุทธะจะกินแทนเธอไม่ได้หรอก พระอาจารย์โปรดว่า พระบรรพจารย์ศรีอาริย์ทรงอุบัติมา เธอไม่มีกุศลบุญคุณธรรม แม้แต่กราบเฝ้าพระบรรพจารย์ก็ไร้ประโยชน์  นั่นเป็นเรื่องของผู้อื่นเขา หวังว่าอาจารย์พี่อาจารย์น้องทั้งหลาย จะเป็นบรรทัดฐาน นำพาผู้น้องขึ้นสู่ทางตรง รักษาธรรมะแห่งตนไว้ ภายหน้าติดตามซือจุน ซือหมู่ เฉียนเหยินทั้งหลาย  กราบเฝ้าเหลาหมู่ นั่นจึงจะเป็นที่สุดของการเก็บงานสมบูรณ์ผล พระอาจารย์ไม่อาจบำเพ็ญธรรมแทนเธอได้  เธอมีความมุ่งมั่น จะสร้างกุศลบุญคุณธรรมอย่างไรก็เป็นเรื่องของเธอ  เธอสร้างบาปเวรอะไรก็เป็นของเธอเอง เธออยู่ในร่องรอยกตัญญูต่อพ่อแม่ คุณสมบัติความเป็นคนของเธอสูงส่งดีงาม ไม่เกี่ยวกับพระอาจารย์เลยแม้แต่น้อย พระอาจารย์คือถ่ายทอดวิถีธรรม แต่จะบำเพ็ญธรรมหรือไม่ นั่นเป็นเรื่องของเธอเอง  บัดนี้ แม้วิถีธรรมจะปรกโปรดกว้างใหญ่ แต่เลือกสรรเมธีอยู่เบื้องหลัง ผู้มีบุญสัมพันธ์สดับธรรมแล้วไม่ละจาก  ผู้ไม่มีบุญสัมพันธ์จะถดถอยไม่ก้าวหน้า ทุกประการเป็นไปเองเช่นนี้ มิได้มีการบังคับจำกัดการ  เราได้รับวิถีธรรม ก็เชื่อมั่นทันที ฉุดนำผู้คนสร้างบุญ นี่แสดงว่าเรามีรากฐานพุทธะ บรรพบุรุษมีคุณธรรมความดี จึงเข้าถึง จึงประสบบุญวาระพบพระวิสุทธิอาจารย์แล้วไม่ละจาก  คนอื่น ๆ แม้จะได้รับวิถีธรรม แต่ไม่เชื่อเทียนมิ่ง  ไม่เชื่อพุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยังวิจารย์ว่ากล่าว หรือถึงกับใส่ใคล้ว่าร้าย นี่ก็แสดงให้เห็นว่า กุศลมูลของเขาตื้นบาง คุณธรรมความดีของบรรพบุรุษของเขาขาดพร่อง ดังนั้น แม้เขาจะได้รับวิถีธรรม  แต่ความมุ่งมั่นไม่แกร่งแท้ เข้าใจหลักธรรมไม่กระจ่าง เจ้ากรรมนายเวรพัวพัน  ไม่อาจดำเนินธรรมต่อไป  จึงกล่าวว่า ต่างมีเหตุต้นผลตาม  จะฝืนไม่ได้  ซือจุนโปรดว่า " บำเพ็ญธรรม บำเพ็ญใจ ทำงานธรรมสุดความตั้งใจ "  ต่างจะต้องถึงที่สุดของใจนั้น  จะรอใครให้ค้ำชู จึงจะดำเนินไปไม่ได้ จะต้องเบิกทางสร้างสรรค์เอง  เรื่องในโลกนี้คือเรื่องของเรา ใครปฏิบัติใครก็สำเร็จ  ใครบำเพ็ญใครก็ได้เอง  จะอิงอาศัยผู้อื่นไม่ได้  ธรรมะของฟ้าเบื้องบนไม่มีองค์กร ธรรมะเจริญตามธรรมชาติ  เธอยินดีก็บำเพ็ญ ยินดีก็ปฏิบัติ ไม่มีใครห้ามเธอ  เราขอรับวิถีธรรมได้ จากการอาศัยอะไร ( เป็นแรงหนุนนำ ) อาศัยปณิธานจากตนเอง  ( ไม่ถวายปณิธานสิบข้อ ไม่อาจรับได้ )  ซือจุนโปรดว่า " เธอมีกุศลผลบุญ ผู้อื่นมิอาจยื้อแย่งไป เธอมีโทษบาป เธอก็ผลักใสไม่ได้ "  จึงกล่าวว่า " ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม ได้แต่ก่อเกิดบุญกุศล ไม่ให้มีพลาดผิด หากช่วงต้นเป็นบุญ ช่วงหลังเป็นบาป เหมือนหาฟืนมาหนึ่งพันวัน เผาไหม้วอดวายหมดไปภายในหนึ่งวัน เสียใจ ( เสียดาย ) ไม่ทันการ "  สองร้อยปีก่อนเธอคิดจะเป็นปากเสียงกล่อมเกลาผู้คนแทนฟ้า ใครอนุญาตให้  เธอจะฉุดนำใคร ใครเขาจะฟังเธอ ที่เขาออกบวชกัน เป็นชีเป็นสงฆ์ นั่นก็คือ อยากจะหลุดพ้นจากโลกีย์วิสัย  หลุดพ้นใหม่  ไม่เลย  เพราะเหตุใด บุญวาระจากฟ้ายังมาไม่ถึง  เมื่อถึงแล้ว พระวิสุทธิอาจารย์โปรดสู่โลก เบื้องบนทรงบัญชาปรกโปรดครั้งใหญ่ เธอมาทันเวลา แต่ไม่มีใครทำความเข้าใจให้แจ้งชัด เห็นเขาดี รับธรรมะแล้วดี  ได้บรรลุธรรม  เห็นสรรพสิ่งประสพภัยพิบัติ นิวเคลียร์จะระเบิดแล้ว เธอได้แต่ดู ดูแล้วไปไม่พ้น สุดท้ายไม่มีส่วนสำหรับตัวเรา

ท่านจอมปราชญ์ขงจื่อเชื่อมั่นจะบรรลุอริยะ

จึงใฝ่ศึกษามิรู้หน่าย

เล็งเห็นชาวโลกล้วนอาจบรรลุอริยะ

จึงเฝ้ากล่อมเกลามิรู้หน่าย

ใคร่เอาธรรมะแห่งอริยะเปลี่ยนแปรโลกหล้า

จึงจาริกเรียงเมือง

ใคร่เอาธรรมะแห่งอริยะสืบส่งอนุชน

จึงขัดเกลาสาธยายหกชุดคัมภีร์ธรรม

ท่าน " ไป่สุ่ยเซิ่งตี้  น้ำใสอริยราชเจ้า "

อุทิศทั้งชีวิตก็เพื่องานนี้
                                                        ~  จบเล่ม  ~

Tags:
 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”