collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานกตัญญู คำนำ  (อ่าน 10490 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                           ตำนานกตัญญู   

                      16.  แม่เลี้ยงลูกเลี้ยง

สิ่งใดที่ทำให้พ่อแม่มีความสุขได้
โดยไม่ผิดต่อศีลธรรม
ไม่เป็นการก่อหนี้เวรกรรม
ไม่ทำให้อัปยศอดสู ฯ
ลูกกตัญญูพึงยินดี

        เด็กหญิงจางจวี๋ฮวา  กำพร้าแม่ตั้งแต่อายุเจ็ดปี พ่อจึงมีภรรยาใหม่เพื่อให้มาเลี้ยวดูลูกกำพร้า เธอไม่กล้าดื้อกับแม่เลี้ยงเลย อีกทั้งยังเอาอกเอาใจรับใช้งานสารพัด แต่แม่เลี้ยงกลับมีจิตใจอิจฉาริษยาอยากกำจัดเธอไปเสียให้พ้น  วันหนึ่ง เมื่อพ่อออกไปค้าขายเมืองไกล แม่เลี้ยงก็จัดการขายเธอให้ไปเป็นข้าทาสที่เมืองอื่น  แล้วหลอกพ่อว่าลูกแอบไปเที่ยวเลยหลงหายไป  วันหนึ่ง พ่อไปค้าขายที่เมืองนั้น ได้พบลูกโดยบังเอิญ พ่อลูกกอดกันร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ และเมื่อสอบถามเจ้าของบ้านก็รู้ความจริงว่าแม่เลี้ยงพามาขายให้ จึงไถ่ตัวลูกกลับมา  พ่อโกรธมากขับไล่แม่เลี้ยงไปทันที เด็กหญิงจางจวี๋ฮวากลัวพ่อจะลำบากไม่มีใครดูแลจึงคุกเข่าอ้อนวอนพ่อขอให้ยกโทษให้แม่เลี้ยง หลายปีต่อมาพ่อตาย  แม่เลี้ยงไม่มีลูกของตัวเอง จางจวี๋ฮวาเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอเอาใจใส่เลี้ยงดูแม่เลี้ยงเป็นอย่างดี จนได้ชื่อว่าเป็นลูกกตัญญูอีกคนหนึ่งในสมัยราชวงศ์ซ้อง

                         17. แย่งจากมือโจร

โจรผู้ร้าย             แม้ใจดำ             อำมหิต
ยังได้คิด              จิตสะท้าน          และหวั่นไหว
กตัญญู                มีพลัง               เหนืออื่นใด
สะกิดใจ               ไปถึงแม่           และพ่อตน

        ซุนอี้  เป็นลูกกตัญญูในสมัยราชวงศ์เอวี๋ยน เริ่มต้นชีวิตราชการจากนักศึกษาหลวง  จนถึงระดับตุลาการ ต่อมาเนื่องจากไม่พอใจการปกครองจึงลาออกจากราชการเด็ดขาด แต่ข้อสำคัญในการลาออก ก็เพื่อจะกลับมาอยู่ดูแลพ่อแม่ได้ใกล้ชิด ขณะนั้นบ้านเมืองเกิดการจลาจล โจรผู้ร้ายก่อกวนหนัก  ซุนอี้จึงพาพ่อแม่จะหลบภัยไปอยู่ทางหนันหยัง เผอิญเป็นคราวเคราะห์ ระหว่างทางท่านประจัญหน้ากับกองโจรเข้าอย่างจัง พวกโจรกรูกันเข้ามา ซุนอี้ตัดสินใจช่วยแม่ที่อ่อนแอกว่าเป็นคนแรก ท่านแบกแม่คร่อมหลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตจนพ้นมาได้ เมื่อให้แม่อยู่ในที่ปลอดภัยแล้วก็รีบกลับไปรับพ่อ ปรากฏว่าพ่อถูกจับตัวไว้  ซุนอี้ ไม่มีอาวุธอะไรติดตัวเลยมีแต่แรงกตัญญู ท่านบุกเข้าไปต่อสู้กับพวกโจรอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็ถูกจับ ซุนอี้ร้องไห้เสียใจมากที่ช่วยพ่อไม่ได้ ท่านกราบวิงวอนขอให้โจรปล่อยพ่อ สำหรับตัวเองจะอย่างไรก็ได้  หัวหน้าโจรเห็นแก่ความกตัญญูของซุนอี้เช่นนี้ก็ใจอ่อน จึงปล่อยซุนอี้และพ่อไป

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
ตำนานกตัญญู : 18. พี่น้องช่วยกันกตัญญู
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 11/10/2554, 00:11 »
                           ตำนานกตัญญู   

                   18.  พี่น้องช่วยกันกตัญญู

กตัญญุตา             มหากุศล             ผลบุญใหญ่
ตกน้ำไม่ไหล         ไฟไม่ไหม้            ภัยไม่ต้อง
คุณพระเจ้า            เฝ้ารักษา            พาประคอง
อีกปกป้อง            ผองภัย               ไม่แผ้วพาน

        ในสมัยราชวงศ์เอี๋ยนอีกเช่นกัน สองพี่น้อง อุ๋นจง อุ๋นเซี่ยว  ได้รับการยกย่องว่าเป็นลูกกตัญญู เมื่อแม่เจ็บป่วย ลูกทั้งสองช่วยกันดูแลทุกอย่างทั้งกลางวันกลางคืนไม่เคยว่างเว้น  จนกระทั่งแม่ตายก็ยังติดตามปลูกเพิงนอนเฝ้าอยู่ข้างหลุมฝังศพอีกสามปี  ไม่นานต่อมาพ่อก็ล้มป่วยด้วยโรคร้าย สองพี่น้องเที่ยวดั้นด้นค้นหายาวิเศษ หมอดีมีฝีมือไปทั่ว ทุ่มเทเงินทองชีวิตร่างกายเท่าไรไม่ว่า แต่พ่อก็หาหายไม่  สองพี่น้องเสียใจยิ่งนัก ช่วยกันต่อรถเข็นขึ้นคันหนึ่งให้พ่อนอน  แล้วเข็นพ่อไปไหว้พระตามสถานที่ต่าง ๆ เมื่อหมอช่วยไม่ได้ นี่จึงเป็นวิธีสุดท้าย  วันหนึ่งเมื่อเข็นพ่อมาถึงเทือกเขาลูกหนึ่ง ด้วยความศรัทธาภาวนาให้พ่อหาย ทันใดนั้นก็ปรากฏพระสงฆ์แก่ ๆ รูปหนึ่งขึ้นตรงหน้า ท่านเมตตาให้ยาพ่อกินสองเม็ด  รวดเร็วอะไรปานนั้น พระรูปนั้นยังไม่ทันจะพ้นไปไกล พ่อก็หายป่วยดังปลอดทิ้งทันที นี่คือผลจากความกตัญญู

                            19.  ว่าที่ลูกสะใภ้ให้สติ

อกเขา             และอกเรา             ให้เข้าใจ
เป็นสะใภ้          เห็นใจแท้             แม่สามี
ท่านรักลูก        เฝ้าปลูกฝัง            จนวันนี้
สะใภ้ดี            แม่สามี                 สิแม่ตัว

        หลิวหลัน  เป็นเด็กหญิงอายุสิบสองปี  ในสมัยราชวงศ์หมิง เธอถูกซื้อไปเป็นลูกสะใภ้เด็ก เพื่อรับใช้แม่ของว่าที่สามีตั้งแต่เล็ก  (ประเพณีจีนโบราณชอบจะซื้อเด็กผู้หญิงเล็ก ๆ ทาเลี้ยงดูคู่กับลูกชายของตน  เมื่อทั้งสองโตขึ้นจนวันและโอกาสสมควรก็จะให้แต่งงานกัน)  ว่าที่แม่สามีเป็นคนปากร้าย ชอบด่าว่าแม่สามีของตนเสมอ และมักจะแช่งว่า "แก่แล้วไม่รู้จักตายเสียที"  คืนหนึ่งกลางดึก  เด็กหญิงหลิวหลันนอนไม่หลับ เธอเข้าไปคุกเข่าร้องไห้อยู่หน้าเตียงว่าที่แม่สามีจนนางตกใจตื่นถามว่า เกิดอะไรขึ้น  หลิวหลันตอบว่า "หนูเห็นว่าแม่ด่าย่าอยู่ทุกวัน หนูหวั่นใจว่าสักวันหนึ่ง ถ้านิสัยใจคอของหนูเปลี่ยนไป เกลียดแม่เหมือนอย่างที่แม่เกลียดย่า  แล้วหนูจะทำอย่างไร"  ว่าที่แม่สามีได้ยินเด็กหญิงหลิวหลันซึ่งเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ตัวน้อย ๆ พูดเช่นนี้ก็สำนึกได้ นางน้ำตาคลอ พยุงว่าที่ลูกสะใภ้ตัวน้อยลุกขึ้นโอบกอดขอบใจที่เธอให้สติ  จากนั้นเป็นต้นมา ครอบครัวตระกูลหยังบ้านนี้ก็สงบสุข ไม่มีเสียงด่าทอกระทบกระเทียบอีกเลย 

                      20.  สู้ตายไว้ลายบิดา

ลูกเป็นผู้สืบสกุล
ลูกเป็นผู้สืบต่อกิจการงาน
ลูกเป็นผู้สืบต่ออุดมการณ์ฯ
ลูกเป็นผู้เชิดชูคุณความดีของบิดามารดา

        ปลายราชวงศ์หมิง นายทหารผุ้รักษาการเมืองเต้าโจว มีธิดาสาว ชื่อว่า เสิ่นอวิ๋นอิง เธอฉลาดปราดเปรื่อง และได้ร่ำเรียนวิทยายุทธจากบิดามาเป็นอย่างดี  ในปีรัชสมันฉงเจิน ขอนโจรจางเซี่ยนจง ฮึกเหิมยกกองโจรใหญ่มาล้อมเมืองเต้าโจวไว้ บิดาของเธอยกทัพออกขับไล่ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ จึงถูกฆ่าตายในสนามรบ  อวิ๋นอิงเพิ่งอายุได้สิบเ็จ็ดปี  เธอขึ้นไปยืนตระหง่านบนกำแพงเมืองประกาศก้องทันทีว่า "แม้ข้าจะเป็นหญิง แต่เพื่อจะรักษาเมืองไว้ให้สมใจบิดา ข้าจะสู้ตายกับโจรผู้ร้าย  ขอให้ทหารและชาวเมืองพร้อมใจกันขับไล่ศัตรู เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองและลูกเมียตน"  พอขาดคำเสียงไชโยโห้ร้องก็ดังก้องเมือง ทั้งทหารและชาวเมืองกรูกันออกจากประตูเมืองพร้อมจะสู้ตาย กองโจรผู้ขึ้นชื่อว่าผู้ชนะสิบทิศแตกพ่ายในครั้งนี้ เสร็จศึกแล้ว อวิ๋นอิงกอดศพบิดาร่ำไห้อยู่กลางสนามรบ   ทหารและชาวเมืองก็พากันน้ำตาไหลสะอื้นไห้ไปด้วยกัน ทั้งเมืองพร้อมใจกันไว้ทุกข์ให้บิดาของเธอ  ฮ่องเต้โปรดแต่งตั้งให้บิดาของเธอเป็นรองผู้บัญชาการฯ ให้เธอเป็นแม่ทัพกองกำลังกวาดล้างฯ รักษาเมืองเต้าโจวแทนบิดาสืบไป ต่อมาชาวเมืองยังได้สร้างอนุสาวรีย์อวิ๋นอิงไว้ เพื่อเชิดชูเกียรติคุณความกล้าหาญกตัญญูของเธอ   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
ตำนานกตัญญู : 21. คุกเข่าขอเลี้ยงดู
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 11/10/2554, 00:45 »
                           ตำนานกตัญญู   

                     21.  คุกเข่าขอเลี้ยงดู

เมื่อพ่อแม่ตาย
ให้อุปการะน้อง ๆ
ให้เอื้อเฟื้อดูแลคนที่พ่อแม่ห่วงใย
ให้มีอัธยาศัยกับคนที่พ่อแม่เคยคบค้า ฯ
ทำหน้าที่แทนพ่อแม่มิให้บกพร่อง
เช่นนี้ก็ได้ชื่อว่าลูกกตัญญู

        กุยหมิงหยง เป็นลูกกตัญญูในราชวงศ์หมิง ท่านกำพร้าแม่ตั้งแต่เล็ก พ่อจึงหาภรรยาใหม่มาเป็นแม่เลี้ยง  แม่เลี้ยงมีจิตริษยาชอบว่าร้ายให้พ่อเกลียดหมิงหยง  พ่อหูเบาเข้าใจไปตามคำยุแหย่จึงตบตีด่าว่าลูกเป็นประจำ พ่อรักแต่ลูกชายที่เกิดจากภรรยาน้อย  เวลาพ่อตีหมิงหยงแทนที่แม่เลี้ยงจะเข้าไปห้ามกลับหาไม้อันใหญ่ให้ เหมือนอยากตีเสียให้ตาย  ทุกมื้อ ทุกวัน ทุกคนในบ้านกินกันอิ่มหนำ แต่ไม่เหลืออะไรให้หมิงหยงกินเลย  นับวันแม่เลี้ยงก็ยิ่งร้ายกาจมากขึ้น จนวันหนึ่งก็ยุแหย่ให้พ่อไล่หมิงหยงออกจากบ้านจนได้  หมิงหยงตัวน้อย ๆ จึงต้องไปหาบเกลือขาย ขายเกลือราคาถูก ๆ กำไรน้อยนิด  แต่หมิงหยงก็อุตสาห์ประสมเล็กประสมน้อยซื้อของดี ๆ แอบฝากน้องชายมาให้พ่อแม่กิน จนกระทั่งพ่อตาย  ปีนั้นเกิดกันดารอดอยาก หมิงหยงกลัวว่าแม่และน้องจะลำบาก จึงมาขอทำหน้าที่เลี้ยงดู  แม่เลี้ยงละอายใจมากไม่กล้ารับน้ำใจ  หมิงหยงเห็นสภาพชีวิตแม่เลี้ยงกับน้องคงไปไม่รอดแน่ จึงคุกเข่ายืนยันขอเลี้ยงดูให้ได้ หมิงหยงได้ทำหน้าที่ลูกกตัญญู จนกระทั้งแม่เลี้ยงตายจากไป

                          22.  รอดตายได้วาสนา

กตัญญู             จะชูช่วย             ให้รวยได้
ขจัดภัย             ให้อายุ              อยู่ยงมั่น
ให้อุดม             สมบูรณ์สุข          ถึงลูกหลาน
ยิ่งยืนนาน         ปัญญาเฟื่อง         รุ่งเรืองจริง

        ติงเค่อเจีย เป็นลูกกตัญญูในสมัยราชวงศ์ชิง บิดาข้ามทะเลมาค้าขายที่ไต้หวัน ไม่นานก็ส่งข่าวกลับไปบ้านว่าเป็นอัมพาต ปีนั้น เค่อเจียเพิ่งอายุได้สิบสามปี  ท่านรีบเดินทางมาตามหาพ่อที่ไต้หวันทันที สมัยนั้น การเดินทางฝ่าคลื่นลมข้ามมหาสมุทรด้วยเรือลำเล็ก ๆ อันตรายมาก  แรงกตัญญูผลักดันให้เกิดความกล้า  เค่อเจียมาตามหาพ่อจนพบ จากนั้นเด็กอายุสิบสาม ก็ตื่นตีสี่หุงข้าวซักผ้า ทำความสะอาดเช็ดล้างอุจจาระปัสสาวะให้พ่อ กลางดึกพอพ่อครางหรือกระดิกตัวก็สะดุ้งตื่นลุกขึ้นปรนนิบัติรับใช้..... ทำเช่นนี้อยู่สิบกว่าปี วันหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ใกล้บ้าน เค่อเจียแบกพ่อจะหนีไฟไม่ทันการ ไฟลุกลามรอบบ้าน จะออกจากประตูบ้านก็ไม่ได้  ไม่มีใครดับเพลิง ได้แต่หนีไฟกัน ทันใดนั้น เหตุการณ์มหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เพลิงที่ไหม้อยู่รอบด้านดับพรึบลงทันทีเหมือนมีใครเอาพัดเล่มใหญ่พัดให้ดับลง พ่อลูกจึงรอดตายอย่างไม่น่าเชื่อ  บั้นปลายชีวิตของเค่ยเจียฐานะมั่งคั่ง มีลูกชายกตัญญูเจ็ดคน ล้วนทรงคุณวุติ คนที่หกสอบได้รองจอหงวน มีหลานยี่สิบกว่าคน ก็ล้วนปราดเปรื่องเรืองปัญญา ฮ่องเต้โปรดเชิดชูเค่อเจีย ให้ได้รับสักการะฐานะลูกกตัญญูในพระบรมราชูปถัมภ์   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
ตำนานกตัญญู : 23. สละลูกเพื่อให้นมแม่
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 11/10/2554, 01:27 »
                           ตำนานกตัญญู   

                     23.  สละลูกเพื่อให้นมแม่

มนุษย์ชาติสืบสายเผ่าพันธุ์
อยู่ร่วมกันมาช้านานได้ด้วยความกตัญญู
ความกตัญญูรู้คุณ
หนุนนำให้เกิดความเมตตากรุณา
ความเมตตากรุณาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก
ความกตัญญูจึงอยู่เหนือความดีทั้งปวง

        โจวซื่อจิ้น  เป็นลูกกตัญญูในราชวงศ์ชิง ท่านและภรรยาเอาใจใส่ดูแลแม่อย่างหาที่เปรียบได้ยาก เมื่อแม่แก่เฒ่าร่างกายทรุดโทรม หมดแนะนำว่าจะต้องให้ดื่มนมคนจะได้ยืดอายุต่อไป สองสามีภรรยาจึงตัดใจยกลูกชายคนเดียวเก้าเดือนให้คนหมู่บ้านอื่นไป น้ำนมท้งหมดจะได้พอเพียงสำหรับบำรุงแม่(สมัยก่อนไม่นิยมดื่มนมวัว และไม่มีอาหารเสริมประเภทนี้)  แม่ได้น้ำนมจากอกลูกสะใภ้อย่างอุดมสมบูรณ์ ไม่นานก็แข็งแรงขึ้น  แต่ลูกสะใภ้ก็มีลูกได้คนเดียวเท่านั้น เวลาผ่านไปจนลูกชายที่ให้คนอื่นไปเติบใหญ่ พ่อแม่ที่รับเลี้ยงไว้จะจัดการแต่งงานให้ จึงกลับมาถามพ่อแม่แท้ ๆ ว่าลูกเกิดวันเดือนปีอะไร โจวซื่อจิ้นและภรรยาน้ำตานองเมื่อนึกถึงลูกที่ยกให้เขาไป  พ่อแม่ที่รับเลี้ยงมีน้ำใจ จึงบอกเล่าความจริงแก่ลูกและยินดีให้ลูกทำหน้าที่ผู้สืบสกุลทั้งสองครอบครัว มีคำกล่าวว่า "เชื้อไม่ทิ้งแถว" ลูกชายของโจวซื่อจิ้น เจริญรอยกตัญญูอย่างพ่อแม่ไม่มีผิด เขาดูแลพ่อแม่ทั้งสี่อย่างไม่มีที่ติเลย

                          24.  แย่งกันกตัญญู

กว่าจะเลี้ยงดูให้เติบใหญ่
พ่อแม่ต้องแบกทุกข์หวาดภัยเพียงใด
ระวังมีดไม้ฟืนไฟ  ระวังโรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ
อาหารแต่ละคำ.....
ตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย  จนลูกน้อยเจริญวัย.....
ใครเล่าจะเข้าถึง  ซาบซึ้งกตัญญู

        ในสมัยราชวงศ์ชิง  บนเกาะฉงหมิงปากแม่น้ำแยงซีเกียง  สี่พี่น้องตระกูลอู๋เป็นลูกกตัญญู ยากที่จะหาใครเสมอเหมือน พ่อแม่ของท่านยากจนมาก จึงนำลูกทั้งสี่ไปขายฝากไว้ที่บ้านเศรษฐี  ทั้งสี่พี่น้องอดทนขยันมัธยัสถ์  โตขึ้นพอมีเงินเก็บได้ก็ขอไถ่ตัวเองกลับมาบ้าน และต่างแต่งงานมีครอบครัว ท่านต่างไม่ได้ขัดเคืองใจเลยที่พ่อแม่ขายท่านไป แต่กลับเห็นอกเห็นใจ และพยายามจะแย่งกันเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ดี ที่สุดก็ตกลงกันว่า เวียนกันเลี้ยงดูพ่อแม่บ้านละหนึ่งเดือน พี่น้องตกลงกันได้  แต่สะใภ้กลับไม่ยอม นางต่างเกี่ยงว่า ถ้าบ้านละหนึ่งเดือนกว่าจะเวียนมาถึงคนสุดท้ายได้ก็ต้องคอยนานถึงสามเดือน อย่ากระนั้นเลยเปลี่ยนเป็นบ้านละหนึ่งวันดีกว่า แต่พอไม่กี่วันผ่านไปก็ยังรู้สึกว่านานอีก จึงตกลงกันใหม่ว่าเป็นบ้านละมื้อ คนโตมื้อเช้า  คนรองมื้อกลางวัน  คนที่สามมื้อเย็น  คนที่สี่ก็เรียงต่อไป มื้อพิเศษห้าวันต่อหนึ่งครั้งให้ร่วมกันทำ เวลาอาหารเป็นเวลาที่ทุกคนมีความสุขที่สุด  ลูกหลานกุลีกุจอช่วยกันจัด ช่วยกันยก ปู่ย่าคู่นี้มีความสุขอยู่จนอายุเกือบร้อยปี
 
                                                  ~ จบเล่ม ~

                            พระอมตะพุทธะจี้กงได้โปรดว่า  :

เราได้รับวิธีธรรมก็คือได้รับวิถีแห่งจิต
หากไม่มีวิถีแห่งจิตนี้
เจ้าก็จะไม่เข้าใจว่าจะกลับสู่ฟ้าได้อย่างไร
จะบำเพ็ญกันอย่างไร

Tags:
 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”