collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: 桃園明聖經 คัมภีร์อริยะตะวันเดือน ศุภนิมิตแปลและเรียบเรียง  (อ่าน 57217 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                              คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                    ภาคผนวก

                                       ๙ 

                                  วัดธารหยก

                                (อวี้เฉวียนซื่อ) 

        วัดธารหยก ตั้งอยู่บนเทือกเขาธารหยก มณฑลหูเป่ย    ลักษณะภูเขาเหมือนเรือคว่ำ จึงเรียกอีกว่า  "ภูเขาเรือคว่ำ    ฟู่ฉวนซัน"  วัดธารหยกสร้างตั้งแต่ราชวงศ์สุย  พระมหาเถระยิ่งใหญ่มากมาย มีทั้งแต่งตั้งราชวงศ์สุย  ถัง  ซ่ง  ราชวงศ์เอวียน  หมิง   ชิง    หกรัชสมัย   ต่างจาริกมาเจริญธรรม แสดงธรรม บรรลุธรรมกันที่วัดนี้ไม่ขาดสาย  ภูเขาธารหยก มีสายธารน้ำรินไหลออกจากถ้ำชั่วนาตาปี น้ำใสเหมือนแก้ว รสหวานชุ่มคอ จึงได้ชื่อว่า "ธารหยก"  รัชสมัยเทียนซี  ราชวงศ์ซ่ง  พระแม่เจ้า "เซียวฮองเฮา   โปรดพระราชทานบูรณะ เพิ่มเติมการก่อสร้างและเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ว่า "พระอารามทัศนภาพบารมี       จิ่งเต๋อฉันซื่อ"  บริเวณวัดโดยรอบ มีอาณาเขตกว้างใหญ่ถึงหนึ่งร้อยลี้ มีอาคารปฏิบัติธรรมเก้าชั้น  มีมหาวิหารแปดสิบหลัง มีกุฏิสงฆ์สามพันเจ็ดร้อยหลัง  ในรัชสมัยชิงกวางสู   ปีที่ห้า  และปีที่เก้า  ล้วนมีการบูรณะก่อสร้างเพิ่มเติมอีก  ภายในวัดมีปฏิมากรรมเก่าแก่มีค่ายิ่งประดับและประดิษฐานอยู่ทั่ว  รูปพระโพธิสัตว์กวนอิมเนื้อหินสลักด้วยฝีมือปราณ๊ตวิจิตรงดงามมีชีวิตชีวา เป็นที่น่าอัศจรรย์ รูปบูชาพระองค์กวนอริยเจ้า สง่างามอยู่ในพระวิหาร ในพระนาม "กาลามะโพธิสัตว์           เฉียหลันผูซ่า"  ในรัชสมัยซ่งฉงหนิง      เนื่องจากฮ่องเต้ได้โปรดถวายสักการะนาม "กวนอริยเจ้า" เพิ่มเติมอีกว่า "ทิพยกัลยาณราชเจ้าปกป้องอุ้มชูบ้านเมือง   ฮู่กั๋วเจินจวิน"  จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดตามไปว่า  "วัดปกป้องบ้านเมือง    ฮู่กั๋วซื่อ"   คนภายหลังต่อมาพากันเรียกว่า  "วัดธารหยกปกป้องบ้านเมือง       อวี้เฉวียนฮู่กั๋วซื่อ"               

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                             คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                    ภาคผนวก

                                      ๑๐

                            พรหมราชเจ้าดาวทอง

                                ( ไท่ไป๋จินซิง)     

        ดาวไท่แป๊ะกิมแช  ดาวกาลพรึก  หรือดาวประกายพรึก  มีชื่อเรียกมากมายทั้งไทย - จีน  ทั่วไปมักเรียกว่า ดาวพระศุกร์  ดาวประจำเมือง  ดาวทอง  ดาวทองไท่แป๊ะ รุ่งเช้าจะปรากฏทางทิศตะวันออก  จึงเรียกว่ากาลพรึก ตอนค่ำปรากฏทางทิศตะวันตก จึงเรียกว่าดาวประจำเมือง  (รุ่งเช้าไทยเรียกว่า ดาวประจำเมือง )  ในคัมภีร์เต้าเต๋อจิง     จารึกว่า สิบเจ็ดค่ำเดือนแปด (หลังคืนวันไหว้พระจันทร์สองคืน) เป็นคืนวันอุบัติมาของเทพเจ้าประจำดวงดาวกาลพรึก ในตำนาน "เทวราชฟ้าพยากรณ์  เทียนกวนจั้น"  จารึกว่า  "ทองเป็นธาตุแท้ เป็นฐานหลักของทิศตะวันตก  ไท่แป๊ะ คือ บุตรของพระผู้เป็นเจ้าแห่งธาตุแท้ฐานหลักประจำทิศตะวันตก"  การกล่าวอ้าง  จึงหมายถึง  พระผู้ซึ่งมีความสูงส่งเที่ยงตรง ยั้งยืนสว่างใส

                                      ๑๑

                                   จื่อเอว๋ยกง 

        "ปราสาทวิจิตรฉัพพรรณรังสี      จื่อเอว๋ยกง"  ของพระผู้เป็นใหญ่ในชั้นฟ้า  ที่ประทับของท้าวสักกะเทวราช

                                      ๑๒

                                    อู่จื่อซวี   

        อู่จื่อซวี    (พระภาคก่อนของกวนอริยมหาราชเจ้า)  นามเดิม  เอวี๋ยน  เป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ เป็นนักรบผู้แกร่งกล้า เป็นเสนาธิการทหารที่ฉลาดปราดเปรื่องเห็นการณ์ไกล  เป็นผู้มีจิตสำนึกคุณสูงยิ่ง   แม้แต่กับการช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยที่ได้รับ มีความเที่ยงตรงยุติธรรมที่ไม่หวั่นเกรงต่ออิทธิพลใด  อู่จื่อซวี มีความรอบรู้ เฉียบขาดในการตัดสินใจ รู้เหตุการณ๋ล่วงหน้า  แต่ต้องบั่นคอตัวเองตาย เพราะทนเห็นความหายนะจากความอยุติธรรมของบ้านเมืองไม่ได้  เนื่องจากฮ่องเต้หลงเชื่อคำสอพลอล่อลวงของขุนนางกังฉิน ผู้มีแผนจะล่มบ้านจมเมือง  อู่จื่อซวี พยายามทักท้วงจนถึงที่สุดอยู่ทุกครั้ง แต่ฮ่องเต้ไม่เคยฟัง  ก่อนบั่นคอต่อหน้าพระที่นั่ง อู่จื่อซวี สั่งแก่บริวารว่า "เมื่อข้าพเจ้าตายลง จงปลูกต้นจื่อ  (ไม้เนื้อแข็ง)  ไว้เหนือบริเวณหลุมฝังศพ จะได้เอาไม้ไปใช้ประโยชน์  อีกทั้งจงควักลูกตาของข้าพเจ้าไปห้อยไว้บนประตูเมืองด้านตะวันออก เพื่อสอดส่องโจรเมืองเอวี้ย  ที่จะบุกเข้าทำลายเมืองอู๋  ของเรา"  อู่จื่อซวี ห่วงใยบ้านเมืองถึงที่สุดเช่นนี้  ในที่สุดภายหลังต่อมา ฮ่องเต้ต้องพ่ายแพ้ยับเยินแก่โจรเมืองเอวี้ย จริง ๆ  และสุดท้าย ฮ่องเต้ก็จบชีวิตของพระองค์ด้วยความอัปยศอดสูอย่างสุดละอาย สุดเสียใจ  ก่อนฆ่าตัวตาย  พระองค์ได้กล่าวคำสะท้อนใจว่า "ข้าละอายแก่ใจนัก  ที่จักต้องไปพบกับอู่จื่อซวี (ที่ตายไป)  ขันทีท่าน จงใช้ผ้าแพรสามผืนซ้อนทับกันปิดหน้าของข้าหลังจากที่ตายให้ข้าด้วย" 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                           คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                  ภาคผนวก

                    แนะนำพระองค์ บุคคล สถานที่

                   ที่กล่าวอ้างในคัมภีร์โดยสังเขป

                                    13

                                 จางเฟย

                               (เตียวหุย)

        จางเฟย      นามรอง อี้เต๋อ    ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับหลิวเป้ย  (เล่าปี่)  กวนอวี่  (กวนอู) สามพี่น้องรักห่วงใยกันดั่งพี่น้องคลานตามกันมา  จางเฟยเป็นนักรบกล้าหาญชาญชัย จนมีคำกล่าวว่า "จางเฟยตัดหัวแม่ทัพข้าศึก ง่ายดายเหมือนล้วงมือหยิบของออกจากย่าม"  เมื่อเล่าปี่ครอบครองดินแดนทางใต้ของลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงแล้ว ได้แต่งตั้งจางเฟยให้เป็นผู้ว่าการเมืองอวี๋จวิ้น เป็นแม่ทัพใหญ่เจ้าเมืองชินถิง เจ้าเมืองซีเซียง  จางเฟยลักษณะรูปร่างสูงใหญ่ ห้าญหาญ  เกรียงไกร  น่าคร้ามเช่นเดียวกับกวนกง  (กวนอริยมหาราชเจ้า) แต่กวนกงนั้นกรุณาปราณีต่อผู้น้อย ไว้ตัวต่อผู้ใหญ่  ตรงกันข้ามกับจางเฟยที่ให้เกียรติผุ้ใหญ่  แต่ไม่เห็นใจผู้น้อย มีพระเดชแต่ไม่มีพระคุณ สุดท้ายต้องถูกทำร้ายด้วยบริวาร  จางเฟยได้รับการยกย่องในภายหลังอีกว่า "เจ้าเมืองหวน  หวนโหว"  เมื่อกวนกงได้รับราชสักการะนามว่า "มหาราชสยบมารสามโลก  ซันเจี้ยฝูหมอต้าตี้"   จางเฟย เจ้าเมืองหวน  ก็ได้รับการยกย่องตามไปด้วยว่า "รองแม่ทัพสยบมาร  ฝูหมอฟู่เจี้ยง" เทวสถานเทิดทูนพระองค์ว่า "เจ้าเมืองหวนมหาราช หวนโหวต้าตี้"           

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                             คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                  ภาคผนวก

                    แนะนำพระองค์ บุคคล สถานที่

                   ที่กล่าวอ้างในคัมภีร์โดยสังเขป

                                   ๑๔

                                 ต่งจั๋ว

                               (ตั้งโต๊ะ)

        ต่งจั๋ว   นามรอง จ้งอิ่ง  จิตใจหยาบช้าสามานย์ พละกำลังดังช้างสาร มือแม่นฉมังธนู เป็นแม่ทับหน้าของพระเจ้าหลิงตี้  ทรยศต่อบ้านเมือง ตั้งตัวเป็นใหญ่ ทำร้ายราชวงศ์ สุดท้ายถูกฆ่าล้างโคตร 

                                   ๑๕

                               หล - วี่ปู้

                              (ลิโป้)

        หล-วี่ปู้   หรือลิโป้  นามรอง เฟิ่งเซียน      เดิมเป็นขุนนางดูแลเมืองปิ้งโจว  เหี้ยมหาญทยานศึก ฝีมือขี่ม้ายิงธนู และพละกำลังยากจะหาใครเสมอได้ ลิโป้ นิสัยจิตใจโลเล  ไม่มีสัจจะ  คิดดค  เนรคุณ  มักใหญ่ใฝ่สูง ฆ่าติงเอวี๋ยน  พ่อบุญธรรมที่อุ้มชูมา เพื่อเข้าหาต่งจั๋ว ยกต่งจั๋วเป็นพ่อบุญธรรมคนใหม่ภายหลังเพื่อผลประโยชน์ ก้จะฆ่าพ่อบุญธรรมคนที่สองอีก เมื่อถูกโจโฉจับกุมตัวได้ เขากล่าวแก่โจโฉว่า "ศตรูตัวสำคัญของท่านคือข้าพเจ้า แต่บัดนี้ ข้าพเจ้าก็สยบต่อท่านแล้ว เรามาร่วมมือทำการใหญ่กันเถิด"  โจโฉเกือบจะหลงเชื่อรับไว้ แต่มีคนเตือนว่า "ไม่เห็นตัวอย่างพ่อบุญธรรมเขาหรือ"  ลิโป้จึงจบชีวิตลงด้วยมือโจโฉ 

                                        ยุคสมัยผ่านไปไม่หยุดยั้ง

                                      คนเก่งกล้าเด่นดังต่างชิงชัย
 
                                     กาลเวลาพาทุกอย่างผ่านหาย 

                                      เหลืออะไรหากมิใช่คุณธรรม
 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                              คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                  ภาคผนวก

                    แนะนำพระองค์ บุคคล สถานที่

                   ที่กล่าวอ้างในคัมภีร์โดยสังเขป

                                ๑๖

                            เอี๋ยนจื่อหลิง

        เอี๋ยนจื่อหลิง  หรือเอี๋ยนกง  เดิมทีแซ่จวง  เป็นเพื่อนนักศึกษากับราชบุตรกวงอู่  เมื่อกวงอู่ขึ้นครองราชย์ เอี๋ยนจื่อหลิงซึ่งเป็นพระสหายคนสนิดอีกทั้งปราดเปรื่องเรืองปัญญา กลับพาตัวหลบหายไปหาสันโดษ  เพราะไม่มีจิตใจมักใหญ่ใฝ่สูง ฮ่องเต้คิดถึงเอี๋ยนจื่อหลิงมาก ชื่นชมในความสามารถ ส่งขุนนางออกตามหาเกลี้ยกล่อมให้เข้าวัง แต่ไม่เป็นผล  สุดท้าย เอี๋ยนจื่อหลิงยิ่งห่างไกล  ไปถือสันโดษในป่าเขาฟู่ชุนซัน  ทำไร่ไถนา ตกปลาหาความสุขเงียบ ๆ จนหมดอายุขัย  แก่งหินที่เอี๋ยนจื่อหลิงเคยนั่งตกปลาปล่อยอารมณ์ภายหลังจึงได้ชื่อว่า  "แก่งเอี๋ยนหลิง   เอี๋ยนหลิงล่าย)  ปรัชญาเมธา "ฟั้นจ้งเอียน  "  จารึกคำสดุดีไว้ที่ศาลบูชาเอี๋ยนจื่อหลิงว่า

จิตใจของท่าน ( เอี๋ยน ) เหนือกว่าตะวันเดือน
น้ำใจของพระเจ้ากวงอู่โอบล้อมฟ้าดิน
แต่ท่านมิอาจเอื้อความยิ่งใหญ่แก่กวงอู่
แล้วไฉนกวงอู่จะสูงส่งเยี่ยงท่านได้

เซียนเซินจือซิน             เชาฮูยื่อเอวี้ยจือชั่ง
กวงอู่จือ้ลี่ยง                 เปาฮูเทียนตี้จือไอว้
เอว๋ยเซียนเซิงปู้เหนิงเฉิงกวงอู่จือต้า

        พระเจ้ากวงอู่ใจกว้าง  มิอาจถืออาญาสิทธิ์บังคับเอี๋ยนจื่อหลิงออกมารับใช้  เหมือนเจ้าเหนือหัวองค์อื่น ๆ  จึงได้รับการสรรเสริญว่า "น้ำใจโอบล้อมฟ้าดิน"  เอี๋ยนจื่อหลิงจิตใจสุจริตสูงส่ง ไม่คิดฉวยโอกาสที่เป็นพระสหาย

เมธีฟั่นจ้งเอียน                 จึงเขียนคำสดุดีไว้อีกว่า
เมฆฟ้าภูผาชอุ่ม                 ชื่นชุ่มเวิ้งใหญ่สายน้ำ
งดงามความเป็นท่านนา        ดั่งว่าเขาสูงสายชล

อวิ๋นซันชังชัง                    เจียงสุ่ยเอียงเอียง
เซียนเซิงจือเฟิง                 ซันเกาสุ่ยฉัง

            อักษร                        อักษร

" จง "  เที่ยงตรงจงรัก     " อี้ "   สูงส่งมโนธรรม       
           บันทึกภาพจากวัดเก่าแก่โบราณ   
           เมืองฮานอย   ประเทศเวียนนาม   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                           คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                  ภาคผนวก

                    แนะนำพระองค์ บุคคล สถานที่

                   ที่กล่าวอ้างในคัมภีร์โดยสังเขป

                                  ๑๗

                              เอวี้ยเฟย

                              (งักฮุย)

         เอวี้ยเฟย   ถือกำเนิดที่เมืองเซี่ยงโจว  รัชสมัยพระเจ้าซ่งฮุยจง   (ค.ศ. 1103)  สิบห้าค่ำเดือนสอง เวลามะเส็ง ขณะนั้นเองนกเผิงใหญ่มากมายพากันมาบินวนเวียนบนหลังคาบ้าน ส่งเสียงร้องเหมือนแสดงความยินดีต้อนรับการอุบัติมาของเอวี้ยเฟย ท่านจึงได้ชื่อว่าเฟย แปลว่าบิน  นามรองว่า เผิงจวี่แปลว่า นกเผิงเชิดชู  วันหนึ่งเขื่อนแม่น้ำฮวงโหพังทะลาย มารดาต้องอุ้มท่านที่ยังไม่ครบเดือนลงไปนั่งในตุ่มใบใหญ่  ตุ่มไหลไปตามกระแสน้ำ จึงได้พ้นอันตราย  เอวี้ยเฟยมีจิตใจใฝ่ดี หาญกล้ามาตั้งแต่เยาว์วัย ศึกษาทั้งบุ๋นและบู๊กับอาจารย์โจวถง  ทางบ้านยากจน ไม่มีเงินซื้อกระดาษ ท่านก็ใช้กิ่งหลิวขีดเขียนบนพื้นทราย อดทนพากเพียร เอวี้ยเฟยมีพละกำลังเหมือนกายสิทธิ์โดยกำเนิด เพิ่งเริ่มรุ่นเท่านั้น ฝีมือยิงธนูก็เหนือชั้นกว่าอาจารย์ ตำราพิชัยสงครามของท่านชุนอู๋ เอวี้ยเฟยก็ศึกษาพิจารณาได้แตกฉาน มารดาของท่านมีจิตใจเยื่องวีรสตรี ได้สักอักษรสี่ตัวลงบนแผ่นหลังของลูกชาย เตือนใจให้จงรักภักดีตอบแทนพระคุณของบ้านเมืองว่า  "ตอบแทนบ้านเมือง จงรักภักดีถึงที่สุด  จิงจงเป้ากั๋ว"  เป็นคำขวัญจากแม่ที่แพร่สะพัดอยู่เหนือเชื้อชาติ เหนือกาลเวลาและภาษา  เอวี้ยเฟยรับใช้ชาติอย่างสุดชีวิต ทั้งออกศึกป้องกันและปราบปราม ได้รับการเลื่อนตำแหน่งครั้งแล้วครั้งอีก ได้รับธงชัยเชิดชูเกียรติคุณจารึกอักษรว่า "เอวี้ยเฟยยอดยิ่งจงรักภักดี   จิงจงเอวี้ยเฟย"  ด้วยลายพระหัตถ์ของ "พระเจ้าซ่งเกาจงฮ่องเต้ "เอง  ด้วยอายุที่ยังไม่ถึงสามสิบปี เอวี้ยเฟยสร้างเกียรติประวัติจนเป็นที่แซ่ซ้องทั่วแผ่นดิน บทประพันธ์ร้อยกรองที่ชื่อว่า "ผืนน้ำแดงฉาน    หมั่นเจียงหง"  ของเอวี้ยเฟย  พรรรณนาถึงความมุ่งมั่นทะยานสู้เพื่อบ้านเมือง เป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้มีอุดมการณ์ สูงส่งมาจนทุกวันนี้ ตั้งแต่โบราณมา คนดีมักมีผู้อิจฉากลั่นแกล้ง ทรราชฉินไคว่  คบคิดกับอริราชศัตรู ร่วมกับผู้หวังผลประโยชน์ส่วนตน อีกบางคนเพ็ดทูลฮ่องเต้จับเอวี้ยเฟยขังคุกจนสิ้นชีวิต ขณะนั้น ท่านเพิ่งอายุได้สามสิบเก้าปี  ไม่มีขุนนางสักคนกล้าร้องเรียน ความเป็นธรรม  อีกทั้งไม่มีใครกล้าจัดงานศพให้  เพราะอิทธิพลของทรราชค้ำฟ้า มีแต่เอว่ยซุ่น  ผู้คุมคุกที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลกกับคุณธรรม เอว่ยซุ่น แบกศพของท่านจอมทัพเอวี้ยเฟย ปืนกำแพงเมืองออกไปฝังไว้ที่เชิงเขา ค.ศ. 1162  พระเจ้าเซี่ยวจวง ขึ้นครองราชย์รื้อฟื้นเรื่องเก่า สืบหาศพของเอวี้ยเฟย จัดพระราชพิธียิ่งใหญ่แก่ศพของอดีตจอมทัพเอวี้ยเฟย  แล้วอันเชิญไปฝังไว้ที่เมืองหลินอันฝู่   เทือกเขาชีเสียหลิ่ง ใกล้ทะเลสาบซีหู  จอมทัพเอวี้ยเฟย ได้รับการเทิดทูนสถานภาพตามไปทุกรัชสมัยเป็น  "เจ้าเมืองยุทธาเกริกเกียยรติธำรง อู่โม่โหว"  พระเจ้าหลวงเมืองเอ้อ  เอ้ออ๋วง"  พระเจ้าหลวงจงรักภักดียุทธา  จงอู่อ๋วง"   พระเจ้าหลวงรักษามโนธรรม  เป่าอี้อ๋วง"   ได้รับการยกย่องอัญเชิญเข้ามหาวิหารหลวง  ของพระปิตุลาเจ้าซ่งไท่จู่  จอมราชวงศ์" ต่อมาคนยังได้รับการเทิดทูนเป็น "มหาราชกำราบมารสามโลก พระเจ้าหลวงเอวี้ยยุทธาคุ้มครองป้องภัยรุ่งเรืองเฟื่องฟู  ซันเจี้ยจิ่งหมอต้าตี้เป่าเจี๋ยซังเอวี้ยอู่อ๋วง "  ความกตัญญูจงรักภักดีของท่าน เป็นที่เคารพเมิดทูนแก่คนข้างหลังเป็นอย่างยิ่ง จึงมีการสร้างศาลบูชาท่านไว้มากมายหมิ๋นกั๋วปีที่สาม  ทหารบก ทหารเรือ ร่วมกันยื่นคำร้องต่อทางการ ขอจัดพิธีใหญ่สักการะบูชา "กวนอริยมหาราชเจ้า"  กับ  "เอวี้ยพระเจ้าหลวง"  ร่วมกันเป็นทางการตลอดไปทุกปีนับแต่นั้น ศาสนาเต๋าให้ความเคารพเทิดทูนว่า "พระจอมพลจงรักภักดีมโนธรรมหาญกล้าแห่งราชวงศ์ซ่ง    ซ่งจงอี้อย่งเอวี้ยเอวี๋ยนไซว่"   จอมเทพจงรักภักดีหาญกล้ายุทธาเกริเกียรติธำรง    จงอย่งอู่มู่เสินอ๋วง"  ชาวบ้านมากมายได้รวมเอา "กวนอริยมหาราช   จอมเซียนหล - วี่ต้งปิน  เทพเจ้าเตาครัว  พระจอมฟ้าสกุลหวัง  หวังเทียนจวิน  ร่วมบูชาไว้พระนามเดียวกันว่า " พระเจ้าครูเบญจคุณากร อู้เจินจู่ "       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/11/2011, 09:57 โดย jariya1204 »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                             คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                  ภาคผนวก

                    แนะนำพระองค์ บุคคล สถานที่

                   ที่กล่าวอ้างในคัมภีร์โดยสังเขป

                                  ๑๘

                               จางสวิน

        จางสวิน เป็นชาวเมืองเติ้งโจว ในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นผู้คงแก่เรียน รอบรู้พิชัยสงคราม จิตใจห้าวหาญ ครั้งหนึ่ง ในการสู้รบกับโจรปล้นบ้านเมืองอิ่นจื่อฉี  ซึ่งมีพลรบถึงหนึ่งแสนคน  จางสวินให้กำลังใจทหารรักษาเมือง รบพุ่งกันวันละยี่สิบครั้ง แต่กำลังไม่ถอย  รักษาเมืองอยู่หลายเดือน รบกันไปแล้วหนึ่งพันแปดร้อยกว่าครั้ง ทหารกองหนุนยังมาไม่ถึง เสบียงอาหารหมด ต้องขุดรูหาหนู ขึงตาข่ายดักนกมาเป็นอาหาร  สุดท้ายต้องสละอนุภรรยาที่รักเอาเนื้อของนางมาเป็นอาหารช่วยชีวิตอดโซของทหารรักษาเมือง จางสวิน  กับ สวี่เอวี๋ยน  เอาชีวิตเข้าแลกปักหลักรักษาเมืองซุยหยาง ไว้อย่างเหนียวแน่น  ด้วยเหตุที่ซุยหยางเป็นชัยภูมิสำคัญ  เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เป็นปราการกั้นแม่น้ำแยงซีเกียง กับแม่น้ำฮั่นสุ่ยไว้ให้เป็นชีพจรใช้ลำเลียงอาหารแก่ชาวบ้านชาวเมืองได้อย่างราบรื่นต่อไป  ในที่สุดก็รักษาเสถียรภาพของบ้านเมืองไว้ได้ ในครั้งนั้น  บ้านเมืองรอดพ้นจากความหายนะได้ ก็ด้วยพระคุณของจางสวิน กับ สวี่เอวี่ยน นั่นเอง

                         ปัญญา        การุณย์        หาญกล้า
                         ศึกษาให้เข้าถึง               รู้ซึ้งให้เกิดเป็น
                        บุคคลดีมีพลัง               ไม่หลงทางบรรลุธรรม   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                            คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                  ภาคผนวก

                    แนะนำพระองค์ บุคคล สถานที่

                   ที่กล่าวอ้างในคัมภีร์โดยสังเขป

                                   ๑๙

                              โจวตุนอี๋

        โจวตุนอี๋   นามรอง เม่าสู  เป็นชาวเมืองเต้าโจว  ในสมัยราชวงศ์ซ่ง  รับราชการเมืองหลายตำแหน่งในสมัยนั้น เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถปราดเปรื่อง  ลึกซึ้ง  ตัดสินใจได้เฉียบขาด  ใจกว้างเป็นอิสระ  รูปลักษณ์สง่าผึ่งผาย  มีรสนิยมสูง  มีนิวาสสถานอยู่ตอนเหนือแม่น้ำหลียนซี  จึงได้สมญานามว่า"อาจารย์เหลียนซี"  บทประพันธ์ของท่านมีหลายเล่ม เป็นอาจารย์อรรถาธิบายหลักจิตภาวะอันแยบยลได้อย่างลึกซึ้ง  ถือเป็นปรมาจารย์ทางด้านจิตภาวะแห่งราชวงศ์ซ่ง  ท่านมีศิษย์เป็นปราชญ์เมธี ที่ประวัติศาสตร์ต้องยกย่องกล่าวถึงหลายคน อาทิ  เฉิงเฮ่า  เฉิงอี๋  และ เหิงฉวี  ปราชญ์รุ่นหลังที่เกิดตาม ๆ กันมาอีกไม่น้อย ปัญญาชนในสมัยซ่งจึงเฟื่องฟูยิ่งนัก

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                     คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                        คัมภีร์สัจจคาถา

                               คัมภีร์สัจจคาถาตื่นใจชาวโลก

                                 จากกวนอริยมหาราชเจ้า

                               (กวนเซิ่งตี้จวินเจวี๋ยซื่อเจินจิง)     

ตี้จวินเอวีย                                                   มหาราชเจ้าโปรดว่า

เหยินเซิงไจ้ซื่อ                                             คนเกิดอยู่ในโลก สูงส่งยิ่งด้วยจงรัก สัตย์ซื่อ

กุ้ยจิ้นจงเซี่ยวเจี๋ยอี้เติ่งซื่อ                                กตัญญู รักษาศุจิธรรมงามสง่า มีมโนธรรมสำนึก

ฟังอวี๋เหยินเต้าอู๋คุ่ย                                        จึงจะมิต้องได้อายแก่มนุษยธรรม

เข่อลี่อวี๋เทียนตี้จือเจียน                                   หยัดยืนอยู่ท่ามกลางฟ้าดินได้

ยั่วปู้จิ้นจงเซี่ยว                                            หากไม่ทำให้ถึงที่สุดต่อจงรัก สัตย์ซื่อ กตัญญู

เจี๋ยอี้เติ่งซื่อ                                                ศุจิธรรมงามสง่า มโนธรรมสำนึก

เซินซุยไจ้ซื่อ                                              แม้กายจะอยู่ในโลก

ฉีซินอี่สื่อ                                                  แม้ใจนั้นตายเสียแล้ว

ซื่อเอว้ยโทวเซิง                                         เรียกว่าแอบมีชีวิตอยู่

ฝันเหยินซินจี๋เสิน                                        ด้วยความเป็นคนนั้น ใจคือขวัญวิญญาณอันศักดิ์ -

เสินจี๋ซิน                                                  สิทธิ์  ขวัญวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็คือใจ

อู๋คุ่ยซิน                                                   ไม่ต้องให้ละอายแก่ใจ

อู๋คุ่ยเสิน                                                   คือไม่ต้องละอายต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ยั่วซื่อซีซิน                                                แต่หากหลอกลวงใจ

เปี้ยนซื่อซีเสิน                                            ก็คือหลอกลวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์

กู้จวินจื่อ                                                  ฉะนั้น   กัลยาณชน

ซันเอว้ยซื่อจือ                                           จึงพึงรักษาสามเกรง* ตระหนักในสี่รู้* 

อี่เซิ่นฉีตู๋                                                  เพื่อการสำรวมระวังยามอยู่ลำพัง

อู้เอว้ยอั้นซื่อเข่อชี                                      อย่ากล่าว (คิด) ว่า หลอกลวงเขาได้ในห้องมืด

อูโล่วเข่อคุ่ย                                             ทำสิ่งน่าละอายได้ในบ้านร้าง

อี๋ต้งอี๋จิ้ง                                                 ทุกอิริยาบถ เคลื่อนไหว หยุดนิ่ง

เสินหมิงเจี้ยนฉา                                        สิ่งศักดิ์สิทธิ์พิจารณา

สือมู่สือโส่ว                                              สิบนันย์ตา  สิบมือ

หลี่สั่วปี้จื้อ                                               จะต้องถึงตัว

ค่วงเป้าอิ้งเจาเจา                                       โดยเฉพาะการตอบสนองชัดเจน

ปู้ส่วงเหาฝ่า                                              ไม่พลาดแม้แต่น้อย

อิ๋นเอว๋ยอวั้นเอ้อโส่ว                                     ราคะกามนำหน้าทุกบาปร้าย

เซี่ยวเอว๋ยไป่สิงเอวี๋ยน                                  กตัญญูคือผลบำเพ็ญอันดับแรก

ตั้นโหย่วนี่หลี่                                            หากฝืนขัดสัจธรรม

อวี๋ซินโหย่วคุ่ยเจ่อ                                      มีสิ่งที่ละอายแก่ใจ

อู้เอว้ยโหย่วลี่เอ๋อสิงจือ                                อย่ากล่าว (คิด) ว่าได้ประโยชน์และทำไป

ฝันโหย่วเหอหลี่                                        ทุกสิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

อวี๋ซินอู๋คุ่ยเจ่อ                                          มิให้ได้ละอายแก่ใจ

อู้เอว้ยอู๋ลี่เอ๋อปู้สิง                                      อย่ากล่าว (คิด) ว่า ไม่เกิดประโยชน์ (แก่ตน) แล้วไม่ทำ

ยั่วฟู่อู๋  ( ตี้ ) เจียว                                     หากผผิดต่อคำสอนของเรา ( มหาราชเจ้า )

ฉิ่งซื่ออู๋ ( ตี้ )  เตา                                    ลองชิมคมดาบของเรา ( มหาราชเจ้า ) ดู

จิ้งเทียนตี้   หลี่เสินหมิง                              พึงเคารพฟ้าดิน  มีจริยะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เฟิ้งจู่เซียน   เซี่ยวซวงซิน                            เทิดทูนเคารพบรรพบุรุษ  กตัญญูต่อบิดามารดา

โส่วอ๋วงฝ่า   จ้งซือจุน                                รักษากฏหมาย  เคารพครูอาจารย์

ไอ้โหย่วตี้   ซิ่นเผิงโหย่ว                            สมานสมัครรักพี่น้อง    สัตย์จริงต่อเพื่อน

มู่จงจู๋   เหอเซียงหลิง                               ปรองดองวงศ์วาร    สมานฉันท์เพื่อนบ้าน

เปี๋ยฟูฟู่   เจียวจื่อซุน                                รู้สถานภาพสามีภรรยา  สั่งสอนลูกหลาน

สือสิงฟังเปี้ยน                                        ช่วยเหลือเกื้อกูลทุกโอกาส

ก่วงจีอินกง                                           สร้างสมบุญกุศล

จิ้วนั่นจี้จี๋                                             ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ทุกข์ยาก  เขาเข้าตาจน

ซวี่กูเหลียนผิน                                      สงสารสงเคราะห์กำพร้าโดดเดี่ยวคับแค้น

ช่วงซิวเมี่ยวอวี่                                     ซ่อมสร้างวัดวาอาราม

อิ้นเจ้าจิงเอวิ๋น                                      พิมพ์ - สร้างพระคัมภีร์

เส่อเอี้ยวซือฉา                                     ให้ยารักษาโรค  ให้น้ำดื่ม

เจี้ยซาฟั่งเซิง                                       ละเว้นการฆ่า  ปลดปล่อยชีวิต

เจ้าเฉียวซิวลู่                                       สร้างสะพานซ่อมทาง

จินกว่าป๋าคุ่น                                      สงสารหญิงหม้ายช่วยให้พ้นทุกข์

จ้งซู่สีฝู                                            รักวาสนาเห็นค่าข้าวเปลือก

หมายเหตุ  : 

สามเกรง   ได้แก่ ๑. เกรงพระโอการฟ้า    ๒. เกรงผู้เป็นใหญ่     ๓. เกรงอริยพจน์

สี่รู้     ได้แก่  ๑. ฟ้ารู้     ๒. ดินรู้      ๓. เธอรู้      ๔. ฉันรู้             

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                     คัมภีร์อริยะตะวันเดือน 

                                        คัมภีร์สัจจคาถา

                               คัมภีร์สัจจคาถาตื่นใจชาวโลก

                                 จากกวนอริยมหาราชเจ้า

                               (กวนเซิ่งตี้จวินเจวี๋ยซื่อเจินจิง) 

ไผนั่นเจี่ยเฟิน                                                   คลี่คลายเรื่องพิพาทบาดหมาง

สุ่นจือเฉิงเหม่ย                                                บริจาคร่วมบุญ

ฉุยซวิ่นเจียวเหยิน                                            ให้โอวาทคำสอนผู้คน

เอวียนโฉวเจี่ยซื่อ                                            สลายอาฆาตศัตรู

โต่วเซิ่งกงผิง                                                 ชั่งตวงวัดได้มาตรฐาน

ชินจิ้นโหย่วเต๋อ                                              ชิดใกล้ผู้มีคุณธรรม

เอวี่ยนปี้ซยงเหยิน                                           ห่างไกลคนชั่ว

อิ่นเอ้อหยางซั่น                                              หยุดแพร่ความร้าย  กระจายความดี

ลี่อู้จิ้วหมิน                                                    ให้คุณต่อสรรพสิ่ง  ฉุดช่วยประชา

หุยซินเซี่ยงเต้า                                              กลับใจสู่ทางธรรม

ไก่กั้วจื้อซิน                                                  กลับตัวเป็นคนใหม่

หมั่นเซียงเหยินฉือ                                         เต็มเปี่ยมทรวงใจเมตตาการุณย์

เอ้อเนี่ยนปู้ฉุน                                              ความคิดชั่วร้ายไม่หลงเหลือ

อี๋เซี่ยซั่นซื่อ                                                ความดีทุกอย่าง

ซิ่นซินเฟิ่งสิง                                               ตั้งใจทูนเทิดปฏิบัติ

ซุยปู๋เจี้ยน เสินอี่เจ่่าเอวิ๋น                                แม้คนไม่เห็น สิ่งศักดิ์สิทธิ์สดับรู้อยู่ก่อนแล้ว

เจียฝูเจิงโซ่ว                                              เพิ่มวาสนาอายุ

เทียนจื่ออี้ซุน                                             เพิ่มพูนลูกหลานดีมีคุณให้

ไจเซียวปิ้งอวี้                                            ขจัดภัยหายป่วย

ฮว่อฮ่วนปู้ชิน                                            เคราะห์ภัยไม่กล้ำกราย

เหยินอู้เสียนหนิง                                        ทุกสรรพสิ่งชีวิตวัยได้สุขสงบ

จี๋ซิงเจ้าหลิน                                             ดาวมงคลสาดส่องให้

ยั่วฉุนเอ้อซิน                                            แต่หากใจคิดร้ายใฝ่ชั่ว

ปู้สิงซั่นซื่อ                                              ไม่ทำการบุญสุนทาน

อิ๋นเหยินชีหนวี่                                          ล่วงกามลูกเมียเขา

ผ้อเหยินฮุนอิน                                          ทำลายกามสมรส

ไฮว่เหยินหมิงเจี๋ย                                      ทำลายชื่อเสียงคุณความดี

ตู้เหยินจี้เหนิง                                          อิจฉาความสามารถเขา

โหมวเหยินไฉฉั่น                                      มุ่งหมายได้ทรัพย์สินเขา

ซัวเหยินเจิงซ่ง                                        ยุแหย่ให้พิพาทบาดหมาง  สร้างคดีความ

สุ่นเหยินลี่จี่                                            เสียหายแก่เขาเอาประโยชน์ตน

เฝยเจียยุ่นเซิน                                        บำรุงกายตนกับคนในบ้าน

เฮิ่นเทียนเอวี้ยนตี้                                    โกรธแค้นกล่าวว่าฟ้าดิน

ม่าอวี่เฮอเฟิง                                          ตะคอกด่าลมฝน

ปั้งเซิ่งหุ่ยเสียน                                       ว่าร้ายเมธีอริยาให้เสียหาย

เมี่ยเซี่ยงซีเสิน                                        เหยียดหยามทำลายรูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ไจ่ซาหนิวเฉวี่ยน                                     ฆ่าหมาฆ่าวัวควาย

ฮุ่ยนี่จื้อจื่อ                                             เหยียบย่ำทำสกปรกแก่กระดาษอักษร

ซื่อซื่ออยู่ซั่น                                          อาศัยสิทธิอิทธิพลรังแกคนดี

อี่ฟู่อยาผิน                                             อิงความร่ำรวยกดขี่คนยากจน