ฉะนั้น ถ้าเราไม่ให้ความแตกต่างระหว่างความรวยกับความจน ความสุขกับความทุกข์ ความตกต่ำกับความรุ่งเรือง หรือ ความมีอายุยืนกับอายุสั้น ก็จะสามารถสร้างสรรค์ชีวิตให้เป็นไปตามความต้องการของเราได้ ถ้าเราไม่ให้ความแตกต่างกับสิ่งเหล่านี้เสียก่อนแล้ว เราจะไม่สามารถสร้างชีวิตให้ดีตามความต้องการของเราได้เลย จะยกตัวอย่างให้ดู เด็กสองคน คนหนึ่งเกิดมาเป็นลูกคนรวย อีกคนเกิดมาเป็นลูกคนจน ถ้าเด็กรวยคิดว่าตนเองวิเศษกว่าผู้อื่นเพราะความรวยกว่าผู้อื่นแล้วไซร์ ก็จะเกิดความลำพองถือเงินเป็นอำนาจบาตรใหญ่ เที่ยวระรานข่มเหงเอาแต่ใจตนเอง ส่วนลูกคนจนนั้น ถ้าคิดว่าตนเองยากจนไม่มีเงินเหมือนลูกคนรวย ก็จะมีความน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่ออยากได้อะไรไม่ได้ดั่งใจ ความกดดันก็จะเป็นแรงขับ ให้เริ่มฉกชิงวิ่งราวลักเล็กขโมยน้อย จนถึงปล้นจี้ฆ่าเจ้าทรัพย์รุนแรงขึ้นทึกที แม้จะต้องโทษก็ไม่กลัว ได้กินข้าวหลวงสบายไปเสียอีก ถ้าเราแยกแยะความรวยความจนเช่นนี้ ก็จะเป็นคนดีไปไม่ได้เลย แต่ถ้าไม่คิดว่าเรารวย จะทำอะไรก็ระมัดระวัง ไม่ให้กระทบกระเทือนถึงผู้อื่นคิดแต่จะช่วยเหลือเจือจานไปทั่วหน้า ใช้เงินที่ตนเองมีมากให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่น้อย อาศัยความรวยที่ตนเองได้เปรียบผู้อื่นโดยสภาวะธรรม มาเกื้อกูลผู้อื่นที่มีน้อยถึงกับขาดแคลน ตามสภาวะธรรม ความเมตตากรุณาที่เกิดจากความรู้จริงในสภาวะธรรมนี้ก็จะหล่อหลอมให้ช่องว่างระหว่างความรวยความจนนั้นปิดสนิท ไม่สามารถเกิดความแตกแยกได้เลย ส่วนเด็กที่เกิดมายากจนอันเป็นสภาวะธรรมหนึ่งนั้น ถ้าไม่ให้ความแตกต่างในความรวยกับความจนแล้ว ก็จะไม่มีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ รู้จักขยันหมั่นเพียร สันโดษในความเป็นอยู่ ซื่อตรงในความประพฤติ รู้จักใช้แรงกายช่วยเหลือผู้อื่นแทนแรงเงินที่ตนขาดแคลน ไม่คอยคิดที่จะให้ผู้อื่นมาช่วยตนแต่ไม่รังเกียจที่จะช่วยผู้อื่น ตั้งหน้าทำมาหากิน หนักเอาเบาสู้ อดออมถนอมตน ไม่นานนักคนจนก็จะกลายเป็นคนรวย คนรวยก็จะไม่จน ถ้ามีนิสัยเหมือนเด็กทั้งสองคนนี้ เมื่อถึงวันนั้นความแตกต่างจักมีได้อย่างไร
แม้อายุสั้นอายุยาวก็เช่นกัน ถ้าเราไม่เชื่อว่าชะตาชีวิตได้ลิขิตให้เรามีอายุสั้น เราก็จะไม่พะวงถึงความตายตั้งหน้าประกอบกรรมดี ไม่ใช่อยู่รอความตายไปวันหนึ่ง ๆ ผู้ที่ไม่เชื่อว่าชะตาชีวิตลิขิตมาให้อายุยืน ก็จะไม่ทนงตนว่ามีชีวิตอยู่อีกยาวนาน เกิดความประมาทเกียจคร้านที่จะประกอบกรรมดี ผัดวันประกันพรุ่ง ดื่มสุราหานารี เล่นพาชีกีฬาบัตร เผาผลาญชีวิตไปทุกวัน ๆ อายุจักยืนนานไปได้อย่างไร
ความเกิดความตาย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของมนุษย์ ถ้าเราไม่ให้ความแตกต่างกับสิ่งที่กล่าวมาแล้วไซร์ เราจะเกิดในสภาวะธรรมใดก็ตาม ย่อมจักดำรงชีวิตอยู่ได้ ด้วยจิตใจที่ปราศจากความกดดัน รู้จักดำรงชีวิตด้วยดี ตายดี และไปเกิดในสภาวะธรรมที่ดีต่อไป
ทำไมหรือ เพราะความชั่วร้าย มิได้อยู่ที่ความรวยความจน มิได้อยู่ที่ความีอายุสั้นหรือยาว ความสุขความทุกข์นั้นย่อมขึ้นอยู่ที่เราจะสามารถประกอบคุณงามความดีได้มากน้อยเท่าใดต่างหากเล่า การฝึกฝนตนเองให้รู้จักประกอบกรรมทำดีนั้นย่อมเป็นการสั่งสมบุญบารมีโดยแท้ เราจะต้องหมั่นสังเกตุพฤติกรรมเราเอง มีสิ่งใดผิดพลาดก็พยายามแก้ไข เหมือนดั่งหมอที่พยายามรักษาคนไข้ให้หายจากโรค ฉะนั้นการสั่งสมบุญบารมีก็ต้องพยายามอยูาทุกขณะจิตค่อยทำค่อยไปไม่หวังผลจนเกินกำลัง ไม่หย่อนยานจนไม่ก้าวหน้า เมื่อจิตได้รับการอบรมทีี่ดี บ่มใจจนได้ที่แล้วนั่นคือความสำเร็จที่จะได้รับในการประพฤติปฏิบัติธรรม ท่านบอกกับพ่อว่า จิตนั้นเกิดดับอยู่ทุกขณะขอให้หมั่นบริกรรมอย่าได้หยุดยั้ง จะขาดการสืบต่อ เมื่อบริกรรมจนเกิดความชำนาญแล้ว ก็จะกลายเป็นนิสัยไม่ว่าปากจะบริกรรมหรือไม่ จิตก็จะทำไปเองโดยอัตโนมัติเมื่อจิตดิ่งเป็นเอกัคตาแล้วไซร์ ย่อมรวมมนต์คาถาที่บริกรรม ตัวคนบริกรรม และจิตที่บริกรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่แยกออกจากกัน เมื่อนั้นการบริกรรมก็จะประสบความสำเร็จทันที อธิษฐานไว้เช่นไรก็จะสมปรารถนาเช่นนั้น