collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: 6 : ถอดความ ไท่ซั่งกั่นอิ้งเพียน  (อ่าน 2293 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม

                       ท่านเหลาจื่อกล่าวว่า  :

       อันเภทภัยหรือวาสนาของมนุษย์นั้น แต่เดิมไม่มีการกำหนดตายตัว ต่างล้วนเกิดจากการที่มนุษย์เราต่างสร้างขึ้นมา จึงต้องไปรับผลเหล่านั้น ผลดีผลร้ายที่ตอบสนอง ก็จะเป็นประดุจหนึ่งเงาที่คอยตามตัว ตัวตรงเงาก็ย่อมตรง ตังเอียงเงาก็เอียงไปด้วย ดังนั้นฟ้าดินได้มีเทพคอยตรวจตราบันทึกความผิดของมนุษย์ โดยวัดจากความผิดหนักเบาที่ได้กระทำแล้วนำมาใช้ตัดสินในการตัดทอนอายุขัย ทำให้อายุขัยของมนุษย์นั้นถูกตัดทอนไปเรื่อย ๆ ตามความผิดที่ได้กระทำ นอกจากนั้นยังอาจถูกทำโทษให้ยากจนข้นแค้นบ้านแตกสาแหรกขาด หรืออาจมักประสบทุกข์เภทภัย ถูกผู้คนพากันรังเกียจ ถูกโทษทัณฑ์หรือภัยพาล อีกทั้งความเป็นมงคลทั้งหลายก็จะหลีกลี้หนีหาย ดาวแห่งเคราะห์ก็จะทำให้เกิดพิบัติภัยแก่ผู้ที่ได้ประกอบกรรมชั่ว และเมื่อคนชั่วเหล่านี้ได้ถูกตัดทอนอายุขัยไปเรื่อย ๆ จนหมดสิ้น ความตายก็จะเข้ามาเยือน
       ในทุก ๆ อากัปกิริยาของมนุษย์ ล้วนมีเทพเจ้าคอยกำกับตรวจสอบ  ทั้งเทพเจ้าซันไถ  เทพดาวเหนือ  ที่วนเวียนอยู่เหนือศรีษะมนุษย์คอยบันทึกความผิดบาปที่ได้ก่อขึ้น อีกทั้งตัดทอนอายุขัยตามแต่หนักเบาที่ได้สร้างไว้  ทั้งยังมีเทพซันซือ ที่อยู่ในกายมนุษย์ เมื่อถึงวันเกิงเซิง ( ทุก ๆ หกสิบวัน จะเวียนมาถึงวันเกิงเซิงหนึ่งครั้ง ก็คือทุก ๆ ประมาณสองเดือน ) ก็จะกลับขึ้นไปบนสวรรค์ เพื่อถวายรายงานความผิดบาปทั้งหลายของมนุษย์  ต่อท้าวสักกเทวราช นอกจากนั้นในแต่ละบ้าน ก็ยังมีเทพเจ้าเตาไฟ ในทุก ๆ วันสิ้นเดือน ก็จะขึ้นไปรายงานความผิดบาปของมนุษย์เช่นกัน
       มนุษย์ผู้ใดที่ได้สร้างความผิดบาปเอาไว้ เบื้องบนก็จะอาศัยความผิดเล็กใหญ่ที่ได้กระทำนั้นในการมาตัดลดอายุขัย ความผิดใหญ่ลดสิบสองปี  ความผิดเล็กตัดร้อยวัน ซึ่งความผิดน้อยใหญ่ทั้งสิ้นนั้น มีอยู่นับหลายร้อยอย่าง ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ปรารถนาจะมีอายุยืน จึงสมควรจะระมัดระวังวาจาและความประพฤติ จึงจะหลีกเลี่ยงการกระทำผิด และไม่ถูกตัดทอนอายุขัยนี้ได้
       สิ่งใดที่สอดคล้องต่อหลักธรรม เป็นความดีงาม ก็ควรเข้าหาและน้อมนำไปปฏิบัติ ส่วนสิ่งใดที่ผิดต่อธรรม เป็นความเลวร้ายก็ควรระมัดระวัง อย่าได้ไปกระทำ ทุกๆ กิริยาวาจา หรือแม้แต่ห้วงคิดนั้น ก็ไม่ควรที่จะให้ออกห่างจากสัมมาธรรม แม้จะอยู่ตามลำพัง ในที่ที่ไม่มีใครมองเห็น หรือไม่มีใครได้ยินเสียง ก็ไม่ควรกระทำความผิดใดใด
      อีกทั้งการเป็นมนุษย์ สมควรที่จะสั่งสมบุญกุศล มีความรักความเมตตาต่อชีวิตทั้งหลาย ช่วยเหลืออนุเคราะห์ผู้ยากไร้ ปล่อยสัตว์ละเว้นปาณาติบาต เป็นข้าราชการ พสกนิกรควรมีความจงรักภัคดีต่อพระมหากษัตริย์ เป็นลูกควรกตัญญูต่อบุพการี เป็นพี่น้องต้องมีความปรองดอง พี่พึงเอ็นดูน้อง น้องควรเคารพพี่ เมื่อบำเพ็ญกายใจตนให้เที่ยงตรงเช่นนี้แล้ว ก็จะสามารถเป็นแบบอย่าง และสามารถกล่อมเกลาผู้คนรอบข้างได้

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
Re: 6 : ถอดความ ไท่ซั่งกั่นอิ้งเพียน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 6/10/2010, 06:33 »

         นอกจากนั้น  ยังควรรู้จักที่จะให้ความสงสารต่อเด็กกำพร้า หญิงม่าย ให้ความเคารพผู้ชรา รักและเอ็นดูเด็ก อันนับเป็นคุณธรรมอันงดงามประการหนึ่ง ส่วนหนอนแมลงต้นไม้ใบหญ้า ก็อย่าได้ทำลายพร่ำเพรี่อ หากพบผู้คนที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมก็ควรที่จะตักเตือนให้ละชั่วใฝ่ดี หากพบผู้ที่ประสบเหตุเภทภัย ก็ควรให้ความช่วยเหลือ หากพบผู้ที่กระทำความดี ควรเกิดมุทิตาจิตยินดีปรารถนาให้ความดีนั้น ๆ สำเร็จลุล่วง เมื่อพบผู้ที่กำลังเดือดร้อน เช่น เจ็บป่วย เสียชีวิต อดอยากเหน็บหนาว ยากจนข้นแค้นก็ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล เมื่อพบผู้คนอยู่ในอันตราย เช่น เรือล่ม ไฟไหม้ บ้านแตกสาแหรกขาด ถูกผู้คนให้ร้าย ในยามนั้นสมควรที่จะทุ่มเทช่วยเหลือ อย่าได้มัวห่วงหน้าพะวงหลังอีก
        เมื่อเห็นคนที่ได้รับแต่เรื่องดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนตนเองได้ประสบกับเรื่องดี ๆ อีกทั้งช่วยสนับสนุนในสิ่งเหล่านั้น แต่เมื่อพบคนประสบเรื่องเลวร้ายหรือผิดหวัง ก็รู้สึกเหมือนตนเองพบเรื่องเลวร้ายด้วย ควรจะให้ความเอาใจใส่ดูแล หากได้รู้ข้อบกพร่องของผู้อื่น ก็ไม่ควรเอาไปป่าวประกาศ หากตัวเองมีข้อดีอะไร ก็ไม่ควรเอาไปโอ้อวดเช่นกัน
        สิ่งที่ไม่ดีนั้นควรรู้จักหยุดมันเอาไว้ไม่ให้ดำเนินต่อไป ส่วนความดีงามนั้นควรจะเผยแผ่ให้กว้างขวาง มนุษย์เรายังควรมีความรู้จักพอ  ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งสมบัตของพี่น้อง หรือการแบ่งเงินระหว่างเพื่อน  ยอมให้คนอื่นรับในส่วนที่มาก ตนเองรับในส่วนที่น้อย เวลาที่ถูกคนเหยียดหยาม ก็ไม่ควรที่จะโกรธแค้น ในยามที่ถูกผู้คนรักหรือสรรเสริญ ก็ให้รู้จักหวาดกลัว  พึงมีความจริงใจในการทำความดี ขจัดความตระหนี่ถี่เหนียว เมื่อมีพระคุณต่อใคร ก็ไม่ได้หวังผลตอบแทน เมื่อมอบสิ่งใดให้ผู้อื่นไป ก็ไม่เสียดายหรือเสียใจภายหลัง
        มนุษย์ที่ขึ้นชื่อว่าคนดีนั้นผู้คนทั้งหลายต่างก็ให้ความเคารพ แม้แต่เทพยดาก็ให้การปกปักรักษา ลาภยศบุญวาสนาก็จะมาถึงตัว นอกจากนั้นสิ่งอัปมงคลทั้งหลายก็จะหลีกหนี มีเทพยดาคอยอารักษ์ กระทำสิ่งใดก็ย่อมประสบความสำเร็จ แม้ปรารถนาเป็นเทพเซียนก็สามารถคาดหวังได้
        มนุษย์เราหากสร้างกุศลด้วยความจริงใจ เมื่อนานวันเข้าในที่สุดก็จะสามารถเป็นเทพเซียนได้ ถ้าปรารถนาเป็นเทพชั้นฟ้าก็จะต้องสั่งสมบุญกุศลความดี ให้ได้พันสามร้อยบุญ หากปราถนาเป็นเทพบนโลก ก็พึงสั่งสมบุญกุศลความดีให้ได้สามร้อยบุญ (  จำนวนเหล่านี้เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่าง มิใช่จำนวนตัวเลขที่แท้จริง )   

Tags: