collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ลังกาวตารสูตร  (อ่าน 3441 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ลังกาวตารสูตร
« เมื่อ: 13/07/2010, 01:45 »
     พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสพระสูตรนี้ไว้ที่เกาะลังกา เพื่อที่จะโปรดคน ให้มีสติ สำนึกรู้ ถึงเวรภัยแห่งการฆ่าฟัน และเบียดเบียนชีวิต เลือดเนื้อซึ่งกันและกัน

     ท่านอริยะครูหลายๆยุค  ท่านกล่าวว่า ถ้าใครอ่านพระสูตรนี้ครบ  10 จบ แล้วจิตใจไม่เศร้าสลด ยังแข็งกระด้างอยู่ ใจยังไม่อ่อนลง แล้วบุคคลนั้น ชาติหน้าจะมีหวังที่จะเกิดเป็นมนุษย์อีกหรือ ลังกาวตารสูตร เป็นพระคัมภีร์หลัก ( Text ) ของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เป็นหนึ่งในเก้าคัมภีร์ ซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญที่เรียกว่า " สูตร "  ลังกาวตารสูตรพิมพ์ขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต เมื่อ คศ.๑๗๒๒ โดยท่าน Bunyin  Nangio. M.A. (  oxon )  D. Litt.  Kvoto. สุตรนี้แปลเป็นภาษาจีน

ครั้งแรก เมื่อ ค.ศ. ๔๓๓ โดยท่านคุณภัทร แห่งอินเดีย  
ครั้งที่สอง เมื่อ ค.ศ.๕๑๓  โดยท่ายโพธิรุจิ  แห่งอินเดีย
ครั้งที่สาม เมื่อ ค.ศ. ๗๐๐  โดยท่านศึกษานันทะ แห่งอินเดีย
ลังกาวตารสูตร เป็นสูตรที่ว่าด้วยศึกษาด้วยศีลธรรมล้วนๆ แปลโดย  ท่านพุทธทาสภิกขุ  แห่งสวนโมกข์  จังหวัดสุราษฏร์ธานี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21/07/2010, 15:42 โดย ติ๊กน้อย »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
Re: ลังกาวตารสูตร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16/07/2010, 14:47 »

       ผู้คนอย่าดูเพียงชาตินี้ชาติเดียว ควรพิจารณาว่า กฏแห่งกรรม นั้นมีจริงผลที่รับในชาตินี้  สืบเนื่อง

       การกระทำในชาติก่อน  ควรรีบสร้างบุญสร้างกุศล ผู้ที่มีบุญวาสนา ก็ยิ่งต้องรักบุญกุศล สะสมบุญบารมีอีก

      มิฉะนั้นพอหมดบุญลง เคราะห์กรรมมาถึงก็จะได้ลิ้มรสผลชั่วของตนเอง  ตลอดชีวิตของคน ตอนที่ใกล้จะตาย

     ให้สังเกตุอวัยวะทั้งห้า ว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ร่างกายแข็งทื่อ หรืออ่อนนิ่ม ใบหน้าปกติหรือไม่ จะได้รู้ว่า

     ผู้ตายจะได้ไปสู่สุคติหรือลงสู่ขุมนรก  ให้พิจารณาดู ดังนี้

     1. ตอนตายใหม่ ๆ ถ้าหากหน้าตาปกติร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ ก็เนื่องจากได้

         บรรลุธรรมดวงวิญญาณจะได้ไปสู่สุคติ

     2. ตอนตายใหม่ ๆ ถ้าหากร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาซีดเผือดเหมือนคนตกใจ นั่นแสดงว่า

          วิญาณได้ตกสู่นรกแล้ว

     3. ตอนตายใหม่ ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาหน้ากลัว เพราะความตกใจกลัว ทำให้เนื้อกายเปลี่ยนไป

         จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด ด้วยกันเราก็ดูได้จาก ตา หู จมูก ปาก  เป็นทหารทั้ง 4 ที่ดวงวิญญาณจะไปเกิด

          เป็นสัตว์เกิดจากรก   เกิดจากไข่   เกิดเป็นสัตว์น้ำ   และเกิดเป็นพวกแมลง

 " ตา "  พวกที่หลงกามคุณมากเกินไป พอตายดวงตาจะเบิกกว้าง วิญญาณจะออกทางตา  จะไปเกิดเป็น
         
          สัตว์ปีก เกิดจากไข่ เช่น พวกนกต่าง ๆ  สัตว์จำพวกนี้ตาจะได้เห็นทั่วทั้ง 4 ทิศ

 " หู "   พวกที่ชอบฟังเรื่องราวไม่ดี เรื่องร้าย ๆ ต่างๆมากมาย พอตายวิญญาณจะออกทาง หู ไปเกิดเป็นสัตว์

          ที่เกิดจากรก ได้แก่ ช้าง ม้า วัว ควาย  หูจะฟังเข้าใจภาษาคน ให้คนได้เรียกใช้สอย

 "ปาก"   พวกที่กล่าวร้ายทำลายผู้อื่น พูดจาเสียดสีนินทา กล่าวหาเกินเลย ก่อนจะตาย ปากจะอ้ากว้างไม่หุบ

           วิญญาณออกทางปากจะไปเกิดเป็นสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา

 "จมูก"    พวกที่ชอบหลงไหลกับกลิ่นหอม ชอบหาเงินที่สกปรก ก่อนจะตายจมูกจะเบืกกว้าง วิญญาณ

             ออกทางจมูก จะเกิดเป็นพวกแมลงต่าง ๆเช่น ยุง แมลงวัน หนอน เพราะจมูกชอบดมของเหม็นที่สกปรก

             ชอบอกชอบใจตนเอง พวกนี้เกิดในที่ชื้นแฉะ มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากบาปหนัก วิญญาณจะถูก

             ตีแตกกระจายไปเกิดเป็นแมลงต่าง ๆ                   

         

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
Re: ลังกาวตารสูตร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 21/07/2010, 12:57 »
     
     ทำไมเราจึงไม่ควรกินเนื้อสัตว์  เพราะเป็นการปฏิบัติเพื่อยึดเอาประโยชน์ทั้งฝ่ายโลกและฝ่ายธรรม  การไม่กิน
     เนื้อสัตว์เป็นทางก้าวหน้าของสัมมาปฏิบัติ ซึ่งได้ผลมากโดยลงทุนทางวัตถุน้อยที่สุดแต่ให้ผลมากทางใจ
     
     ประโยชน์ทางฝ่ายธรรม
 1.  เป็นการเลี้ยงง่ายยิ่งขึ้น เพราะพืชผักเป็นของหาง่ายในหมู่ผู้คน คนกินเนื้อสัตว์ เพราะแพ้รสตัณหา
      กินเพราะตัณหา ไม่ใช่เพราะเลี้ยงง่าย
 2.   เป็นการฝึกในส่วน" สัจธรรม"  คนเราห่างไกลจากความพ้นทุกข์ก็เพราะมีนิสัยเหลวไหลต่อตัวเอง พืชผักเป็นอาหาร
       ที่จะหล่อเลี้ยง   "ดวงธรรมแห่งสัจจะ"ในใจของเราให้สมบูรรณ์แข็งแรง
 3.   เป็นการฝึกในส่วน "ทมะ"ธรรม คือการข่มใจให้อยู่ในอำนาจ คนเราเป็นทุกข์เพราะตัณหา
 4.   เป็นการฝึกในส่วน "สันโดษ" คือความพอใจเฉพาะสิ่งที่มีอยู่ตามฐานะของตน
 5.   เป็นการฝึกในส่วน "จาคะ"   คิอการสละสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อความสงบหรือความพ้นทุกข์ นักกินผักที่แท้จริง
       มีดวงจิตบริสุทธิ์ผ่องใส
 6.   เป็นการฝึกในส่วน "ปัญญา" คือความรู้เท่าทันจิตที่กลับกลอก การยึดมั่น การใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นโทษ
      ในการกินอาหารเพราะกินเนื้อทำให้หลงในรส ส่วนผักทำให้ยกใจขึ้นไป ปัญญาของท่านต้องรู้อยู่เสมอว่า
      ไม่ใช่จะไปนิพพานได้เพราะกินผัก เป็นแต่การกินผักจะช่วยขัดเกลากิเลสทุกๆวัน

       ผลดีในฝ่ายโลก  อาหารผักมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายยิ่งกว่าเนื้อสัตว์ เรื่องนี้วิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน
       ก็บอกแก่เราแล้วว่าอาหารผัก จะทำให้มีกำลังแข็งแรง โรคน้อย ดวงจิตสงบ ช่วยให้ความกระหาย
       ในความอยาก  ความโกรธ  ความมัวเมา  บรรเทาลงเป็นอันมาก
 
     
     

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
Re: ลังกาวตารสูตร
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 22/07/2010, 03:09 »
       คุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของฟ้าดินคือ "ชีวิต" ความโหดร้ายอันมหันต์ของมนุษย์โลกคือ "ฆ่า"เป็นคำพูด
       ที่สั้นและเข้าใจง่ายที่สุด  เป็นคำพูดที่เจ็บปวดที่สุด พวกเราควรจะรู้ว่าชีวิตเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด
       การฆ่าเป็นสิ่งที่โหดร้ายเจ็บปวดที่สุดเหมือนกัน สัตว์ที่ไม่มีพิษร้ายต่อผู้คน ถึงมีโทษก็ไม่ถึงตาย
       ฟ้าดินยังอภัยโทษให้ได้ ผู้คนกับไม่คำนึงถึงสิ่งใดๆ จับมาฆ่าแกงทารุณกรรมอย่างโหดร้าย แล้วก็กิน
       มันเข้าไปถือเป็นเรื่องธรรมดา ทุกชีวิตของสัตว์ที่มีอยู่ในโลกนี้ตั้งแต่มนุษย์ สัตว์บกสัตว์น้ำ ถึงแม้จะมี
       ความแตกต่างทั้งรูปร่าง และน้ำหนักแต่วิญญาณนั้นเหมือนกัน ต่างก็รุ้จักรักชีวิตของตนรู้จักกลัว
       รู้จักเจ็บปวด มนุษย์เป็นสัตว์ที่ประเสริฐมีคุณธรรม ย่อมไม่มีเหตุผลพอที่จะกินสรรพสัตว์ได้ ควรจะรู้ว่า
       ฟ้าดินได้ให้กำเนิดชีวิตที่โง่เขลาเบาปัญญา ตั้งชื่อว่า "สัตว์"
       ไม่ว่าใครฆ่าใครก็ตามเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะมีขึ้นแต่ชาวโลกมีความเห็นไม่ตรงกันมีคนฆ่าคน คนฆ่าสัตว์
       และสัตว์ฆ่าคนแต่ผู้คนกลับเห็นว่า "คนฆ่าคน "เป็นเรื่องร้ายแรงที่สุด  "คนฆ่าสัตว์"เป็นเรื่องธรรมดาที่สุด
       "สัตว์ฆ่าคน"เป็นเรื่องน่ากลัวและแตกตื่นมาก การเข่นฆ่าของสัตว์ยังมีขอบเขต แต่การฆ่าของคนนั้น
       ไร้ขอบเขตจริง ๆ คนฆ่าสัตว์นั้นดุร้ายกว่าคนฆ่าคน

Tags: