collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานกตัญญู คำนำ  (อ่าน 10257 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ตำนานกตัญญู : 21. คุกเข่าขอเลี้ยงดู
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 11/10/2011, 00:45 »
                           ตำนานกตัญญู   

                     21.  คุกเข่าขอเลี้ยงดู

เมื่อพ่อแม่ตาย
ให้อุปการะน้อง ๆ
ให้เอื้อเฟื้อดูแลคนที่พ่อแม่ห่วงใย
ให้มีอัธยาศัยกับคนที่พ่อแม่เคยคบค้า ฯ
ทำหน้าที่แทนพ่อแม่มิให้บกพร่อง
เช่นนี้ก็ได้ชื่อว่าลูกกตัญญู

        กุยหมิงหยง เป็นลูกกตัญญูในราชวงศ์หมิง ท่านกำพร้าแม่ตั้งแต่เล็ก พ่อจึงหาภรรยาใหม่มาเป็นแม่เลี้ยง  แม่เลี้ยงมีจิตริษยาชอบว่าร้ายให้พ่อเกลียดหมิงหยง  พ่อหูเบาเข้าใจไปตามคำยุแหย่จึงตบตีด่าว่าลูกเป็นประจำ พ่อรักแต่ลูกชายที่เกิดจากภรรยาน้อย  เวลาพ่อตีหมิงหยงแทนที่แม่เลี้ยงจะเข้าไปห้ามกลับหาไม้อันใหญ่ให้ เหมือนอยากตีเสียให้ตาย  ทุกมื้อ ทุกวัน ทุกคนในบ้านกินกันอิ่มหนำ แต่ไม่เหลืออะไรให้หมิงหยงกินเลย  นับวันแม่เลี้ยงก็ยิ่งร้ายกาจมากขึ้น จนวันหนึ่งก็ยุแหย่ให้พ่อไล่หมิงหยงออกจากบ้านจนได้  หมิงหยงตัวน้อย ๆ จึงต้องไปหาบเกลือขาย ขายเกลือราคาถูก ๆ กำไรน้อยนิด  แต่หมิงหยงก็อุตสาห์ประสมเล็กประสมน้อยซื้อของดี ๆ แอบฝากน้องชายมาให้พ่อแม่กิน จนกระทั่งพ่อตาย  ปีนั้นเกิดกันดารอดอยาก หมิงหยงกลัวว่าแม่และน้องจะลำบาก จึงมาขอทำหน้าที่เลี้ยงดู  แม่เลี้ยงละอายใจมากไม่กล้ารับน้ำใจ  หมิงหยงเห็นสภาพชีวิตแม่เลี้ยงกับน้องคงไปไม่รอดแน่ จึงคุกเข่ายืนยันขอเลี้ยงดูให้ได้ หมิงหยงได้ทำหน้าที่ลูกกตัญญู จนกระทั้งแม่เลี้ยงตายจากไป

                          22.  รอดตายได้วาสนา

กตัญญู             จะชูช่วย             ให้รวยได้
ขจัดภัย             ให้อายุ              อยู่ยงมั่น
ให้อุดม             สมบูรณ์สุข          ถึงลูกหลาน
ยิ่งยืนนาน         ปัญญาเฟื่อง         รุ่งเรืองจริง

        ติงเค่อเจีย เป็นลูกกตัญญูในสมัยราชวงศ์ชิง บิดาข้ามทะเลมาค้าขายที่ไต้หวัน ไม่นานก็ส่งข่าวกลับไปบ้านว่าเป็นอัมพาต ปีนั้น เค่อเจียเพิ่งอายุได้สิบสามปี  ท่านรีบเดินทางมาตามหาพ่อที่ไต้หวันทันที สมัยนั้น การเดินทางฝ่าคลื่นลมข้ามมหาสมุทรด้วยเรือลำเล็ก ๆ อันตรายมาก  แรงกตัญญูผลักดันให้เกิดความกล้า  เค่อเจียมาตามหาพ่อจนพบ จากนั้นเด็กอายุสิบสาม ก็ตื่นตีสี่หุงข้าวซักผ้า ทำความสะอาดเช็ดล้างอุจจาระปัสสาวะให้พ่อ กลางดึกพอพ่อครางหรือกระดิกตัวก็สะดุ้งตื่นลุกขึ้นปรนนิบัติรับใช้..... ทำเช่นนี้อยู่สิบกว่าปี วันหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ใกล้บ้าน เค่อเจียแบกพ่อจะหนีไฟไม่ทันการ ไฟลุกลามรอบบ้าน จะออกจากประตูบ้านก็ไม่ได้  ไม่มีใครดับเพลิง ได้แต่หนีไฟกัน ทันใดนั้น เหตุการณ์มหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เพลิงที่ไหม้อยู่รอบด้านดับพรึบลงทันทีเหมือนมีใครเอาพัดเล่มใหญ่พัดให้ดับลง พ่อลูกจึงรอดตายอย่างไม่น่าเชื่อ  บั้นปลายชีวิตของเค่ยเจียฐานะมั่งคั่ง มีลูกชายกตัญญูเจ็ดคน ล้วนทรงคุณวุติ คนที่หกสอบได้รองจอหงวน มีหลานยี่สิบกว่าคน ก็ล้วนปราดเปรื่องเรืองปัญญา ฮ่องเต้โปรดเชิดชูเค่อเจีย ให้ได้รับสักการะฐานะลูกกตัญญูในพระบรมราชูปถัมภ์   

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ตำนานกตัญญู : 23. สละลูกเพื่อให้นมแม่
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 11/10/2011, 01:27 »
                           ตำนานกตัญญู   

                     23.  สละลูกเพื่อให้นมแม่

มนุษย์ชาติสืบสายเผ่าพันธุ์
อยู่ร่วมกันมาช้านานได้ด้วยความกตัญญู
ความกตัญญูรู้คุณ
หนุนนำให้เกิดความเมตตากรุณา
ความเมตตากรุณาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก
ความกตัญญูจึงอยู่เหนือความดีทั้งปวง

        โจวซื่อจิ้น  เป็นลูกกตัญญูในราชวงศ์ชิง ท่านและภรรยาเอาใจใส่ดูแลแม่อย่างหาที่เปรียบได้ยาก เมื่อแม่แก่เฒ่าร่างกายทรุดโทรม หมดแนะนำว่าจะต้องให้ดื่มนมคนจะได้ยืดอายุต่อไป สองสามีภรรยาจึงตัดใจยกลูกชายคนเดียวเก้าเดือนให้คนหมู่บ้านอื่นไป น้ำนมท้งหมดจะได้พอเพียงสำหรับบำรุงแม่(สมัยก่อนไม่นิยมดื่มนมวัว และไม่มีอาหารเสริมประเภทนี้)  แม่ได้น้ำนมจากอกลูกสะใภ้อย่างอุดมสมบูรณ์ ไม่นานก็แข็งแรงขึ้น  แต่ลูกสะใภ้ก็มีลูกได้คนเดียวเท่านั้น เวลาผ่านไปจนลูกชายที่ให้คนอื่นไปเติบใหญ่ พ่อแม่ที่รับเลี้ยงไว้จะจัดการแต่งงานให้ จึงกลับมาถามพ่อแม่แท้ ๆ ว่าลูกเกิดวันเดือนปีอะไร โจวซื่อจิ้นและภรรยาน้ำตานองเมื่อนึกถึงลูกที่ยกให้เขาไป  พ่อแม่ที่รับเลี้ยงมีน้ำใจ จึงบอกเล่าความจริงแก่ลูกและยินดีให้ลูกทำหน้าที่ผู้สืบสกุลทั้งสองครอบครัว มีคำกล่าวว่า "เชื้อไม่ทิ้งแถว" ลูกชายของโจวซื่อจิ้น เจริญรอยกตัญญูอย่างพ่อแม่ไม่มีผิด เขาดูแลพ่อแม่ทั้งสี่อย่างไม่มีที่ติเลย

                          24.  แย่งกันกตัญญู

กว่าจะเลี้ยงดูให้เติบใหญ่
พ่อแม่ต้องแบกทุกข์หวาดภัยเพียงใด
ระวังมีดไม้ฟืนไฟ  ระวังโรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ
อาหารแต่ละคำ.....
ตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย  จนลูกน้อยเจริญวัย.....
ใครเล่าจะเข้าถึง  ซาบซึ้งกตัญญู

        ในสมัยราชวงศ์ชิง  บนเกาะฉงหมิงปากแม่น้ำแยงซีเกียง  สี่พี่น้องตระกูลอู๋เป็นลูกกตัญญู ยากที่จะหาใครเสมอเหมือน พ่อแม่ของท่านยากจนมาก จึงนำลูกทั้งสี่ไปขายฝากไว้ที่บ้านเศรษฐี  ทั้งสี่พี่น้องอดทนขยันมัธยัสถ์  โตขึ้นพอมีเงินเก็บได้ก็ขอไถ่ตัวเองกลับมาบ้าน และต่างแต่งงานมีครอบครัว ท่านต่างไม่ได้ขัดเคืองใจเลยที่พ่อแม่ขายท่านไป แต่กลับเห็นอกเห็นใจ และพยายามจะแย่งกันเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ดี ที่สุดก็ตกลงกันว่า เวียนกันเลี้ยงดูพ่อแม่บ้านละหนึ่งเดือน พี่น้องตกลงกันได้  แต่สะใภ้กลับไม่ยอม นางต่างเกี่ยงว่า ถ้าบ้านละหนึ่งเดือนกว่าจะเวียนมาถึงคนสุดท้ายได้ก็ต้องคอยนานถึงสามเดือน อย่ากระนั้นเลยเปลี่ยนเป็นบ้านละหนึ่งวันดีกว่า แต่พอไม่กี่วันผ่านไปก็ยังรู้สึกว่านานอีก จึงตกลงกันใหม่ว่าเป็นบ้านละมื้อ คนโตมื้อเช้า  คนรองมื้อกลางวัน  คนที่สามมื้อเย็น  คนที่สี่ก็เรียงต่อไป มื้อพิเศษห้าวันต่อหนึ่งครั้งให้ร่วมกันทำ เวลาอาหารเป็นเวลาที่ทุกคนมีความสุขที่สุด  ลูกหลานกุลีกุจอช่วยกันจัด ช่วยกันยก ปู่ย่าคู่นี้มีความสุขอยู่จนอายุเกือบร้อยปี
 
                                                  ~ จบเล่ม ~

                            พระอมตะพุทธะจี้กงได้โปรดว่า  :

เราได้รับวิธีธรรมก็คือได้รับวิถีแห่งจิต
หากไม่มีวิถีแห่งจิตนี้
เจ้าก็จะไม่เข้าใจว่าจะกลับสู่ฟ้าได้อย่างไร
จะบำเพ็ญกันอย่างไร

Tags: