collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ท่องพุทธาลัย 3  (อ่าน 31630 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                       ตอนที่ 10

                 สอบผ่านด่านตันหยางได้
                 ล้วนอาศัยเคร่งจริงศีลวัตร
                ใกล้เหวก็จะมิพึงหวั่นหวาด
                ไม่ขยาดก้าวบนน้ำแข็งบาง

@     ฝันโลกนี้        ทุกกรณี        มีนัยแฝง
ยึดหมายแข่ง           ชื่อลาภไว้     ใจหยาบหยาม
แต่โบราณ              งานกู้โลก      ปรกปราบปราม
กำหนดความ           คนประเสริฐ    เลิศรู้การ

(ซื่อซื่อหยูเมิ่งเจินหลี่ฉัง          จื๋อจั๋วหมิงลี่ไกว้จุ้ยอี๋
จื้อกู่จื้อล่วนเปิ่นติ้งซู่               เหยินเลี่ยซันไฉจวี้เหลียงจือ) 

ธรรมราช   :  รับพระบัญชา
ญาณเดิมทุกท่าน เมื่อเข้ารับการตรวจสอบ ขอให้รายงานตัวชื่อสกุลอะไร เมื่อมีชีวิต ถือบวชบำเพ็ญทางธรรมใด อีกทั้งให้เล่าการรักษาศีลวัตรตามความเป็นจริง หากกล่าวตามความเป็นจริง จะรับไว้พิจารณา หากดื้อร้ายปิดบังอำพราง โทษเป็นทวีคูณ บัดนี้ญาณเดิมคนแรก เชิญขึ้นมารับการตรวจสอบ

ญาณเดิม ก   :  ผู้น้อยเบื้องล่างแซ่อู๋... เมื่อมีชีวิตอยู่บำเพ็ญในศาสนาเต๋า สังกัดเทวราชตำหนักห้า (อู๋ฝู่อ๋วงเอี๋ย) ผู้น้อยได้รับการอบรมกล่อมเกลาจากพระเทวราชเจ้า เนื่องจากพระองค์โปรดแสดงพระบุญญาธิการ รักษาโรคเรื้อรังที่ผู้น้อยหาหมอเท่าไรรก็ไม่หายถึงสามปีให้หายได้ ทำให้ผู้น้อยสำนึกพระคุณ จึงตั้งใจรับใช้เทวราชเจ้าสงเคราะห์ชาวโลก ต่อมายังได้รับโปรดจากเทวราชเจ้ารับเป็นบุตรบุญธรรม ดังนั้น ผู้น้อยจึงทุ่มเทเวลา กำลังทั้งหมด รับใช้งานศาลเจ้า กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยความศรัทธาจริงใจ อีกทั้งยังผลักดันงานสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก จึงได้สั่งสมกุศลบุญไว้บ้างตายแล้วได้ผ่านการตรวจสอบจากด่าน จื่อหยางกวน สามตำหนักปากทางแล้วมาถึงที่นี่ ทั้งหมดนี้เป็นความจริงขอรับ

พระบรรพจารย์   :  ธรรมราชาผู้ตรวจสอบ เชิญยืนยันหลักฐานในนสมุดบันทึก ที่อู๋เซิงกล่าวมาเป็นความจริงหรือไม่

ธรรมราช   :  กราบทูลองค์เจ้าตำหนัก ตามทีึ่บันทึกไว้ที่อู๋เซิงกล่าวรายงานนั้นเป็นความจริง เป็นคนศรัทธา ไหว้พระ ไหว้เจ้า นิสัยจิตใจดีงาม รู้จักสำรวมบำเพ็ญ มีจริยะดีต่อใคร ๆ นับว่าเป็นผู้บำเพ็ญฝึกฝนจริง ข้อบกพร่องจุดเดียววคือ หนทางที่เขาปฏิบัติบำเพ็ญอยู่เป็นศาลเจ้าเทวราชที่เน้นหนักอยู่แต่การสงเคราะห์ชาวโลก ไม่ได้เน้นหนักหรือให้ความสำคัญต่อการถือศีลกินเจ ขอพระองค์ได้โปรดพิจารณาเห็นสมควร

พระบรรพจารย์   :  อืมม์ ครั้งมีชีวิตอยู่ อู๋เซิงมุ่งธรรมเต็มกำลังใจ หาได้ยาก แต่เนื่องจากทางธรรมที่นำพา มิได้อบรมให้ถือศีลกินเจ เราก็จะไม่เอาโทษแก่ท่าน แต่ท่านขาดคุณสมบัติ "กายบริสุทธิ์" (เซินชิง) ตั้องตัดสินให้ไปสู่ สถานขอขมากรรมสำนึก (ชั่นหุ่ยซื่อ) รับการอบรมสิบวันจนภาวะกายบริสุทธิ์ดีแล้ว จึงจะส่งไปที่ หอชูบุญ (เปาชั่นเกอ) เพื่อรอการจัดส่งต่อไปยังตำหนัก จิ่งหยาง (จิ่งหยางเตี้ยน)

ญาณเดิม ก  : 
กราบขอบพระคุณพระบรรจารย์ เมื่อผู้น้อยมีชีวิตอยู่ ด้วยเหตุที่จะต้องจัดพิธีปลอบขวัญทหาร อีกทั้งต้องทำกำารเซ่นไหว้ทหารนายกองห้าค่าย ซึ่งจะต้องใช้ชีวิตสัตว์เป็นเครื่องเซ่นสังเวยเพื่อแสดงความเคารพโดยไม่ทราบว่าเป็นเรื่องผิดศีล

พระบรรพจารย์   :  หวังให้ชาวโลกอย่าได้หลับหูหลับตาเชื่อประเพณีพิธีการแต่อย่างเดียว กราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่ได้เป็นอันขาด อย่างนั้นไม่เพียงสร้างบาปเวรไว้ เอาเลือดเนื้อเขาบูชาพระ ยังเป็นการลบหลู่ล่วงเกินที่สุด เซียนพุทธะมีแต่เมตตากรุณา จะรับการสักการะจากคาวชีวิตเลือดเนื้ออย่างนี้ได้อย่างไร หากเปลี่ยนเป็นธูปหอม ผลไม้ ดอกไม้ อาหาร พืชผัก บวกกับจิตใจศรัทธาแท้จริง ก็จะซาบซึ้งถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองรักษาได้เอง มิฉะนั้นแล้ว ใช้วิธีการผิดศีล สร้างปาณาติบาตไว้ไม่รู้ตัว จะไม่เป็นการทำคุณบูชาดทษเสียเปล่าอย่างไร

ธรรมราช   :  เชิญอู๋เซิงติดตามเทวมาตย์ผู้นำทางไปยังห้อง "ขอขมากรรมสำนึก" เพื่อชำระกายกรรมที่ยังไม่บริสุทธิ์ทั้งหมด ญาณเดิมท่านที่สองเชิญเข้ารับการตรวจสอบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21/10/2555, 14:50 โดย หนึ่งเดียว หลุดพ้น »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                       ตอนที่ 10

                 สอบผ่านด่านตันหยางได้
                 ล้วนอาศัยเคร่งจริงศีลวัตร
                ใกล้เหวก็จะมิพึงหวั่นหวาด
                ไม่ขยาดก้าวบนน้ำแข็งบาง

@     ฝันโลกนี้        ทุกกรณี        มีนัยแฝง
ยึดหมายแข่ง           ชื่อลาภไว้     ใจหยาบหยาม
แต่โบราณ              งานกู้โลก      ปรกปราบปราม
กำหนดความ           คนประเสริฐ    เลิศรู้การ

(ซื่อซื่อหยูเมิ่งเจินหลี่ฉัง          จื๋อจั๋วหมิงลี่ไกว้จุ้ยอี๋
จื้อกู่จื้อล่วนเปิ่นติ้งซู่               เหยินเลี่ยซันไฉจวี้เหลียงจือ) 

ญาณเดิม ข   : 
ศิษย์ผู้น้อยน้อมกราบพระบรรพจารย์ เมื่อมีชีวิตอยู่ ผู้น้อยบำเพ็ญอยู่กับเทวสถานหลวนถัง ผู้น้อยแซ่ไซ่ ในชีวิต ได้รับโปรดอบรมกล่อมเกลาจากพระองค์ปู่เจ้าอริยคุณเอินจู่กง หรือพระนามว่า ท้าวสักกะกวนอริยมหาราชเจ้า (กวนเซิ่งตี้จวิน) ผู้น้อยศึกษาหลักธรรมถ่องแท้ว่า อันที่จริงนั้น ห้าศาสนาใหญ่ล้วนมาจากต้นรากเดียวกัน ปกติ นอกจากจะศึกษาพระโอวาท เจริญธรรมตามรอยพระอริยเจ้าแล้ว ยังแบ่งเวลาออกสร้างสาธารณประโยชน์ บริการประชาชนและสังคมเสมอ ชีวิตประจำวัน จะสมาคมกับใคร ก็ได้รักษาทำตามพระโอวาท ถ่อมตนเกรงใจ มีจริยธรรม ไม่ห่างจากสัจจะมโนธรรมเป็นที่ตั้ง ผู้น้อยเข้าสู่เทวสถาน สามปีให้หลัง ก็ได้ถวายปณิธานกินเจตลอดชีวิต ทุกวันเฉลิมอริยชันษาของพระองค์ปู่เจ้าอริยคุณเอินจู่กง จัดงานประชุมธรรม จะต้องเข้าร่วมปล่อยชีวิตสัตว์ (ฟั่งเซิง) อธิษฐานภวานาทำเช่นนี้มาสิบกว่าปีด้วยชีวิตที่มีความสุขกายสบายใจ สุดท้ายได้ละสังขารมา โดยมิได้เจ็บป่วยแต่อย่างใด ที่กล่าวมาข้างต้นคือ การปฏิบัติบำเพ็ญมาของศิษย์ผู้น้อย ขอพระบรรพจารย์ได้โปรดพิจารณา

พระบรรพจารย์   :  ธรรมราชผู้ตรวจสอบ คำพูดของศิษย์แซ่ไซ่ เป็นจริงไฉน

ธรรมราช   :  กราบทูลพระองค์เจ้าตำหนัก ข้อความที่บันทึกไว้ในสมุด กับที่ศิษย์แซ่ไซ่กล่าวมา ข้อใหญ่ใจความสอดคล้องกัน แต่มีข้อบกพร่องที่เมื่ออารมณ์ไม่ดี มีอะไรไม่พอใจ มักจะพูดจาโทษฟ้าว่าคน ขอพระองค์ได้โปรดพิจารณาในจุดนี้ด้วย

พระบรรพจารย์   :  สาธุ ศิษย์แซ่ไซ่ สมกับเป็นศิษย์ที่ดีของพระองค์ท้าวสักกะฯ (เอินจู่กง) เทิดทูนธรรมะด้วยศรัทธาแท้จริง ทั้งกินเจ ละเว้นการฆ่า ทำการปล่อยชีวิตสัตว์ สร้างกุศลคุณความดี เป็นผู้ฝึกฝนบำเพ็ญจริงคนหนึ่งเหมือนกัน เสียดายที่ไม่อาจสำนึกรู้แท้ต่อการศึกษากฏแห่งกรรมอันลึกซึ้ง โทษฟ้าว่าคนนี่คือปากกับใจไม่บริสุทธิ์ ตัดสินให้สำนึกตนใน "ห้องขัดฝนใจกลับตัวใหม่" สิบวัน หวังว่าจะเข้าใจถ่องแท้ต่อวัฏจักรของกฏแห่งกรรม นั่นคือ ทำเองย่อมได้รับผลเอง มิใช่ฟ้าไม่ยุติธรรม

พระอาจารย์   :  หลักธรรมที่พระบรรพจารย์ได้โปรด เป็นสิ่งที่คนทั่วไปมักทำผิดกันบ่อย ๆ ดั่งคำพังเพยว่า

"ไม่สมหวังตั้งใจในชีวาตม์
สิบพลาดเสียหายไปแปดเก้า

(เหยินเซิงปู้หยูอี้ ซื่อสือฉังปาจิ่ว)

        ปราชญ์เมิ่งจื่อ กล่าวไว้ว่า "ฟ้าจะมอบภาระใหญ่ให้ผู้นั้น ก่อนอื่นจะต้องทรมานใจเขา ให้เหนื่อยหนักเอ็นกระดูก ให้อดอยากเนื้อหนัง ให้กายนั้นขาดแคลน เพื่อสั่นคลอนจิตใจอดทนของเขา เพื่อเพิ่มพูนสิ่งอันเขาไม่สามารถ"
คน บางครั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สมปรารถนา อารมณ์อดไม่ได้ที่จะกลัดกลุ้มเร่าร้อน ท้อแท้โศกเศร้า แต่ขออย่าแสดงอารมณ์ไม่ดีไปตามใจ โทษฟ้าว่าใคร ๆ แต่ควรจะอดทน ยอมเหนื่อย ยอมรับความขัดเคืองโดยไม่เปลี่ยนใจที่มุ่งมั่นทางธรรม ประคองรักษาอารมณ์ราบเรียบมั่นคง ต่อการถูกทดสอบด้วยตนทำเอง ยิ่งจะต้องสำแดงความวิริยะกล้าหาญเอาชนะ จึงจะบรรลุผล ดุจแกะสลักหยกงาม ดุจหล่อหลอมเหล็กกล้าได้

ธรรมราช   :  สาธุ พระบรรพพุทธา (อมพระพุทธะจี้กง) พร่ำเตือนกล่อมเกลาชาวโลกตามโอกาสทันที หวังให้ชาวโลกสำนึกรู้พระทัยฟ้า จึงจะไม่ผิดต่อบรรพพุทธาที่ทุ่มเทพระทัย ศิษย์แซ่ไซ่ เชิญตามเทวมาตย์ผู้นำทางไปยัง "ห้องขัดฝนใจกลับตัวใหม่" เถิด ญาณเดิมท่านที่สาม เชิญขึ้นมารับการตรวจสอบ

ญาณเดิม ค   :  ศิษย์ผู้น้อยแซ่หลิน กราบคาวระบรรพจารย์ เมื่อมีชีวิต ข้าพเจ้าคือศิษย์ธรรมกาลยุคขาว ได้รับจุดเบิกจากพระวิสุทธิอาจารย์ รู้หนทางสว่าง จึงละเว้นความชั่วทุกประการ สร้างบุญกุศลทุกทาง ปกตินอกจากบูชาพระแล้ว ยังเข้าศึกษาธรรมในชั้นต่าง ๆ  ติดตามเตี่ยนฉวนซือออกบุกเบิกแพร่ธรรมเสมอ อ่อนน้อมถ่อมตนต่อคนทั้งหลาย สุภาพ เรียบร้อย มีสัมมาคารวะ จริงใจ เมื่อมีโอกาสให้ได้สร้างบุญ ก็จะทำเต็มกำลัง ก้าวหน้าทางธรรมไม่หน่าย แม้จะเข้าไม่ถึงภาวะจิตใจใจสว่าง แต่บอกกับตนเองได้ว่า เป็นผู้บำเพ็ญที่ยืนหยัดอยู่บนฐานของความจริงแท้ ที่กราบทูลรายงานทั้งหมด ขอพระบรรพจารย์ได้โปรดพิจารณา

ธรรมราช   :  กราบทูลพระองค์เจ้าตำหนัก ศิษย์แซ่หลินกล่าวมา นสอดคล้องกับที่บันทึกไว้ในสมุด แต่มีข้อกระทำผิดใหญ่หลวงเรื่องหนึ่ง ด้วยในใจคิดว่า พุทธระเบียบในวิถีอนุตตรธรรม มีระดับสูงส่ง เป็นพิธีการมาตรฐานทำให้เมินหน้าต่อพิธีการของศาสนาอื่น ๆ เสียสิ้น อีกทั้งใกล้บ้านมีศาลเจ้าประทับทรงสงเคราะห์ผู้คน ทุกครั้งที่ศิษย์แซ่หลินได้เห็น แม้จะไม่มีคำพูดลบหลู่ ใส่ใคล้ แต่ความรังเกียจในใจแสดงออกทางใบหน้า อีกประการหนึ่ง มักจะคิดว่า มืออุ้มลัญจกร (เหอถง) ใช้ไหว้แต่เฉพาะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระดับพรหมโลก หากใช้ไหว้ระดับเทวโลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ระดับเทวโลกจะรับไหว้ไม่ได้ (มิอาจรับได้) บางข้อดังกล่าวเป็นทัศนคติผิด ๆ ขอพระองค์เจ้าตำหนักได้โปรดพิจารณา 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21/10/2555, 14:50 โดย หนึ่งเดียว หลุดพ้น »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                     ตอนที่ 10

                 สอบผ่านด่านตันหยางได้
                 ล้วนอาศัยเคร่งจริงศีลวัตร
                ใกล้เหวก็จะมิพึงหวั่นหวาด
                ไม่ขยาดก้าวบนน้ำแข็งบาง

@     ฝันโลกนี้        ทุกกรณี        มีนัยแฝง
ยึดหมายแข่ง           ชื่อลาภไว้     ใจหยาบหยาม
แต่โบราณ              งานกู้โลก      ปรกปราบปราม
กำหนดความ           คนประเสริฐ    เลิศรู้การ

(ซื่อซื่อหยูเมิ่งเจินหลี่ฉัง          จื๋อจั๋วหมิงลี่ไกว้จุ้ยอี๋
จื้อกู่จื้อล่วนเปิ่นติ้งซู่               เหยินเลี่ยซันไฉจวี้เหลียงจือ) 

พระบรรพจารย์   : 
ขอแสดงความยินดีที่ศิษย์แซ่หลินได้บำเพ็ญมาสามชาติ ชาตินี้ได้พบพระวิสุทธิอาจารย์โปรดประทานหนทางตรง ตรวจสอบแล้วท่านก็เป็นผู้บำเพ็ญจริงคนหนึ่ง แต่ด้วยใจไม่อาจยอมรับผู้บำเพ็ญตามบุญปัจจัยในศาสนาอื่น นี่คือ มิรู้แจ้งใจว่าธรรมปฏิบัติทั้งหลายเสมอภาค อยู่ที่การจริงใจนำพาเป็นความหมายแท้จริงด้วยอุบายอันชอบด้วยเมตตากรุณาธรรม ที่ผิดเพราะถือดี  ยึดมั่นในทางธรรมเฉพาะของตน แม้จะยังไม่ได้ก่อวจีีกรรม กายกรรม แต่จิตไม่บริสุทธิ์ จึงตัดสินให้เข้ารับการอบรมที่ "ห้องขัดฝนใจกลับตัวใหม่" ยี่สิบวัน หวังว่าคงจะสำนึกรู้ให้ดี ๆ อีกทั้งขจัดจิตใจยึดมั่นให้ได้ถึงที่สุด การประทับทรงของอดีตนักรบ และศาสนพิธีจากธรรมกาลยุคแดง แม้รูปแบบจะแตกต่างจากธรรมปฏิบัติของธรรมกาลยุคขาว แต่เป็นการอบรมตามจริตวิสัยของผู้คน คุณประโยชน์เพื่อการฉุดช่วยกล่อมเกลาตามเหตุปัจจัย ยังคงสำคัญเช่นเดียวกัน จะดูแคลนไม่ได้ เช่นนี้ เปรียบได้กับความแตกต่างของสถานศึกษาที่สอนระดับอนุบาล ประถม มัธยม เตรียมอุดม และมหาวิทยาลัย แต่ความหมายของการให้ศึกษา ล้วนเป็นเช่นเดียวกัน จะเอาความเป็นมหาวิทยาลัย มาดูถูกโรงเรียนระดับประถมศึกษาได้หรือ หวังผู้บำเพ็ญจะได้เข้าใจเหตุเป็นมานี้ อย่าทำผิดด้วยคิดว่า "ของข้าสูงส่งที่สุด" แล้วมีจิตใจดูถูกศาสนาอื่น

พระอาจารย์   : 
นัยน์ตาฟ้าเห็นกระจ่างสว่างชัด แม้ความคิดซ่อนเร้น จิตใต้สำนึกก็ทะลุปรุโปร่ง ไม่พ้นได้แม้เส้นใย

หวังว่าชาวโลกจะอาศัยหลักสัจธรรม
นานวันเข้้า จิตใจย่อมใสบริสุทธิ์ได้เอง
บำเพ็ญ สำคัญที่บำเพ็ญจริง
บำเพ็ญจริง อยู่ที่ทำตามหลักสัจธรรม
หลักสัจธรรมอยู่ที่การก่อเกิดความสมบูรณ์กลมกลืน  เสมอภาค ที่สุพดแห่งความดี  ความจริงแท้  ความงามแท้
ผู้บำเพ็ญทำใจให้ราบเรียบตามนี้ ก็จะอยู่ในโลกโลกีย์โดยไม่แปดเปื้อนโลกีย์ได้เอง

ธรรมราช   :  ศิษย์แซ่หลิน เชิญตามเทวมาตย์ผู้นำทางไปยัง "ห้องขัดฝนใจกลับตัวใหม่" เถิด ญาณเดิม ง. เชิญขึ้นมารับการตรวจสอบ

ญาณเดิม ง. ศิษย์ผู้น้อยแซ่หวง กราบคารวะพระบรรพจารย์ เมื่อครั้งมีชีวิต ผู้น้อยบำเพ็ญแห่งวิถีอนุตตรธรรมแห่งธรรมกาลยุคขาว สำนึกรู้ความเป็นจริงของชีวิต ประคองรักษาธรรมะไว้ไม่ถดถอย  อีกทั้งจัดตั้งสถานธรรมในครัวเรือน ฉุดช่วยนำพาผู้มีบุญสัมพันธ์เต็มที่ ใส่ใจความสง่างามเรียบร้อยของสถานธรรมมาก ทุกวันจะต้องกวาดถูให้หมดจด ข้างตำหนักพระ ผู้น้อยจัดห้องบรรยายไว้  กำหนดวัน เชิญอาจารย์มาเปิดชั้นเรียนบรรยาย จัดชั้นเรียนจริยระเบียบ และศึกษาไตรรัตน์เป็นประจำ ต่อการปฏิบัติบำเพ็ญของตนเอง ผู้น้อยเคร่งครัดต่อตนเองมาก อะลุ้มอล่วยต่อคนทั้งหลาย  เคารพนบนอบต่ออาวุโส อุ้มชูผู้น้อย  กินเจกันตลอดชีวิตทั้งครอบครัว  หมั่นให้ทานทั้งสามเป็นประจำ  ไม่โลภ  ไม่เอาของใคร  รักษาตนบริสุทธิ์  ตลอดชีวิตทำตามการอบรมสอนสั่งของอริยเมธา ไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย  ดังที่กล่าว คือความเป็นมาคร่าว ๆ ในการปฏิบัติบำเพ็ญเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่  กราบทูลพระบรรพจารย์ได้โปรดพิจารณา

พระบรรพจารย์   :  ธรรมราชผู้ตรวจสอบ ที่บันทึกไว้สอดคล้องกับที่ศิษย์แซ่หวงรายงานไหม?.

ธรรมราช   :  กราบทูลพระองค์เจ้าตำหนัก ทุกอย่างถูกต้องเป็นความจริง

พระบรรพจารย์   :  สาธุ  สาธุ  ศิษย์แซ่หวง รักษาระเบียบวินัย  รักษาศีล  เป็นแบบอย่างที่ดีของชาวโลก น่านับถือ ให้เทวมาตย์ผู้นำทางพาไปพักผ่อนที่"หอชูบุญ" แล้วจึงไปตรวจสอบอีกชั้นหนึ่งที่ตำหนัก จิ่งหยัง

ธรรมราช   : 
เชิญศิษย์แซ่หวงติดตามเทวมาตย์ผู้นำทางไป ญาณที่ห้า เชิญขึ้นมารับการตรวจสอบ 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                      ตอนที่ 10

                 สอบผ่านด่านตันหยางได้
                 ล้วนอาศัยเคร่งจริงศีลวัตร
                ใกล้เหวก็จะมิพึงหวั่นหวาด
                ไม่ขยาดก้าวบนน้ำแข็งบาง

@     ฝันโลกนี้        ทุกกรณี        มีนัยแฝง
ยึดหมายแข่ง           ชื่อลาภไว้     ใจหยาบหยาม
แต่โบราณ              งานกู้โลก      ปรกปราบปราม
กำหนดความ           คนประเสริฐ    เลิศรู้การ

(ซื่อซื่อหยูเมิ่งเจินหลี่ฉัง          จื๋อจั๋วหมิงลี่ไกว้จุ้ยอี๋
จื้อกู่จื้อล่วนเปิ่นติ้งซู่               เหยินเลี่ยซันไฉจวี้เหลียงจือ) 

ญาณเดิม จ.   : 
ศิษย์ผู้น้อยแซ่หลิว  กราบคารวะพระบรรพจารย์ เมื่อมีชีวิต ศิษย์ก็บำเพ็ญวิถีอนุตตรธรรมเช่นกัน ได้รับการจุดเบิกทางสว่างจากพระวิสุทธิอาจารย์ เนื่องด้วยศิษย์เรียนสูง ฝีปากดี ได้รับการส่งเสริมจากอาวุโสเข้าร่วมชั้นเรียนฝึกบรรยายธรรม อีกทั้งพยายามค้นคว้าคัมภีร์ธรรมห้าศาสนา สุดพท้ายเป๋นอรรถาจารย์ได้รับความสำเร็จคนหนึ่ง ชั่วชีวิตของศิืษย์ ออกเดินทางประกาศสัจธรรมไม่ว่าใกล้ไกล ลมฝนไม่อาจขวางกั้น อีกทั้งตนเองยิ่งทำตัวเป็นแบบอย่างส่งเสริมญาติธรรมให้เปลี่ยนร้ายกลายดีกันไม่น้อย ให้เห็นสัจธรรม จัดตั้งสถานธรรมมากมาย เนื่องด้วย ผู้น้อยมีสภาพเป็นอรรถาจารย์ (เจี่ยงซือ) ปกติจึงทำตนอยู่ในกรอบ ไม่กล้าละเลยศีลวัตร น้อมกราบทูลรายงานพอสังเขปดังกลา่าว

ธรรมราช   :  กราบทูลพระองค์เจ้าตำหนัก ที่ศิษย์แซ่หลิวกราบทูลมา ถูกต้องตรงต่อบันทึก เป็นบุคลากรปากเสียงแทนฟ้าที่หาได้ยากคนหนึ่ง แต่เห็นความสำคัญต่อหน้าที่เจี่ยงซือเท่านั้น เหตุนี้ ขณะถ่ายทอดวิถีธรรม หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดประทับทิพยญาณมา หรือโปรดประทานพระโอวาทในกระบะทราย เจี่ยงซื่อท่านนี้เข้าใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับตน จึงอยู่ว่าข้าง ๆ ตำหนักพูดคุยสนทนาธรรมกับญาติธรรมไป ไม่ใส่ใจในระเบียบนอกความรับผิดชอบ จุดนี้ ขอพระองค์โปรดพิจารณาตัดสิน

พระบรรพจารย์   :  สาธุ ฟ้าดินมิอาจเอ่ยวาจา อาศัยคนบอกกล่าว ศิษย์หลิวแพร่ธรรมแทนฟ้า ก่อเกิดคุณประโยชน์ ก่อเกิดสัจวาจา น่าเคารพแท้ ในหน้าที่อริยะแม้จะไม่บกพร้่อง แต่นอกหน้าที่บกพร่องต่อศีลวัตรโดยมิได้เจตนา เราจึงจะไม่ลงโทษ แต่ตจัดสินให้เข้า "ห้องขอขมากรรมสำนึก" ขอขมากรรมสำนึกอยู่ยี่สิบวันแล้วค่อยว่ากัน

ธรรมราช   :  ศิษย์แซ่หลิว เชิญตามเทวมาตย์ผู้นำทางไป

พระอาจารย์   :  คืนนี้ ได้รับความกรุณาจากตำหนักของท่านให้ศึกษาเพื่อการประพันธ์หนังสือท่องเที่ยว ตัวอย่างจริง ๆ ทุกข้อชี้ตรงจิตใจ เรียกได้ว่า "ทุกเข็มเห็นเลือด" (เจินเจินเจี้ยนเสี่ย) ทำให้ตื่นตระหนก บัดนี้ เวลามีไม่มากแล้ว ขอบรรพจารย์ท่านได้โปรดอนุญาตให้เราศิษย์อาจารย์อำลาไปก่อน เพื่อท่องเที่ยว "ตันหยางสถานกำราบโทษ" (ตันหยางเฉิงเจี้ยสั่ว)

พระบรรพจารย์   : 
เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้าก็จะมอบให้เทวมาตย์ผู้นำทาง นำพาท่านกับศิษย์ไป

เทวมาตย์   :  กราบทูลเชิญพระบรรพจารย์เทียนหยานกับอู้เอวี๋ยน ตามผู้น้อยออกจากตำหนักนี้  ทั้งสามมุ่งสู่ "สถานกำราบโทษ" อย่างรวดเร็ว ครู่เดียวก็มาถึงบ้านหลังใหญามหึมา หน้าบ้านมีเสาหินใหญ่ตั้งตรงตระหง่านอยู่สองข้าง จารึกอักษรว่า "ตันหยางสถานกำราบ" (ตันหยางเฉิงเจี้ยสั่ว) ทั้งสามพร้อมกันดำเนินเข้าห้องใน พลันได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาแว่วมาจากห้องด้านซ้ายดังกรอกหู

เทวมาตย์   :  เสียงร้องโอดโอยนี้คือเสียงทุกข์ทรมานจากนักโทษ ข้าพเจ้าจะนำท่านทั้งสองเข้าไปดูในห้องซ้ายมือนั้นแล้วจะเข้าใจ  ว่าแล้วทั้งสามก็ดำเนินเข้าห้องซ้ายมือ หน้าห้องมีแผ่นป้ายไม้ แสดงความว่า "หไ้องแมลงล้างจิตปุถุชน" (เฟยฉงเหลี่ยวฝันเสี่ยวกวนซื่อ) อู้เอวี๋ยนเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างห้องสอดส่องดู เห็นผู้คน (วิญญาณ) มากมายปนเป ส่วนใหญ่เสื้อผ้าขาดโทรม เปลือยเท้า ผมเผ้ารุงรัง บ้างเอามือปิดหน้าร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจนัก เห็นแล้วขนลุกขนชัน ห้องกว้างใหญ่มาก กั้นเป็นห้องกรงขังเล็กอีกหลายสิบห้อง ใช้ลวดตาข่ายขึงกั้น สัดส่วนแคบ ๆ มืดทึบ ไม่สะดวกที่จะนั่งหรือนอน นักโทษแต่ละคนจำกัดอยู่ในแต่ละกรงขังเล็ก ๆ นั้น ภายในกรงขัง มีแมลงผึ้งมีพิษต่อยกัดนักโทษอยู่ทั่วตัวทุกคนนักโทษบางคนบวมปูดทั่วตัวด้วยพิษของผึ้ง เสียงร้องโอดโอยทำให้น่าเวทนา น่าสงสารจับใจ

เทวมาตย์   :  วิญาณที่ถูกตัดสินให้มาที่นี้ ล้วนเป็นผู้ไม่รักษาศีลวัตร หรือแอบอ้างอาศัยงานบุญหาชื่อเสียง ใช้เงินการกุศลตามใจชอบ ไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตา ลบหลู่นักธรรมอาวุโส หลอกลวงลบล้างบรรพจารย์ ชอบนินทาว่าร้าย สอดเสริมเติมแต่ง ยโสโอหังถือดี เชิดหน้าเอาชนะ ชอบเถียง ผิดต่อทางธรรม ต่ำทรามขาดคุณธรรม เหล่านี้ จะถูกลงโทษตามความผิดหนัก - เบา  มาก - น้อย ด้วยการให้ผึ้งพิษจำนวนเท่านั้นรุมต่อย หากนักโทษสำนึกผิด จริงใจแก้ไข ผึ้งพิษก็จะลดน้อยลงหรือไม่ต่อยกัดอีก แต่หากดื้อรั้นไม่สำนึกแก้ไข ผึ้งพิษก็จะเพิ่มจำนวนยิ่งขึ้น

พระอาจารย์   : 

บรรลุเซียน        พุทธะได้        ไปจากคน
รับทุกข์ทน       ผลโทษตาม     ตนทำให้
ราวดินฟ้า         ต่างกันหนา      สาเหตุใด
ศีลวัตรไซร์       ให้ถือนำ          เคี่ยวกรำจริง

(เฉิงเซียนจั้วฝอเปิ่นอิ๋วเหยิน        ฟั่นกั้นโส่วฝาอี้อิ๋วเซิน
เทียนเอวียนจือเปี๋ยไจ้เหอซู่        จุนกุยโส่วเจี้ยซิวเลี่ยนเจิน)

ความผิดอันมิได้เจตนา ยังอาจขอขมาสำนึกแก้ไขให้ถูกต้องได้ แต่หากผิดทั้ง ๆ ที่รู้ กฏเกณฑ์ฟ้าน่าคร้ามเข้มงวด ยากนักจักพ้นการลงโทษไปได้  คืนนี้ท่อง ตำหนักตันหยาง เก็บข้อมูลล้ำค่าจากตัวอย่างจริงได้มากมาย หวังให้ผู้บำเพ็ญในโลกได้อ่านเป็นอุทาหรณ์ เตือนใจให้ระวังตัว บัดนี้ค่ำแล้ว ขอท่านเทวมาตย์ช่วยเป็นตัวแทน เราอาจารย์ศิษย์แสดงคารวะขอบพระคุณ เราขอลาไปเพียงนี้

อู้เอวี๋ยน   :  ศิษย์กราบลาท่านเทวมาตย์

เทวมาตย์   :  น้อมส่งพระบรรพจารย์และศิษย์

พระอาจารย์   :  อู้เอวี๋ยน รีบขึ้นฐานบัวไป ถึงพุทธตำหนักแล้ว ญาณอุ้เอวี๋ยนกลับเข้าร่างดังเดิม จอมทัพพิทักษ์ธรรมตามกลับเบื้องบนไป

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                   ตอนที่ 11

                           ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย

@
ในเจดีย์        คีรีศักดิ์สิทธิ์        สถิตคนจริง
วิเศษยอดยิ่ง           แฝงจริงไว้         กายธรรมเห็น
สงเคราะห์ชน          คนหลงตื่น         ฟื้นใจเป็น
รูปล้อเล่น              เร้นพุทธะ           ณ ภายใน

(หลิงซันถ่าจงโหย่วเจินเหยิน   อิ่นเอว๋ยเมี่ยวเสวียนเซี่ยนฝ่าเซิน
จี้จ้งจื่อหมีเจียเจิ้งเจวี๋ย          เตียนเซี่ยงสือฉังหัวฝอเกิน)

                                                                     เราคือ

        สงฆ์วิปลาสจี้เตียนแห่งหนันผิง

            เทียนหยานพระอาจารย์เจ้า  รับสนอง

อนุตตรพระแม่บัญชา      มาสู่เกาะเซียน  (ไต้หวัน)


        ลอยจากเมฆา     น้อมสู่ตำหนักธรรม  กราบ
อนุตตรพระแม่แล้ว     ถามศิษย์รักทั้งหลายสบายดีกัน
        วันนี้มีงาน         อริยะสมาน        จึงร่วมประพันธ์
กล่าวขานบททอง       สามคุณร่วมใจ     อย่าได้เพื้อนว่า
เจตนาฟ้า                 วิเศษล้ำหนา       จะค่อยว่าไป
                                                                          ฮา  ฮา

@ มีบุญสัมพันธ์        อนุตตรธรรม        จึงได้น้อมรับ
เพียรแท้สูงสัจจ์        รู้ชัดหมั่นย้ำ         สัมผัสเป็นจริง
เข้าถึงแยบยล          วิเศษในตน          ฟ้าดินใหญ่ยิ่ง
อุ้มชูขวัญมิ่ง            หนึ่งกำเนิดจริง     ณ ธรรมญาณใน

(เอวี๋ยนเต๋ออู๋ซั่งฝ่า    ซิวเจินฉินอู้ซัน
เสวียนทงเทียนตี้กู่     ฉุนหย่างเป้าอี้เอวี๋ยน)

@ อย่าหลงทึกทัก     สี่รูปลักษณ์เขา-      เราและอื่นใด
ธรรมแท้เข้าใจ          ชี้หนึ่งจุดให้           วิสุทธิญาณ
จิตว่างสบาย            ไร้ซึ่งพันธะ             ณ ทุกสถาน
ทุกวันพ้นผ่าน           เป็นสุขสำราญ         ดั่งเซียนน้อยนา

(ซื่อเซี่ยงอู้ซือจื๋อ       หมิงเต้าอี้จื่อฉัน
ชิงเสียนเล่อจื้อไจ้      อี๋ยื่อเสี่ยวเสินเซียน)

@ จิตใสใจสว่าง       ทุกอย่างตรงเที่ยง     ไม่เอนเอียงหนา
ส่องทั่วโลกา           จนถึงปัจจัย             ในสิ่งเนื่องนับ
ละอองโลกีย์            มิแปดเปื้อนได้          กายเนื้อมิจับ
จิตญาณงามสรรพ      สดใสสวยงาม           กลมงามเลิศเรือง

(เจี้ยนซิ่งหมิงซินเจิ้ง   เจ้าเซ่อคงอวั้นเอวี๋ยน
เซียนเฉินเซินปู้หยั่น    สื่อเต๋อซิ่งหมิงเอวี๋ยน)         

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                          ตอนที่ 11

                           ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย


@ กุศลผลบุญ        พรั่งพร้อมล้อมไว้        ไม่อาจประมาณ
พ้นญาณทวาร        ผ่านจากหุบเขา          เจ้าแยบยลนัก
หมิงเต๋อบำเพ็ญ      เห็นชีพสว่าง             สำคัญเป็นหลัก
ชินหมินฐานราก      จื้อซั่นบรรลุ              วิสุทธิธรรม

(กงเต๋อจี้อู๋เลี่ยง       กู่เสินโท่วเพิ่นเสวียนง
ซิวเซินไจ้หมิงเต๋อ    ซินหมินต๋าจื้อซั่น)

@ วิสุทธิ์แล้วนั่น      หมื่นขวานบั่นทอน     ไม่คลอนหลุดร่วง
ฝึกฝนจิตดวง          หลอมจุดรัตนะ           สกาวสุกใส
จริงแท้วัชระ           ไม่เสื่อมแกร่งกล้า       ค่าเสียหายไป
รหัสได้ไว้              คาถากล่อมกลาย       เป็นดอกบัวบาน

(อวั้นฝู่จั๋วปู๋ซุ่ย        หมอเลี่ยนต้วนจินตัน
จินกังปู๋ไฮว่ถี่         โข่วเจวี๋ยฮว่าชิงเหลียน)

@ ทุกอิริยาบท       จะสงบนิ่ง               หรืออิงเคลื่อนไหว
ธรรมจักรได้            เวียนไปหลายรอบ    ไร้ขอบเขตถึง
หมื่นสายเผยแพร่      ล้วนแต่ดำเนิน          คือจุดหมายหนึ่ง
ร่วมช่วยคำนึง         ซึ่งผ่านพ้นด่าน          การสอบเคี่ยวกรำ

(อี๋ต้งอวี่อี๋จิ้ง          โจวจี๋หวนอู๋เปียน
อวั่นไม่อวิ้นเฉาอี      เซียซัวกั้วฉงกวน)

@ ตะวันจันทร์ฉาย    ฟ้าใสจิตญาณ        ปัญญาล้ำเลิศ
ช่วยการก่อเกิด        เส้นแวงเส้นรุ้ง        ร้อยจูงชายหญิง
ภายในแฝงเร้น         ความเป็นอริยะ       สัจจะแท้จริง
ใช้ได้ไม่สิ้น            ทุกชีวินทั่ว            ชั่วกาลนาน

(ยื่อเอวี้ยจิงอิงซุ่ย    จิงเอว่ยช่วนคุนเฉียน
ฉีจงอิ่นตี้ไจ้            อย้งจืออย่งเหมียนเหมียน)

@ ความวิเศษอยู่     ณ ประตูจิต          สถิตแยบยล
เรืองโรจน์เลิศล้น      ส่องยังหลิงซัน      ประตูญาณนั่น
เป็นบ้านเดิมฉัน        อันไม่มีเงา          เฝ้าอยู่สังขาร
สุดแสนสำราญ         เป็นนิรันดร์กาล     อิสระเรื่อยไป

(เมี่ยวไจ้เจินเสวียนกวน กวงเอี้ยวเจ้าหลิงซัน
หว่อเจียอู๋อิ่งตี้            เซียวเอี๋ยวเล่ออู๋เปียน)

@ โป๊ยก่วยเป็นหลัก    ประจักษ์ดินฟ้า    อยู่ ณ จุดนี้
รูปลักษณ์ทั้งสี่           มีอินมีหยาง        สมานคงให้
ต้นกำเนิดเิดิม            จากแรกเริ่มแปร   แผ่ขยายไป
วาระสุดท้าย              ให้คืนอนุตตรฯ     ธรรมะทั้งหมด

(ปา-กว้าฉังไจ้จือ       ซื่อเซี่ยงเหลี่ยงอี๋เหลียน
เอวี๋ยนไหลอี๋ชี่ฮว่า       เสียนกุยอู๋จี๋เอวี๋ยน)
                                                                  ไฮ  ไฮ

        ตั้งแต่โบราณกาลมา ผู้บำเพ็ญนั้นมีมากมาย แต่ผู้บรรลุได้นั้นมีน้อย ด้วยเหตุอันใด ล้วนเหตุเพราะยังมิได้ประสบวิถีธรรมจริง กุศลในการบำเพ็ญก็ยังไม่ถึงแก่นแท้นั่นเอง ผู้บำเพ็ญก่อนเก่า ล้วนจะต้องเคี่ยวกรำบำเพ็ญด้วยความทุกข์ยากลำบาก สละละทิ้งครอบครัวการงาน ตัดรัดสลัดเยื่อใยบำเพ็ญเอง ให้สำนึกรู้เอง หรือเดินทางหมื่นลี้พันลี้ แสวงหาอาจารย์ ใฝ่หาคาถาเคล็ดลับ ยากเย็นเข็ญใจทุกอย่าง อดทนจนกว่ากุศลผลบุญถึงพร้อม ศรัทธาจริงใจซาบซึ้งถึงเบื้องบน เบื้องบนจึงจะส่งเซียนพุทธะโปรดชี้จุดให้โดยไม่โจ่งแจ้ง จึงได้สมความปรารถนา               

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                             ตอนที่ 11

                            ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย


        บัดนี้ บุญวาระธรรมกาลยุคขาว เปิดประตูปรกโปรดครั้งใหญ่ มหาปณิธานของพระศรีอริยเมตไตรยถึงกาลโอบอุ้มสามโลก ช้อนชูเก็บงานสมบูรณ์ผล ให้พุทธบุตรล้วนได้ขึ้นทะเบียนฟ้า ดังคำกล่าวว่า "มาก่อนสู่มาพอดีไม่ได้" (ไหลเต๋อเจ๋าปู้หยูไหลเต๋อเฉี่ยว) ศิษย์ธรรมกาลยุคขาว สนองวาระคำกล่าวนี้พอดี เป็นบุญที่สร้างมาสามชาติโดยแท้จึงมาทันโอกาสนี้อย่างเหมาะเหม็ง แต่ทว่า คนทั่วไปมักจะพลาด "ได้รับง่ายดาย ไม่รู้คุณค่า" (เต๋อจือหยงอี้ ปู้จือเจินสี) เห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่ศึกษาค้นหาความเป็นที่อยู่ ณ ภายใน หลังจากรับธรรมะแล้ว เริ่มแรกแม้จะศรัทธา ศึกษาธรรมในพุทธสถาน แต่ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เพิ่งจะรู้บ้างไม่รู้บ้างก็สรุปเสียว่า "มันก็เท่านั้นเอง" จากนั้นก็ไม่ก้าวสู่ทางธรรมอีก บางคนทนการสอบกรำต่าง ๆ ไม่ได้ นานวันระอาท้อแท้ ร่อนหลุดไปนอกทางธรรมเองโดยไม่รู้ตัว การบำเพ็ญ แท้จริงแล้วจะต้องอยู่ที่ "บุญจริงกุศลแท้" (เจินกงสือซั่น) มิใช่อาศัยแต่นามรูปว่างเปล่าภายนอก การบำเพ็ญ แท้จริงจะต้องอยู่ที่การ "เท้าหยัดยืนบนพื้นจริง" (เจี่ยวท่าสือตี้) ไม่อยู่ที่โอ้อวดเสวนา ฉะนั้น นามรูปภายนอกจึงมิใช่สิ่งอันพึงยึดหมายสำหรับผู้บำเพ็ญจริง สัทธรรม (ธรรมะของคนดี) อันวิเศษของยานระดับสูงเป็นอสังขตะ ไม่ยึดหมาย จึงมิใช่สิ่งซึ่งแสวงหาได้ภายนอก แต่อยู่ที่จิต "ย้อนมองส่องตน" (หุงกวงฝั่นเจ้า) ให้สอดส่องสำรวจจิตตนให้มาก ว่าสิ่งที่ปรากฏจากจิตหรือแฝงเร้นในจิตนั้น ถูกต้องตามหลักธรรมหรือไม่ มีคำกล่าวว่า "เดินทางไกลเริ่มไปจากจุดใกล้ ขึ้นที่สูงพึงเริ่มจากน้อมตน" (สิงเอวี่ยนจื้อเสียเอ่อ  เติงเกาปี้จื้อเปย) เป็นสุภาษิตอันมีค่ายิ่งสำหรับผู้บำเพ็ญทีเดียว ความสำเร็จหรือล้มเหลวของผู้บำเพ็ญ ตั้งแต่ก่อนเก่าจนถึงปัจจุบัน เหตุผลมิได้ต่างกัน หากศรัทธาจริงใจตลอดไป  ไม่เปลี่ยนความมุ่งมั่น  ยอมเหนื่อย  ยอมรับการขับเคียว   เข้าถึงประจักษ์จริง  ก็จะไม่ยากต่อการบรรลุธรรมยังเบื้องบน หอมชื่อนิรันดร์ไว้ในโลก แต่หากเพียรธรรมไม่จริง คลุกอยู่กับใคร ๆ ไปวัน ๆ เกิดเหตุอะไรใจก็เป็นไปตามนั้น ไม่ตั้งใจศึกษาธรรม ถูกฟ้าลองใจ ถูกคนทดสอบเล็กน้อย ใจก็ขัดเคือง หน่ายหนีถดถอย สุดท้ายต้องเจ็บแค้นเสียดายตลอดไป ไม่พ้นว่ายเวียน ฉะนั้น จึงกล่าวว่า การบำเพ็ญหากไม่มี "ผลงาน (เฉิงจี) ที่เป็นจริง จะมี "ปริญญา" (เหวินผิง) ของฐานะแห่งผลได้หรือ ผู้บำเพ็ญจึงต้องเอาจริงต่อ "การบ้าน" (กงเค่อ) เป็นประจำ   ใฝ่ความก้าวหน้า ให้ทุกวิชาแตกฉานประมาณเสมอกัน ให้ทุกวิชาถึงขั้นสอบผ่าน มิฉะนั้น อาจบิดเบนได้ง่าย จนถึงกับพลาดผิด ทำลายตนเองไป ผลการเรียนที่สำคัญที่สุดของผู้บำเพ็ญคือ "คุณสมบัติ" ของความเป็นคน วิถีอนุตตรธรรมไร้รูปลักษณ์ อาศัยคนสำแดงให้ ผู้บำเพ็ญหาก"คุณสมบัติ" ความเป็นคน "สูงส่ง" ย่อมเป็นที่ยอมรับและเคารพยกย่องจากคนทั้งหลาย ผู้บำเพ็ญหากรู้จักตนเอง ก็จะเป็นตัวแทนของธรรมะ ความดีเลวของบุคคล จะเป็นผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อรูปลักษณ์ของธรรมะ หากทุกคนจะแก้ไขนิสัยความเคยชินที่ไม่ดีของตนได้อย่างแท้จริง  ลดละอารมณ์  อ่อนน้อมมีอัธยาศัยไมตรี  น้อมจิตน้อมใจ  กตัญญูต่อพ่อแม่ จงรักภักดีต่อบ้านเมือง ปรองดองน้องพี่ คบหาเพื่อนฝูงโดยมโนธรรมสัตย์จริง  ยากจนไม่สอพลอ  ร่ำรวยไม่อวดเบ่งข่มเหงเขา ปลูกฝังวิสัยคุณสมบัติความเป็นคนอันสูงส่ง ย่อมจะทำให้ใคร ๆ เคารพยอมรับเอาเป็นตัวอย่าง เช่นนี้แล้ว การจะฉุดช่วยผู้คนตักเตือนชาวโลก ก็ย่อมจะสมความปรารถนา กุศลยุญ คุณธรรม เป็นปัจจัยสำคัญของการบรรลุอริยะเมธา ดังมีคำกล่าวว่า "เบื้องบนไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปราศจากกุศลผลบุญ ในโลกปราศจากอริยบุคคลที่ขาดมโนธรรม ความจงรักภักดี" (เทียนชั่งอู๋ฝูกงเต๋อจือเสิน  เหยินเจียนอู๋ปู้จงเชี่ยวจือเซิ่ง) ตั้งแต่โบราณมาจนถึงบัดนี้ อริยเมธีล้วนแต่ทำเพื่อกุศลประโยชน์ ก่อเกิดคุณธรรมแก่ผู้คนเป็นที่ตั้ง คุณธรรมก่อเกิดแล้ว เวรกรรมย่อมมลายหายสูญได้ เวรกรรมไม่หยุดยั้ง จะนำมาซึ่งมารทดสอบ จึงมีคำกล่าวว่า "แม้ไม่มีที่สุดแห่งคุณธรรม ที่สุดแห่งภาวะธรรมจะไม่มั่นคง" (โก่วอู๋จื้อเต๋อ  จื้อเต้าปู้หนิงเอียน) ผู้บำเพ็ญจะหวังให้ได้ดีเฉพาะตนได้อย่างไร จะไม่เผื่อแผ่ความดีแก่ชาวโลกได้หรือ ฉะนั้น หมั่นให้ทานทั้งสาม สะสมทรายก่อให้เป็นเจดีย์ จะห่วงอะไรกับกุศลผลบุญไม่สมบูรณ์ แรงไฟสุขุม เป็นความปราณีตหลักในการกล่อมเกลี้ยงจิตญาณ หากแม้นคุณสมบัติของความเป็นคน ตั้งอยู่ในกรอบดีงามกุศลผลบุญมีมาก แต่ทว่าขาดแรงไฟสุขุม เจอเรื่องราวอะไร จะเลิกร้างกลางคันได้ง่าย เมื่อแรงไฟสุขุมไม่พอ ความหนักแน่นสุขุมก็จะไม่พอ จะทนต่อการทดสอบไปไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ถูกเขาใส่ไคล้ทำลายชื่อเสียง ก็จะเกิดโทสะ ถูกลาภสักการะยั่วใจ ก็จะเกิดความโลภ  ถูกภาระการงานทางโลกผูกพัน ก็จะเกิดความเบื่อหน่ายเหล่านี้เป็นต้น เมื่อประสบพบอยู่กับสภาพใด ก็จะเกิดภาวะจิตนั้น ๆ จะค่อย ๆ ถูกสิ่งแวดล้อมจูงไป จะออกห่างจากธรรมะวิถีทางตรง จนถึงกับกุศลผลบุญที่ทำไว้หมดสิ้นไป... สะท้อนใจ เสียดายนัก บัดนี้ วิถีอนุตตรธรรมปรกโปรดลงสู่ครัวเรือน สามัญชนล้วนได้สดับธรรม เป็นโอกาสดียิ่ง อาจารย์มิอาจทนเห็นผู้บำเพ็ญได้รับวิถีธรรมแล้ว ละทิ้งวิถีธรรม จึงเฝ้าย้ำเตือน ให้ฉุดช่วยตน ฉุดช่วยคน ฉุดช่วยผู้มีบุญสัมพันธ์ เข้าสู่วิถีธรรมทางตรงอีกทั้งภาวนา ขอพระอนุตตรฯฟ้าเบื้องบน โปรดคุ้มครองผู้บำเพ็ญ จงมีใจธรรมอันแข็งแกร่งสว่างมั่นคง เช่นนี้แล้ว การปรกโปรดทั่วโลกก็จะมีหวัง กำหนดการเก็บงานสมบูรณ์ผล ย่อมรอคอยความเป็นไปได้ เอาล่ะ เวลาที่ญาณจะไปท่องเที่ยวได้มาถึงแล้ว ขอรบกวนจอมทัพพิทักษ์ตำหนักธรรม ช่วยรักษาตำหนักธรรมเข้มงวด อู้เอวี๋ยนสงบใจ เตรียมติดตามอาจารย์ออกเดินทาง

อู้เอวี๋ยน    :  กราบเรียนถามพระอาจารย์ คืนนี้ไม่ทราบจะไปท่องเที่ยวต่อที่ไหนขอรับ

พระอาจารย์   :  คืนนี้จะไปท่องเที่ยว ตำหนักจิ่งหยาง กับ ตำหนักหวังหยาง ในสังกัด ด่านเหอหยาง เวลากระชั้น รับหลับตาใน ตามอาจารย์ขึ้นพาหนะเมฆไป ตำหนักจิ่งหยาง ถึงแล้ว อู้เอวี๋ยนเปิดนันย์ตาในได้

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                              ตอนที่ 11

                            ด่านจิ่งหยาง
            สามพันแปดร้อยผลบุญญา
                     ในอักษรซ่อนตถตา
                         ฟ้าดินหญิงชาย

อู้เอวี๋ยน   : 
เบื้องหน้ามีตำหนักหนึ่ง สูงตระหง่านหรูหราสง่างามเยี่ยงเดียวกับ ตำหนักตันหยาง ทีเดียว หน้าตำหนักแขวนป้ายจารึกอักษรสามตัวว่า ตำหนักจิ่งหยาง (จิ่งหยางเตี้ยน) ซ้ายขวามีกลอนคู่บทยาวความว่า

"ไต่สวนมิมีที่ไม่เที่ยงตรง
โทษหนักจับส่งลงให้แก้ไข
ตกต่ำโยนลงทะเลบาปเวรไป
ยากพ้นตาข่ายกำหนดกฏเกณฑ์
สอบถามความว่าละเมิดทางธรรม
ให้ถอนหนี้กรรมสำนึกรู้เห็น
คัดเลือกคนบุญบำเพ็ญดีเด่น
อย่าได้หลอกเล่นตัวบทกฏการ"

(เสิ่นอู๋ปู๋เจิ้งจ้งสิงตั้นไก่เปี่ยนติวเนี่ยไห่หนันเถาฝาอวั่ง
เวิ่นฉี่เอวี้ยกงป๋าชูหุยโถวลู่ฉวี่กงถิงซิวซวีลวี่กุย)

พระอาจารย์   : 
ทิพยมาตย์ประจำเวรรอคอยอยู่หน้าพระตำหนักแล้ว อู้เอวี๋ยนตามมาคารวะ

ทิพยมาตย์   :  กราบเฝ้าพุทธบรรพจารย์เทียนหยานทรงอริยสำราญ  ยินดีที่นำพาอู้เอวี๋ยนผู้บำเพ็ญในโลกสนองพระบัญชามา พระบรรพจารย์รอรับอยู่ข้างในแล้ว

อู้เอวี๋ยน   :  กราบคารวะท่านทิพยมาตย์

ทิพยมาตย์   :  มิต้องมากจริยา เชิญตามข้าพเจ้าเข้าสู่ตำหนักใน กล่าวจบ ทั้งสามพากันดำเนินผ่านประตูกลมสามชั้นจนถึงตำหนักในพระบรรพจารย์เทียนหลี (เทียนหลีจู่ซือ) ได้ออกมาต้อนรับถึงนอกตำหนัก

พระบรรพจารย์   : 
คืนนี้ยินดีที่ได้พบ พระบรรพจารย์ กับศิษย์ท่า่นฉายรัศมีมงคล มาถึงนี่ทำให้ข้างฝาหญ้าคา (อุปมาสถานที่ต่ำต้อย) เรืองรองโดยแท้ รีบเชิญเข้าข้างใน กล่าวจบ พร้อมกันดำเนินเข้าสู่ตำหนักใน ก้าวขึ้นบันไดหยกประทับนั่งตามควรแก่ตำแหน่ง จากนั้น โปรดบัญชาฝ่ายพิธีการ ทูนน้ำชาเซียนออกถวายการต้อนรับ

พระอาจารย์   :  ไมตรีจากพระบรรพจารย์ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณเป็นเบื้องต้น ณ ที่นี้ ที่มารบกวนก็เพื่อทำหนังสือบันทึกการท่องเที่ยว ซึ่งยังจะต้องขออภัย อู้เอวี๋ยน รีบเข้ามากราบพระบาท

อู้เอวี๋ยน   :  ศิษย์น้อมกราบพระบรรพจารย์ทรงอริยสำราญ หวังว่าพระบรรพจารย์จะโปรดชี้แนะ

พระบรรพจารย์   :  มิต้องจริยา มิต้องจริยา เชิญรีบลุกขึ้น โลกทุกวันนี้ ท่าทีหกหัวกลับ ใจคนเสียหายล้มเหลว ทิ้งคุณธรรม ตระบัดสัตย์ เลยละมโนธรรมสำนึก เหมือนกันไปหมด พระอนุตตรธรรมมารดา ทรงสะท้อนพระทัยในหญิงชายญาณเดิมที่หลงวัตถุลืมตน จึงโปรดบัญชาให้สร้างหนังสือท่องพุทธาลัยเป็นการเจาะจง แท้จริงแล้วคือ ให้เหมาะแก่วาระ  กำหนดกาล  สถานที่  และเหมาะแก่ผู้คน  มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการแก้ไข  พลิกผันมิจฉาบรรยากาศของธรรมจักรวาล ฟื้นฟูแก่นแท้ดีงามแต่โบราณ  กล่อมเกลาใจคน การประพันธ์หนังสือท่องเที่ยวนี้ ภาระหนักดั่งภูเขาไท่ซันมิใช่สร้างได้ง่าย ๆ เช่นหนังสืออื่น ๆ  โชคดีที่พระบรรพจารย์เทียนหยานท่าน สูงด้วยจักษุปัญญาเฉพาะ หนุนส่งศิษย์อู้เอวี๋ยนให้แบกรับหน้าที่นี้ เป็นบุคคลที่เลือกสรรได้เป็นอย่างดีที่สุดทีเดียว หนังสือนี้ เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของธรรมกาลยุคขาวอย่างยิ่งยวด หวังว่าอู้เอวี๋ยนจะทุ่มเทสุดกำลังกายใจ ติดตามพระอาจารย์ของท่าน สะสมข้อมูล สภาพความเป็นจริงของทั้งสามโลกอย่างกว้างขวาง พร้อมด้วยหลักสัจจอนุตตรธรรม เพื่อให้เป็นแสงแห่งปัญญาแก่ธรรมจักรวาล

อู้เอวี๋ยน   :  พระบรรพจารย์ได้โปรดประทานพระโอวาทล้ำค่า ทำให้ศิษย์สำนึกลึกซึ้ง ต่อไปจะยิ่งพยายาม มิให้พระบรรพจารย์ต้องผิดพระกรุณาหวังไว้

พระอาจารย์   :  เชิญพระบรรพจารย์โปรดชี้แนะสภาพตำหนักของท่านพอสมควร เพื่อการบันทึกในหนังสือท่องเที่ยวด้วย

Tags:
 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”