collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: จิ่วหยังกวน สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ  (อ่าน 29289 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                จิ่วหยังกวน

                         สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ

                           ศุภนิมิต เรียบเรียง

                   หนังสือเล่มนี้ขออนุโมทนาแด่
             ผู้บำเพ็ญที่มุ่งหมายนิพพานอย่างแน่วแน่
                ขอได้โปรดรับไว้ด้วยความซาบซึ้ง   
        ในพระมหากรุณาธิคุณเบื้องบนโดยทั่วกันเทอญ

                                 สาธุ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                                  จิ่วหยังกวน

                           สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ

                                    สารบัญ

หมายเหตุนำเรื่อง
จุดเริ่มต้นของหนังสือ "บันทึกท่องด่านจิ่วหยัง"
พระองค์เลขาในพระปราสาททอง ประทับฯ ประทานด้วยคำกล่าวอ้างทางโลก
พระอรหันต์ห-ลวี่ต้งปิน ( ห-ลวี่ฉุนหยัง ) ประทับฯ ประทานคำนำ
องค์ประธานสอบสามโลก ประทานคำนำ
พระอริยะมาตามหลีซันเหลาหมู่  ประทานคำนำ

ตอนที่ 1   ลงนรกของยืมดวงแก้ว
ตอนที่ 2   ท่องด่านแรกของจิ่วหยังกวน ( ด่านขัดเกลาธาตุแท้ )
ตอนที่ 3   ท่องด่านขัดเกลาธาตุแท้อีกครั้ง
ตอนที่ 4   ท่องด่านที่สองของจิ่วหยังกวน  ( ด่านมลายอารมณ์ )
ตอนที่ 5   ท่องด่านที่สามของจิ่วหยังกวน  ( ด่านสระหนาว )

ตอนที่ 6   ท่องด่านที่สี่ของจิ่วหยังกวน   ( ด่านสระร้อน )
ตอนที่ 7   ท่องด่านที่ห้าของจิ่วหยังกวน  (ด่านมลายโลกีย์ ฯ )
ตอนที่ 8   ดูเหตุการณ์เมื่อชาวโลกทิ้งกายสังขาร
ตอนที่ 9   ท่องด่านที่หกของจิ่วหยังกวน  (ด่านแต่งโฉม )
ตอนที่ 10 ท่องด่านที่เจ็ดของจิ่วหยังกวน  ( ด่านศรัทธาเคารพ )

ตอนที่ 11   ท่องจิ่วหยังกวน  ( ตำหนักเพิ่มบำเพ็ญ )
ตอนที่ 12   ท่องด่านที่แปดของจิ่วหยังกวน  ( ด่านฝึกจิต )
ตอนที่ 13   ท่องด่านที่เก้าของจิ่วหยังกวน   ( ด่านบรรลุอริยะ )
ตอนที่ 14   ท่องจิ่วหยังกวน ตำหนักอนุโมทนาบุญ
พระพุทธจี้กงประทับทรง ประทานสรุปท้ายเรื่อง 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                           จิ่วหยังกวน

                    สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ 

                      หมายเหตุนำเรื่อง

        จิ่วหยังกวน หรือ ด่านจิ่วหยัง คือ  "เก้าเก้าด่าน"  หรือเก้าเก้าแปดสิบเอ็ดด่าน อันเป็นทัณฑสถานบนชั้นสวรรค์ของผู้บำเพ็ญ 
        หลวนถัง    คือ เทวสถานตำหนักทรง  เป็นตำหนักพระที่สิ้งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใช้้ประทับทรงเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมแด่สาธุชน หรือเรียกว่า  เทวสถานคุณธรรม ก็ได้
        ฉงเซิง     คือ  ชื่อเทวสถานแห่งหนึ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดใช้ประทับทรงตักเตือนสาธุชน อยู่ที่เมืองไถจง ไต้หวัน
        ทักษิณาลัย  คือ  มหาพฤฒาลัยแห่งทิศทักษิณ ที่ประทับของพระมหาพฤฒาชันษาเจ้าเหล่าเซียน-อง  ผู้ปกครองเซียนทั้งหลาย
        คนเดิม     อนุตตรญาณจากนิพพานที่เบื้องบนจัดส่งให้เกิดกายมาพัฒนาโลกในครั้งกระโน้น แล้วหลงเวียนว่ายไม่อาจกลับคืนภาวะเดิม ซึ่งบัดนี้ได้รับการฉุดช่วยให้ได้รู้อนุตตรญาณเดิมที่สถิตอยู่ในกายตน ที่เรียกว่า  ได้ขอรับวิถีธรรม  แล้วนั่นเอง 

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                            จิ่วหยังกวน

                      สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ 

                       จุดเริ่มต้นของหนังสือ

                     "บันทึกท่องด่านจิ่วหยัง"

        มหาราชอุ๋นเหิง องค์พระประธานในเทวตำหนักฉงเซิงประทับทรง มีพระบัญชาว่า  "ให้เทพเจ้าประจำพระตำหนักนี้และศาลหลักเมืองออกไปเฝ้ารับพระราชโองการแห่งพระองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ณ สิบลี้เบื้องหน้า  ขอเชิญพระกุมารแห่งปราสาทสระมรกต (เอี๋ยวฉือจินถง)  ออกไปเฝ้ารับเทวโองการ  ณ ห้าลี้เบื้องหน้า  ส่วนสานุศิษย์ในพระตำหนักนี้ให้อยู่ในความสงบ  เทพฯ  คน  เรียงรายรอเฝ้ารับพระบาท"  จากนั้น  องค์พระมหามนตรีเทพแห่งปราสาททอง ไท้ไป๋เซียน-อง รับพระบัญชาแทนพระองค์เสด็จมาถึง ประทับนำด้วยโศลกดังนี้

พระแม่เมตตา     ห่วงหาบุตร     ญาณเดิมมเจ้า
เทศกาลเก้าเก้า  วัน "ฉงหยัง"        สั่งบัญชา
โปรดเปิดเผย    ด่านจิ่วหยัง      ความลับฟ้า
เพื่อนำพา    ลูกกลับขึ้น     คืนนิพพาน

        แล้วแสดงความว่า  คืนนี้เราได้อันเชิญพระโองการฯ มาประกาศ ณ เทวตำหนักนี้  เทพฯ  คน  จงหมอบกราบสดับความ
       
        ทูลเกล้าฯ  พระโองการจากเง็กเซียนฮ่องเต้ มีความดังนี้
        เรา  แม้ทรงศักดิ์แต่มิพักจะสอดส่อง คำนึงถึงเวไนยสัตว์ทั้งผองทุกขณะ เมื่อเห็นบรรยายกาศดำมืดปกคลุมโลกหล้า จิตใจมนุษย์เปลี่ยนไปมาก คำเตือนของพระ - เจ้า กลับเห็นเป็นเรื่องงมงาย  ไม่เกรงกลัวกฏแห่งกรรม  คุณธรรมเสื่อมลงทุกวัน เราเวทนาสงสารยิ่งนัก แม้ในเขตคามไต้หวันจะมีตำหนักฯ คุณธรรมอยู่ทั่วไป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพากันประทับทรงแพร่คำสอน
         ผู้ศึกษาธรรมแม้จะมีมากและศรัทธา แต่ความเคยชินอันต่ำทรามแก้ได้ยาก แม้ตัวจะอยู่ในประตูพระอริยะ แต่เมื่อพ้นกายสังขารไปกลับไม่อาจบรรลุ น่าเสียดายนัก
        พระศาสดาทั้งห้าได้ปรึกษากันมีความเห็นว่า จะต้องสร้างหนังสืออบรมผู้บำเพ็ญเล่มหนึ่งให้จงได้  เพื่อเตือนใจผู้คนให้รีบเข้าหาจิตเดิมแท้แห่งตน แต่การนี้หากไม่เปิดเผยความลับของด่านจิ่วหยังกวนก็คงไม่ได้ผล  เมื่อพระศาสดาทั้งห้าเห็นชอบพ้องกันแล้ว จึงได้รายงานแก่เรา  เมื่อได้รับทราบ จึงบัญชาพระศาสดาทั้งห้าให้เสนอผู้ที่สามารถจะรับภาระใหญ่นี้ขึ้นมา  พระศาสดาทั้งห้าปรึกษากันแล้วก็ได้รายงานแก่เราว่า  บัดนี้ตำหนักฯ คุณธรรมภายใต้การปกครองโดยตรงของเบื้องบนทักษิณาลัย คือ ตำหนักฯ  ฉงเซิง  แห่งไถจง  ศิษย์หลิวฉงซิว  เหมาะแก่ภาระยิ่งใหญ่นี้  เรายินดีเมื่อสดับความ จึงโปรดบัญชาการให้ตำหนักฯฉงเซิงแห่งเมืองไถจง ซึ่งอยู่ในความปกครองของเบื้องบนทักษิณาลัยโดยตรง สร้างหนังสือวิเศษซึ่งไม่เคยมีมาก่อนเล่มนี้ โดยให้ชื่อว่า  "บันทึกท่องด่านจิ่วหยัง"  บัญชาให้พระพุทธจี้กงนำญาณของศิษย์หลิวฉงซิว ไปท่องดูเหตุการณ์  เพื่อให้ผู้บำเพ็ญได้รู้เห็นการขัดเกลาต่าง ๆ ในด่านจิ่วหยัง และเพื่อเพิ่มเติมความไม่สมบูรณ์ในหนังสือท่องนรก - สวรรค์ 
        อีกทั้งบัญชาให้พระกุมารแห่งสระมรกตถือพู่กันทรงถ่ายทอดเหตุการณ์ความเป็นจริง 
        หวังว่าศานุศิษย์ของตำหนักฯ ฉงเซิงจะร่วมช่วยงานนี้โดยศรัทธา
        หนังสือเล่มนี้มิใช่ธรรมดา  จะต้องสนองพระบัญชาด้วยความจริงใจ 
        ได้สั่งการให้แต่ละด่านของจิ่วหยังเปิดประตูต้อนรับ เมื่อญาณของศิษย์แห่งตำหนักฯ ฉงเซิงมาเที่ยวชม
        ให้ร่วมช่วยงานสร้างหนังสือศักดิ์สิทธิ์นี้มิให้บิดพลิ้ว
        ให้เริ่มเขียนทุกคืนตั้งแต่พระโองการนี้มาถึง
        ให้เสร็จสิ้นมอบถวายได้ภายในสามสิบวัน จะประทานกุศลบุญคุณงามเมื่อหนังสือสำเร็จเป็นเล่ม ทั้งนี้ให้เป็นไปตามบัญชาแห่งเราอย่าได้ผิดพลาด

                                 คารวะขอบคุณ
       หมินกั๋ว  71  ปีจอ  เก้าค่ำ  เดือนเก้า

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                           จิ่วหยังกวน

                    สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ

                พระองค์เลขาในพระปราสาททอง

                    ประทับฯ  ประทานด้วย

                     คำกล่าวอ้างทางโลก

        1.  หนังสือเล่มนี้บันทึกตามพระบัญชาของท้าวสักกะเทวราชองค์เง็กเซียนฯ  แม้จะเป็นสำนวนง่าย ๆ แต่แฝงความหมายสัจธรรม เป็นแบบฉบับอันวิเศษสำหรับกล่อมเกลาผู้บำเพ็ญจริงโดยแท้

        2.  หากมีคำผิดในหนังสือนี้ นั่นคือความผิดพลาดของผู้รับถ่ายทอดข้อความ ผู้อ่านอย่าได้ดูเบา

        3.  หนังสือเล่มนี้สำเร็จได้ด้วยความวิริยะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคนร่วมกัน ในเล่มได้เปิดเผยความลับของด่านจิ่วหยังโดยหมดสิ้น  แสดงให้เห็นข้อบาดคาดโทษชัดเจน เป็นระฆังเตือนใจช่วยชาวโลกได้เป็นอย่างดี ซึ่งหมื่นปีก็ยากนักที่จะได้พบ หวังว่าชาวโลกจะได้อ่านกัน เห็นคุณค่า  สำนึกและบำเพ็ญกัน

        4.  หนังสือเล่มนี้สำเร็จได้จากความร่วมมือของผู้รับผิดชอบทั้งด่านจิ่วหยัง  เทวโลก  ยมโลก  และโลกมนุษย์ทั้งหมด จะได้กุศลร่วมกัน ฉะนั้นหากพิมพ์แจกจ่ายแม้เพียงหนึ่งเล่มก็จะส่งผลให้รับรู้ทั้งสามโลก

        5.  พระปกาศิตแห่งพระแม่องค์ธรรม  ความว่า   

        "ผู้ใดพิมพ์หนังสือนี้เพื่อแจกจ่าย เพื่อฉุดช่วยคน ไม่ว่าพิมพ์เอง  ช่วยพิมพ์  ร่วมพิมพ์  บอกเล่า  เผยแผ่ออกไป  ฯลฯ  จะได้รับการลดหย่อนบาปเวรในอดีตชาติ หากบุญกุศลถึงพร้อมจะได้ยกระดับขึ้นสู่แดนพระอริยะ อันวิมุติตามผลบุญที่ได้สร้างไว้" 

        6.  สำหรับผู้ที่ต่ออายุขัย  ขอลาภยศ  ขอขจัดโรคภัย  ขอลบล้างหนี้เวรกรรม  ขอเสริมสร้างบารมี  ขอลบล้างโทษผิด  ฉุดช่วยวิญญาณบรรพบุรุษขอบุญวาสนา  ฯลฯ  เมื่อตั้งใจพิมพ์หนังสือนี้ จะสมความปรารถนา  ผู้วอนขอจะต้องจุดธูปบอกกล่าวกลางแจ้ง หรือเบื้องหน้าที่บูชาในวัด  ในศาลเจ้า  หรือต่อเทพเจ้าเตาครัว  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะนำความขึ้นกราบทูล ความปรารถนาก็จะสัมฤทธิ์

       7.  หนังสือเล่มนี้เมื่อวางอยู่ที่ใด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบทิศจะพิทักษ์รักษา อ่านแล้วจึงต้องเก็บรักษาไว้ในที่สะอาดมิให้เปรอะเปื้อน

        ผู้ใดดูแคลนใส่ร้ายทำลายหนังสือเล่มนี้ หรือขัดขวางมิให้แพร่หลายจะตกนรกยาวนานโดยไม่นิรโทษกรรม  หวังว่าสาธุชนทั้งหลาย จะได้เดินสู่ทางบุญ  ขอจงพิจารณาให้ดี     

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                          จิ่วหยังกวน

                    สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ

                      พระอรหันต์ห-ลวี่ต้งปิน

                         (ห-ลวี่ฉุนหยัง)

                   ประทับฯ   ประทานคำนำ

        นับแต่มนุษยธรรมได้กำหนด   อนุตตรธรรมได้ปรากฏ กัลยาณชนที่เข้าใจไม่มีที่จะไม่บำเพ็ญตนสร้างคุณธรรมเพื่อพ้นเวียนว่าย  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บัดนี้วิถีอนุตตรธรรมได้โปรดทั่วไป เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างทางโลกกับอริยะ เพตุเพราะจิตญาณเดิมถูกบดบังเสียนานจนสว่างได้ยาก เบื้องบนจึงโปรดบัญชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย หาทางช่วยเหลืออบรมชี้ชัดถึงหนทางคืนกลับนิพพานบ้านเดิม  ผู้บำเพ็ญในยุคนี้แม้จะมีมาก แต่เนื่องด้วยนิสัยความเคยชินไม่อาจแก้ได้หมด จึงไม่อาจบรรลุฯ 

        เหตุนี้ จึงได้สร้างด่านจิ่วหยัง เพื่อนำเอาบาปบุญในชีวิตของผู้บำเพ็ญเข้าสอบในแต่ละด่าน แปดสิบเอ็ดด่าน  ขัดเกลาให้เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง  ในหนังสือนี้ ผู้บำเพ็ญจะได้เห็นตัวอย่างเป็นอุทาหรณ์ แต่ก่อนแม้เราจะเคยเปิดเผยเหตุการณ์ด่านจิ่วหยังไว้บ้าง แต่ยังไม่ถึงกาลอันควร จึงไม่อาจแพร่หลาย  บัดนี้ ตำหนัก ฯ ฉงเซิงแห่งนี้ได้สนองบุญวาระ สร้างหนังสือวิเศษที่ยังไม่เคยมีมาก่อนเล่มนี้ คืนนี้เราจะประทับทรงให้คำนำเป็นการเฉพาะ

        หวังว่า ผู้บำเพ็ญทั้งหลายจะได้เข้าใจว่า แม้ด่านจิ่วหยังจะเข้มงวด การสอบทั้งแปดสิบเอ็ดด่านจะกว้าง แต่หากใจราบเรียบก็จะขึ้นอาสน์บัวบรรลุได้ในพริบตา

        คำนำจากเรา   หล-วี่ต้งปิน  ปราสาททักษิณ
                            ให้ไว้  ณ  ตำหนักฯ ฉงเซิง
                              สังกัดเบื้องบนทักษิณาลัย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                           จิ่วหยังกวน

                    สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ

                   องค์ประธานสอบสามโลก

                        ประทานคำนำ

        การสร้างด่านจิ่วหยังก็เพื่อเป็นสถานตัดสินคุณโทษของผู้บำเพ็ญ เมื่อก่อนแม้จะเคยถ่ายทอดบอกเล่า แต่ด้วยเหตุที่ยังไม่ถึงกาลอันควร จึงมิได้เผยแพร่ไป  บัดนี้  วิถีธรรมได้ปรกโปรดกว้างขวาง กาลเวลาคับขัน แม้จะเผยแพร่เรื่องราวของนรกสวรรค์ แต่นรกก็เป็นสถานที่ลงโทษ สวรรค์ก็คือแดนสุขาวดี ส่วนผู้บำเพ็ญเป็นคนบุญ

        การลงโทษในนรกใช้เฉพาะกับคนทั่วไป  สวรรค์แม้จะเป็นเป้าหมายของผู้บำเพ็ญ แต่นิสัยที่ได้รับความเคยชินจากโลกยังไม่หมดไป จึงทำให้ไม่อาจบรรลุธาตุแท้แห่งอริยะ หวังให้ญาณเดิมผู้บำเพ็ญได้บรรลุอุบลอาสน์โดยไว เบื้องบนจึงโปรดประทานพระโองการให้พระตำหนักฉงเซิง เมืองไถจง เปิดเผยความลับของด่านจิ่วหยังบนกระบะทรายอย่างถ้วนถี่

        ด่านจิ่วหยังไม่ต่างอะไรกับนรกของผู้บำเพ็ญ  ทั้งนี้มิใช่เบื้องบนไม่โปรดเมตตา แต่เป็นเพราะหวังให้ญาณเดิมผู้บำเพ็ญเร่งบรรลุมรรคผล  ขอภาวนาให้ผู้บำเพ็ญทั้งหลายในโลกจงตื่นใจ เมื่อได้อ่านหนังสือนี้ รีบแก้ไขนิสัยต่ำทรามโดยเร็ว ถ้าเป็นได้อุบลอาสน์ก็อยู่ไม่ไกล ไม่เสียหลายที่ได้เหนื่อยยากบำเพ็ญกันในชาตินี้

        คำนำจากเรา  เม่าเถียน  องค์ประธานสอบสามโลก
                   ให้ไว้  ณ  พระตำหนักฉงเซิง  เมืองไถจง
                                   สังกกัดเบื้องบนทักษิณาลัย
                     หมินกั๋ว  71  ปีจอ  วันที่สิบ  เดือนเก้า

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                            จิ่วหยังกวน

                    สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ

                 พระอริยะมาตาหลีซันเหลาหมู่

                         ประทานคำนำ

        บันทึกท่องด่านจิ่วหยังกวน  "เกิดจากเบื้องบนได้โปรดเมตตา คำนึงถึงผู้บำเพ็ญเมื่อหลังจากทิ้งกายสังขาร แม้วิญญาณจะล่วงพ้นจากนรกก้าวขึ้นสะพานทองของสวรรค์ได้ แต่อุปนิสัยที่ได้จากโลกยังไม่หมดสิ้นไป ทำให้ไม่อาจบรรลุ จึงได้เจาะจงสร้างด่านนี้ 

        วันนี้ได้อาศัยพู่กันทอง เผยความจริงบรรยายเหตุการณ์การเคี่ยวกรำในแต่ละด่านจิ่วหยัง เพื่อให้ผู้อ่านรู้เห็นความเป็นจริง พึงรู้ไว้ว่าในด่านจิ่วหยังไม่
ปราณี ต้องขัดเกลากิเลสให้หมดไปจึงจะบรรลุจริง แม้ไม่เชื่อก็ป่วยการจะบำเพ็ญ ไปถึงด่านจิ่วหยังแล้วค่อยเสียใจก็สายเกินไป

        เมื่อเห็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์นี้ให้รีบแก้ไขตนเอง จะได้ไม่ต้องทุกข์กังวลกับวันข้างหน้า ความชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง ล้วนมลายไปกับคำว่า  "สำนึก" หวังว่าผู้บำเพ็ญจะได้สร้างบุญชดเชยความผิดบรรลุจริงได้  โอวาทของเรามิใช่ความเท็จ ขอจงรอบคอบระวัง

        คำนำจากเรา  พระอริยะมาตาหลีซันเหลาหมู่
              ให้ไว้ ณ พระตำหนักฉงเซิง เมืองไถจง
                             สังกัดเบื้องบนทักษิณาลัย

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                          จิ่วหยังกวน

                    สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ

                           ตอนที่ 1

                    ลงนรกขอยืมดวงแก้ว

               วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2525 

พระพุทธะจี้กงประทับทรง โปรดนำด้วยโศลกความว่า  :

     เพื่อฉุดช่วย        เวไนยสัตว์        กลับสรวงสวรรค์
ไม่ย่อยั่น                ดั้นด้นไป          ในสามโลก
อรรถาธรรม             ความลับฟ้า       เที่ยวปรกโปรด   
เป็นโฆษก              ท่องทั่วยัง        จิ่วหยังกวน

พระฯ จี้กง   :  เป็นครั้งแรกที่อาตมาลงมาสร้างหนังสือบุญ ที่พระตำหนักไถจงฉงเซิงจองเจ้า ชั่วขณะนี้ทำให้อาตมาเหนื่อยแทบแย่ เมื่อก่อนไม่ค่อยได้มาหวังว่าศิษย์ทั้งหลายอย่าได้เห็นเป็นอื่นไกล

ฉงซิว   :  พระอาจารย์โปรดยกย่องเกินไป ศิษย์ทั้งหลายทราบดีว่า พระอาจารย์วิ่งเต้นตรากตรำเพื่อฉุดช่วยเวไนยสัตว์ในบุญวาระสุดท้ายอยู่ และเป็นเพราะพระตำหนักของเราบุญน้อย พระอาจารย์จึงไม่อาจมาโปรดบ่อยนัก

พระฯ จี้กง   :  ฉงซิวอย่าพูดน้อยใจไปเลย บัดนี้วาระสำคัญของตำหนักฉงเซิงมาถึงแล้ว จะได้สร้างหนังสือคุณวิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน ได้อรรถาเหตุการณ์ของจิ่วหยังกวน เพื่อชดเชยความบกพร่องของหนังสือท่องนรก - สวรรค์  ในครั้งก่อน แท้จริงคือค่าตอบแทนเหนื่อยยากของเจ้าในหลายปีที่ผ่านมา  ภาระสำคัญนี้มิใช่เบา หวังว่าเจ้าจะอุทิศกายใจเต็มที่ เราจะได้สร้างหนังสือให้เสร็จและถวายผลงานได้ในเร็ววัน

ฉงซิว   :  ศิษย์จะตั้งใจเต็มที่มิกล้าเฉื่อยชา จะมุ่งงานธรรมะจริงจัง เพื่อมิให้ผิดต่อพระมหากรุณา ฯ ของเบื้องบนที่ได้โปรดมอบหมายงานใหญ่นี้แก่ศิษย์

พระฯ จี้กง   :  "บันทึกท่องจิ่วหยังกวน"  เล่มนี้ เมื่อพิมพ์ออกเผยแพร่ ฉงซิวเจ้าจะได้รับการกล่าวขานและจารึกชื่อไว้ชั่วนิรันดร์ในประวัติศาสตร์พระตำหนักทรงทีเดียว

ฉงซิว   :  ศิษย์ขอเพียงได้สร้างบุญกุศลเมื่ออยู่ในโลกอีกสักหน่อย ได้พ้นจากเวียนว่ายในเร็ววันเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

พระฯ จี้กง   :  เฮย์  ดู ๆ แล้วคงเป็นเพราะเจ้าอยู่โลกนี้มานานจนขยาดโลกเสียแล้วซิ

ฉงซิว   :  ขอรับ  รู้สึกหน่ายแล้ว แต่ศิษย์ตระหนักดีว่าภารกิจยังไม่หมดสิ้น จึงยังมิกล้ารามือ

พระฯ จี้กง   :  อย่าได้ถอนใจระบายคัมภีร์ทุกข์ (บ่น)  เลย การสร้างหนังสือคุณวิเศษเป็นโอกาสยากยิ่ง ร้อยปีพันปีจะมีสักครั้ง และก็ใช่จะมีโอกาสทำได้กันทุกคน

ฉงซิว   :  ขอรับ  พระอาจารย์ได้โปรด จิ่วหยังกวนอยู่ที่ไหน และมีผลอย่างไรขอรับ

พระ ฯ จี้กง   :  สวรรค์เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มีไว้ส่งเสริมคนเดิมให้มุ่งมั่นบำเพ็ญบรรลุจริงในภายหน้า  ส่วนนรกมีไว้กำราบชาวโลก อย่าได้ทำบาปหยาบช้าสามานย์ แต่สำหรับผู้บำเพ็ญที่มีบุญมากบาปน้อย วิธีการลงโทษในนรกนั้นใช้กับเขาไม่ได้

ฉงซิว   :  โอ  ทำไมหรือขอรับ บุญมากบาปน้อยก็น่าจะขึ้นสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วนี่ขอรับ

พระ ฯ จี้กง   :  ไม่ได้  โทษทัณฑ์ในนรกมีไว้ลงโทษคนชั่ว  แต่ผู้บำเพ็ญมีบาปไม่ถึงกำหนดโทษของนรก แม้จะมีบุญมากบาปน้อย แต่เบื้องบนต้องการผู้บำเพ็ญที่เป็นอริยะสมบูรณ์แบบ หากยังมีนิสัยอารมณ์เสียของชาวโลกติดอยู่จะก้าวขึ้นสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์ได้ยาก เช่นนี้เบื้องบนจึงได้จัดตั้ง  "จิ่วหยังกวน"  เพื่อขัดเกลาผู้บำเพ็ญโดยเฉพาะ เพื่อให้นิสัยชาวโลกหมดไป ให้บรรลุอริยมรรคได้จริง

ฉงซิว   :  เป็นเช่นนี้นั่นเอง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                          จิ่วหยังกวน

                    สถานเคี่ยวกรำผู้บำเพ็ญ

                           ตอนที่ 1

                    ลงนรกขอยืมดวงแก้ว

               วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2525 

พระพุทธะจี้กงประทับทรง โปรดนำด้วยโศลกความว่า  :

     เพื่อฉุดช่วย        เวไนยสัตว์        กลับสรวงสวรรค์
ไม่ย่อยั่น                ดั้นด้นไป          ในสามโลก
อรรถาธรรม             ความลับฟ้า       เที่ยวปรกโปรด   
เป็นโฆษก              ท่องทั่วยัง        จิ่วหยังกวน

พระ ฯ จี้กง   :  ฉะนั้นจึงกล่าวว่า  "บันทึกท่องจิ่วหยังกวน"  เป็นหนังสือสาธกเหตุการณ์การขัดเกลาผู้บำเพ็ญที่อยู่ในด่านเพื่อเตือนใจผู้บำเพ็ญชาวโลกและเพิ่มเติมส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ในหนังสือท่องนรก - สวรรค์ ด้วย

ฉงซิว   :  ถ้าเช่นนั้นหนังสือเล่มนี้ก็วิเศษจรองจริงซิขอรับ

พระ ฯ จี้กง   :  เจ้ามีฐานบุญลึกซึ้งจึงมีโอกาสได้สร้างหนังสือวิเศษ ที่ไม่เคยมีมาแต่กาลก่อนเล่มนี้ เอาละเวลามีไม่มาก เราไปกันเถอะ

ฉงซิว   :  ขอรับ  แต่ไม่ทราบว่าศิษย์จะใช้ยานพาหนะอย่างไรไป

พระ ฯ จี้กง   :  พระบรรจารย์หงจินเตรียมไว้ให้เราตั้งนานแล้ว นั่นไง

ฉงซิว   :  เอ !  นั่นนกอะไรขอรับ  ดูคุ้น ๆ

พระ ฯ จี้กง   :  นั่นคือนกเผิง (คล้ายนกอินทรี)  รีบขึ้นหลังนกเตรียมออกเดินทางได้แล้ว

ฉงซิว   :  ไม่มีเข็มขัดนิรภัยอย่างนี้ไม่เป็นไรหรือขอรับ

พระ ฯ จี้กง   :  อย่ากลัวตายนักเลย อาจารย์อยู่ใกล้ ๆ เจ้า ยิ่งกว่านั้นเราสนองพระบัญชาสร้างหนังสือ หากมีอะไรผิดพลาด อาจารย์เองนะแหละที่จะรับไม่ไหว

ฉงซิว   :  ขอรับ  ศิษย์นั่งได้เหมาะแล้ว แต่จริง ๆ ก็ยังหวาดอยู่  คุณนกเผิงใหญ่ขอความกรุณาหน่อยนะคร้าบ

พระ ฯ จี้กง   :  "หลับตาซะ"  บินขึ้นได้ ... เอาละ ... ถึงแล้ว  ฉงซิวลงมาได้

ฉงซิว   :  เอ  นี่ที่ไหน  ถึงจิ่วหยังกวนแล้วหรือขอรับ พระปราสาทนี้ใหญ่จริง

พระ ฯ จี้กง   :  ที่นี่ไม่ใช่จิ่วหยังกวน แต่เป็น กษิติปราสาท (ตี้จั้งกง) เป็นที่ประทับของ  พระกษิติครรภ์ตี้จั้งอ๋วง "พระศาสดาแห่งเมืองนรก"

ฉงซิว   :  เอ เราไม่ใช่จะไปท่องจิ่วหยังกวนกันหรือขอรับ ทำไมมาที่กษิติปราสาท

พระ ฯ จี้กง   :  เพราะว่าจะท่องจิ่วหยังกวน จึงจำเป็นต้องขอยืมดวงแก้วของพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ตี้จั้งอ๋วง เราจึงต้องมาที่นี่ เร็ว เข้าไปกันเถอะ

ฉงซิว   :  อ้อ  อย่างนี้นั่นเอง

พระ ฯ จี้กง   :  เบื้องหน้ามีท่านผู้หนึ่งเดินตรงมา ท่าทีงามสง่าผึ่งผาย พระองค์คือพระกษิติครรภ์ ฉงซิวรีบเข้าไปกราบพระบาทเสีย

ฉงซิว   :  ขอรับ  ศิษย์ฉงซิวกราบเฝ้าพระบาทพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ วันนี้ศิษย์ได้ติดตามพระอาจารย์จี้กงลงมายังยมโลก เพื่อขอยืมดวงแก้วจากพระองค์พระโพธิสัตว์หนึ่งดวง หวังว่าพระองค์จะประทานอนุญาต

พระ ฯ กษิติฯ   :  ยินดีต้อนรับพระฯ จี้กงกับฉงซิว มาสู่นรกานต์  เรารู้ว่าขณะนี้ฉงซิวเจ้ารับสนองพระบัญชาสร้างหนังสือ "บันทึกท่องจิ่วหยังกวน"  หนังสือนี้มิใช่ธรรมดา เทพ ฯ  คน  จะร่วมช่วยกันจนสำเร็จ เรื่องขอยืมดวงแก้วเรายินดี

พระ ฯ จี้กง   :  ขออภัยอย่างยิ่ง ที่มารบกวนพระองค์บ่อย ๆ

Tags: