พบเหลาหมู่
เมื่อเลยด่านเก้าเก้าจิ่วหยังกวนมาแล้ว คุณสวีมองเห็นอารามใหญ่หลังหนึ่ง มีเสาต้นใหญ่ อีกทั้งมีมังกรเป็น ๆ โอบรอบเสาไว้ เหนือประตูใหญ่มีอักษรคำว่า "อู๋จี๋กง" อู๋จี๋กงมีความใหญ่โตมาก คุณสวีตามพระโพธิสัตว์กวนอิมเข้าไป ภายในบริเวณนั้นมีคนมากมายกำลังานผลท้ออยู่ ผลท้อที่นี่เมื่อผ่านปากเข้าไปก็จะหายไป เหลือไว้แต่รสชาติที่หอมหวาน กลางอารามใหญ่ที่โอ่อ่า มีสิ่งศักดิ์สิทธ์พระองค์หนึ่งประทับอยู่บนเก้าอี้มังกร ในพระหัตถ์ของพระองค์มีคฑารูปหัวมังกร คุณสวีไม่สามารถมองเห็นได้เต็มตา เพราะพระวรกายของพระองค์มีแสงเจืดจ้ามาก แต่สิ่งหนึ่งที่คุณสวีสังเกตเห็นได้คือ พระองค์่ท่านทรงกรรแสงอยู่ตลอดเวลา เวลาเดียวกันนั้น พระโพธิสัตว์กวนอิมแสดงความเคารพ คุณสวีจึงทำความเคารพตามพระโพธิสัตว์กวนอิม พระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตาอธิบายให้คุณสวีฟังว่า
พระโพธิสัตว์กวนอิม : สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้คือ เหลาหมู่ พระอนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา พระเป็นผู้ให้กำเนิด ฟ้า ดิน และสรรพสิ่งั้งหลาย รวมทั้งจิตญาณของทุก ๆ คนด้วย เมื่อคุณสวีได้รับฟังเช่นนั้น จึงได้แสดงความเคารพ แล้วเอ่ยกับพระโพธิสัตว์กวนอิม
คุณสวี : ข้าน้อยเห็นคนอื่นเขาทานผลท้อกัน ข้าน้อยอยากทานบ้าง
พระโพธิสัตว์กวนอิม : อยากทานก็ต้องบอกกับเหลาหมู่ คุณสวีรีบคุกเข่าต่อหน้าเหลาหมู่ ทันใดนั้นก็มีน้ำทิพย์ได้รินมาถึงหน้าคุณสวี เมื่อคุณสวีดื่มเข้าไปก็เกิดความรู้สึกกระชุ่มกระชวย
คุณสวี : หอมหวานอร่อยอะไรเช่นนี้ ขออีกถ้วยหนึ่งจะได้ไหม
พระโพธิสัตว์กวนอิม : ำไมเจ้าถึงโลภอย่างนี้
คุณสวี : ขอข้าน้อยอีกถ้วยหนึ่งนะครับ สิ้นเสียงขอร้องจากคุณสวี มีกุมารน้อยหลายองค์อุ้มไหมาหนึ่งใบ คุณสวีเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปตักน้ำในไหดื่มเข้าไปหนึ่งถ้วยด้วยความรีบร้อน แต่ต้องสำลักออกมา ไม่เอาแล้ว ! ไม่ดื่มแล้ว ! ำไมรสชาติช่างขม เปรี้ยว ฝาด หวาน ดื่มยากเช่นนี้ ไม่รู้รสอะไรเป็นรสอะไร
พระโพธิสัตว์กวนอิม : เจ้าต้องดื่มเข้าไป เสียงหัวเราะดังกังวาลขึ้น คุณสวีเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์หนึ่งมีลักษณะท้องโต ๆ หน้าเหมือนเด็ก สวมชุดเหมือนออกรบ หัวเราะแสดงอาการร่าเริง ทำให้คุณสวีหัวเราะตาม เมื่อได้ยินเสียงพระองค์ท่านหัวเราะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์นี้ก็คือ หมีเล่อจู่ซือ หรือ พระศรีอริยเมตไตรย ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เสียงหัวเราะที่ร่าเริง ในมือมีถุงผ้าใบใหญ่ ท้องใหญ่ ๆ นี่เป็นเพราะลักษณะของหมีเล่อจู่ซือ ในพระภาคของพระสงฆ์ถุงย่าม เหลาหมู่ทรงเมตตามีพระบัญชาอนุญาตให้คุณสวีไปเที่ยวชมบริเวณโดยรอบตามสถานที่ต่าง ๆ ก่อนแล้วค่อยกลับ พระโพธิสัตว์กวนอิมรับสนองพระเสาวณี นำพาคุณสวีไปเยี่ยมชมโดยรอบ จนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง บริเวณนั้นเต็มไปด้วยหมอก มองไม่เห็นแม้แต่พระโพธิสัตว์กวนอิม
เจ้าคงมองไม่เห็นล่ะสิ ตาเนื้อของมนุษย์นั้นไม่สามารถมองอะไรบนนี้ได้หรอก พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงเมตตาใช้น้ำในแจกันพรมไม่กี่หยด ตาของคุณสวีก็มองเห็นทุกอย่าง มีทั้งการแสดงของมังกรเขียว นกหงส์ฟ้า กิเลน และนางฟ้ากำลังโปรยดอกไม้ ดูอ่อนช้อยงดงาม เป็นภาพที่สวยงามจนคุณสวีหลุดปากออกมา
คุณสวี : เราน่าจะมาตั้งแต่แรก ๆ ที่ถอดจิตได้แล้ว
พระโพธิสัตว์กวนอิม : เมื่อสิ้นงานโปรดสามภพยุคปลายเมื่อไร ผู้ที่บำเพ็ญทั้งหลายก็จะได้กลับมาเบื้องบน ร่วมงานชุมนุมอริยะ หลงฮว๋าฮุ่ย ร่วมทานผลท้อ และฉลองกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย นับหมื่อพระองค์
สุดท้าย พระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตาพาคุณสวีมายัง "กงเต๋อเตี้ยน" เมื่อประตูใหญ่เปิดออก คุณสวีกำลังก้าวเข้าไป สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือแผ่นป้ายแห่งบุญกุศล ของผู้บำเพ็ญ บางป้ายก็ใหญ่ บางป้ายก็เล็ก บ้างก็มีแสงสว่าง บ้างก็เป็นจุด ๆ ดำ ๆ
คุณสวี : พระโพธิสัตว์กวนอิมโปรดเมตตาทำไมป้ายเหล่านี้ดูแปลก ๆ ไม่เหมือนกัน บ้างสว่าง บ้างดำ บ้างเป็นจุดดำ ๆ
พระโพธิสัตว์กวนอิม : ป้ายที่ไม่มีแสง คือผู้ได้รับวิถีธรรมแล้วไม่ศึกษาบำเพ็ญ
ป้ายที่มีจุดดำ ๆ คือผู้ที่รับวิถีธรรมมาแล้ว แต่ไม่บำเพ็ญจริง ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก
ป้ายทีมัวมัว คือผู้ที่รับวิถีธรรมแล้วหลายปี แต่ยังไม่รู้จักถือศีลกินเจ ละเนื้อสัตว์ ไม่เปิดพุทธสถาน
ป้ายที่มีแสงสว่าง คือผู้ที่รับวิถีธรรมแล้ว และตั้งใจศึกษาบำเพ็ญจริง ถือศีลกินเจเว้นเนื้อสัตว์ เปิดพุทธสถานไว้กราบไว้ คนเหล่านี้เมื่อกลับคืนเบื้องบน จะมีโอกาสสำเร็จมรรคผลพระโพธิสัตว์